เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: กวี ชาว บ้าน ที่ 18 มกราคม, 2558, 11:12:58 AM



หัวข้อ: ช่วงหนึ่งของชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: กวี ชาว บ้าน ที่ 18 มกราคม, 2558, 11:12:58 AM
(http://upic.me/i/fk/11image.jpg) (http://upic.me/show/53214098)
ช่วงหนึ่งของชีวิต
ตอนที่1..
....
ฟ้าเป็นสีดอกเลาอย่างเขาว่า
อกอ่อนล้าเมื่อนึกถึงความโง่เขลา
จดหมายฉบับนั้นส่งนานเนา
หลายชั่วโมงกับการเฝ้า..ชะเง้อคอ
....
รู้ไหมใจจะขาดเสียให้ได้
น้ำตาไหลจวนจะเหือดแล้วหนอ
ไม่หิวน้ำหิวข้าวเอาแต่รอ
แหงนมองฟ้าเหมือนขอให้เขามา
..
คุณไม่รู้เรื่องราวสุดร้าวฉาน
เมื่อเย็นวานพ่อตะหวาดเหมือนจะฆ่า
แม่ร้องโหเมื่อฉันเปล่งวาจา
อยากจะเก็บเสื้อผ้า..หนีเหลือเกิน
...
มอศอห้า..เทอมปลายเสียดายนัก
พ่อแม่ทำงานหนัก..อยู่นานเนิ่น
หาสตางค์ส่งให้ใจยับเยิน
ลูกมัวเพลินกับผู้ชายน่าอายแท้
...
อีกสองเดือนเท่านั้นฉันก็ผ่าน
กลับวิ่งตกวิมาน..หมดทางแก้
สิ่งที่คิดที่ฝันมาผันแปร
ที่แน่แน่..ฉันเหมือนลูกทรพี
....
พ่อแม่พูดเท่าไหร่ไม่นึกถึง
กับลึกซึ้งคำเธอ...ทิ้งศักดิ์ศรี
ทิ้งการเรียนทิ้งหนังสือสิ่งดีดี
นาทีนี้..ยิ่งคิดยิ่งทรมา
.....
.....................................................
ตอนที่ 2
..
ตั้งแต่ค่ำ..จำได้นอนไม่หลับ
ลุกขึ้นจับผ้าห่มพันแข้งขา
เรื่องนั่นนี้สารพัด..ผ่านเข้ามา
จวนตีห้า..นึกนั่นนี่มิยอมนอน
..
หยิบขาวม้าคลุมหัว..เดินตัวสั่น
กลัวแม่หัน..มาเห็นต้องเพ่นก่อน
เปิดประตูลงบันไดรีบใส่กลอน
เสียไก่ขันตะวันรอน..สังหรณ์ใจ
....
ท้องฟ้าเริ่มกระจ่างสว่างแสง
กิ่งไม้แห้ง..กระเด็นโดนหัวไหล่
ไม่รู้สึกรู้สา...ชาข้างใน.
ลึกเข้าไป..คับแค้นแน่นกมล
...
ที่เก่าเวลาเดิม...คงจำได้
พิงเสาน้ำตาไหล..อยู่หลายหน
ทุกทุกสิ่งเปลี่ยนแปร..แย่เกินทน
นาทีนี้สับสน..เสียจริงจริง
...
คิดเรื่องนี้เรื่องนั้นน้ำตาตก
คิดถึงอกแม่พ่อ.ฉันท้อยิ่ง
เขารักเรา..เขาต้องมาเขาไม่ทิ้ง
หากเขานิ่ง..จะทำไงใจกดดัน
..
แหงนมองฟ้า..ล้าใจไงมิรู้
อยากปิดหูปิดตา...จริงจริงฉัน
คิดเรื่องโน้น เรื่องนี้..สารพัน
ชาวบ้านคงโจษจัน..กันทั่วทิศ
..
ตะวันส่อง..แสงสาดพาดเนินหญ้า
พบครั้งนี้....ชี้ชะตาฟ้าลิขิต
ตาดำดำ..ขาดพ่อรอเชยชิด
น้องก็อยากทวงสิทธิ์..ภรรยา
...
ตะวันคล้อยลอยลับเมฆกลับบ้าน
น่าสงสารแม่ลูกทุกข์หนักหนา
น้ำตาเหือดจนเเห้ง..แรงอ่อนล้า
ตกลงคงไม่มา..คิดแค่นั้น
...
ไม่กินข้าวกินน้ำทั้งสามมื้อ
แต่อิ่มตื้อท้องไส้..ทำไมนั่น
อิ่มทุกข์หรืออิ่มกรรม..เดินรำพัน
สิ่งเดียวที่เฝ้าฝัน..ณ.วันนี้
...
อยากให้พ่อและแม่แกยินข่าว
ว่าลูกสาว..มีคู่เคียงสุขี
และรับปากจะเลี้ยงดูเราอย่างดี
เป็นสามี..ที่รักเมียตลอดกาล
..
..................................
ตอนที่3
...
นั่งคอยคุณวันนี้...วันที่ห้า
พ่อแม่ดูอ่อนล้า..น่าสงสาร
หากอดีตย้อนได้ในวันวาน
เลิกเรียนจะอยู่บ้าน..ช่วยงานเรือน
...
ท้องเริ่มโตเริ่มใหญ่ใจยิ่งทุกข์
เด็กคนหนึ่งเคยสนุก..สุขใดเหมือน
นาทีนี้สิ่งนั้นมันลางเลือน
ไร้หมู่มิตรเยี่ยมเยือน..เพื่อนเลิกคบ
...
แปดเดือนผ่านไปไวหนักหนา
พ่อหาผ้าทำเปล..ใจเริ่มจบ
หยุดร้องไห้หยุดรอ..มิขอพบ
พยายามลบ..ทุกอย่างระหว่างใจ
...
เก้าเดือนครบกำหนดจิตจดจ่อ
ทุกคนตั้งตารอ..ท้อหวั่นไหว
ความปิติ..เเทนที่อย่างว่องไว
ที่ผ่านมาจำได้..บ้านฉันทุกข์
...
พ่อแขวนปลาตะเพียนโอละเห่
แม่แกว่งเปล..ร้องกล่อมเราย่อมสุข
ตาจะตีรู้ไหม..หากซนซุก
พ่อแม่ฉุดฉันลุกจากทรมาน์
...
ความอับอายหายไปในกลีบเมฆ
ดั่งฟ้าเสกมนต์ขลัง..ช่างหรรษา
แต่ความผิดยังติดตัวชั่วชีวา
มลทินยังติดตราติดตรึงกาย
..
......................................
ตอนที่ 4
...
ตาสานเปลไม้ไผ่..ยืนไกวแกว่ง
เจ้าแข็งแรง...อ้วนท้วนชวนเหนื่อยหาย
ยายบี้กล้วยป้อนปากอิ่มสบาย
เรื่องเลวร้าย..มายมากเริ่มจากไป
..
อุ้มอาบน้ำตัวอ่อนต้องช้อนหัว
ยายจับนอนน่ากลัว...ตัวไถล
เจ้ารู้อยู่รู้กินเสียกระไร
ผมดำนัยตาใส..ผิวละออ
.....
หากพ่อเจ้าเห็นเจ้าเขาคงรัก
แม่อยากทักเจ้าว่า..เจ้าเหมือนพ่อ
เหมือนเหลือเกิน..ลูกจ๋าน้ำตาคลอ
หลายเดือนแม่นั่งขอ..ภาวนา
...
สักวันจะอยู่พร้อม..พ่อแม่ลูก
มีลูกน้อยพันผูก..เสน่หา
สิ่งดีดีที่แม่เฝ้าตั้งตา
ในไม่ช้า..ลูกจ๋าเจ้าจงนอน
..
ตากับยายให้อภัยพ่อแล้วนะ
ไม่เอะอะเสียงดังดั่งแต่ก่อน
ใจคงเย็นมายมากหากนึกย้อน
ไม่รุ้มร้อนเหมือนเก่าเลยสักนิด
..
วันเวลาพาใจที่ไหวหวั่น
มาหยุดยืนมองจันทร์อันวิจิตร
ทิ้งความเศร้าที่สะสม..อยู่เป็นนิจ
อิทธิฤทธิ์มาจากรักประจักษ์แท้
....
.....................
ตอนที่5
..
หนึ่งปีผ่านไปไวจริงนั่น
เมื่อคืนนอนหลับฝัน..เห็นคนแก่
ใส่เสื้อขาวมาหยุดยืนชะแง้
เหมือนหมดแรงข้างแคร่..แกเป็นลม
...
ตาตา..เขย่าเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น
ผ้าชุบน้ำพอชื้น...เช็ดหน้าผม
หยิบยาหอมละลาย...พร้อมยาดม
ค่อยค่อยก้ม..มองหน้าน้ำตานอง
..
เหมือนเขายังกะแกะ..กระไรนั่น
เหมือนยัง..คนเดียวกัน..มิบกพร่อง
เหมือนจริงจริงจังจัง..หวังจะมอง
หวังจะจ้องอีกหน..แต่จนใจ
..
นี่..ที่ไหนหนูจ๋า....บอกตาด้วย
ตายืนตัดใบกล้วย..อยู่ใกล้ใกล้
เสียงคนเรียก''สมชัย.''.อยู่มิไกล
หยิบขาวม้าพาดไหล่..เดินไล่ตาม
..
บ้านของหนูใช่ไหม..เหล่าหลังนี้
อยู่กี่คนกันนี่..แกเอ่ยถาม
อายุเท่าไหร่แล้วละ..แกชี้ความ
กี่โมงยาม..ช่วยบอกเวลาที
...
ห้าโมงเห็นจะได้..ทำไมหรือ
แกยื่นมือ..ลูบหัวหนูหันหนี
กลัวตารึนางหนู..ตาคนดี
แต่เมื่อกี้ที่ลูบหัวเพราะเลือนราง
...
ยางกล้วยหยดใส่ตาตั้งแต่หนุ่ม
มองไม่เห็น..มืดสุม..ไม่สว่าง
บางครั้งเห็นเหมือนกัน..แต่ลางลาง
ชีวิตเลยอัปราง...ตลอดมา
...
ตื่นขึ้นมาน้ำตาตก..อกสะท้าน
แสนสงสาร..ตา..คนนั้นเสียหนักหนา
นึกเอะใจ หน้าเหมือน..เขาคณา
หรือฟากฟ้า..ขานไขใดใดฟัง
....
แต่งตัวออกจากบ้านตั้งแต่สาย
เหลือบเห็นชายวัยชราเริ่มมีหวัง
ลุงรู้จัก บ้าน..''สมชัย โพธิ์ระฆัง''
''พ่อชื่อสังข์.''.หลังไหนบอกหนูที
...
ตายทั้งบ้านเลยหนู..ต้นปีก่อน
ไฟไหม้บ้านมันนอน...มันไม่หนี
มันตาบอดมองไม่เห็น..มาหลายปี
พ่อแม่มันไม่มี...ตายก่อนแล้ว
.....
ยืนเข่าทรุดขาสั่น..อกหวั่นไหว
มันตัดกล้วย..ยางหล่นใส่..ใจเริ่มแป่ว
มันบอกลุงเมียมัน..อยู่บ้านแพ้ว
มันแน่แน่วมันบอก..มันชอกช้ำ
...
จะไปหาเขายังไง...เล่าลุงเอ๋ย
มันนั่งเปรยนอนเปรย..ทุกเย็นย่ำ
เมียผมท้อง..สองเดือนครับลุงคำ
ใจไม่ดำก็เหมือนดำ..ลุงคำครับ
...
บ้านของมันนั่นไง..ไม่เหลือหลอ
เหลือแต่ตอ..เถ่าถ่านไม่สับปลับ
พอวันเพ็ญ..หมาหอนคณานับ
มีคนเห็นมันยืนจับ..จดหมายคอย
.....
ไม่รู้ จดหมายใคร สงสัยจดหมายเมียมัน
...............................