เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: hort39 ที่ 08 ตุลาคม, 2556, 10:49:33 AM



หัวข้อ: เล่นเฟสฯ ต้องรู้เท่าทัน
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 08 ตุลาคม, 2556, 10:49:33 AM
สังคมเฟสฯ มากมาย หลายกระแส
ช่วยกันแชร์ ช่วยกันบอก ออกความเห็น
ทั้งเรื่องจริง เรื่องหลอก นอกประเด็น
ต่างก็เป็น เครือข่าย สายสัมพันธ์

ใครเป็นใคร พูดอะไร ได้ทั้งหมด
พูดโป้ปด มากมาย หลอกขายฝัน
ใครหูเบา หลงเชื่อ เป็นเหยื่อมัน
ชีวิตต้อง แปรผัน สวรรค์วาย

แค่รู้จัก ผ่านเฟส แค่เศษเสี้ยว
เขาชวนเที่ยว อย่าตามไป แบบง่ายง่าย
เพราะมันคือ หนทาง แห่งความตาย
ฉากสุดท้าย กลายเป็นข่าว เศร้าสะเทือน

    ***
อีกกี่ราย กี่เหยื่อ เชื่อคำบอก
ถูกลวงหลอก ออกไป ให้เขาเฉือน
ไม่อยากให้ ใครถูกหลอก จึงบอกเตอน
โลกเสมือน คือหน้ากาก ยากไว้ใจ

ขอบคุณภาพข่าวจาก manager online
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/556000013163601.JPEG)

แม่ นร.สาววัย 17 โร่ร้องปวีณาฯ ขอความเป็นธรรม หลังลูกสาวเสียชีวิตปริศนาในบ้านผู้ชายที่รู้จักทางเฟซบุ๊กแค่ 2 เดือน คาดถูกฆาตกรรม ขณะที่ผู้ที่ล่อลวงไปมีอาชีพเป็น รปภ.และหลังเกิดเหตุได้ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำจนต้องส่งโรงพยาบาล ยังไม่สามารถสอบปากคำได้
       
       วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 84/14 หมู่ 2 ถ.รังสิต-นครนายนก (คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางกรรณิกา ประกอบสุข อายุ 35 ปี ชาว จ.ชลบุรี มารดา น้องเตย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าบุตรสาวได้รู้จักกับชายผ่านทางเฟซบุ๊กได้ประมาณ 2 เดือน และถูกหลอกว่าจะพาไปพบแม่เพื่อทำความรู้จักกับครอบครัว ต่อมาเสียชีวิตปริศนา คาดเป็นการฆาตกรรม จึงเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
       
       ด้านนางกรรณิการ์ กล่าวว่า ตนเองแยกทางกับสามี มีบุตร 2 คน บุตรสาวคนโตชื่อน้องเตย อายุ 17 ปี และบุตรชายคนเล็กชื่อเด็กชายกร (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ว่า สองคนพี่น้องมีความสนิทสนมกันมาก จะคุยกันทุกเรื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทราบข่าวจากบุตรชายว่ามีชายคนหนึ่งชื่อ “นะ” ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า โซนิค สีน้ำเงิน นัดมารับน้องเตยที่ถนนสาย 331 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม โดยลักษณะชายคนดังกล่าวแต่งตัวสวมเสื้อคลุมสีดำ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ทำให้ไม่เห็นใบหน้า แต่ก่อนหน้านั้นทราบจากพี่สาวว่านายนะ ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่งรูปมาให้ดูว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี อายุประมาณ 30 ปีเศษ และอ้างว่าทำงานมีรายได้เดือนละ 4-5 หมื่นบาท และได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ชอบน้องเตยมาก ติดต่อกันไปมาบอกว่าและจะส่งเสียเงินให้ใช้ จะซื้อโทรศัพท์ให้ ขอให้ออกมาพบหน้ากัน แต่ที่ผ่านมาน้องเตยก็ไม่เคยเชื่อและออกไป
       
       พอบุตรชายเล่าเรื่องดังกล่าวว่าน้องเตยนัดพบและออกไปพบนาย “นะ” ตนจึงรีบโทร.ไปตาม แต่บุตรสาวก็ขออนุญาตอ้างว่านาย “นะ” จะพาไปทำความรู้จักแม่และครอบครัว ซักพักนาย “นะ” ก็ขอเบอร์โทร.ตนจากน้องเตยแล้วทำทีโทร.มาขออนุญาตแม่ว่าเสร็จเรื่องแล้วจะพามาส่ง ไม่ต้องห่วง แต่ตนรู้สึกไม่สบายใจไม่เห็นบุตรสาวกลับบ้านมาซักที จึงโทรศัพท์ติดต่อตลอดทั้งคืน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ปกติบุตรสาวตนเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เรียบร้อยไม่ค่อยออกไปเที่ยวเตร่
       
