เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนคลายเครียด => ข้อความที่เริ่มโดย: พิณจันทร์ ที่ 05 มีนาคม, 2559, 10:18:31 AM



หัวข้อ: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 05 มีนาคม, 2559, 10:18:31 AM
 (https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xla1/v/t1.0-0/p235x350/12512449_194917270871661_3798953735784300178_n.jpg?oh=4f5efbce9f76ec8c5df53f4d209eb23a&oe=5767B7EB)
:15:

คนบ้ากลอน

สิ้นแสงดาวพราวแสงแต้มแต่งฝัน
เถอะตะวันก็แจ้งฟ้าแดงฉาน
หนึ่งชีวิตมืสิ้นไปกับกาล
ตื่นทำงานฝันเห็นให้เป็นจริง

หลายคนต่างมุ่งมั่นสุขวันหน้า
ตื่นเช้ามาเร่งรุกงานทุกสิ่ง
มิงอมืองอเท้าเฝ้าระวิง
มิประวิงทำไปคงไม่จน

อาจบางทีมีเศร้าเรื่องเก่าหลัง
หากมัวนั่งคิดย้อนทุกข์นอนหม่น
อาจปัญหาไม่หมดต้องอดทน
เกิดเป็นคนต้องสู้ให้อยู่ดี

แม้นว่าเห็นถูกผิดต้องจิตมั่น
อย่าได้หันบ้นทอนจิตจรหนี
อาจบางสิ่งเชิญชวนมายวนยี
อาจบางทีมองผลเหตุพ้นไป

ความเห็นต่างบางงานมาผลาญพร่า
มิเก่งกล้าตะแบงความแรงใส่
มากความคิดผิดถูกมารุกใจ
กลับคิดใหม่ให้เดินประเมินทาง

สิ้นแสงสูรย์ฟ้าพราวเดือนดาวส่อง
เคียงหอห้องอีกคราก่อนฟ้าสาง
เคียงหอใจในศิลป์ระบิลวาง
กลับเป็นนางจินตนาคนบ้ากลอน

พิณจันทร์
๕ มีนาคม ๒๕๕๙


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 มีนาคม, 2559, 06:41:19 PM

กะจะต่อคุณตะวันใน"ตามบ้ากลับบ้าน"
กลับจากธุระมาดูอีกที เพื่อนไปไกลโข
ขอยกมาวางตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ


" อยู่ที่ไหนขอให้มีกลอน "

เข้าหลับนอนค่อนคืนตื่นตีห้า
รีบถลาทันทีดังผีสิง
เปิดไฟแจ้งจิ้มคอมพ์นั่งจ่อมพิง
ขึ้นจอปิ๊งวาววามความ บ้านกลอน

คลิกสำรวจตรวจกานท์อ่านคร่าวคร่าว
เรียงเรื่องราวลำดับนับหลังก่อน
ค่อยล้างหน้าตาแฉะแคะฟันคลอน
กาแฟร้อนจิบซด กดเยี่ยมชม

เปิดขายของดองดิบเบ็ดเตล็ด
คลุกเคล้าเสร็จแป้งมันปั้นขนม
ปิ้งนึ่งห่อพอสุดจุดเทียนรม
หอมชวนดมส่งท่าขาประจำ

จบทุกอย่างกลางวันพลันตอนบ่าย
ยืดยักย้ายไปสวนกลับจวนค่ำ
หรือสลับกับงานบุญบานทำ
พิธีกรรมบนบวงสรวงเทวา

จตุจัดปัจจัยใช้ก่อสร้าง
ประตูปรางค์กำแพง แจรงผ้า
พิธีการงานศพ นบครูบา
สัมมนา เกษตร เทศบาล

ว่างน้อยนิดคิดบทจดกระดาษ
กระวีกระวาดเสนอทั่นเธออ่าน
เหนื่อยไม่สนบ่นไม่ฟังชังไม่พาล
สั่งหยุดจารได้แน่เพียงแค่ยม...

 :smiley18:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 05 มีนาคม, 2559, 09:48:33 PM
 :12:
หากแม้นบ้าเขียนกลอนนั่งนอนนั่น
เขียนทุกวันติดตามก็งามสม
ได้ฝึกฝนตนเองบรรเลงคม
ผู้อ่านชมสุขจังกำลังใจ

คำว่าบ้าเขียนกลอนหากย้อนคิด
เขียนเป็นนิจทุกวันทรวงฝันใฝ่
เขียนด้วยจิตจินตนากลอนพาไป
เขียนเหมือนใช้ชีวิตประจำวัน

มิใช่บ้าดำริสติแตก
เขียนมิแยกแนวทางคิดสร้างสรรค์
แม้เขียนด้วยอารมณ์ขมรำพัน
ทุกบทนั้นแผนผังยังพร่างพรู

ด้วยต่างเขียนให้งามอร่ามส่ง
แม้ยังคงเขียนเกิดมิเลิศหรู
แต่ก็ยึดแนวทางเขียนอย่างครู
เขียนเช้าตรู่ถึงเย็นก็เห็นวาง

เมื่อมีใจรักมั่นบากบั่นแล้ว
เกิดก่อแก้ววิลาสมิบาดหมาง
หากทุกคนเคารพน้อมนบทาง
แต่บรรพ์ปางแผนผังมิพลั้งเลือน

คนบ้ากลอนตอนเขียนผิดเจียนใหม่
มิปล่อยไปให้งานผู้อ่านเฉือน
เขารู้กฏแผนผัง..ดียังเตือน
แต่อ่านเยือนแล้วบอกต่อหัวร่อเรา
 :28:

พิณจันทร์


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 05 มีนาคม, 2559, 10:11:10 PM

กะจะต่อคุณตะวันใน"ตามบ้ากลับบ้าน"
กลับจากธุระมาดูอีกที เพื่อนไปไกลโข
ขอยกมาวางตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ


เข้าหลับนอนค่อนคืนตื่นตีห้า
รีบถลาทันทีดังผีสิง
เปิดไฟแจ้งจิ้มคอมพ์นั่งจ่อมพิง
ขึ้นจอปิ๊งวาววามความ บ้านกลอน

คลิกสำรวจตรวจกานท์อ่านคร่าวคร่าว
เรียงเรื่องราวลำดับนับหลังก่อน
ค่อยล้างหน้าตาแฉะแคะฟันคลอน
กาแฟร้อนจิบซด กดเยี่ยมชม

เปิดขายของดองดิบเบ็ดเตล็ด
คลุกเคล้าเสร็จแป้งมันปั้นขนม
ปิ้งนึ่งห่อพอสุดจุดเทียนรม
หอมชวนดมส่งท่าขาประจำ

จบทุกอย่างกลางวันพลันตอนบ่าย
ยืดยักย้ายไปสวนกลับจวนค่ำ
หรือสลับกับงานบุญบานทำ
พิธีกรรมบนบวงสรวงเทวา

จตุจัดปัจจัยใช้ก่อสร้าง
ประตูปรางค์กำแพง แจรงผ้า
พิธีการงานศพ นบครูบา
สัมมนา เกษตร เทศบาล

ว่างน้อยนิดคิดบทจดกระดาษ
กระวีกระวาดเสนอทั่นเธออ่าน
เหนื่อยไม่สนบ่นไม่ฟังชังไม่พาล
สั่งหยุดจารได้แน่เพียงแค่ยม...

 :smiley18:

รพีกาญจน์

ครับขอบคุณที่ต่อ...แต่ตะวันขออนุญาตแปะไว้ก่อน รวมถึงของคุณพิณจันทร์ด้วย มีจังหวะวันหลังเมื่อไรหรือหายมึนจะต่อ ตอนนนี้เพิ่งกลับจากกทม มาตอนสามทุ่มกว่าๆหลังจากลงกลอนเมื่อช่วงกลางวัน ยังเมารถไม่หายครับ
แต่มุกท่อนสุดท้ายของคุณรพีกาญจน์ ตะวันค่อนข้างงง
คำว่า"จาร" หมายถึง "เขียน"ประมาณนั้นหรือเปล่า แล้วใครหยุดจารอะไรยังไง?
ส่วน"ยม"คำเดียวสั้นๆ ตะวัน จนด้วยเกล้าจริงๆ หรือเป็นมุกแถบอิสาน-เหนือ-ใต้...แต่จะพยายามแกะครับ

หากตะวันตามมุกครูบาอาจารย์ไม่ทัน...ขออภัยไว้ก่อนครับ

ตะวัน


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 06 มีนาคม, 2559, 12:23:55 AM
คนบ้ากลอนนอนดึกคึกชะมัด
เอาตามแต่ถนัดขจัดเหงา
บ่มีตื่นฟื้นหายคลายสร่างเมา
ดอกหนาเจ้าผู้หลงดงป่ากลอน

หายใจเข้าเอาออกบอกท่วงท่า
สัมผัสหน้าคว้าหลังตั้งอักษร
วางสัมผัสรัดถึงซึ่งขั้นตอน
เสน่ห์ซ่อนกลอนกลึงให้ถึงทรวง

มิต้องกินต้องนอนเอากลอนตั้ง
เรียกบ้าคลั่งหลั่งใหลไม่ต้องห่วง
ฉันบ้ากลอนอ้อนใครไม่มีลวง
บ้าตักตวงลอบอ่านกานท์ทุกคน

~มือตก ขออ่านก่อนละกันค่ะช่วงนี้~

 :21:


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 มีนาคม, 2559, 06:09:19 AM
ครับขอบคุณที่ต่อ...แต่ตะวันขออนุญาตแปะไว้ก่อน รวมถึงของคุณพิณจันทร์ด้วย มีจังหวะวันหลังเมื่อไรหรือหายมึนจะต่อ ตอนนนี้เพิ่งกลับจากกทม มาตอนสามทุ่มกว่าๆหลังจากลงกลอนเมื่อช่วงกลางวัน ยังเมารถไม่หายครับ
แต่มุกท่อนสุดท้ายของคุณรพีกาญจน์ ตะวันค่อนข้างงง
คำว่า"จาร" หมายถึง "เขียน"ประมาณนั้นหรือเปล่า แล้วใครหยุดจารอะไรยังไง?
ส่วน"ยม"คำเดียวสั้นๆ ตะวัน จนด้วยเกล้าจริงๆ หรือเป็นมุกแถบอิสาน-เหนือ-ใต้...แต่จะพยายามแกะครับ

หากตะวันตามมุกครูบาอาจารย์ไม่ทัน...ขออภัยไว้ก่อนครับ

ตะวัน

กระผมเขียนทีละบาทสองบาทตามจังหวะเวลาว่างที่มีอยู่ ไม่ลื่นไหลปะติดปะต่อ
เขียนแล้วไม่รู้จะลงอย่างไร วรรคท้ายวรรคเดียวจึงสั้นสื่อความหมายไม่ชัดเจน
จารในที่นี้ให้ความหมายว่า เขียน ไม่ใช่สอดรู้สอดเห็น หรือทิ่มแทงอะไรทำนองนั้น
ยมในที่นี้หมายถึงยมบาล หรือความตาย รวมๆแล้วคิดจะสื่อความหมายว่า
ตายเท่านั้น จะฉุด หยุดเขียนกลอน ตายในที่นี้ อาทิเช่น คอมพ์เสียไม่มีเงินผ่อนซื้อ
หรือคอมพ์ถูกเมียทุบพัง หรือสายตาฝ้าฟางหมอสั่งหยุด หรือมือเป็นง่อย เป็นต้น
ตายทั้งร่างคงอีกนาน หมอดูทายว่าอายุถึงหนึ่งร้อยยี่สิบปี ยังคงค้างอีกห้าสิบห้าปี 55

 :12:


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 06 มีนาคม, 2559, 09:50:12 AM
อ้อชัดเจนครับ 555
แสดงว่าตะวันคิดถูกแต่ทีแรกแล้วว่า หมายถึง "ยมบาล" แต่มาไม่แน่ใจว่า จะถึงขั้นให้ยมบาลหรือความตายมาสั่งหยุดขนาดนั้นเชียวหรือ อะไรจะโลดโผนโจนทะยานขนาดนั้น.. เพราะมุกทำนองนี้ตะวันไม่เคยใช้

แต่ขอแนะนำท่านว่า เอาแค่ 119 ปี เท่านั้นก็พอนะครับ...

 :28:


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 06 มีนาคม, 2559, 11:05:26 AM
 :21:

คนบ้ากลอนนอนดึกเขียนคึกคัก
หนังตาหนักยังฝืนลุกขึ้นบ่น
เขียนอะไรไม่ออกตะคอกตน
สัมผัสหล่นเขียนไปมิได้ดี

เพื่อนเขียนวางดักหน้าคนบ้าต่อ
อยากร้องขออย่าพึ่งดื้อดึงหนี
เพราะสัมผัสก่อนหน้าคล้องพาที
ยากจะมีคำไหนต่อได้ลง

สัมผัสซ้ำมิได้อายเขานะ
แม้ว่าจะถ้อยความเขียนงามบ่ง
ต่อไม่ทันหันหน้าหลับตางง
ปัญญาส่งเราช้าชราแล้ว

 :34:
เฮ้ออออ/


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 มีนาคม, 2559, 08:33:47 PM
" ไปฟ้อนก็เป็นกลอนได้ "

มียาดมฟอดฟอดสักหลอดไหม
ขอยืมใช้ดมทาข้าเป็นหวัด
กระแอมไอไข้หาสารพัด
หมอกควันจัดระหว่างบนทางเดิน

ออกบ้านเช้าขับช้าอากาศหนาว
เสื้อแขนยาวสวมทับขับเหาะเหิน
ลองเร่งแรงแซงอื่นขึ้นข้ามเนิน
สั่นสะเทิ้นรถเก่าเฒ่าเกิดนาน

เต้นตะลอนผ่อนลดทดเกียร์ต่ำ
เกรงขวางลำคว่ำลงตรงห้วยหาน
ฝุ่นตรลบกลบหินเกลื่อนดินดาน
ไต่สะพานผ่านน้ำถ้ำผาแล

ถึงสวนสีรีสอร์ทปลอดสารพิษ
ดอยสถิตย์เทวะหอพระแม่
คล้ายเสียงพิณยินพาทย์ระนาดแน
บรรเลงแห่เพลงเด็ดเพชรพยอม

เกิดหน้ามืดวืดวาดคงคาดหัว
ใจเต้นรัวตุ้มตุ้มตุมต้อมต้อม
ยกยอน้ำส้มป่อยค่อยพรมพร้อม
โน้มจิตน้อมค้อมเจ้าเข้าร่างกาย

มียาหอมฟอดฟอดสักหลอดไหม
ขอยืมใช้ทาดมด่วนก่อนสาย
ขืนชักช้านาทีมีหวังตาย
แค่ฟ้อนฟายครึ่งวันดั๊นเป็นลม
 :8886:
รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 07 มีนาคม, 2559, 12:54:29 PM
" ด่าก็ได้ขอให้เป็นกลอน "

หากผอมแห้งแรงน้อยเป็นง่อยเปลี้ย
หากอ่อนเพลียเสียธาตุขาดอาหาร
หากกินดิบหยิบสุกโรคลุกลาม
หากน้ำตาลมานเหน็บเจ็บตับโต

หากอ้วนองค์ลงพุงท้องตุงเตี่ยว
หากยืนเยี่ยวเดี๋ยวขัดเดี๋ยวผลัดโผล่
หากหัวเกรียนเตียนบางอย่างแตงโม
หากอกโย้ยื่นหนักทะลักทรวง

หากแฟนพรากจากนาไม่ลาบอก
หากวัวออกคอกค่ายหายจากข่วง
หากไร่แห้งแล้งโคกฟ้าโลกลวง
หากช่อม่วงร่วงเสียเพลี้ยเกาะกิน

หากขาดเงินเทินต้นฮอร์โมนสาร
หากจอบผานก้านไถใบหักบิ่น
หากน้ำท่อบ่อทรุดหยุดหลั่งริน
หากที่ดินดานดูกถูกยึดครอง

หากอะไรไม่สมอารมณ์หมาย
หากวุ่นวายคายสุขทุกข์เศร้าหมอง
หากรักหวานพานขมระทมจอง
หากเก็บดองขมองฝืดอึดอัดใจ

ลองวาดภาพอาบสีคลี่อักษร
แต่งกาพย์กลอนฟ้อนฟายระบายได้
หากโงงมจมแท่นละแฟนไกล
เชิญแก้วตาด่าไว(ขอ)ให้เป็นกลอน

 :27:

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ 07 มีนาคม, 2559, 03:51:22 PM
คนบ้ากลอนนอนดึกคึกชะมัด
เอาตามแต่ถนัดขจัดเหงา
บ่มีตื่นฟื้นหายคลายสร่างเมา
ดอกหนาเจ้าผู้หลงดงป่ากลอน

หายใจเข้าเอาออกบอกท่วงท่า
สัมผัสหน้าคว้าหลังตั้งอักษร
วางสัมผัสรัดถึงซึ่งขั้นตอน
เสน่ห์ซ่อนกลอนกลึงให้ถึงทรวง

มิต้องกินต้องนอนเอากลอนตั้ง
เรียกบ้าคลั่งหลั่งใหลไม่ต้องห่วง
ฉันบ้ากลอนอ้อนใครไม่มีลวง
บ้าตักตวงลอบอ่านกานท์ทุกคน

~มือตก ขออ่านก่อนละกันค่ะช่วงนี้~

 :21:

(http://upic.me/i/uf/t2473.gif) (http://upic.me/show/58027923)
.bloggang.com/viewdiary.- 20 มิ.ย. 2552


สวัสดีครับคุณครูผู้สอนศิษย์
ลงลิขิตพาทีทวีผล
คุณครูห่างว่างนานไร้กานท์ยล
มิร่ายมนต์กลนำฉ่ำภิรมย์

คุณครูมาแนวใหม่ในพจน์เผย
เปลี่ยนคำเอ่ยเคยหวานมานสุขสม
เป็นเข้มข้นด้นสนุกไร้ทุกข์ตรม
พรูพร่างพรมคึกคักประจักษ์จินต์

แพรวพราวพรรณบรรหารสราญรื่น
แววหวานชื่นอิงไว้ให้ถวิล
คือนางฟ้าพาพจน์รสร้อยริน
นามระบิล"พิณนรี"ศรีสมนาม


ขอบคุณครับ
(http://upic.me/i/yg/140828082049.jpg) (http://upic.me/show/53903290)
๗ มีนาคม ๒๕๕๙



ขอบคุณภาพจาก  Internet ครับ


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 07 มีนาคม, 2559, 06:21:47 PM
:30:

มาเอ่ยเอื้อนอ้อนออดพรอดพร่ำเพ้อ
อุราเหม่อหมกมุ่นคุณอย่าถาม
อันรักชอบชิงชังดั่งไฟลาม
ทั่วเขตคามยามรักมักรื่นรมย์

ลมโชยมาหน้าร้อนนอนหวั่นไหว
แอร์ตัวใหญ่ไม่เห็นเป็นเหมาะสม
อันตัวน้องขี้เหงาเรามีปม
อยากอัพนมแต่ขาดเงินเกินวุ่นวาย

เย็นยะเยียบเงียบงันวันแสนเศร้า
เห็นใครเขามีแฟนแค้นเหลือหลาย
ขอยืมตังค์สักนิดคิดแล้วอาย
อยากขยายร้านนมสดโปรดเถิดคุณ

วิริน
๗/๓/๕๙

 :30:



หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 07 มีนาคม, 2559, 08:44:46 PM
คนบ้ากลอนนอนดึกคึกชะมัด
เอาตามแต่ถนัดขจัดเหงา
บ่มีตื่นฟื้นหายคลายสร่างเมา
ดอกหนาเจ้าผู้หลงดงป่ากลอน

หายใจเข้าเอาออกบอกท่วงท่า
สัมผัสหน้าคว้าหลังตั้งอักษร
วางสัมผัสรัดถึงซึ่งขั้นตอน
เสน่ห์ซ่อนกลอนกลึงให้ถึงทรวง

มิต้องกินต้องนอนเอากลอนตั้ง
เรียกบ้าคลั่งหลั่งใหลไม่ต้องห่วง
ฉันบ้ากลอนอ้อนใครไม่มีลวง
บ้าตักตวงลอบอ่านกานท์ทุกคน

~มือตก ขออ่านก่อนละกันค่ะช่วงนี้~

 :21:

(http://www.uppic.org/image-6F00_56DD8110.jpg)

รอนางฟ้า

...........

๐ คนบ้ากลอนนอนดึกคึกนิดนิด
วิปริตหรือไรใจสับสน
ดุจอัคคีสุมซุกให้ลุกลน
แถมหน้ามนแอบอ่านกานท์ของเรา

เสน่ห์ซ่อนกลอนใดไหนบอกซิ
ขออย่าริอำพรางกลางคืนเหงา
จงเฉลยเอ่ยฝันเพื่อบรรเทา
พอสร่างเมาคนหลงท่ามดงกลอน

เสียงหัวเราะรอยยิ้มริมทางฝัน
คือรางวัลยิ่งใหญ่ไม่ลวงหลอน
หากแม้นเป็นเช่นว่าอย่าแง่งอน
ขอบังอรคืนกลับรับรางวัล

วางสัมผัสรัดรึงซึ้งทรวงแล้ว
จงรีบแจวเรือใจให้คืนหัน
แล้วมาจอดฝั่งธารวิมานจันทร์
หลงเธอนั้นหนักหนากว่าหลงกานท์

โปรดเห็นใจชายหนึ่งซึ่งห่วงหา
คอยนางฟ้า"พิณนรี"ไมตรีสาน
อย่าด่วนหายกลายลับไปนับนาน
เพราะ"ตะวัน"แอบอ่าน...ดวงมานเธอ ฯะ

ตะวัน

 :21:

ขอบคุณท่านเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพประกอบ


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 08 มีนาคม, 2559, 03:02:16 PM
:21:

คนบ้ากลอนนอนดึกเขียนคึกคัก
หนังตาหนักยังฝืนลุกขึ้นบ่น
เขียนอะไรไม่ออกตะคอกตน
สัมผัสหล่นเขียนไปมิได้ดี

เพื่อนเขียนวางดักหน้าคนบ้าต่อ
อยากร้องขออย่าพึ่งดื้อดึงหนี
เพราะสัมผัสก่อนหน้าคล้องพาที
ยากจะมีคำไหนต่อได้ลง

สัมผัสซ้ำมิได้อายเขานะ
แม้ว่าจะถ้อยความเขียนงามบ่ง
ต่อไม่ทันหันหน้าหลับตางง
ปัญญาส่งเราช้าชราแล้ว

 :34:
เฮ้ออออ/


๐ คนบ้ากลอนนอนฝันยังกลั่นถ้อย
วิมานลอยฟูฟ่องเต็มห้องแถว
ฟังเหมียวเหมียวร้องมาประสาแมว
คล้ายดังแว่วเสียงน้องจากห้องกลอน

สัมผัส"ช้ำ"ไม่เอากลัวเขาว่า
ช้ำชินชามานานจะพาลหลอน
ขอสัมผัสไม่ช้ำย้ำบังอร
สัมผัสตอนสุขีพี่และเธอ

สัมผัสเลือนเตือนจิตคิดถึงน้อย
หวั่นเจ้าลอยเลือนลางห่างเสนอ
"ชิงสัมผัส"ไม่ทันขวัญละเมอ
ได้เพียงเพ้อ"จันทร์"ใสไยชรา ฯะ

 :28:

ตะวัน


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 08 มีนาคม, 2559, 04:16:56 PM
 :12:
จึ่งขอยกตัวอย่างกระจ่างศิลป์
หนึ่งบทรินเปรียบเปรยสิเน่หา
ตะวันรอน อ้อนพิณจันทร์ ท่านเขียนมา
เขียนเถิดหนาแบบนี้พาทีกลอน

บทเข้าพระเข้านาง ในทางศิลป์
งามกวินประจักษ์ในอักษร
.
"ขอสัมผัสไม่ช้ำย้ำบังอร
สัมผัสตอนสุขีพี่และเธอ"

แล้วจึงเขียนตอบพี่พาทีถ้อย
"น้องเปรียบอ้อยเปลือกหนามาเสนอ
อยากจะกินอ้อยหวานเปลือกมารเจอ
หวานเสมอ ปอกผ้า เอ้ย!ปอกเปลือกเลย"

หากแต่อ้อยเกิดนานแม้หวานหยด
ถึงกำหนดตัดขายพี่ชายเอ๋ย
เข้าโรงงานตาลเม็ดระเห็จเคย
มิอาจเผยต้นซังสะพรั่งนวล

จึงเขียนกลอนตอนฝันเสกสรรค์สร้าง
เป็นตัวอย่างลิขิตเมื่อคิดหวน
ขออย่าคิดกังวลสับสนชวน
ให้ขบวนเงียบเหงาเข้ามาเคียง

 :27:

ขอบคุณค่ะ
พิณจันทร์






หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 08 มีนาคม, 2559, 04:23:18 PM
(http://www.thailandoffroad.com/jeepmilitary/jeepmilitary/picture%5C197255222545.jpg)

เปลี่ยนชื่อกลับทันใดเมื่อได้เห็น
สิ่งที่้เป็นสารสื่อระบือเสียง
ต้องรีบตามชี้แจงแจ้งจำเรียง
ทุกอย่างเพียงกฏระเบียบเมื่อเทียบงาน

ด้วยพิณจันทร์เป็นน้องที่ต้องอยู่
คอยตามดูเรื่องราวที่กล่าวขาน
คงมิใช่ทางมากับอาจารย์
ขอโปรดอ่านความในดูให้ดี
 :26:

ทั้งหมดนั้นขอโทษอย่าโกรธขึง
พิณจันทร์ดึงปัญหามาอยู่นี่
เหตุเพราะหายจากบ้านร่วมผ่านปี
จึงไม่มีกลอนหวานอ้อนงานตน

กลอนสังวาสฆาตแน่เพียงแค่คิด
ทั้งชีวิตอย่าปองจงล่องหน
กลอนเข้าพระเข้านาง..นั้นต่างคน
เปรียบเทียบจนเห็นภาพจึงซาบซึ้ง

มิใช่เป็นกลอนกามห่ามสรวญเส
แต่เสน่ห์หยอกล้อชายก็หึง
เขียนผ้าหลุดอุดจาดอนาจดึง
ต้องทะลึ่งนิดนิดเปิดปิดดู
 :13:

น้องมิได้เก่งกล้ามากสามารถ
หรือฉลาดเกินใครให้เลิศหรู
ที่เขียนกลอนอ้อนเป็นเพราะเห็นครู
กลอนพร่างพรูทุกแบบต่อแนบเลย

ขออย่าได้กังวลสับสนนั่น
ต่อจากนี้พิณจันทร์มิหวั่นเผย
จะเขียนอ้อนนอนหนาวอบอ้าวเกย
เพื่อนพี่เอ๋ยเชิญวางสรรค์สร้างงาน
 :letter:

ด้วยความเคารพทุกๆท่านค่ะ
พิณจันทร์


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 09 มีนาคม, 2559, 05:53:30 PM
:12:
จึ่งขอยกตัวอย่างกระจ่างศิลป์
หนึ่งบทรินเปรียบเปรยสิเน่หา
ตะวันรอน อ้อนพิณจันทร์ ท่านเขียนมา
เขียนเถิดหนาแบบนี้พาทีกลอน

บทเข้าพระเข้านาง ในทางศิลป์
งามกวินประจักษ์ในอักษร
.
"ขอสัมผัสไม่ช้ำย้ำบังอร
สัมผัสตอนสุขีพี่และเธอ"

แล้วจึงเขียนตอบพี่พาทีถ้อย
"น้องเปรียบอ้อยเปลือกหนามาเสนอ
อยากจะกินอ้อยหวานเปลือกมารเจอ
หวานเสมอ ปอกผ้า เอ้ย!ปอกเปลือกเลย"

หากแต่อ้อยเกิดนานแม้หวานหยด
ถึงกำหนดตัดขายพี่ชายเอ๋ย
เข้าโรงงานตาลเม็ดระเห็จเคย
มิอาจเผยต้นซังสะพรั่งนวล

จึงเขียนกลอนตอนฝันเสกสรรค์สร้าง
เป็นตัวอย่างลิขิตเมื่อคิดหวน
ขออย่าคิดกังวลสับสนชวน
ให้ขบวนเงียบเหงาเข้ามาเคียง

 :27:

ขอบคุณค่ะ
พิณจันทร์






(http://www.uppic.org/image-1FA9_56DFFBEE.jpg)

ภารกิจพิชิตอ้อย

.................

๐ หากซาบซึ้งถึงค่าวาจาศิลป์
ขอยุพินจินต์อ่อนอย่างอนเถียง
ค่าดองตั้งร้อยล้านบานตะเกียง
วิมานเอียงเพียงฝันสะบั้นลง

กลัวหวานหยดหดหายสายสวาสดิ์
มดใจขาดก่อนเกยได้เชยหงส์
หากเธอช้าค่าตัวมัวเล่นองค์
ตามถึงดงป่าอ้อยคอยพธู

จะกะเทาะเปลือกมารที่หาญหุ้ม
อันเกาะกุมน้องอ้อยคอยสิงสู่
อิโต้กานท์ขานเฉาะเลาะเปลือกดู
หวานเอยอยู่แห่งไหนใคร่แกะรอย

พี่พร้อมรอกานดารีบมานะ
ขืนช้าจะเปลี่ยนใจให้เธอหงอย
แม้นเจ้าทิ้งซังเก่าพี่เฝ้าคอย
เผาไร่อ้อยให้หมดประชดตาล

แค่ปอกอ้อยน้อยนิดมิคิดหวั่น
พร้อมบากบั่นขวัญแอบแนบประสาน
ต้นอ้อยแก่แน่รสพจมาน
คงจะหวานเกินใครใคร่ลิ้มลอง ฯะ

 :27:

ตะวัน

ขอบคุณท่านเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพประกอบ


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 09 มีนาคม, 2559, 06:44:12 PM
เจอแต่"คนบ้ากลอน"หลอนเต็มบอร์ด
กึ๋นหนูจอดมอดม้วยป่วยสมอง
ขอเวลานั่งลงก๊งยาดอง
แล้วจะย่องลองใหม่ในทันที



เดี๋ยวมาต่อจ้ะ จองพื้นที่ไวัก่อนค่ะ แป๊บนะแป๊บ แป๊บยาวนิดนุง   :28:


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 09 มีนาคม, 2559, 06:58:53 PM

๐ เอาสาโทมาเพิ่มเติมให้น้อง
จะได้ถองจนล้ามิกล้าหนี
รอเธอหลับอีกนิดฤทธิ์ดีกรี
"พิณนรี"เสร็จข้า...คนบ้าเอย ฯะ

 :34:

ตะวัน

(ลืมนึกไปว่า จะเป็นการตัดหน้าคุณดาวจริงๆหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นขออภัยด้วยนะครับ...ตะวัน)


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 09 มีนาคม, 2559, 09:23:18 PM
คนบ้ากลอนนอนดึกคึกชะมัด
เอาตามแต่ถนัดขจัดเหงา
บ่มีตื่นฟื้นหายคลายสร่างเมา
ดอกหนาเจ้าผู้หลงดงป่ากลอน

หายใจเข้าเอาออกบอกท่วงท่า
สัมผัสหน้าคว้าหลังตั้งอักษร
วางสัมผัสรัดถึงซึ่งขั้นตอน
เสน่ห์ซ่อนกลอนกลึงให้ถึงทรวง

มิต้องกินต้องนอนเอากลอนตั้ง
เรียกบ้าคลั่งหลั่งใหลไม่ต้องห่วง
ฉันบ้ากลอนอ้อนใครไม่มีลวง
บ้าตักตวงลอบอ่านกานท์ทุกคน

~มือตก ขออ่านก่อนละกันค่ะช่วงนี้~

 :21:

(http://upic.me/i/uf/t2473.gif) (http://upic.me/show/58027923)
.bloggang.com/viewdiary.- 20 มิ.ย. 2552


สวัสดีครับคุณครูผู้สอนศิษย์
ลงลิขิตพาทีทวีผล
คุณครูห่างว่างนานไร้กานท์ยล
มิร่ายมนต์กลนำฉ่ำภิรมย์

คุณครูมาแนวใหม่ในพจน์เผย
เปลี่ยนคำเอ่ยเคยหวานมานสุขสม
เป็นเข้มข้นด้นสนุกไร้ทุกข์ตรม
พรูพร่างพรมคึกคักประจักษ์จินต์

แพรวพราวพรรณบรรหารสราญรื่น
แววหวานชื่นอิงไว้ให้ถวิล
คือนางฟ้าพาพจน์รสร้อยริน
นามระบิล"พิณนรี"ศรีสมนาม


ขอบคุณครับ
(http://upic.me/i/yg/140828082049.jpg) (http://upic.me/show/53903290)
๗ มีนาคม ๒๕๕๙



ขอบคุณภาพจาก  Internet ครับ



สวัสดีศิษย์ศิลาที่น่ารัก
ลิขิตทักอักษรกลอนสยาม
ห่างเพราะงานมันรุมสุมนงราม
บ่ตายตามงานจบจึ่งพบพา

ด้วยแนวนี้มิใหม่แนวไหนดอก
เนื้อในนอกบอกหวานซ่านหนักหนา
แท้คือใดช่างมันนั่นลีลา
เป็นมายาตีบทจดให้ทัน

เรื่องพราวพร่างนางฟ้าอย่ายกย่อง
เดี๋ยวฟ้าร้องฟ้ององค์อินทร์ถิ่นสวรรค์
เขาจะตามกลับฟ้าอาจจาบัลย์
มิเห็นกันอีกนาจะเศร้าใจ

(วางถุงกาว ไปกินยาแป๊บ) :20:


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 09 มีนาคม, 2559, 09:28:19 PM
 :31:
อ้าววววว....พี่ดาววว โหหหแซงรุยยยฮ่าๆ
ต่ายวางเลยดีกว่า..บทแรกเขียนดีอ่ะ ฮ่าๆ
ไม่แก้สัมผัสล่ะนะพี่จ๋า อิอิ/
 :27:

 :27: :27: :27:

อันอ้อยตาลหวานลิ้น..แต่หมิ่นซาก
เคี้ยวไม่นานคายกากหมดปากเฉย
เปรียบชายชาญหวานล้ำถ้อยคำเคย
กาลล่วงเลยย่อมหายสลายคำ

พูดลอยลอยอ้อยตาลขับขานเล่น
ดูเหมือนเช่นพูดไปให้ถลำ
แค่ร้อยเรียงเคียงพจน์มิจดจำ
แนมเหน็บซ้ำช้ำจินต์ประทินรอย

หากแม้นเห็นมิจริงอย่าพิงพัก
ด้วยตระหนักต้นแก่อย่าแลสอย
แค่ตาลเกิดพนาแนวป่าดอย
มิใช่อ้อยพันธ์หวานน้ำตาลปรุง

มิได้มีค่าจินต์เรียกสินสอด
อย่ามากอดเสียดสีทำตีขลุง
มิได้งามพร่างพราวดั่งสาวกรุง
แต่คาวคลุ้งแลกเงินเพลิดเพลินกาย

เห็นอ้อยตาลหวานอิงเป็นสิ่งของ
หว่านคำถองเงินถือแลกซื้อขาย
มิดูถูกเงินล้าน จากขานชาย
หากมิตายหาไปคงได้เอง

หรือมองหญิงนั้นเป็นเช่นสินค้า
ถึงได้มาทับถมคำข่มเหง
แม้นเป็นอ้อยแก่ซังอาจวังเวง
ขออย่าเบ่งคำถ้อย มันน้อยใจ

พิณจันทร์
๙ มีนาคม ๒๕๕๙
 :31:

กิ้วๆๆ อย่าๆ ฮ่าๆ พิณจันทร์น้องพี่ดาว มีทางออกเสมอ ฮ่าๆ
เห็นไหมๆ วันนี้ ตะวันยังดับเพราะจันทร์เล้ยยย ฮิ้วววว..ฮ่าๆ


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 09 มีนาคม, 2559, 09:36:58 PM

๐ เอาสาโทมาเพิ่มเติมให้น้อง
จะได้ถองจนล้ามิกล้าหนี
รอเธอหลับอีกนิดฤทธิ์ดีกรี
"พิณนรี"เสร็จข้า...คนบ้าเอย ฯะ

 :34:

ตะวัน

(ลืมนึกไปว่า จะเป็นการตัดหน้าคุณดาวจริงๆหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นขออภัยด้วยนะครับ...ตะวัน)


หลับตั้งแต่จอกแรกแทรกคอหอย
นอนรอคอยตะวันนานแล้วเหวย
เธอคงพับหลับแล้วฉันแห้วเลย
โดนหลอกแล้วอย่างเคย..เห้ยยยย ลาที

(http://3.bp.blogspot.com/-c1BSeV_IlUc/U1-SnOT2DUI/AAAAAAAAK-E/eVfC9zcDKxI/s1600/10292147_387832808021297_4763855378689607855_n.jpg)

 :21:

เปล่าค่า  คนตัดหน้าน่ะ ข้างบนนู้นนนน   :13:
กดส่งพร้อมกันอีก บทเดียวเกือบหาย  :15:


 :21:


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 09 มีนาคม, 2559, 10:03:57 PM
 :31: :31: :31:

พี่ดาว...ต่ายถามตรงๆหน้าบ้านนี่ล่ะ ตะวันรอนคือใผ๋?
หากต่ายจับได้นะ ต่ายจะเขียนกลอนกัดไม่ปล่อยเลย ฮ่าๆ
คุ้นๆสำนวนนะ แต่นึกไม่ออก แต่เริ่มมีเค้าลางล่ะ
อุยยยย บ่นดังไปหน่อย อิอิ
 :27:

ทั้งมอมเหล้าเป่ายาหลับตาเขียน
หลับให้เนียนเถิดหนาลับตาหนี
หากแม้นหลับสนิท ปิดตาดี
พิณจันทร์มีไม้ตายดับชายลวง

จะลับคมมีดพร้านำมาบั่น
สิ่งตะวัน เขาปองเป็นของหวง
จะสับสับ...ให้ป่นมิสนทวง
ขวดเหล้าดวงใจตะวันห่ำหันเลย

 :27: :34:

ฮ่าๆเอิ๊กกกกกกกๆ ฮิ้ววววว


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 09 มีนาคม, 2559, 10:21:50 PM

๐ ตะวันมีดวงเดียวเฉลียวเถิด
ใช่เตลิดแตกกอขอเปิดเผย
หากมิคิดสงสัยคือใครเอย
จะเสบยกลั่นศิลป์จินตนา ฯะ

 :12:

ตะวัน


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 10 มีนาคม, 2559, 04:13:35 PM
:31:
อ้าววววว....พี่ดาววว โหหหแซงรุยยยฮ่าๆ
ต่ายวางเลยดีกว่า..บทแรกเขียนดีอ่ะ ฮ่าๆ
ไม่แก้สัมผัสล่ะนะพี่จ๋า อิอิ/
 :27:

 :27: :27: :27:

อันอ้อยตาลหวานลิ้น..แต่หมิ่นซาก
เคี้ยวไม่นานคายกากหมดปากเฉย
เปรียบชายชาญหวานล้ำถ้อยคำเคย
กาลล่วงเลยย่อมหายสลายคำ

พูดลอยลอยอ้อยตาลขับขานเล่น
ดูเหมือนเช่นพูดไปให้ถลำ
แค่ร้อยเรียงเคียงพจน์มิจดจำ
แนมเหน็บซ้ำช้ำจินต์ประทินรอย

หากแม้นเห็นมิจริงอย่าพิงพัก
ด้วยตระหนักต้นแก่อย่าแลสอย
แค่ตาลเกิดพนาแนวป่าดอย
มิใช่อ้อยพันธ์หวานน้ำตาลปรุง

มิได้มีค่าจินต์เรียกสินสอด
อย่ามากอดเสียดสีทำตีขลุง
มิได้งามพร่างพราวดั่งสาวกรุง
แต่คาวคลุ้งแลกเงินเพลิดเพลินกาย

เห็นอ้อยตาลหวานอิงเป็นสิ่งของ
หว่านคำถองเงินถือแลกซื้อขาย
มิดูถูกเงินล้าน จากขานชาย
หากมิตายหาไปคงได้เอง

หรือมองหญิงนั้นเป็นเช่นสินค้า
ถึงได้มาทับถมคำข่มเหง
แม้นเป็นอ้อยแก่ซังอาจวังเวง
ขออย่าเบ่งคำถ้อย มันน้อยใจ

พิณจันทร์
๙ มีนาคม ๒๕๕๙
 :31:

กิ้วๆๆ อย่าๆ ฮ่าๆ พิณจันทร์น้องพี่ดาว มีทางออกเสมอ ฮ่าๆ
เห็นไหมๆ วันนี้ ตะวันยังดับเพราะจันทร์เล้ยยย ฮิ้วววว..ฮ่าๆ


๐ หนึ่ง-สอง-สาม ตามอ่านกานท์ลิขิต
มีเผลอผิดติดหล่มอยู่ปมไหน
กวาดสายตาหาเหตุอาเพศภัย
โอ้..นั่นไงช่วงท้ายตายแน่เทียว!

มิขอแก้ตัวดอกบอกนงนุช
คำเอ่ยผุดหลุดล้ำทำหวาดเสียว
พร้อมยืดอก ยกให้ ลงไม้เรียว
"แก่"คำเดียวภินท์พังทั้งสำนวน

มุกอ้อยแก่แลเผินอาจเมินผ่าน
แต่หากอ่านเจาะลึกสำนึกหวน
แสลงจิตนิตยาอุรารวน
มิทบทวนครวญครบจบตำนาน

แก่เพียงตาลหาใช่ทรามวัยหง่อม
มาลีหอมยังกรุ่นละมุนหวาน
อิ่มกมลยลโฉมประโลมมาน
แต่บทกานท์เคยอ้อนจะป้อนใคร

เรื่องเงินทองของหมั้นมันสมมุติ
มิเทียบนุชสุดหวงกว่าปวงไหน
มธุรสหยดหวานสักปานใด
ฤาเปรียบใจหวานรัก..ภักดิ์จีรัง

มองไร่อ้อยน้อยใจอาลัยหา
น้องไม่มาเสียแล้วคงแคล้วหวัง
โอ้ดวงใจดวงจันทร์วันพ่ายพัง
น้ำตาหลั่งสุดท้าย...หมายลาเธอ ฯะ

 :35:   :35:

ตะวัน

ตะวันก็ดับเพราะจันทร์จริงๆ พรึ่บบ...


หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 10 มีนาคม, 2559, 07:52:32 PM
 
 :12:
ตะวันสิ้น พบปะ เพราะสุริยคราส
มิบังอาจก้าวล้ำนำเสนอ
ด้วยเคารพถ้อยศิลป์กวินเจอ
อาจพรั้งเผลอผูกเรื่องก็เนื่องงาน

จะอำลาจินต์น้องถูกต้องหรือ
พี่วางใจใส่มือ ระบือขาน
คำสัญญามั่นหมายจากชายชาญ
คล้องบทกานท์ถ้อยศิลป์จินตนา

น้องมิยอมปล่อยมือเพราะดื้อรั้น
คำสั่งหันกลับคืน อย่าฝืนหนา
หากมิกลับลับไปจากไกลตา
จะพริกฟื้นพสุธาตามหาเลย

 :27:

พอแล้วค่ะ ขึ้นเรื่องใหม่เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ สนุกสนานนะคะ
เคารพค่ะ...ต่ายจ้า



หัวข้อ: Re: คนบ้ากลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 12 มีนาคม, 2559, 07:21:39 AM


๐ หนึ่ง-สอง-สาม ตามอ่านกานท์ลิขิต
มีเผลอผิดติดหล่มอยู่ปมไหน
กวาดสายตาหาเหตุอาเพศภัย
โอ้..นั่นไงช่วงท้ายตายแน่เทียว!

มิขอแก้ตัวดอกบอกนงนุช
คำเอ่ยผุดหลุดล้ำทำหวาดเสียว
พร้อมยืดอก ยกให้ ลงไม้เรียว
"แก่"คำเดียวภินท์พังทั้งสำนวน

มุกอ้อยแก่แลเผินอาจเมินผ่าน
แต่หากอ่านเจาะลึกสำนึกหวน
แสลงจิตนิตยาอุรารวน
มิทบทวนครวญครบจบตำนาน

แก่เพียงตาลหาใช่ทรามวัยหง่อม
มาลีหอมยังกรุ่นละมุนหวาน
อิ่มกมลยลโฉมประโลมมาน
แต่บทกานท์เคยอ้อนจะป้อนใคร

เรื่องเงินทองของหมั้นมันสมมุติ
มิเทียบนุชสุดหวงกว่าปวงไหน
มธุรสหยดหวานสักปานใด
ฤาเปรียบใจหวานรัก..ภักดิ์จีรัง

มองไร่อ้อยน้อยใจอาลัยหา
น้องไม่มาเสียแล้วคงแคล้วหวัง
โอ้ดวงใจดวงจันทร์วันพ่ายพัง
น้ำตาหลั่งสุดท้าย...หมายลาเธอ ฯะ

 :35:   :35:

ตะวัน

ตะวันก็ดับเพราะจันทร์จริงๆ พรึ่บบ...

......โอย.....

ตื่นแต่เช้าก้าวขาจะมาสอบ
พลันได้ลอบอ่านกานท์ท่านเสนอ
ชายบ้านนี้เป็นอะไรมิใคร่เจอ
แถมเพ้อเจ้อขี้น้อยใจในเรื่องจริง

มาร่ำลาพี่สาวฉันท่านเปลี่ยวเหงา
"ตะวัน"เราทิ้งไปทั้งหลายสิ่ง
ไม่กลับมารับผิดชอบจะลอบยิง
ด้วยเป็นหญิงจริงจังอย่าลังเล

บอกให้พ่อให้แม่มาสู่ขอ
ก็รั้งรอเก้กังยังโฉเฉ
มาหายไปอย่างนี้เดี๋ยวมีเฮ
อย่ามาเหล่อ่านกลอนควรร้อนใจ

หากวันนี้มิกลับมารับขวัญ
พี่สาวฉันต้องทุกข์สุขตรงไหน
แม่จะเปิดศึกลั่นสนั่นไป
เอายังไงบอกมาฉันท้าจริง

สิริวตี

 :31: