เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

อารมณ์กลอน => ฉันท์ กาพย์ ร่าย => ข้อความที่เริ่มโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 26 กรกฎาคม, 2556, 09:47:21 AM



หัวข้อ: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 26 กรกฎาคม, 2556, 09:47:21 AM
น้อยหฤทัย        ใครก็มิสน
ฉันท์กวิกล        มาณวกา
คงจิตเศร้า         เหงาทะลุฟ้า
ถึงสุริยา           ปาวกะแดน

ร้อนระอุเหลือ     เบื่อกิจงาน
อยากจรบ้าน      หากิ๊กแฟน
ให้ดนุชื่น          รื่นอุระแสน
เกี่ยวนุชแขน      ย่างบทเดิน

ศรีเปรื่อง
๒๖ ก.ค. ๒๕๕๖

กวิ แผลงจาก กวี
มาณวกา แผลงจาก มาณวก(ะ)
ปาวกะ = ไฟ


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 26 กรกฎาคม, 2556, 07:43:16 PM

ฟังวทะชาย         หน่ายหฤทัย
บ่นรึกระไร           ไหนบ่มิเกิน
นันทสราญ          หว่านกิ๊กเพลิน
น้องลิตเกิร์ล         งอนละนะเอย

            :27:
ได้บทเดียว ก็หรูแล้วค่ะ สำหรับน้อง  อิอิ

          ลิตเติลเกิร์ล


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: นายแกล้ง ที่ 26 กรกฎาคม, 2556, 08:34:17 PM

แอบผงะงง.............ปลงอนิจา
ดั่งมยุรา.................แพนระยับเลย
มองพิเคราะห์แล้ว....แวววิวับเหวย
ลองจะเฉลย...........เอ่ยสิระทม

อ่านบทเรียน..........เพียรพลพลอย
แต่สติน้อย.............เน้นเฉพาะชม
ดั่งมุติเร้น...............เช่นรติรมย์
ฉันท์ชนะคม...........สมรุจิรา

ขอมาเรียนด้วยคนครับ
ได้บทเดียวเหมือนกัน
 :29:

ปล.สอง  เข้ามาแก้ไขเพิ่มบทต้นครับ
ให้ต่อกับคุณลิตเติ้ลเกิร์ลครับ
:35:


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 27 กรกฎาคม, 2556, 09:52:22 PM
อ่านกวิแห่ง         "แกล้ง"มิตรกลอน      
ความวทะอ้อน      ล้นพสุธา
แม้นนุชใด           ได้ทศนา
คงปิติอา-            รมณเริง

เชิญรจเรข           เสกกลฉันท์
เล่ห์อภินันท์         หรรษะประเทิง
เสียงเสนาะงาม     วามวะเถกิง
ราวกวะเชิง           เทวะประทาน

ศรีเปรื่อง
๒๗ ก.ค. ๒๕๕๖

ยินดีครับ ที่ท่าน "แกล้ง" มาแจม "มาณวกฉันท์" ด้วยกัน   :34:  :34:  :34:

ปล.

กวิ จาก กวี
ทศนา จาก ทัศนา
อา- รมณ จาก อารมณ์
หรรษะ จาก หรรษา
วามวะ จาก วามวับ
กวะ = กับว่า
เชิง = กระบวน


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 28 กรกฎาคม, 2556, 06:23:44 AM

สวัสดีครับคุณศรีเปรื่อง
ยินดีครับที่ได้เห็นคนชอบฉันท์อีกคน
มาณวกะผมเคยเขียนไว้ใน มหาภารตะยุทธ คำฉันท์
พร้อมผังฉันทลักษณ์ .. สำหรับผู้สนใจลองฝึกฝีมือดู


มาณวกฉันท์ ๘
0110 - - - 0112
0112 - - - 0113
0110 - - - 0113
0113 - - - 0114
1= ลหุ
0, 2, 3, 4 = ครุ


O เบื้องขณะกาล - - - ปาณฑุราช
เมื่อยุรยาตร - - - ฆาตมฤคา
รมยะปวง - - - ล่วงหทยา
มวละพฤฒา - - - ร่วมกิจกรรม

O ราชบริพาร - - - มานะกระสรวล
ฆาตะกระบวน - - - ล้วนเฉพาะบำ-
เรออัตะรู้ - - - สู่ภพะสำ-
คัญะจะนำ - - - ทำนุสุขา

O เมื่อพิศะกาย - - - ทรายขณะก้าว
ตราบระยะสาว - - - น้าวธนุหา
เสียบอุระทราย - - - กลายชิพิตา
ก่อนมรณา - - - พาภวะคืน

O คือมนุผู้ - - - รู้พฤติตน
ลองฤทธิมนต์ - - - ดลจิตะขืน
เพียระกระทำ - - - งำทุขะกลืน
หมายสุขะฝืน - - - คลื่นทุขะกลาย



http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=24-06-2012&group=168&gblog=2


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28 กรกฎาคม, 2556, 09:50:09 AM
ผมแวะเข้าไปที่ blog ท่านสดายุหลายรอบแล้ว แต่ไม่ได้ทักทาย
งานฉันท์อัศจรรย์มากครับ ปรัชญาก็เพียบ นับถือ ๆ

เรื่องงานประพันธ์ โดยเฉพาะฉันท์ ผมยังอ่อนหัดอยู่มาก
หากมีข้อผิดพลาดใด ก็โปรดชี้แนะด้วยครับ

ศรีเปรื่อง


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 28 กรกฎาคม, 2556, 10:16:27 AM

ผมเขียนบ่อยกว่ากลอนในช่วงแรก .. จึงค่อยๆคล่องขึ้น
แต่ยังไม่ได้อย่างใจครับ .. ยังเป็นนักเรียนฝึกหัดเหมือนเดิม แต่รู้จักคำมากขึ้น

พอดีว่าในบรรดากวีซีไรต์ .. คมทวน คันธนู เป็นผู้รอบรู้เรื่องฉันทลักษณ์จนดูเหมือนจะเหนือกว่าทุกคน
ทั้งเรื่องเสียงท้ายวรรคซึ่งอาศัยการเอื้อนทำนองเสนาะ (ที่เราเคยท่องตอนเรียนชั้นประถมนั่นแหละครับ)
และด้วยเสียงนี้เองที่เป็นตัวกำกนดเสียงท้ายวรรค

เรามักติดหูกันจากกลอนแปดว่าท้ายวรรคสอง เสียงจัตวาไพเราะที่สุด
พอไปเขียนกาพย์ เขียนฉันท์ก็เอาตามนั้น ซึ่งเสียงไม่ค่อยเหมาะ เพราะทำนองเสนาะเสียงต่างกัน
ท้ายวรรคสองของกาพย์ และฉันท์จึงควรเป็นเสียงสามัญ จะดีที่สุด และท้ายวรรคสามวรรคสี่ ถึงจะเป็นเสียงจัตวา
ผมก็เลยเอาตามแต่นั้นเรื่อยมา ..


กลบทธงนำริ้ว .. เห็นผ่านตาอยู่บ้างในโคลงที่เขียนกัน
ผมมีความเห็นว่า .. คำซ้ำควรเป็นคำที่"ซ้ำจนคุ้นหู" ที่มิใช่จะเอาคำอะไรก็ได้มาซ้ำ คือควรมีบริบทของสำนวนที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนะครับ

เห็นเห็น .. อยู่ว่ามันกำลังหลงผู้หญิง...
ร่ำร่ำ .. จะเป็นจะตายพอเขาไม่รักตอบ...
ดูดู .. ไปจะเหมือนคนไม่รู้จักแยกแยะ...
เรื่อยเรื่อย .. แบบนี้จะทันเขาได้อย่างไร
มองมอง .. ดูแล้วท่าทางจะไปไม่รอด..
ใดใด .. ในโลกนี้ไม่แน่นอน จำไว้เถิด
ไหนไหน .. ก็มาถึงป่านนี้แล้ว ตัดใจซะ
ใครใคร .. เขาก็รู้กันทั้งเมืองว่า she เจ้าชู้


แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ


(http://upic.me/i/pe/1340633529.jpg) (http://upic.me/show/46183037)
(http://upic.me/i/2a/1340633161.jpg) (http://upic.me/show/46183042)
(http://upic.me/i/fn/1340633205.jpg) (http://upic.me/show/46183088)
(http://upic.me/i/fc/1340633224.jpg)
 (http://upic.me/show/46183049)
(http://upic.me/i/bf/1340633246.jpg)
 (http://upic.me/show/46190250)
(http://upic.me/i/zo/1340633273.jpg) (http://upic.me/show/46183057)



หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28 กรกฎาคม, 2556, 10:53:17 AM
ยินดีมากครับ ท่านสดายุ
ออกตัวก่อน สำหรับงานกวี ผมถนัดขับมากกว่าเขียนครับ (คิดเอาเอง) :34:  :34:  :34:

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=TWbtVFgtOq8

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=9BbwMuq1S6w

เรื่องเสียงท้าย
เสียงจัตวาที่ท้ายวรรค ผมเห็นว่าเป็นเสน่ห์ของงานฉันท์ครับ
โดยส่วนตัวผมเห็นว่าสามารถวางได้ทุกวรรค แต่ไม่ควรวางไว้ในวรรคที่ติดกัน เพราะจะทำให้มันเฝือ (แถมเอื้อนยากด้วย)

เรื่องคำซ้ำ
อืม...จริงอย่างที่ท่านสดายุว่ามา เพราะเป้าหมายอย่างหนึ่งของงานประพันธ์ก็เพื่อสื่อสาร เข้าใจอยู่คนเดียวก็คงไม่ไหว

ส่วนวสันตดิลก...งดงามมากครับ...ถ้าไม่รังเกียจขอเอาไปขับนะครับ


ศรีเปรื่อง


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 28 กรกฎาคม, 2556, 04:49:28 PM

คุณศรีเปรื่อง
พอดีผมตกหล่นไป 3 บท (1 อักษรภาพก่อนสุดท้าย)
หากเอาไปแล้วก่อนหน้านี้ให้เอาอีก 3 บท ไปด้วยครับ
ไม่อย่างนั้นจะไม่รับสัมผัสกัน

ตอนนี้ครบแล้ว .. ขอเชิญครับ

ไปฟังเสียงขับมาแล้วครับ .. น่าจะเป็นเสียงพระเอกละคอนวิทยุได้เลยทีเดียวครับ
สมัยนี้หาฟังยากนะครับหารขับเอื้อนทำนองเสนาะ ..
เป็นความบันเทิงของคนโบราณที่เทียบเท่าการฟังเสียงเพลงในปัจจุบัน

ลองขับ วิสันตดิลกฉันท์ บ้างหรือยังครับ ..
หากมีแล้วช่วยทำลิงค์ให้ตามไปฟังด้วยครับ ..

โดยเฉพาะบทเก่งจากอิลราชคำฉันท์

เรืองรองพระมนทิรพิจิตร
กลพิศพิมานบน
ก่องแก้วและกาญจนระคน
รุจิเรขอลงกรณ์
 
ช่อฟ้าก็เฟื้อยกลจะฟัด
ดลฟากทิฆัมพร .. การเปรียบเทียบแบบนี้เราเรียก "อติพจน์" คำใหญ่คำโต
บราลีพิไลพิศบวร
นภศูลสร้างลอย

เชิงบัทม์พระบัญชรเขบ็จ
มุขเด็จก็พราวพลอย
เพดานก็ดารกพะพรอย
พิศเพียงนภาพพลาม

สิงหาสน์จรูญจตุรมุข
บมิแผกพิมานงาม
พื้นภาพอำพนพิพิธตาม
ตะละเนื่องพนังนอง

บทนี้ผมยกให้เป็นอาจารย์ครับ
ฉันท์ไม่บังคับสัมผัส"สระ"ระหว่างวรรค 1 กับวรรค 2
แต่ผมชอบเป็นการส่วนตัวที่จะใส่สัมผัสแบบกลอน


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28 กรกฎาคม, 2556, 08:38:51 PM
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=-Yfz_unI4Ao

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=3D1QnKkgii8

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=5HdB-kDyu34

เป็น วสันตดิลก, สัททุลวิกกีฬิต แล้วก็ ศรีประเทืองเปรื่องวิทิต

วสันต ผมปล่อยเสียงต่ำไปหน่อย
สัททุล ไม่เต็มเสียง แถมมีจุดอ่านผิดด้วย
ส่วน ศรีประเทือง ก็ลากเสียงยาวไป ทำให้งานเพี้ยนจากความตั้งใจ (คือ อยากให้มันสนุก ๆ นะครับ)
ก็เลยไม่ได้นำมาให้ฟังตั้งแต่แรก
 
ส่วนวสันตของท่านสดายุ ผลิตเสร็จเมื่อไหร่ จะเอามาลงที่นี่นะครับ

ศรีเปรื่อง


หัวข้อ: Re: เฮฮา...ภาษามาณวก(ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 06 สิงหาคม, 2556, 08:08:57 PM
รุ่งทิวะแจ้ง              แสงทิพะกร
ยาตระนคร              เยือนพสุธา
สัตว์และก็พฤกษ์       คึกสรีรา
ตื่นละนิทรา              เพื่อจะผจญ

กงวัฏสุข                ทุกขะสลับ    
รอทินดับ                ตักษัยชนม์
ตามผลกรรม            ทำตะละตน
ใครก็บ่พ้น               สัจจะกระนี้

ศรีเปรื่อง
๖ ส.ค. ๒๕๕๖

ปล.

ทิวะ จาก ทิวา = วัน, กลางวัน
ทิพะกร จาก ทิพากร = พระอาทิตย์
ยาตระ จาก ยาตรา = เดิน
ทิน = วัน
ตะละ จาก แต่ละ