       ต่อมาช่วงสายของวันที่ 4 ต.ค.ตนได้รับโทรศัพท์ซึ่งเป็นเบอร์ของน้องเตยโทร.เข้ามาแต่เป็นเสียงผู้ชายที่ไม่คุ้น พร้อมทั้งสอบถามว่าตนเป็นอะไรกับเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ พอได้ยินทำให้ตนใจไม่ดี คาดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูกสาว ทางฝ่ายโน้นบอกให้ตนตั้งสติให้ดี ก่อนบอกว่าบุตรสาวเสียชีวิตแล้ว อยู่ที่บ้านเลขที่ 30 หมุ่ 5 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนาย “นะ” ตนพร้อมญาติๆ จึงได้รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บศพเรียบร้อยแล้ว เมื่อตนเข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ว่าเป็นมาอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตอบอะไรมาก บอกเพียงว่า น้องเตยเสียชีวิตในสภาพนอนหงายอยู่บนเตียงภายในห้องนอนของนาย “นะ” สภาพที่สวมเสื้อยืดและมีเสื้อเชิ้ตแขนยาวใส่ทับ และใส่กางเกงขาสั้น แต่ไม่ได้สวมใส่กางเกงใน น้ำลายปนเลือดไหลออกจากปาก
       
       จากนั้นจึงนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเจ้าของบ้านชื่อนายมานะ ยังไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 52 ปีมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จะกลับมาบ้านที่ จ.ชลบุรี สัปดาห์ละครั้ง และหลังเกิดเหตุได้ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำจนต้องส่งโรงพยาบาลทำการล้างท้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำ
       
       ทั้งนี้ผลการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ระบุว่าระบบหายใจโลหิตล้มเหลว จากนั้นตนและญาติจึงได้รับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านในบน ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และมีกำหนดฌาปนกิจศพในวันพุธที่ 9 ต.ค.นี้ ซึ่งตนเกรงว่าการเสียชีวิตของบุตรสาวมีเงื่อนงำและจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเนื่องจากนาย “นะ” ใช้รูปคนอื่นแทนรูปตนเองในเฟซบุ๊กและพูดจาหว่านล้อม โกหกต่างๆ นานา อยากให้นางปวีณา ช่วยตรวจสอบเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้
       
       ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเร่งขอผลชันสูตรศพอย่างละเอียด พร้อมทั้งประสาน พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ปราโมทย์ ผกก.สภ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี เพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนผู้กระทำผิดโดยเร็ว ส่วนทางมูลนิธิปวีณาฯ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดูแลติดตามคดีให้ความเป็นธรรม และให้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี ลงไปดูแลให้ความช่วยเหลือครอบครัว และฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป



หัวข้อ: Re: เล่นเฟสฯ ต้องรู้เท่าทัน
เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 ตุลาคม, 2556, 12:17:43 PM

เมื่อคุยกันซึ่งหน้าแววตาเห็น
ท่าทางเป็นสื่อที่ดูพอรู้ได้
ก็ยังยากจะมองซึ้งถึงจิตใจ
แต่เฟซใช้ตัวอักษรกะล่อนกัน

คุยกันไปให้สุขสันต์แข่งกันหลอก
หน้าที่ออกก็ไม่ใช่หน้าฉัน
จนเกิดความใกล้ชิดมาติดพัน
เขาหลอกลวงตั้งแต่วันสมัครมา...

ธนุ  เสนสิงห์

 :24:


หัวข้อ: Re: เล่นเฟสฯ ต้องรู้เท่าทัน
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 08 ตุลาคม, 2556, 09:06:57 PM
ขอเลือกเอาเนื้อหามาวิเคราะห์
ใช่จำเพาะเจาะจงลงเพียงหน้า
อันที่เขาล่อหลอกกลอกลวงตา
จะนำพาวิบัติพัดหาตัว

หากไม่หลงออนไน์ใจเตลิด
คงมิเกิดเหตุร้ายจากภัยชั่ว
และมิใช่ประหม่าเพราะความกลัว
จนมิกล้ารู้รอบรั้วของสังคม

  :letter: