เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: รพีกาญจน์ ที่ 30 มกราคม, 2558, 12:27:38 PM



หัวข้อ: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 30 มกราคม, 2558, 12:27:38 PM

(https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRfkz7bPjy-6g1xysBArmTvEhVB2wU_ce-M3L84zhMWwvJ3I8Y3)

หาบน้ำอ้อยลอยไพรไกลจากบ้าน
วางขายงานตานตุงถิ่นกรุงศรี
เดินเลียบเลาะละเมาะป่าพนาลี
ผ่านบางที่รกชัฎลัดลอดไป

แข้งขาเคล็ดเหน็ดเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้า
แรกหาบมาดั้นด้นพอทนไหว
เหงื่อไหลพลั่กหนักทั้งหน้าหลังไกว
หย่อนหาบลงตรงไม้ใกล้ลำธาร

ต้องลมเย็นเห็นตะวันพลันมืดบด
ตายืดหดหลับเพลินเกินเหลือต้าน
ปรากฎหญิงทิ้งร่างลงกลางลาน
สวยสคราญนวยนาดเยื้องยาตรเยา

มือแตะเนื้อเครือลั่นสั่นสะทก
ถอยหลังหกล้มหงายกายร้อนเร่า
เธอก่นว่าด่าแช่งแรงไม่เบา
ร่างขาดเงาเลือนลับไปกับตา

ทะลึ่งลุกจุกยืนคืนสติ
ใช่แล้วสินี่นางเป็นสางป่า
กินเนื้อแดงแห้งเหือดเลือดกายา
เหรียญครูบามิถอดรอดวายวาง

นี่แหละหนอพ่อค้าราร่อนเร่
ออกจากเคหสถานหาญเหินห่าง
ขายของกินของใช้ได้สตางค์
เกือบถูกสางนางไม้จับไปกิน

หาบน้ำอ้อยขาย...เหตุเกิดเมื่อปี 2513

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 มกราคม, 2558, 05:42:21 AM
ยังจำได้...
นำมาลัย ดอกหอม น้อมกราบพ่อ
มะลิน้อย ร้อยรวง พวงคล้องคอ
เสียงหัวร่อ พอใจ ให้เบิกบาน

ลูกสวมกอด สอดแขน แหงนหน้าพูด
รักที่สุด จริงหนอ คือพ่อท่าน
รักเท่าฟ้า ชลาสินธุ์ ดินดงดาน
จักรวาล มิเทียบ เปรียบได้เลย

พ่อลูบหัว ทั่วหลัง ทั้งใบหน้า
เปี่ยมเมตตา ต่อบุตร ผุดผ่องเผย
ส่งยิ้มพลาง สางผม กล่าวขมเชย
ว่าลูกเอ๋ย ดีมาก ขอฝากกานท์

ทำได้ไหม ให้ครบ จบสามอย่าง
สร้างแนวทาง พ้นทุกข์ พบสุขศานต์
"เป็นคนดี มีความรู้ สู้ทุกงาน"
คือหลักการ สำคัญ ก่อมั่นคง

เป็นคนดี มีศีลธรรม ถือคำสัตย์
ปฎิบัติ ตามรอยบุญ คุณสูงส่ง
มีความรู้ ชูเรียน เพียรดำรง
จากเผ่าพงศ์ ปราชญ์ปรือ สื่อมวลชน

สู้ทุกงาน สานหาบ หยาบหนักหย่อน
ละเอียดอ่อน ตั้งจิต ร่วมคิดค้น
ดีรู้งาน นานไป คงไม่จน
คงเป็นหนึ่ง พึงยล ในสกลเอย
 
 :aab17:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2558, 05:48:32 AM

จบ ป.เจ็ด ระเห็จมา หัดค้าขาย
ออกวิ่งสาย สะพายของ ท่องถนน
ใส่เรือเร่ เทขาย เลียบสายชล
เดินดั้นด้น หาบหาม ข้ามดอยดง

อายุน้อย ด้อยงาน กอปรการค้า
ไร้เงินตรา เป็นทุน หนุนนำส่ง
รู้ไม่มาก รากฐาน สบการณ์ตรง
ขาดมั่นคง แรงซื้อ หยิบมือเดียว
................................

หันรับจ้าง ถางหญ้า ทุ่งนาสวน
ขุดดินพรวน ล้างถ้วย ทำก๋วยเตี๋ยว
ขับรถยนต์ ขนอาหาร ร้านเจ๊เกียว
เก็บชาเขียว หมักเมี่ยง แม่เลี้ยงนาย

เหงื่อหลั่งไหล ไคลเค็ม เต็มเรือนร่าง
พอมีว่าง นอนพัก ให้หักหาย
เงินที่ได้ ใช้เพียง หล่อเลี้ยงกาย
ไม่สบาย จ่ายไป ไม่เหลือเลย
.................................

ค้าขายขับ รับจ้าง สร้างชีวิต
มืดมัวมิด คิดก้าวหน้า อย่าอยู่เฉย
เรียนรู้เพิ่ม เติมวิชา ดีกว่าเอย
เดินผ่าเผย สมัคร เป็นนักเรียน

กินข้าวปลา อาศัย นอนในวัด
คราอึดอัด ผันผาย โยกย้ายเปลี่ยน
รับจ้างเขา เสาร์ปิด อาทิตย์เยียน
วันหมุนเวียน เรียนครบ จบ ม.ปลาย

เฮ้...จบจนได้ ไวเหมือนโกหก

 :smiley53:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2558, 11:39:36 AM

จบม.ปลาย เป็นท่า ละครานี้
วางชีวี ต่อไป อย่างไรหนอ
แรงเครื่องฟิต ติดดัง ไม่รั้งรอ
จะเรียนต่อ พ่อค้า เกษตรกร

คิดถึงแม่ แลพ่อ ขอกลับบ้าน
ลาสมภาร ทรงธรรม เคยพร่ำสอน
นมัสลง องค์พุทธ รุดจากจร
พระพรั่งพร กรกระพุ่ม ชุ่มฉ่ำใจ

องค์ผึ่งผาย ชายชาตรี หล่อนี่หว่า
แบบนี้น่า เป็นครู อยู่โรงใหญ่
หรือสอนเด็ก เล็กน้อย กลางดอยไกล
วาดหวังไว้ ภิรมย์ สุขสมปอง

หรือสุดหล่อ พ่อค้า คล่องพาณิชย์
ครุ่นค้นคิด จัดรื้อ ซื้อขายของ
มือขยับ นับเพลิน แบ๊งก์เงินทอง
หัวใจพอง ตุบตับ มิพับตา

หรือสุดล่ำ ทำสวน พรวนดินไถ
สวมหมวกใบ ถือเคียว ก้มเกี่ยวหญ้า
ปลูกพืชผัก ปัก ชำ ตอน ดำนา
เลี้ยงปู ปลา เป็ด ไก่ ขาย ไว้กิน

นั่งเบาะริม ยิ้มหยุม ครามุมปาก
รถออกจาก เวียงพิงค์ วิ่งถึงถิ่น
คนขับถาม ลงไหน ไม่ได้ยิน
ต้องเดินดิน ถูกเย้ย รถเลยทาง

นั่งใจลอยรถจอดเลยสามเสาไฟฟ้า

 :28:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 03 กุมภาพันธ์, 2558, 08:10:44 AM
...เป็นเกษตรกร

แม่พึมพำ น้ำตาคลอ พ่อเรียกใกล้
เอ่ยดีใจ ลูกจบ พบสำเร็จ
ถึงยากจน คนดี คือศรีเพชร
จะบอกเคล็ด ความรู้ คู่พิจารณ์

งานเกษตร เขตหมุด สุดยาวกว้าง
จัดไม้วาง เป็นแถว ตามแนวฐาน
พืชล้มลุก ปลูกแปลง ร่องแหล่งดาน
ข้าวนาหว่าน น้ำดี มีบ่อปลา

เดินสำรวจ ตรวจสิ้น ดินสภาพ
จะต้องทราบ ฤดูกาล ปลูกหว่านกล้า
สารเคมี วิธีใด ใช้ปุ๋ยยา
กำจัดหญ้า ฆ่าแมลง โรคแรงกัน

รู้เทคนิค ปลูกปลิด ผลิตผล
รู้ใช้คน ถูกงาน สานสร้างสรรค์
รู้เครื่องมือ ถือไถ ได้ครบครัน
รู้เท่าทัน พ่อค้า หน้าไม่อาย

เกษตรกร อ่อนเพลีย มีเสียได้
ตามกลไก ตลาด ผูกขาดขาย
ถ้าของดี มีราคา พาสบาย
ของมากมาย หน้าเบ้ เทลงคลอง

ร่างโครงการ งานแผน ให้แน่นหนา
เพื่อได้มา ที่ดิน ทำกินของ
เสนอไป ไม่พ้น คนรับรอง
ทุนเงินทอง ธกส. รอรักเรา

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 07 กุมภาพันธ์, 2558, 04:45:36 PM

...เป็นพ่อค้า

เป็นพ่อค้า วาณิชย์ คิดดีหรือ
ปากไม้มือ ต้องใช้ แทบไม่ว่าง
ปากไม่หยุด พูดไป ยิ้มไปพลาง
มือสองข้าง ชี้สื่อ ถือวุ่นวาย

พูดอะไร ก็ได้ ให้คนซื้อ
ลูกค้ามือ ล้วงกระเป๋า เอาออกจ่าย
เราดีใจ ได้ทรัพย์ รับมากมาย
เขาสบาย ได้ของ เดินว่องไป

ขายอาหาร การกิน สิ้นเปลืองดีกว่า
หมดมื้อนี้ มีมื้อหน้า ต้องหาใหม่
เงินลงทุน หมุนเวียน เปลี่ยนกันไว
เหลือกำไร มากน้อยบ้าง ก็ช่างมัน

ต้องสำรวจ ตรวจตลาด คาดล่วงหน้า
เข้าพรรษา เทศกาล งานสังสรรค์
งานพิธี มีอะไร ซื้อใช้กัน
นานาภัณฑ์ ชั้นเยี่ยม ถูกเตรียมวาง

ทำหูบัง ฟังทั่ว สารทิศ
มีตาติด ลำกล้อง ส่องทุกอย่าง
ทั้งลดแหลก แจกแถม แกมอำพราง
ค้นคิดสร้าง อุบาย จุดขายตาม

ก้อนสบู่ ถูขี้ไคล ใช้อาทิตย์
อย่าเว้นคิด นิดหน่อย พลอยมองข้าม
ค้าขายดี มีกำไร ให้พองาม
เคียงนิยาม ความดี มีสุขเอย

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 07 กุมภาพันธ์, 2558, 10:17:23 PM

คำของพ่อ...เป็นข้าราชการ

มีเสื่อนอน หมอนใบ ไกลจากบ้าน
พึ่งโพธิ สมภาร องค์ในหลวง
ติดสำเภา เข้าไทย หัวใจกลวง
ญาติทั้งปวง หาใคร ก็ไม่มี

พเนจร ร่อนเร่ เตร่ภาคเหนือ
แบกข้าวเกลือ ขึ้นลง ร้านโรงสี
เหลือเก็บหย่อม ออมหยิบ ได้ดิบดี
บารมี พระองค์ ทรงเมตตา

พ่อเห็นชอบ ตอบบุญ พระคุณท่าน
รับราชการ เป็นครู ดูเข้าท่า
สอนอ่านเขียน เรียนเล่น เป็นเวลา
ให้ลูกศิษย์ รู้วิชชา ก้าวหน้าไกล

ถ้าเด็กดี มีธรรม ประจำจิต
พบชีวิต อนาคต สุกสดใส
ช่วยสร้างชาติ ศาสนา ประทศไทย
ลูกจะได้ บุญบน กุศลแรง

เคร่งครัดคำ ชำนาญ งานแคล่วคล่อง
เพียรสนอง นโยบาย มิหน่ายแหนง
ที่ยุ่งยาก มากนิด คิดพลิกแพลง
ค่อยตกแต่ง ปรับเปลี่ยน ให้เลี่ยนลาน

อยู่อย่างไทย ใช้พอเพียง เลี้ยงชีวิต
ก่อนปลงปลิด พบสุข ได้ปลูกบ้าน
ครองที่สวน นาไร่ ได้บำนาญ
มียวดยาน คันใหม่ ไปวัดวา

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 กุมภาพันธ์, 2558, 08:18:20 PM

" ครูคนใหม่ 1 "

สะพายย่าม ถามทาง กางที่หมาย
เราเป็นชาย หน้ามน คนแปลกหน้า
เดินย่ำโคลน วนเขา ย่างเท้ามา
เฒ่าถามว่า นายครับ จะจับใคร

เขาหน้าตื่น ยืนงง ตรงกับที่
ตอบผมนี้ บอกสู ครูคนใหม่
เมื่อคืนก่อน นอนค้าง หว่างพงไพร
จะรับใช้ อยู่พัก สอนนักเรียน

เห็นเสาธง ตรงหน้า หลังคาจาก
ฝาสับฟาก กั้นไว้ แทบใจเปลี่ยน
ไร้โต๊ะตั่ง นั่งยืน พื้นห้องเรียน
กระดานเลี่ยน มิดหมี สีดำทา

มือไหว้สา ท่าฟัง ส่งหนังสือ
เรียนแซ่ชื่อ เป็นการ รายงานว่า
ท่านดีใจ ได้ครู รู้วิชา
คนของรัฐ พัฒนา บ้านป่าดอย

รวมตอนนี้ มีครู แค่เพียงสอง
เด็กสี่ห้อง ตามบัญชี มีหนึ่งร้อย
ออกกลางคัน ฟันไม้ ไร่เลื่อนลอย
หยุดเรียนบ่อย ประจำ น้ำหลากนอง

อุดมการณ์ งานฝัน อันเข้มข้น
ทฤษฎี มากพ้น ล้นสมอง
ปฎิบัติ หัดตรึก ฝึกทดลอง
พอเจอของ จริงใช้ มิได้เลย

บรรจุใหม่ รายงานตัว 1 พฤษภาคม 2515
ระหว่างทางคนแก่ถามว่า นายปลัดจะไปจับใคร
โรงเรียนนั่งติดพื้น ไม่มีโต๊ะม้านั่ง หลังคามุงใบตอง
รวมมีครู 2 คน ชั้นประถมปีที่ 1 - 4 นักเรียน 102 คน
ความรู้ที่ได้เรียน นำมาใช้แทบไม่ได้เลย

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 กุมภาพันธ์, 2558, 11:19:37 AM

" ครูคนใหม่ 2 "

จบหลักสูตร วุฒิ ป.กศ.ต้น
ไฟลุกโชน อุดมการณ์ มานหนักแน่น
ขอตั้งจิต อุทิศกาย สู่ชายแดน
ตระเตรียมแผน การสอน พร้อมก่อนไป

เพียบเนื้อหา วิชา วิทย์ คณิต
ไทย อังกฤษ สังคม บ่มนิสัย
ศิลป์ พิสุทธิ์ พุทธะ อนามัย
โภชนัย อาการ การอยู่กิน

เจอเข้าจริง สิ่งคาด วาดหวังไว้
เอามาใช้ ไม่เป็น เช่นถวิล
ทั้งอาคาร สถานที่ มีไม้ดิน
ปูพื้นหิน ยาวรวด ปนกรวดทราย

ครูสองคน วนเวียน นักเรียนร้อย
เดินข้ามดอย มาถึง เลยกึ่งสาย
เสื้อรูรั่ว ตัวด่าง กางเกงลาย
เดินเท้าดาย ไร้เกือก กระเสือกมา

บ้างจูงน้อง คล้องตัว วัวตามด้วย
มัดริมห้วย ใกล้แพะ และเล็มหญ้า
พอน้องหลับ จับเขียน เรียน ก กา
บ่ายโมงคว้า ถังดำ น้ำให้วัว

วัสดุ อุปกรณ์ นอนในกล่อง
สื่อเอี่ยมอ่อง ล้ำค่า น่าชวนหัว
เก็บลิ้นชัก หลักสูตร ดุจฝันมัว
"สอนเรียงตัว อ่านเขียนได้ พ้นไปวัน"

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 กุมภาพันธ์, 2558, 09:17:56 AM

..มุ้งสายบัว...

เกาะลูกกรง ส่งสายตา ส่ายหาพ่อ
มีคนออ ยุบยับ เสียงสับสน
อาญาสิทธิ์ ปิดขาด ญาติหนึ่งคน
เยี่ยมหนึ่งหน ก่อนหยุด สุดสัปดาห์

ร่างของพ่อ งองุ้ม อุ้มลูกเหล็ก
เดินโผลกเผลก ซ้ายยัน ลากดันขวา
พลั้งสะดุด ฉุดโซ่ โซเซมา
มือแข้งขา รอยช้ำ เต็มลำตัว

น้ำตาคลอ พ่อจ๋า สบายไหม
กินข้าวได้ สามมื้อ หรือพอกลั้ว
นอนได้หลับ พับตา หรือพร่ามัว
ยามปวดหัว มีไข้ ใครหยูกยา

พ่อเพียรตอบ ขอบใจ ไอ้หม่าเอ๋ย
อย่าคิดเลย แบบนี้ ไม่ดีจ้า
พ่อเยี่ยมยอด ปลอดภัย ไร้โรคา
จงตั้งหน้า เรียนร่ำ ดังคำเตือน

ถ้าบอกตาม ความจริง จะยิ่งยุ่ง
ว่าหลังคา คือมุ้ง ยุงคือเพื่อน
พื้นซีเมนต์ เย็นชื้น คือพื้นเรือน
มีมดไต่ ไรเยือน คือเพื่อนตรอม

มุ้งหยากไย่ ใยบัว คุมหัวนั้น
คือรางวัล ยิ่งใหญ่ ไล่ถนอม
พอเบ็ดเสร็จ เผด็จชัย ใครฤๅยอม
จำผ่ายผอม เสียงาน นานสามเดือน

จำมิรู้ลืม...ข้อหาภัยสังคมนิยมซ้าย

 :35:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17 กุมภาพันธ์, 2558, 11:26:19 AM

 " ตรุษจีนเศร้า "

ตั้งแต่เดิม เริ่มคลาน อ่านเขียนได้
ร่างเติบใหญ่ อ้อมอุ่น ของคุณป้า
คอยถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูมา
หลับลืมตา ก็เห็น เป็นประจำ

อีกท่านหนึ่ง ซึ้งใน หทัยนัก
แต่ฟูมฟัก รักเรา เพียงเช้าค่ำ
รับจ้างวัด ตัดผ้า ฟ้ามืดดำ
ดึกยังทำ ถึงเพลีย เตี่ยยอมทน

หาบกระบุง มุ่งทาง วางตลาด
ขายผักกาด ของใช้ ไม่เคยบ่น
ไม่อิดออด กอดลูก ที่ซุกซน
เราสองคน รักแม่ สุดแดดวง

มีกล้วยใบ ใจแจง บิแบ่งครึ่ง
คนละกึ่ง กินกล้วย ด้วยแสนห่วง
ไม่ทะเลาะ เบาะแว้ง แกล้งทั้งปวง
เรียกอากวง เรื่อยมา น้องอากี

บ้านไม้ไผ่ ได้อยู่ ริมคูคล้ำ
พร้อมข้าวน้ำ ดื่มทาน มานสุขี
เรารักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สวัสดี
น้อมชีพพลี ทดแทน คุณแผ่นดิน

เทพจำนง ส่งพา ให้มาพบ
กำหนดจบ เช่นกัน คือวันสิ้น
แม่เตี่ยน้อง ต้องตาย วายชีวิน
ตรงตรุษจีน ไหว้เจ้า เศร้ายิ่งเอย

ตรุษจีน 2542 แม่เสียชีวิตด้วยหัวใจวาย
ตรุษจีน 2545 เตี่ยเสียชีวิตด้วยความดันสูง
ตรุษจีน 2546 น้องเสียชีวิตด้วยตับมะเร็ง



หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 18 กุมภาพันธ์, 2558, 12:39:45 PM

" ครูคนใหม่ 3 "

ตลอดคืน ตื่นหลับ นั่งจับเจ่า
ปวดย่องเบา เข้านอน ก่อนรุ่งสาง
หมาเห่าใคร ไก่แจ้ว แมวหลงทาง
คนตูบข้าง หักไม้ ก่อไฟเตา

มองลอดม่าน ผ่านผ้า ฝาผนัง
ภายนอกยัง หม่นมัว ทั่วขุนเขา
ภาพต้นไม้ ไล่เรียง เห็นเพียงเงา
ฟ้าสีเทา เริ่มจาง สว่างเยือน

หมอกพร่างพรม ลมพัด สะบัดกิ่ง
ใบทอดทิ้ง ร่วงหล่น รอบโคนเกลื่อน
น้ำค้่างย้อย หยดดิน รินไหลเลือน
ชุ่มฉ่ำเถื่อน เปียกดง เย็นดงดาน

เช้าผู้คน ด้นดั้น เดินฟันฝ่า
เก็บของป่า เลียบดอย สอยผักหวาน
ตัดหน่อไม้ ไข่มดแดง แฝงใบลาน
ลงลำธาร แทงปลา หาหอยปู

คุ้ยเห็ดถอบ ลอบขุด แมงกุดจี่
วิ่งไล่ตี จับแย้ แส่รมหนู
หาแมงมัน ฟันจิ้งหรีด มีดเสียบรู
เชือกคล้องงู ไร้พิษ กรีดหนังแกง

อาทิตย์แรก แปลกใจ ไม่เคยพบ
มิอาจหลบ รอบข้าง ช่างแสยง
ธาตุทั้งสี่ จี้จริต ผิดสำแดง
ร่วงรุนแรง แห้งผอม งอมพระราม

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 19 กุมภาพันธ์, 2558, 07:01:01 PM

" อาชีพพ่อ 1 "

วางบนแท่น แผ่นผ้า สิบกว่าชิ้น
มีซาติน โทเรเทโทร่อน
สีตาราง วางเส้น เอ็นแนวนอน
แขวนโชว์ต้อนรับลูกค้า มาจับจอง

ล้วนเนื้อหนา ผ้าดี สีดำเขียว
ขาวสีเดียว ผ้าเสื้อ เยื่อลายสอง
เทศกาล งานมี เสียงปี่กลอง
บุญฉลอง สมโภช โบสถ์ศาลา

พ่อยิ้มแฉ่ง แบ่งบาน งานเริ่มเข้า
ตื่นแต่เช้า จุดไฟ ใกล้ตีห้า
หยิบแท่งชอล์ก ออกแบบบง ทรงนานา
ตัดเย็บผ้า รับจ้าง ช่างถักทอ

จักรแซกริม เลียบรอบ กันขอบลุ่ย
ถึงยังเด็ก ได้คุย ลุยช่วยพ่อ
สอยตะเข็บ เย็บเนา เข้าแขนคอ
ติดตะขอ กรอด้าย สายรังดุม

สิ้นงานสวด บวชองค์ สรงน้ำธาตุ
งานหยุดขาด ฝนตก อกกลัดกลุ้ม
พ่อเดินทาง ห่างเหย้า เหมาเสื้อคลุม
เย็บเสื้อนุ่ม แขนยาว ขายหนาวมา

แสนภูมิใจ ได้ช่วย อาชีพพ่อ
จุดเกิดก่อ ประกาย หลายคุณค่า
ปูรากฐาน การเรียน เพียรวิชา
เป็นที่มา วันนี้ รพีกาญจน์

ตอนนั้นเรียน ป.5 ปี 2505 ครับ


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 19 กุมภาพันธ์, 2558, 07:24:32 PM
น้องยังมะเกิดเลยอ่าาาาาา :21: :30:

........................

ออกแบบสร้างวางร่างเป็นทางเริ่ม
ตัดแต่งเติมเสริมแทรกแปลกใหม่หวาน
หรือชุดฟอร์มย่อมได้ใช้ทนนาน
(ชุด)พระราชทานงานไหม ใส่พิธี

บรรจงสร้างตามสั่งตั้งใจนึก
เฝ้าเพียรฝึกศึกษาในหน้าที่
วิชาชีพรับคอร์สสอนสตรี
นครชัยศรีมีฉายา "ศศิอาภรณ์"

ละอองดิน


 :21:


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 19 กุมภาพันธ์, 2558, 08:44:59 PM

" อาชีพพ่อ 2 "

การค้าขาย หลายหลาก ยากผูกขาด
การตลาด เจาะใจ ใครเด็ดกว่า
ต้องลดแหลก แจกฟรี บี้ราคา
ผลทันตา ยอดทรัพย์ นับอนันต์

อีกอนึ่ง พึงคุม คุณภาพ
ฝีมือหยาบ ขยาด อาจมหันต์
ปัดแมงหวี่ ตี่ตอม จ่อมจาบัลย์
ลูกค้าหัน หน้าไกล มิใยเยือน

สิ่งจูงใจ ให้จับ รับประโยชน์
ช่วยโปรโมท หว่านคำ ชักนำเพื่อน
เช็ครายเสียง เรียงตัว รวมทั่วเดือน
กำหนดเงื่อนไขวาง รางวัลงาม

ยุทธวิธี ดีร้าย ภายในนอก
ถูกลากออก พันตู สู่สนาม
ใครชะงัก พักยก ตกเขตคาม
เสร็จปอยลาม มิเหลือ ม้วนเสื่อไป

มันเป็นเรื่อง เร้าใจ ช่วงวัยเด็ก
ถึงยังเล็ก ตัวนิด คิดช่วยได้
เสนอต่อ พ่อรับ ทำฉับไว
สวัสดี มีชัย "ร้านไทยทรง"

ตัดกางเกง 1 ตัว รับปฏิทินรูปดารา 1 แผ่น และเลือกรับของแถม 1 ชิ้น ดังนี้
หมวกสาน 1 ใบ หรือเสื้อกล้ามตราเป็ดคู่ 1 ตัว หรือกางเกงในตราห่านคู่ 1 ตัว
หรือเข็มขัดหัวสี่เหลี่ยม 1 เส้น หรือรองเท้าฟองน้ำตราช้างดาว 1 คู่
ผู้ที่แนะนำหรือชักนำมาใช้บริการครบ 10 ราย รับกางเกงขายาวฟรี 1 ตัว

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 กุมภาพันธ์, 2558, 06:05:47 AM

" อาชีพพ่อ 3 "

อะไรในโลกนี้ที่ว่าแน่
มีพ่ายแพ้ชนะและเสมอ
ช่วงเช่นฝันบรรเจิดล้ำเลิศเลอ
หรือพลั้งเผลอลับล่มลงจมดิน

ต้องเตรียมจิตทำใจให้พรักพร้อม
รู้จักยอมคำรบคราจบสิ้น
ทวนผลิตกิจกรรมนำชีวิน
หาทางผินเดินออกตรอกประตู

อันภูษาผ้าใบใช่ข้าวถั่ว
สามสี่ตัวหลวมคับกว่ายับยู่
มิหมดหายสายเย็นเช่นปลาทู
ตัดหนึ่งคู่เก่ากรังอีกตั้งปี

คนเบื่อรอชักช้าห้าวันเสร็จ
ซื้อสำเร็จวัดเอวสวมเร็วรี่
รีบร่วมงานบ้านไกลใกล้ได้ทันที
เลือกทรงสีเนื้อผ้าค่าสตังค์

หาก็ง่ายขายคล่องท้องตลาด
ของไม่ขาดข้ามคืนแค่โทรสั่ง
ร้านตัดเย็บถดถอยค่อยเอวัง
หันคืนหลังรับจ้างนอนห้างนา

เก็บกรรไกรไม้วัดจัดเข้าตู้
เห็นหดหู่ยิ่งนักจักรเย็บผ้า
เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตติตอุรา
ก่อนต่อมาค้าวางกางเกงยีนส์

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 กุมภาพันธ์, 2558, 01:06:02 PM

" อาชีพพ่อ 4 "

หนังขายยาคาวบอยทยอยฉาย
ตัวผู้ร้ายพระเอกทำเก๊กท่า
มือแตะปืนยืนจ้องชันสองตา
หรือควบม้าชุดยีนส์ปีนขึ้นลง

กางเกงเสื้อเนื้อหนาราคาถูก
สวมสำบุกสำบันทันประสงค์
จะท่องเที่ยวเลี้ยวลดจดแดนดง
แผ้วถางพงหนามไหน่ไม่ระคาย

หมวกปีกกว้างกลางยุบหลุบหน้าหลัง
รองเท้าหนังหุ้มข้อถักทอสาย
คาบบุหรี่ยียวนกวนเท้าปลาย
แบบฉบับครับยอดชายนายคือแมน

ยี่ห้อฮิต GANTON COMMANDO
สวมสมาร์ท อาจโหล แต่โก้แสน
วางจำหน่าย ขายตลาด จนขาดแคลน
รีบวิ่งแจ้น สั่งจอง ต้องมัดจำ

ต้นทุนตัว หนึ่งร้อย ยี่สิบบาท
พอวางพาด ร้อยห้าสิบ หยิบหนำหนำ
ทั้งขายปลีก ขายส่ง ขายตรงทำ
สิ้นเดือนกำไรหมื่น ตื่นเต้นจัง

เลิกเย็บผ้า ค้ายีนส์ สิยิ่งร้าย
นานยอดขาย หายไป ไม่เห็นหลัง
มีชุดเดียว เหนียวหนุ กว่าผุพัง
มีชุดดัง สวมใส่ ได้เป็นปี เฮ่อ...

นอกจากยีนส์ มีสำเร็จรูปชาย ชุดนักเรียน
ในที่สุดไปไม่รอดครับ เห็นทีมี อาชีพพ่อ 5


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 กุมภาพันธ์, 2558, 07:55:40 PM
" อาชีพพ่อ ตอนจบ "

เห็นป้ายปิด ติดขาย ภายในร้าน
ทรงขาบาน กระบอก ฟอกกมแก่
ยืนสโตร์ โชว์ขา แถวท่าแพ
ยีนส์ของแท้ สามร้อย ห้อยเตะตา

เทียบราคา ตัวบาท ตลาดนัด
ถูกประหยัด อย่างน้อย ก็ร้อยกว่า
ปากต่อปาก เฮโล สาระพา
ขายเทน้ำ เทท่า ทำไม่ทัน

น้ำขึ้นต้อง รีบตัก ใส่กลักกล่อง
เงินตาพอง ทองตาโต เกิดโมหันต์
นำของเทียม กองคละ ปะปนกัน
ก็ถึงวัน ล่มสลาย ค้าขายพัง

เพราะความโลภ ของเรา เอาแต่ได้
ร้านเชียงใหม่ มั่วส่ง ลงตามสั่ง
ของไม่ดี มีหรือ ชื่อจีรัง
กลับมานั่ง หาวหุบ สรุปงาน

ลูกค้าไหล ไปอื่น มิคืนกลับ
จำต้องปรับ ร่วมจิต ช่วยคิดอ่าน
ของสิ่งใด ใช้สิ้น กินดื่มทาน
ตลอดกาล เช้ามืด พืชสัตว์คน

ยากตุกติก หลีกเว้น เช่นบังคับ
อาหารกับ ข้าวเนื้อ พริกเกลือป่น
ปุ๋ยสารยา ฆ่ารม สมฮอร์โมน
เริ่มตั้งต้น วางโชว์ โฆษณา

ยีนส์ปลอมซักแล้วเนื้อผ้าสีแดง เจ๊งอ่ะครับ
เริ่มขายของเบ็ดเตล็ดปี 2518 ถึงปัจจุบัน
พ่อมอบกิจการให้น้องปี 2540 ก่อนสิ้นชีวิต

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 มีนาคม, 2558, 06:15:23 AM

" พ่อครูทัด 1 "

เสื้อม่อฮ่อม ย้อมเทา กระเป๋าสอง
กางเกงถอง ดำด่าง ย้วยข้่างซ้าย
ผ้าแดงชาด คาดพุง รุ่งริ่งลาย
เกิบแตะสาย นิ้วคีบ ลีบแบนบาง

ผมสั้นเกรียน เลียนลาก หน้าผากแคบ
จมูกแฟบ แก้มตอบ สองขอบข้าง
คิ้วดกลู่ หู.ตา บัง.ฝ้าฟาง
โบกมือพลาง ถ่างขา ส่ายหน้าลอย

อารมณ์มี ดีชั่ว ก็หัวเราะ
ลิ้นชอบเดาะ หมากกระเซ็น ฟุ้งเป็นฝอย
ร้องเพลงกรับ ขับลิเก เฮทิงนอย
ชาวบนดอย เชิดชู "พ่อครูทัด"

วุฒิวิชา สามัญ ชั้น ป.สี่
นักธรรมตรี ธัมมะ ปฏิบัติ
เป็นครูใหญ่ ได้เลย ไม่เคยคัด
ระดับจัตวา สิบห้าปี

เป็นครูใหญ่ ครูน้อย ภารโรงเสร็จ
การสอนเด็ด ป.หนึ่ง ถึง ป.สี่
เงินเดือนหนอ พอใช้ ไร้ดีกรี
แต่มากมี คุณงาม ความเมตตา

บรรจุใหม่ ได้อยู่ กับครูท่าน
ประสบการณ์ ครั้งนี้ แสนมีค่า
ครบล่วงลับ ดับขันธ์ วันจากลา
กายใจข้าฯ บูชิต นิจนิรันดร์

พ่อครูทัด ถึงแก่กรรม 18 มกราคม 2523

 :aab17:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 มีนาคม, 2558, 01:57:05 PM

" พ่อครูทัด 2 "

เสียงปะทุ ลุกจ้า ผวาวิ่ง
ครูทัดปิ้ง ข้าวหลาม สามบอกใหญ่
กลัวนักหนา  หน้าแล้ง แสงฟืนไฟ
อาคารไม้ ใบจาก หากวอดวาย

ข้าวเหนียวกรอก บอกไม้ ใส่เกลือนิด
ตองจุกปิด สุมไฟ ปักไม้ป่าย
เอาเอนอิง ปิ้งวน จนดำลาย
กลิ่นกระจาย ต้องจมูก ข้าวสุกพอ

บิเป็นคำ จ้ำจั่ว พริกถั่วเน่า
หอมปลาเจ่า ลื่นล้ำ น้ำลายสอ
เคี้ยวมะระ ชะอม ขมติดคอ
ซดน้ำจอ ผักปลัง ใส่หนังงัว

รสโอชา อาหาร ทานมื้อค่ำ
เมฆสีดำ ผ่านมา ฟ้าสลัว
ฝนพร่างพรม ลมโชย มืดโรยตัว
แสนน่ากลัว สรรพางค์ กลางไพรพิง

สูบบุหรี่ ขี้โย โพ่โขมง
ขับกะโลง จ๊อยค่าว ถึงสาวหญิง
บรรจงขึง ซึงก้อง ล่องแม่ปิง
เอออ้อยอิ่ง กังวาน สะท้านใจ

เสียงเพลงหยุด สุดลง ดงสงัด
พ่อครูทัด ทิ้งตัว หัวหนุนไม้
นั่งปะหงับ นับดาว หนาวทรวงใน
หลงซาบซึ้ง ถึงใคร ไกลเหลือเกิน...

 :13:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 มีนาคม, 2558, 07:24:56 PM

" พ่อครูทัด 3 "

ดีดกระดิ่ง ติงตอง สองล้อห้าม
คนชอบถาม...ครูจ๋า ไยมาสาย...
ไม่ถามอื่น หมื่นแสน แม้นมากมาย
หรือเขาชัง หวังร้าย ให้อายคน

ครูทัดกรอก ตอกหน้า ว่าลาบหมู
แบ่งเลือดหลู้ เครื่องใน ใส่เกลือป่น
จี่พริกดำ ยำปรุง ยุ่งเวียนวน
คือเหตุผล ชักช้า มาเกือบเก้า...โมง

ถีบรถลง ตรงเนิน เอิ้นทายทัก
ช่างแปลกนัก...ครูจ๋า ไยมาเช้า...
ค่อยน่าฟัง ยังชั่ว หัวเราะเอา
รู้สึกเบา วาบหวิว ทั่วผิวกาย

ครูทัดบอก หยอกคำ ว่าน้ำพริก
เก็บผักจิก ต้มมะระ เป็นกระสาย
ปั้นข้าวคำ จ้ำจิ้ม อิ่มมื้องาย
พอกันตาย แป๊บหนึ่ง รีบบึ่งมา

ตะวันบัง ยังโด่ง โรงเรียนเลิก
รับตกเบิก เงินทวน จวนผู้ว่า
ศุกร์ย่างเข้า เสาร์อาทิตย์ ปิดต่อนา
ใช้เวลา เดินทาง ย่างสามวัน

ถามว่า...ทำไมมาโรงเรียนสาย ตอบว่า...
กินข้าวกับลาบ มันชักช้า กินอร่อย...มาสาย
ถามว่า...ทำไมมาโรงเรียนเช้า ตอบว่า...
กินข้าวกับน้ำพริก กิน2-3คำ ไม่อร่อย...มาเช้า
บรรจุใหม่ครบหกเดือนจึงจะได้รับเงินเดือน
รับเงินย้อนหลังหกเดือน เรียกว่า...เงินทวน

 :34:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 มีนาคม, 2558, 06:05:43 AM
" พ่อครูทัด 4 "

พอสิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ ที่ใครว่า
อยู่กลางป่า หาเป็น เช่นนั้นไม่
มีอะไร ในบนดิน กินกันไป
รากหน่อไม้ ลูกผล ต้นต้มดอง

พ่อครูทัด จัดชอบ มอบหมายให้
แทนครูใหญ่ รับเงิน เดินซื้อของ
เครื่องอ่านเขียน เรียนใช้ ไว้สำรอง
เก็บใส่กล่อง มัดผูก พร้อมหยูกยา

พ่อครูทัด นั่งนอน สอนสี่ชั้น
เด็กรวมกัน ทำงาน การหรรษา
ร้องเพลงบ้าง ร่างวาดสี เล่นกีฬา
ทายปัญหา ปั้นสัตว์ หัดฟ้อนรำ

เช้าคัดไทย สายคณิต กิจกรรมบ่าย
ให้งานหลาย ตรวจไม่ทัน วันยังค่ำ
อาขยาน สูตรคูณ และท่องจำ
มีเรื่องขำ เก่าเก่า เล่าให้ฟัง

เกณฑ์การให้ คะแนน ของครูทัด
ดังฟังชัด ถูกต้อง ท่องคำสั่ง
ปากกาแดง แจงขีด ผิดทุกครั้ง
สลักหลัง คำติ อธิบาย

งานยอดเยี่ยม ไร้เทียมทาน จารให้.สิบ
งานสุกดิบ ปานกลาง ห้า.ห่างหาย
งานไม่ดี สี่ถึงศูนย์ มูลขี้ควาย
เด็กทุกราย รับรางวัล ปันลูกอม

คะแนน    คำชม                            คำแปล
10          เหน็ดขะหนาด               ดีมาก
 9           เกือบเหน็ดขะหนาด      เกือบดีมาก
 8           เหน็ดพ่อง                        ดี
 7           เกือบเหน็ดพ่อง             เกือบดี
 6           ปอยังแควน                    พอใช้
 5           ปอไปวัดไปวาได้          พอใช้ได้บ้าง
4-0         ขี้ควาย                            ต้องแก้ไข

ตัวอย่าง ด.ช.รพีกาญจน์ 4 คะแนน ขี้ควาย อ่านหนังสือมากๆเน่อ


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 มีนาคม, 2558, 02:43:31 PM

" พ่อครูทัด 5 "

หมอกลงสุย ปุยขาว เต็มราวฟ้า
นกเขาป่า ขันจุ๊กกรู เรียกคู่ขวัญ
ทั่วแดนดง คงเงียบเชียบงวยงัน
ทุกสิ่งสรรพ์ ขยับ รับเจ็ดโมง

พ่อครูทัด งัดใบตอง รองยาสูบ
ม้วนเข้ารูป จุดพลัน ควันโขมง
กล่าวเสียงดัง ฟังชัด..ทัดลำโพง
ต่อไปโรงเรียนเข้า เก้าโมงปลาย(กว่า)

ให้ยกเว้น เป็นกรณีพิเศษ
เนื่องสาเหตุ เด็กช้า มาเรียนสาย
บางคนไม่ได้กิน มื้อข้าวงาย
บ้างตาลาย ลมเข้า หน้าเสาธง

หยิบรากไม้ ใบตอง กองสุมขอน
รับแดดอ่อน ผิงไฟ ไล่หนาวส่ง
ผ้าติดเนื้อ เสื้อตัว สั่นทั่วองค์
พอยืนตรง หอบอก สะทกคาง

มีใครหนอ ห่อข้าวเปล่าไร้กับ
ปั้นหนึบหนับ เป็นแผ่น แน่นสองข้าง
แทงไม้ติ้ว ผิวเรียบ เสียบผ่านกลาง
ค่อยนำวาง ห่างพอดี จี่ข้าวกิน

ลุกตลอด มอดไหม้ ใบกาบเปลือก
ถ่านแดงเถือก ลามไป ไม่รู้สิ้น
ปล่อยให้เหลือ เชื้อไฟ ไว้กองดิน
อังมือตีน จุดบูรี สูบขี้โย

บูรีขี้โย - บุหรี่ใช้ใบตองแห้งมวนใบยาหั่นเป็นฝอย
โรยด้วยเปลือกมะขามที่แห้งบดละเอียด มักดับง่าย
ต้องจุดไฟก่อนสูบบ่อยๆ พ่อครูทัดสุมไฟไว้จุดบูรีขี้โย


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 มีนาคม, 2558, 10:07:13 PM

" พ่อครูทัด 6 "

พ่อครูทัด...
จบจากวัด เรียนร่ำ นักธรรมเอก
เก่งวิชา ภาษาไทย ไวคิดเลข
พ่นเป่าเสก คาถา ร่ายอาคม

เป็นทหาร ผ่านศึก สงครามโลก
ถูกหยิบโยก ขึ้นเป็น ครูประถม
สอนเด็กน้อย ร้อยกว่า พนารมย์
ตามอุดมการณ์ครั้ง ยังวัยเยา

ค่าตอบแทน แต่เดิม เริ่มแปดบาท
รับธงชาติ ดินสอ ผ้าทอเก่า
ปากกาซึม หมึกชาด กระดาษเบา
คำสั่งเจ้า ตกไป ให้เป็นครู

มีกำหนด นิยาม สามบรรทัด
สอนฝึกคัด คณิต คิดเลขรู้
อ่านเขียนคล่อง ท่องได้ ไปปลาปู
และเชิดชู ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย

ร่างสง่า หน้ากลม ทรงผมตั้ง
เสื้อน้ำครั่ง อมเทา กระเป๋าใหญ่
กางเกงหลวม ขาเรียว สีเขียวไพร
เกือกผ้าใบ กากี สายสีดำ

ยามยิ้มแย้ม แก้มบุ๋ม ที่มุมปาก
หัวเราะก๊าก ฟันหลอ พอขบขำ
พูดอ่อนหวาน ขานลูก มีทุกคำ
ผมยังจำ ติดใจ ไม่รู้ลืม...

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 03 มีนาคม, 2558, 05:59:37 AM
" พ่อครูทัด 6 ตอนจบ "

๐ จงจำคำกล่าวไว้     จงดี
คำสี่คำครูมี             แก่เจ้า
จงรีบเร่งทันที          ทำเถิด
"เราจะทำดี"เว้า   ว่าพร้อมเพรียงกัน

แปดโมงเช้า เคารพ นบธงชาติ
อภิวาท องค์พระ พุทธศรี
กล่าวสัญญา ว่า...เราจะทำดี
นักเรียนรี่ รายล้อม น้อมรับฟัง

ครูทัดมี ข่าวเช้า หน้าเสาธง
นิทานส่ง เสริมธรรม คำประหลัง
ตรวขสุขภาพ ชายหญิง อย่างจริงจัง
เสร็จแล้วสั่ง แยกกัน สู่ชั้นเรียน

ตรงสำคัญ วันหยุด พุทธศาสน์
เช้าตักบาตร ฟังธรรม น้อมนำเศียร
กรวยข้าวตอก ดอกไม้ ไฟธูปเทียน
วนขวาเวียน วิหาร กรานพุทธพรหม

เปิดภาคเรียน ไหว้ครู บูชาพระ
พุทธมามะกะ ประเสริฐสม
ปฏิญาณ สาบานตน คนนิยม
ชอบชื่นชม กัตติเวทิตา

ประชุมปลาย สัปดาห์ อาราธนะ
นิมนต์พระ หยิบยก ปาฐกถา
รู้สวดมนต์ กรณศีล จินตนา
เกิดปัญญา สมาธิ ริชำนาญ

วันวิมาฆบูชา เวียนมาถึง
หวนคำนึง ถึงผู้ ครูทัดท่าน
ขอเทิดเชิดชู คุณูปการ
เพียรสืบสาน ต่อไป ไม่รู้ลืม

ผมได้นำสิ่งดีๆจากพ่อครูทัดมาใช้ โดยเล่าข่าวเช้าหน้าเสาธง
นำนักเรียนตักบาตร ฟังธรรม เวียนเทียน ทำพิธีแสดงตนเป็น
พุทธมามะกะ ไหว้ครู มีประชุมนักเรียนสุดสัปดาห์ นิมนต์พระ
แสดงธรรมเดือนละหนึ่งครั้ง สืบจนผมเกษียณก่อนกำหนด

ด้วยความเคารพ
ทวี รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 04 มีนาคม, 2558, 08:37:21 AM
(http://image.ohozaa.com/i/7ec/Aq8n8.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/3Bsc)

ประดิษฐ์ถ้อยร้อยเรียงเคียงอักษร
กว่าจะได้เป็นกลอนหนอแสนปลื้ม
จะจำจดต่อนี้มิรู้ลืม
ขอหยิบยืมถ้าขาดบ้างอย่าร้างไกล

ยังด้อยเรื่องสัมผัสเคร่งครัดมาก
แต่งลำบากอยู่นะจะบอกใบ้
ยังไม่เก่งกล้าแกร่งแหยงบางใคร
ต่อกลอนให้เฮฮาประสาเรา

วิริน
๔/๓/๕๘

(http://image.ohozaa.com/i/7ec/Aq8n8.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/3Bsc)


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 04 มีนาคม, 2558, 10:03:19 AM

" ปิดภาคเรียน "

ปิดภาคเรียน มีนา อากาศร้อน
เปลื้องผ้าผ่อน ทำงาน เหงื่อกาฬไหล
ออกรับจ้าง หาเงิน เดินถามไป
ขอเพียงได้ ค่าแรง แบ่งเก็บออม

เตี่ยวขาสั้น ตัวเก่า เหนือเข่าคับ
เสื้อพอจับ ติดกาย ดูผ่ายผอม
เกิบผ้าใบ ขาดร้อย สีมอยมอม
ยังไม่พร้อม แบบเรียน เครื่องเขียนงาน

จบ ป.ปลาย ย้ายต่อ ม.ศ.หนึ่ง
ห่างไกลถึง สิบโล โขจากบ้าน
ทางลูกรัง ขลุกขลัก จักรยาน
จะใช้การ ปั่นไป ยังไม่มี

กระบุงตัก ตวงชั่ง เทครั่งแห้ง
มัดหอมแดง จุกเกล้า แขวนเข้าที่
คัดถั่วเขียว แยกเกรด เมล็ดดี
ข้าวเปลือกสี เป็นสาร ร้านอากง

แผ้วถางหญ้า ดาเตรียม กระเทียมผึ่ง
ก่อไฟนึ่ง พลูดิบ หยิบไปส่ง
ขาประจำ เมี่ยงหมาก ลากขึ้นลง
ถึงทุ่มตรง เหนื่อยอ่อน พักผ่อนกัน

อาบน้ำท่า ทานข้าว เริ่มหาวหลับ
อ้าปะหงับ พิงตั่ง นั่งเคลิ้มฝัน
ถึงเปิดเรียน คงรับ เงินนับพัน
พอเลือกสรร ซื้อของ ตามต้องการ

รำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อ มีนาคม 2509

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 07 มีนาคม, 2558, 09:54:58 PM

ปิดภาคเรียนช่วงเก็บลำไย 1

เริ่มปรึกษา หารือ เข้าชื่อเพื่อน
ปิดหนึ่งเดือน ท้ายเทอม เริ่มตอนไหน
สรุปว่า น่าทำ ช่วงลำไย
เด็กจะได้ ช่วยงาน บ้านทั้งปวง

รับจ้างจัด คัดแยก แบกตะกร้า
นอกเวลา มีพอ ลากล้อพ่วง
เสิร์ฟอาหาร จานชาม ตามร้านรวง
เก็บมะม่วง ลงกล่อง รองด้วยโฟม

ส่งเสริมหลัก ทักษะ วิชาชีพ
สามารถหยิบ มาใช้ ได้เหมาะสม
เรียนวิธี ชีวิต กิจสังคม
สัมผัสชม พฤกษา นานาพันธุ์

เพื่อประสาน งานรัก สามัคคี
ต่างถ้อยที ช่วยชอบ ตอบแทนมั่น
รับเงินตรา ค่าจ้าง เป็นรางวัล
สร้างขยัน อดทน เป็นคนดี

คิดตาราง วางแปลน แผนบทใหม่
กำหนดใช้ ปีการศึกษานี้(2530)
เฉพาะเรา เท่านั้น ทำทันที
เขตมากมี ดกดำ ลำไยโซน

เริ่มอำเภอ จอมทอง นำร่องก่อน
ทุกขั้นตอน ท่องเดิน ประเมินผล
ร้อยเปอร์เซ็นต์ เห็นชัด ในบัดดล
แต่ข้างบน หอคอย ไม่คล้อยตาม

ประชาชน เพียบพร้อม ยอมทำตาม

หลักสูตรและกิจกรรมต้องสอดคล้อง
ความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นครับ

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 08 มีนาคม, 2558, 12:53:13 PM
ปิดภาคเรียนช่วงเก็บลำไย 2

เวลาผ่าน นานเดือน เหมือนอาทิตย์
ปีแรกปิด หกสิบโรง โครงการใหม่
เมื่อสบช่อง ลองทำ นำวิจัย
ผลอย่างไร อีกหลาย(เขต) ขยายการ

ต้องจัดแจง แบ่งกลุ่ม สุ่มสำรวจ
เดินออกตรวจ ถามตอบ ถึงขอบบ้าน
เข้าประตู ดูเช็ก เด็กทำงาน
ที่สวน.ร้าน สรุปผล บนโต๊ะกลม

บันทึกจบ พบดี ไม่มีเสีย
ค่าเฉลี่ย เท่ากัน ชั้นประถม
เป็นภาระ อนุบาล อาหาร.นม
ข้างบนชม บริหาร จัดการดี
................................

กางเกงหลวม สวมกระโปรง ส่งเสียงจ้าว
เสื้อผ้าขาว กระเป๋า ดำ.เทาสี
เดินเปลือยเปล่า เท้าแตะ แสะไม่มี
เกิบอย่างดี ใหม่จริง ทั้งหญิงชาย

พูดถูกคอ ล้อเล่น เห็นสนุก
ไปยืนจุก ..สหการ ร้านค้าขาย
ถือหุ้นเพิ่ม เติมฝาก ออมมากมาย
ซื้อจับจ่าย แบบเรียน เขียน.อุปกรณ์

"ปิดเทอมนี้ ดีอย่างไร" ให้เล่าแจ้ง
ทุกคนแย่ง ยกยื้อ มือสลอน
"รู้วิชา พาเพลิน เงินแน่นอน
เก็บใช้ตอน เรียนต่อ ม.ต้น-ปลาย"

สหกรณ์โรงเรียน แบ่งออกเป็น สหการร้านค้า ออมทรัพย์นักเรียน
ฝ่ายผลิตทางการเกษตร  แบบครบวงจร  ดำเนินการโดยนักเรียน

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 08 มีนาคม, 2558, 05:55:48 PM

๐ ช่วงที่ปิดภาคเรียน ๐

เรียนปนเล่น เป็นเวลา ประสาเด็ก
เช้า.ไทย.เลข.พุทธะ ซึมสะสม
บ่าย.ลงลาน สานศิลป์ รินภิรมย์
ชั้นประถม..แค่นี้ ก็ดีพอ

ต้องละเล่น เป็นเรียน พากเพียรหนัก
หยุดเก็บกัก ตัวพร้อม มิยอมท้อ
ทบทวนคิด วิชชา อย่ารั้งรอ
เรียนรู้ต่อ เจนจัด..มัชฌิมา

ฝึกทักษะ ประสบการณ์ งานอาชีพ
อย่างเร่งรีบ ซับไว้ ใช้วันหน้า
มากรู้ดี มีสิทธิ์ พิจารณา
เป็นหัวหน้า โก้หรู ผู้จัดการ

ปิดภาคปลาย คลายร้อน พักผ่อนบ้าง
อย่าปล่อยว่าง เวลา มหาศาล
รักก้าวหน้า หาเงิน เดินหางาน
เพิ่มชำนาญ เกิดประโยชน์ โทษไม่มี

"อย่าปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไปโดยเปล่าประโยชน์"

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17 มีนาคม, 2558, 09:43:15 PM

" บอลครับบอล "

เมื่อเยาวัยใฝ่ฝันว่าวันหนึ่ง
คงก้าวถึงไกลสุด ณ จุดหวัง
เราคือนักฟุตบอลกระฉ่อนดัง
เบื่อรับจ้างเสียจังนั่งเลี้ยงควาย

เลิกพักเรียนกลางวันพันกระดาษ
ปอป่านคาดจัดแจงแบ่งฝักฝ่าย
ไม้ขีดเส้นเล่นบนดินปนทราย
ล่างเปลือยปลายรองเท้าเปล่าไม่มี

ไร้กฎกติกาเวลาชัด
ขืนเลี้ยงลูกถูกอัดรุมสามสี่
บอลลอยไปไกลตัวมั่วทุกที
ล่อกันเละเตะก้นตีมีเฮฮา

ครั้นเมื่อรถขายยาตราถ้วยทอง
ประกาศขายยาหม่องแกะกล่องฝา
ครบหนึ่งร้อยแลกบอลโฆษณา
ไซ้ส์เบอร์ห้ากลมกลมสีชมพู

เป็นของเล่นชิ้นแรกที่แปลกใหม่
ความดีใจชื่นหน้าเข้ามาสู่
อยากเตะเล่นเย็นเช้าเข้าประตู
ได้แต่ดูครูหวงห้อยห้องโชว์

ไม่ได้เป็นนักบอลดังก่อนฝัน
เพราะชาติพันธุ์เตี้ยต่ำดำโมโห
กินข้าวจี่น้ำเมี่ยงเลี้ยงไม่โต
แค่โกลโกลเป็นบ้าหน้าทีวี

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 21 มีนาคม, 2558, 01:49:33 PM

" กรรมตามทัน "

หรือสวรรค์ บัญชา ให้มาเกิด
ร่างประเสริฐ หล่อล้น คนทั้งหลาย
หาตัวยาก มากเล่ห์ เพทุบาย
ใช้น้ำลาย ปลิ้นปลอก ล่อหลอกคน

ทำเยิ้มยิ้ม พริ้มตา วาจาหวาน
คอยรับใช้ ช่วยงาน การกุศล
เขารู้จัก ทักตัว ทั่วตำบล
จบ ป.ต้น แฟนหมอ จบ ป.ตรี

มีชื่องาม.รามจันทร์.ตรงวันคลอด
หัวเยี่ยมยอด กลค้า น่าบัดสี
กระเทียม ครั่ง ชั่งถั่ว มั่วทุกที
ล็อคเข็มชี้ ยันค้ำ ลดน้ำหนัก

นำกระเทียม เทียมเกวียน เวียนมาส่ง
บอกยกลง เอาวัว ผูกรั้ว.หลัก
ดื่มน้ำก่อน ร้อนคลาย หายหยุดพัก
แล้วจอกตัก ยาดอง ให้ถองทาน

พอมึนเมา เขาโกง ลงตัวเลข
ผมเป็นเด็ก งุนงง น่าสงสาร
สลดใจ ไม่ขอ ต่อทำงาน
ลากลับบ้าน เลิกกัน วันนั้นเลย

ฐานะดี มีทรัพย์ นับแสนล้าน
ตาพิการ แถมบ้า อ้าปากเผย...
โกงชาวนา โกงตาชั่ง โกงตังค์เอย
หลีกไปเพ้ย ขวางหน้า อิจฉากู

ปิดภาคเรียน 2506 รับทำบัญชีให้.รามจันทร์.
ค่าจ้างวันละ 5 บาท นำเอาจำเก่าแต่งเป็นกลอน

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐ นางพราย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 04 เมษายน, 2558, 06:07:53 AM

เคยหาบหาม น้ำอ้อย ผ่านดอยป่า
คนขายค้า ลำบาก ยากหลีกเลี่ยง
นอนบนห้าง ค้างไม้ ไร้ตะเกียง
ยินแต่เสียง สิงสา ราสัตว์.กลัว

เทวดา อาศัย ต้นไม้อยู่
จำคำปู่ บอกว่า ฟ้ามืดหมัว
เมฆถาโถม ลมพัด สะบัดรัว
ระวังตัว เสือสาง เดินทางมา

สวมโสร่ง โจงกระเบน เป็นอำมาตย์
ผีเห็นขลาด เจ้านาย มิกรายกล้า
ผีผู้หญิง กลิ้งกลอก ชิดศอกวา
ลูบแข้งขา ลืมตัว เป็นผัวนาง

หลงเคลิบเคลิ้ม เจิมจด รสสวาท
ชะตาขาด เหยียดนอน ก่อนสว่าง
สิ้นเลือดแดง แห้งเนื้อ เหลือหนังบาง
ตายเป็นสาง ท่องไป ในดงดอน

แต่เดี๋ยวนี้ ผีพราย สูญหายหมด
เห็นโผล่ผด ชูหน้า ตาสลอน
โดดเหยงแหยง แสงสี ไฟนีออน
เต้นตะลอน ชายยุด มุดกระโปรง

รพีกาญจน์

จริงๆแล้วไม่เห็น เห็นในหนังอ่ะครับ


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐ อิฐธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 เมษายน, 2558, 02:06:29 PM
ลงหลุมปลัก ตักดิน สิ้นวันหยุด
จอบเสียมขุด ลากกอง ต้องโทษฐาน
กินมะพร้าว ข้าวหลาม ยามวิกาล
ประคุณท่าน ลงทัณฑ์ ให้ปั้นดิน

พระเณรมี สี่รูป รูปพันก้อน
เผาสุกร้อน ไม่จับ นับหักบิ่น
ห้ามอุทธรณ์ ผ่อนผัน กรรณยลยิน
เด็กวัดรวม ทั้งสิ้น อีกหกคน

เป็นคำสั่ง เบ็ดเสร็จ ความเด็ดขาด
เจ้าอาวาส ผ่านไป แสร้งไม่สน
เวลานาน ผ่านปี ที่ทุกข์ทน
จึงจักพ้น หมื่นก้อน ซ้อนเรียงราย

" เรื่องอาหาร การกิน ศีลบัญญัติ
ต้องเคร่งครัด จิดใจ อย่าให้หาย
กินพอดี มีคุณ เจือจุนกาย
กินมากมาย ร้ายโขก โรคลุกลาม

หยุดบ่นพร่ำ ทำโทษ แสนโหดร้าย
ปั้นอิฐขาย ใช่หรือ คือคำถาม
ใจลึกลึก ฝึกเจ้า เฝ้าพยายาม
ชนะความ ลำบาก ด้วยพากเพียร

กรานกฐิน สิ้นวัน ออกพรรษา
พร้อมศรัทธา ร่วมก่อ หล่อพระเศียร
สร้างศาลา อาคาร การเปรียญ
จะให้เขียน แผ่นติด อิฐของเธอ "

ทุกครั้งที่เข้าวัด ปลาบปลื้มใจมิรู้หาย

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐ สุขใจเมื่อวัยเยาว์
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 เมษายน, 2558, 09:30:20 PM

หยุดวันเสาร์ เข้าป่า หารวงผึ้ง
จับปาดอึ่ง เขียดกบ หลบใต้หิน
จอบด้ามกุด ขุดจิ้งโก่ง หนีลงดิน
ยิงนกบิน สกัด ลัดทุ่งนา

ผ่านโคลนตม งมคู ปูปลาหอย
เท้าซอกซอย แมงจอน สลอนท่า
ควันรมรู หนูพุก ซุกหญ้าคา
ดักไก่ป่า เหยื่อลวง เข้าบ่วงพราน

เสียมเสียบหน่อ กอใหญ่ ใส่กระสอบ
คุ้ยเห็ดถอบ กลางไร่ ซากไฟผลาญ
แซะผำเทา เตาเขียว เลี้ยวร่องธาร
เด็ดผักหวาน ยอดอ่อน ซ้อนใบตอง

เก็บแคขาว พราวหล่น ใกล้โคนหิน
เลือกกระถิน สองกำ จ้ำพริกอ่อง
ไซ้ผักตบ ขบเผาะ เลาะลำคลอง
ลุยกลางหนอง ดึงหัว สายบัวงาม

แวะริมทาง ขว้างลาน ตาลโตนด
โผนกระโดด มือหัก ฝักมะขาม
กินกล้วยสุก ลูกเดียว เคี้ยวมูมมาม
เหลืองอร่าม เขย่า เอาพุทรา

ลักมะม่วง พวงลำไย ไต่ปีนต้น
เพื่อนสองคน ดูหลัง ระวังหน้า
รีบรูดเอา เบาใจ...อะไรมา
ร้องหุยฮา ลงดอย แตนต่อยตี

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ๐ จากประสบการณ์สู่งานกลอน ๐ สุขใจเมื่อได้แต่งกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 พฤษภาคม, 2558, 02:23:16 PM

เคยคัดคำ ประพันธ์ ชั้น ป.ห้า
"สักวา หวานอื่น มีหมื่นแสน"
เพียงแค่หวัง ตั้งใจ ได้คะแนน
ไม่รู้แผน บังคับ นับพยางค์

หัดทดลอง เลียนคำ นำขีดเขียน
เฝ้าพากเพียร ขอครู ดูแก้ร่าง
วิทยุ ฟังเช้าเย็น เป็นแนวทาง
เปิดหน้ากลาง วารสาร อ่านกลอนกรัง

โชคดีได้ เรียนต่อ ม.หนึ่ง-สอง
พอแต่งท่อง คล่องรู้ ตามครูสั่ง
มีผลงาน กานท์กลอน กระฉ่อนดัง
ส่งลงหนังสือพิมพ์ อิ่มเอมใจ

สี่สิบปี ที่ห่าง ละว่างเว้น
ด้วยจำเป็น เป็นครู อยู่ป่าใหญ่
ต้องหาเลี้ยง ครอบครัว ทำทั่วไป
ชีวิตไม่ พบสุข ทุกข์ตรมตรอม

หนึ่งปีผ่าน "มารฟ้า" มาเยี่ยมพัก
เอ่ยทายทัก ความเดิม เริ่มเกลี้ยกล่อม
โต้กลอนสด หมดคำ จึงจำยอม
หัดใช้คอมพ์ จอเคส เน็ตเวบกลอน

วางเพียงบท สองบท จรดฝัน
จึงมีฉัน ร่วมรัก ทออักษร
หากพลาดพลั้ง ครั้งใด ใคร่วิงวอน
ขอฟายฟ้อน จนหนำ ก่อนอำลา

 :34:

รพีกาญจน์