เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนคลายเครียด => ข้อความที่เริ่มโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:15:43 PM



หัวข้อ: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:15:43 PM
เกริ่นนำ

ขอส่งงานอาจารย์ทางนี้ก่อน
เป็นอักษรนิราศพิศตามจิตหมาย
สำนวนหญิงยิ่งนักรักใจชาย
เหมือนเปรียบคล้ายโลกาพาหมุนเวียน

จึงประเดิมบทสั้นวันทั้งเจ็ด
ยังมิมีทีเด็ดเม็ดพรายเขียน
คนใดอ่านเรื่อยไปให้อาเจียน
เพราะนั่งเทียนฝันเฟื่องสักเรื่องดู

หากพอใจผลงานติดตามอ่าน
เชลงม่านเรื่อยไปในเรื่องหนู
กราบเมตตาอาจารย์แลแก้พธู
ให้ดนูพัฒนาตามอาจารย์

สิริวตี

 :30:
....หัวเราะได้แต่อย่าดังนะ หนูอาย แหะๆ....


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:16:28 PM
○ ถึงวันศุกร์มิสุขมีทุกข์หม่น
เพราะหัวใจได้ช้ำระกำทน
เกินสับสนปนเศร้าแสนเหงาทรวง

ด้วยคนรักห่างกันพลันดวงจิต
น้ำตาชิดอกในให้เป็นห่วง
เคยถนอมแนบน้องประคองควง
ต้องลาล่วงห่างไกลไปลับตา

ทุกเช้าตรู่รู้ตื่นยังชื่นจิต
แนบสนิทยวนเย้าเฝ้าเสน่หา
เคยสวมกอดอิงแอบแนบกัลยา
จวบทิวาเร่งให้ไปทำงาน

แต่นี้มองแห่งใดไม่สดชื่น
เคยยิ้มรื่นกลับคิดถึงตราตรึงผ่าน
ความเหงาล่วงทรวงช้ำระกำมาน
อยากเร่งกาลเวลาเดินมาไว

ผ่านบางรักรักพรากจากนวลน้อง
คงเศร้าหมองหลายวันเจอกันใหม่
เคยระรื่นชื่นชวนกวนหัวใจ
แล้วพาไหว้พระเเถวนี้ที่เคารพ

ขึ้นรถไฟลอยฟ้ามุ่งหน้าเริ่ม
สะพานตากสินที่เดิมยากเดินหลบ
ตรองข้าวของถืออยู่รู้ขาดครบ
ยังคิดอบอวลอุ่นละมุนครวญ

เคยเตรียมของปองขวัญกำนัลน้อง
มิเคยต้องเอ่ยปากใจอยากหวน
อีกกี่วันนะเจ้าเฝ้าก่อกวน
รู้ทบทวนเมื่อเปลี่ยนผ่านชานชาลา


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:16:56 PM
เมื่อเข้างานงานกองเป็นช่องฉาก
เต็มโต๊ะยากสำเร็จแต่เสร็จหนา
มีสติตรองทำนำวิญญาณ์
จนเมื่อสุริย์กล้ามาบอกเรา

ครั้นลงทานอาหารกลางวันแล้ว
ส่วนพี่แก้วอยู่ไหนใจน้องเหงา
เคยแบ่งปันป้อนบ้างอย่างหยอกเย้า
วันนี้เศร้าเขี่ยข้าวรวดร้าวจริง

ได้ทำงานพาลเมินเพลินใจบ้าง
ลดมัวหมางคิดถึงซึ่งจิตหญิง
เลิกงานเคยกลับด้วยช่วยประวิง
ได้ทอดทิ้งกำลังหลับกลางทาง

แต่วันนี้กลับเองเก่งกว่าก่อน
เห็นคนอ้อนเดินคู่มิรู้ห่าง
จึ่งน้ำตาตกในหัวใจบาง
ปล่อยอ้างว้างอย่างนี้มิดีเลย

พี่จะเป็นอย่างไรเมื่อไกลน้อง
กลัวใครข้องแนบนิดประชิดเผย
แสนเจ็บแปลบปั่นป่วนข่วนคนเคย
โปรดอย่าเฉยเอ่ยบ้างทางนี้คอย

รถไฟฟ้าพาส่งลงถึงที่
ในฤดีมิอยากชวดสวดมนต์หน่อย
ถึงวัดยานนาวามาตามรอย
ลดละห้อยโหยไห้ในคำนึง

หวังสวดมนต์เย็นนี้คุณพี่ได้
จะอยู่ไหนให้กุศลผลบุญถึง
ติดตัวตามเป็นเงาเราตราตรึง
น้องลึกซึ้งรสธรรมสร้างกรรมดี

แล้วสงบพิจารณากายาเข้า
ดูรูปนามแห่งเราให้ถ้วนถี่
สภาวะจิตจำระกำมี
ก็ขอบุญบทนี้ให้พี่พลัน

ส่งเมตตาภาวนากุศลสร้าง
จึงเดินทางกลับไปไม่หุนหัน
จิตสว่างทั้งห้วงดวงชีวัน
เป็นเช่นนั้นทุกนาทีคงดีใจ

เมื่อตะวันลาร้างนภากาศ
จันทร์ประภาสขึ้นรู้สู่คืนใหม่
มองดวงเดือนผ่องจรัสขจัดภัย
มีเพลงใดลอยมาเห็นหน้าคน

โอ้ละหนอดวงเดือนเลื่อนลอยคว้าง
นภาพร่างดาวรายกลายสับสน
เหมือนได้ยินเสียงพี่ที่กมล
จึงหลับปนความคิดปิดนัยนา


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:17:28 PM
ถึงวันเสาร์เศร้าสร้อยคอยคนรัก
หวังพี่จักจำคำน้องปองรักษา
ห้ามนุ่งห่มชุดใหม่ใส่กายา
และนำพาสีนิลหนึ่งชิ้นกาย

ก่อนเดินทางดูฤกษ์ใบเบิกผ่าน
โบราณกาลมียามเดินตามหมาย
ทั้งยามต้นยามกลางและยามปลาย
ชำเลืองชายตรึกบ้างอย่างสมควร

วันนี้น้องเดินทางไปงานบวช
ทำให้ชวดงานรับจ้างนั่งไห้หวน
คิดอีกทีทำผลกุศลมวล
นั่งทบทวนความดีควรรี่ทำ

ถึงหัวหินหินแข็งแกร่งดังชื่อ
ทั้งเลื่องลือห้วงทะเลเถถลำ
ด้วยใจตื่นใจเต้นเว้นระกำ
ช่างน่าขำลืมพี่นิดคิดซุกซน

เข้าบ้านพักผู้บริหารระดับสูง
ดังนกยูงชูช่อทั้งคอขน
มีรุ่นพี่เป็นใหญ่ทั้งใจตน
เปรมกมลสนุกสนานสำราญเพลิน

ยกขบวนเจ็ดกายหมายไปบ้าน
แต่แวะผ่านกราบพระได้ใจสรรเสริญ
"ห้วยมงคล"ตระการมานเจริญ
แล้วรีบเดินเพราะแดดแผดร้อนจัง

ด้วยเป็นไข้มิหายแต่กายนี้
ขอปรานีพระด้วยช่วยพี่หวัง
ทำการกิจอันใดสมใจยัง
บรรลุงดั่งหทัยนั้นใฝ่ปอง

ขอเมตตาคิดถึงซึ่งห่วงหา
กัลยาคนนี้ฤดีหมอง
หากลืมกันฉันใดในครรลอง
คงจะต้องตรอมตรมจมเจ็บจินต์

เข้าพักผ่อนนอนพับหลับสนิท
แม้นิมิตในฝันพลันถวิล
คนเคยโอบเคยอุ้มชุ่มชีวิน
เย้าหยอกยินเยาะอยู่วธูงาม


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:17:47 PM
พอตื่นพลันนั้นเพื่อนเตือนจริต
ซ้อมดนตรีสักนิดถึงบ่ายสาม
แล้วซื้อของเดินเล่นพอเย็นยาม
มุ่งหน้าตามบ้านนาคจากนิวรณ์

มิได้มีทำขวัญงานวันนี้
แต่เปรมปรีดิ์ภิญโญสโมสร
รับประทานงานเลี้ยงมิเกี่ยงงอน
จากนั้นร่อนเดินดึกคึกคักดี

กลับสู่บ้านพักกันตอนห้าทุ่ม
หน้าน้องงุ้มเพราะไข้พิษมิคิดหนี
กินยาก็หลับไปในราตรี
ทั่วกายีปวดปร่าเหมือนฆ่ากัน

จวนรุ่งเช้าเสียงเข้าหูจึงรู้ตื่น
เหมือนพี่ยืนเรียกด้วยช่วยกล่อมขวัญ
จึงสะดุ้งตัวขึ้นฟื้นชีวัน
แล้วพี่ยาทางนั้นท่านอย่างไร


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 04:33:25 PM
เมื่อทิวาฟ้ากรุ่นอรุณอาทิตย์
ปลื้มเปรมจิตถ้วนหน้าสัปดาห์ใหม่
ครั้นอาบน้ำอุ่นอุ่นละมุนละไม
ก็นึกให้ห่วงหาอนาทร

เคยเตรียมแปรงผ้าขนหนูดูพี่หลับ
รองเท้าจับขัดเงาเอาไว้ก่อน
เสื้อผ้าพลางวางพับกับที่นอน
สีฟ้าอ่อนน้ำเงินเมินหยิบมา

แต่วันนี้พี่สวมเสื้อสีไหน
แดงสดใสเป็นเดชปกเกศหนา
จะเที่ยวท่องล่องเดินเพลินวิญญาณ์
หลงลืมพนิดาคิดอย่าทำ

ได้เดินหาของกินถิ่นหัวหิน
เห็นพระบิณฑบาตสะอาดขำ
จึงระลึกมโนน้อมพร้อมทรงจำ
เคยร่วมร่ำรอคอยเป็นรอยรัก

ตักบาตรพระละกิเลสเหตุซึมโศก
ดับวิโยคไปบ้างสราญสลัก
ทั้งบุญทานการนี้ให้พี่ภักดิ์
ร่วมตระหนักรับพรบวรคุณ

เสร็จธุระอาหารเช้าเราไม่ขาด
“แนบเคหาสน์”ชื่อถนนมงคลหนุน
แต่น้องอยากแนบนิดชิดการุญ
หวังเจือจุนจากพี่ที่ห่างวัน

จรลีเข้าวัดของพระใหม่
ชื่อ “นิโครธาราม” ไปไม่หุนหัน
นวกะรูปใหม่ผ่องใสพลัน
มีราศีเกษมสันต์สง่างาม


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 05:11:05 PM
รอตักบาตรพระใหม่หทัยเกื้อ
ให้เอื้อเฟื้อยำเยงน่าเกรงขาม
บุญที่น้องขอไว้ให้ติดตาม
ผ่องพิรามถึงพี่มิมีคลาย

ขออย่าทุกข์สิ่งใดใจผ่องแผ้ว
ดุจดวงแก้วพราวพิลาสมิขาดสาย
โมทนาบุญด้วยช่วยจิต-กาย
ขอคำคล้ายเคลื่อนสำเร็จเบ็ดเสร็จจริง

อีกบิดรมารดาอาจารย์รัก
ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ให้หนุนยิ่ง
เทพเทวาปกปักพิทักษ์พิง
ขอทุกท่านมิทิ้งโมทนา

มิบังเกิดประสบพบอาเพศ
พระคุ้มเกศปกป้องครองรักษา
มีความดีดังแก้วนิลและจินดา
เป็นภูษาอาภรณ์มิคลอนแคลน

เมื่อเสร็จงานกลับบ้านผ่านเมืองเพชร
แวะถือเคล็ดไหว้พระสราญแสน
“วัดต้นสน” หลวงพ่อสัมฤทธิ์ประสิทธิ์แดน-
ดังใจแทนทั้งสมอารมณ์นึก

ภาวนาอยู่ไหนขอให้พี่
มีฤดีน้องเดียวเกี่ยวตรองตรึก
อีกโยงยางห่วงใยในรำลึก
มิมีสึกมีหรอขอเพียงพร

แม้จะอยู่ห่างหายกายฉันบ้าง
ขอมิอ้างอิงใครด้วยใจซ่อน
ดวงวิญญาณผูกพันมิปันรอน
ขอให้อ้อนออดนี้ที่น้องเดียว

สำเร็จพรวอนขอต่อพระพุทธ
พรำพิสุทธิ์ระบำฝนหล่นลงเดี๋ยว
คล้ายบอกคำพรคิดสัมฤทธิ์เทียว
จึงเลาะเลี้ยวขึ้นรถหลบฝนพลัน

แล้วมุ่งหน้ากลับเมืองรุ่งเรืองใหญ่
พระนครอีกมิไกลฤทัยฉัน
จึงพักพับหลับลงระหว่างวัน
หมดช่วงชั้นชีวาทิพากร

พระจันทร์เพ็ญเห็นงามอร่ามสม
พระพายพรมพัดไหวให้เอื่อยอ่อน
ดารกะเรียงรายดุจร่ายพร
น้องกอดหมอนนอนห่วงทุกช่วงชาย

ฟังสำเนียงเสียงกล่อมในคืนเก่า
สำเนียงเว้าวอนใครทำใจหาย
ยังมิทันกลั่นน้ำตามาฟูมฟาย
หลับลึกหายห้วงจิตด้วยฤทธิ์ยา


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 30 พฤษภาคม, 2559, 10:26:29 PM
ถึงเช้าช่วงล่วงจันทร์ขมันขมี
ไม่เสรีดังวันหยุดสุดหรรษา
รีบตื่นก่อนตะวันนั้นจรมา
สวมเสื้อผ้าสีขาวราวมณี

หาสีเหลืองนวลนวลชวนแซมนิด
เอาเคล็ดติดทักษาเสริมราศี
เรื่องอาภรณ์บวรเหตุเดชมนตรี
ส่วนกาลกิณีคือสีแดง

ต้องเชื่อบ้างภูษาอาภรณ์พับ
โบราณนับถือคล่องครรลองแฝง
แต่ด้วยโลกหมุนใหม่ให้เปลี่ยนแปลง
คนจัดแจงแต่งกายเอาง่ายเกิน

มีความรู้อยู่บ้างอย่างคนเก่า
พอทำเนาแจ่มจรวยมิขวยเขิน
ไปแห่งใดยิ้มด้วยช่วยเจริญ
พักตร์พาเพลินเจรจาง่ายหมายพี่จำ

แต่อย่ายิ้มพริ้มพรายแจกจ่ายทั่ว
น้องหญิงกลัวนักแลแม่คมขำ
จะตามมาเจ๊าะแจ๊ะเกาะแกะนำ
คงระกำช้ำทรวงปวงข่าวฟัง

อยากโทรหาทุกวันทั้งค่ำเช้า
แต่เกรงเข้ารบกวนป่วนความหวัง
คงทำแต่รองานการหยุดยั้ง
เลยต้องนั่งนับวันหวาดหวั่นคอย



หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มิถุนายน, 2559, 08:15:04 AM
นั่งทำงานวันนี้มีสาระ
หัวหน้าจะต้องการงานใช้สอย
จึงต้องรีบเร่งทำดำเนินรอย
มิได้ปล่อยเวลามานั่งนึก

แล้วกลับบ้านอย่างเปลี้ยเพลียสมอง
แต่ยังต้องแวะสยามใกล้ยามดึก
ผู้คนช่างมากมายได้ระทึก
ทำตรองตรึกก่อนเราเคล้าเคลียเดิน

ในละแวกสยามที่ยามบ่าย
เรามิหน่ายเข้าวัดมิขัดเขิน
สังฆทานวันนี้ดีเหลือเกิน
แสนเพลิดเพลินชวนน้องต้องทำบุญ

อุทิศผลยามแรกมาแทรกสู่
ได้เคียงคู่คืนวันปันเกื้อหนุน
อยู่ร่วมทุกข์สุขสวัสดิ์มัดการุญ
ขอต่อทุนรักนรีนี้ด้วยธรรม

ภวังค์ห้วงแรกรักยังปักอยู่
คือตราตรูตรงนี้มิมีถลำ
เดินสะกดทุกอย่างหว่างทรงจำ
หมดคิดคร่ำเข้าซื้อศูนย์หนังสือจุฬาฯ


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มิถุนายน, 2559, 08:25:39 AM
เลือกหนังสือพอดีที่ต้องใช้
แต่เพลินไปก็ชอบจึงหอบหนา
สองถุงใหญ่กระเตงกลับดับทิวา
รถไฟฟ้าคนก็มากลำบากจริง

หลากแฟชั่นนุ่งสั้นนำสมัย
รองเท้าใส่ส้นสูงนกยูงหญิง
บางกอดจูบลูบแอบแนบไหล่พิง
เห็นแล้วยิ่งเหนื่อยใจในสังคม

นำหูตาไปนาไร่ไม่มองเขา
เพราะใจเราตรมทุกข์มิสุขสม
ด้วยกายยังห่างไกลใจระทม
เมื่อไรนะได้ชมกันสมควร

งานตรงนั้นเป็นอย่างไรใคร่รู้บ้าง
อย่าหันห่างร้างตอบมอบไต่สวน
ส่งข้อความเฟสบุ๊คแอบแนบเย้ายวน
อย่าหนีนวลแน่งน้อยร้อยแต่งาน

น้องซึมเศร้ากินอะไรมิได้หรอก
อยากจะบอกก็เกรงพี่นี้สงสาร
นั่งนับวันคืนถอยเริ่มร้อยกานท์
ส่งให้อ่านผ่านไลน์มิวายเมิน

เมื่อตะวันหนีฟ้าธาราลับ
นภาจับเสียงนกวิหคเหิน
หวังสวดมนต์เรื่อยไปให้เพียงเพลิน
นับดาวเกินร้อยดวงห้วงราตรี

ขอเจ้าหลับกับแขนหมายแนบน้อง
มันเคยก้องในหูรู้หลีกหนี
น้องจึงพับหลับลงตรงพอดี
ด้วยเสียงพี่อัดร้องเพลงบรรเลงครวญ


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มิถุนายน, 2559, 09:48:37 AM
เมื่อถึงเช้าเจ้าอังคารผสานสู่
สีชมพูแต่งกายไว้เดินสวน
ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ย้อนกระบวน
ชมพูล้วนโชคดีเป็นศรีชัย

แต่งหน้างามตามหลักนรลักษณ์
คิ้วหนานักมิดีลดสีใส่
ส่องกระจกดูเงาก่อนเราไป
ชมพูใสระเรื่อรับจับหว่างตา

แค่รู้บ้างทางการคัมภีร์พักตร์
เปล่งปลั่งนักตรงนี้ดีนักหนา
มีสิ่งใดคิดพลันนั้นนำพา
จะสำเร็จดังว่าหาเร่งคิด

วันสุดท้ายแห่งเดือนเคลื่อนสู่แล้ว
น้องก็รู้ว่าพี่แก้วแจ้วลิขิต
ตามคำนึงแห่งพักตร์ประจักษ์ฤทธิ์
ต้องรอนิดเวลาที่มาจร

เข้าทำงานเพลิดเพลินเจริญฝัน
แล้วเปลี่ยนผันจากสายเข้าบ่ายก่อน
ลืมทุกสิ่งเป็นเหตุเขตนิวรณ์
ลืมอารมณ์ที่ร้อนเพลินผ่อนคลาย

รับข้อความจากคนรักตอนบ่ายแก่
ดีใจแท้อย่างนี้ฤดีหมาย
โลกใบนี้เป็นสุขนักพักตร์พริ้มพราย
มิเหนื่อยหน่ายการงานประสานทำ

อยากให้รู้การรอต่อคนรัก
ยิ่งกว่าภักดิ์หนักกว่าผาหาระส่ำ
นานกว่าสายนทีที่ไหลจำ
คือห้วงกรรมแห่งเราที่เฝ้ารอ

อยากให้รู้ดีใจนักสักเกินร้อย
ห่วงน้องน้อยมากไหมใคร่ครวญขอ
คำตอบบ้างอย่าร้างเรียงเพียงวางพอ
พี่สุขหนอแค่นี้ดีเหลือเกิน


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มิถุนายน, 2559, 10:05:25 AM
จำไว้นะอย่าทำหน้าพาหมองเศร้า
เพราะเทียนเก๋า-ส่งหมู่แชร์แน่ลงเหิน
มันเป็นดาวร้ายกาจคนอาจเมิน
ที่มาเดินรุกรานให้ผลาญเรา

อย่าลืมตรงปลายจมูกที่น้องบอก
อย่าให้ลอกเป็นแผลควรแลเขา
ดูมากหน่อยให้วับจับเป็นเงา
ให้เป็นสีชมพูเข้าเจ้าพลัง

รักษากลางระหว่างหัวคิ้วด้วย
อย่าให้ม้วยด้วยไฝกระมาระฝัง
อุปสรรคอะไรได้หยุดยั้ง
ที่พี่ฟังจำใช้ให้มั่นคง

จะรอคอยด้วยใจใสพิสุทธิ์
จะเร่งรุดสร้างธรรมนำตามส่ง
เพราะวิญญาณดวงนี้ที่ซื่อตรง
จะยืนยงมั่นสมัครรักนิรันดร์

อย่าหวงห่วงกังวลสิ่งใดนัก
ทำงานหนักมากหน่อยอย่าพลอยหัน
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนทุกวัน
ได้เจอกันอีกไม่นานผสานคอย

วันนี้จึงซึ้งแจ้งด้วยแรงฝัง
ฮึกเหิมยังหัวใจไร้ถดถอย
มิต้องนั่งน้ำตามาหยดปรอย
ซึมเศร้าสร้อยคนเดียวเปลี่ยวเอกา

กลับบ้านไปนอนหลับมินับแกะ
มิต้องแวะนับดาวพราวเวหา
แค่ฟังเสียงพี่อัดให้ในเวลา
ก่อนหลับตาฟังเคียงเพื่อนเพียงนอน





หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 03 กรกฎาคม, 2559, 05:28:58 PM
เช้าวันพุธสุดดีใส่สีแสด
ตะวันแผดจึงเร่งมาท่าวัดราชสิงขร
พอเรือแล่นเรื่อยไปในสาคร
ก็เขียนกลอนคิดถึงพี่ที่สุดทรวง

สายลมพัดมัดใจให้โหยหา
เห็นมัจฉาดำว่ายมิวายหน่วง
มันกระโจนเล่นต่อล้อพุ่มพวง
เหมือนคู่ควงครองรักสักเนิ่นนาน

เรือผ่านหน้าสาทรเอาตอนสาย
คนมากมายคอยท่าหน้าสถาน
แล้วเลาะเรื่อยแล่นไปในสายธาร
มองเห็นย่านสี่พระยาช่างน่าดู

เห็นตึกรามสูงเด่นตระการแปลก
ตรงกลางแทรกโรงแรมดังช่างงามหรู
มันคือไปรษณีย์กลางที่สร้างอยู่
งามเชิดชูตึกใดเทียบมิเทียมทัน

เห็นสะพานสีเขียวเรือเลี้ยวรุด
สะพานพุทธหยุดคิดจิตไหวหวั่น
เห็นวัดกัลยาฯข้างหน้าพลัน
วัดอรุณฯตรงนั้นมั่นศรัทธา

ผ่านวังหลังนั่งตรึกก็นึกโศก
เหมือนดังคนเป็นโรครักหนักหนา
มิเห็นพักตร์พาเศร้าเหงาวิญญาณ์
จะเป็นบ้าเสียแล้วโอ้แก้วใจ

ก่อนเราเคยเที่ยวทั่วทัวร์วังหลัง
เคยมานั่งกินข้าวตามวิสัย
ครั้นคำนึงคนหวงก็ห่วงใย
พี่จะลืมนวลหทัยไปหรือยัง


หัวข้อ: Re: นิราศวัน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 03 กรกฎาคม, 2559, 05:57:52 PM
ถึงเทเวศน์เข้าเขตคามตามธุระ
ขอไหว้พระสักที่ฤดีหวัง
นั่งรถไปวัดโสมนัสระมัดระวัง
สมาธิพอนั่งช่างเบากาย

เสร็จการงานหมดวันมันแสนเหนื่อย
ไหล่หลังเมื่อยมากนิดหงุดหงิดง่าย
ทั้งแสบท้องหิวข้าวแล้วหนาวกาย
คิดถึงชายคนรักยิ่งหนักจินต์

รีบกลับบ้านทางเก่าแสนเหงาแท้
สิ่งที่แน่ความผูกพันมันถวิล
พี่เป็นห่วงบ้างไหมในยุพิน
อยากได้ยินเสียงแล้วนะแก้วตา

โปรดเป็นห่วงดวงขวัญวันละน้อย
มิเคลื่อนคล้อยคลาดไปไม่โทรหา
นั่งเร่งวันเร่งเดือนเลื่อนเวลา
ให้พี่ยารีบกลับนับวันคอย

เมื่อตะวันลับฟ้าจันทราส่อง
น้ำตาน้องรินไหลไห้ละห้อย
หมอนที่หนุนอุ่นเปียกที่เปี่ยมปรอย
การรอคอยเรื่อยไปใจกลัวเกรง

หลับกับแสงราตรีของเดือนมืด
ตื่นเพราะฝืดความฝันมันข่มเหง
ภวังค์ความกังวลมันดลเอง
ต้องริเร่งหลับใหม่ในทันที