หัวข้อ: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 มีนาคม, 2568, 08:05:23 AM
…ความในใจ…
…”ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” “The Eyes are the Windows to the Soul” ผมได้ยินข้อความนี้ผ่านหูมาหลายครั้ง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยที่ไม่รู้ว่ามีที่มาเริ่มต้นจากที่ใด และก็ไม่เคยรู้สึกลึกซึ้งกับความหมายของมันเลย จนกระทั่ง…
…ในเช้าวันอาทิตย์ต้นเดือนมีนาคม ที่แสนจะเงียบเหงา ขณะที่เวลากำลังดำเนินไปตามหน้าที่ ของมันอย่างเชื่องช้าผิดปกติ ผมก็กำลังนั่งทอดหุ่ย จิบกาแฟร้อนใส่ฟองนม อยู่ในร้านที่ชื่ออะไร ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะจดจำ แต่บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว และราคาก็ไม่ถึงกับจะเบียดเบียน งบค่าอาหารกลางวันของผมสักเท่าไหร่นัก
ขณะที่ผมกำลังนั่งปล่อยความคิดให้ล่องลอย ไปกับเรื่องอนาคตที่ยังไม่อยู่กับร่องกับรอยของผม ฉับพลันก็มีความรู้สึกแปลกๆราวกับว่า กำลังถูกใครบางคนจ้องมองอยู่ ผมจึงหันหน้าไปตามทิศทางที่รู้สึกนั้น
…ทันใดนั้นจักขุนทรีย์ของผมก็ได้บรรสบกับ วัตถุกลมโตสีดำขลับคู่หนึ่ง
ราวกับภาพยนตร์สโลว์โมชั่น ที่ทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์นิ่งอึ้งไป ประมาณ 5 วินาที แต่นัยน์ตาสวยคู่นั้น ก็ยังมองมาทางผมอย่างไม่กระพริบ
ผมจึงได้ยืนขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ เจ้าของนัยน์ตาสวยคู่นั้น “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าครับ” อาจจะฟังดูเหมือนประโยคเบิกทางเวลาจะจีบสาว …ซึ่งก็อาจจะใช่ แต่ก็พ่วงด้วยความสงสัยอยากรู้จริงๆ
“…อะไรนะคะ”
…เฮ้อ…ผมแอบถอนหายใจเบาๆ กับอาการหวิวโหวงเหมือนคนกำลังตกหลุมอากาศ เมื่อผมได้ยินเสียงของเธอ… นัยน์ตาสวยคู่นั้น ผู้มาพร้อมกับเสียงสากเล็กๆ อันอ่อนหวานราวกับเสียงสายลมโชยอ่อนยามเช้า
“คือผมเห็นคุณจ้องมองมาทางผมสักพักแล้วน่ะครับ”
“อ้อ…ฉันกำลังยืนรอเพื่อนเข้าห้องน้ำอยู่น่ะค่ะ”
เออนะ…ธรรมชาติคงไม่ต้องการให้อะไรมันสมบูรณ์แบบ จนเกินไปกระมัง ดวงตาสวยคู่นั้นผู้มากับเสียงสากเซ็กซี่ จึงจำเป็นต้องมีข้อบกพร่องบ้าง… คนประหลาด…ถามวัว ดันตอบควาย
ขณะที่ผมกำลังยืนงง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี ฉับพลันก็มีเสียงแทรกขึ้นมา
“ขอโทษทีนะ จันทร์ ฉันเข้าห้องน้ำนานไปหน่อย อ้าวแล้วนี่คุยกับใครอยู่น่ะ รู้จักกันหรือ ถ้าไม่รู้จักอย่าไปคุยด้วยนะ คนสมัยนี้น่ะ รู้หน้าไม่รู้ใจ ไว้ใจไม่ค่อยได้นะเธอ“
น้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจเสียจนออกจะโฉ่งฉ่าง แบบไม่มีหูรูด ของผู้ที่มีปากกับใจตรงกัน
“…ไม่รู้จักหรอกจ๊ะ พอดีเขามาถามจันทร์ว่ามองเขาทำไม”
“ คุณนี่ท่าจะสติไม่ดี เพื่อนฉันเป็นผู้พิการทางสายตาจะไปมองคุณได้ยังไง” เสียงกวนอูสาว แสดงบทผู้พิทักษ์ รีบเอาตัวเข้าขวาง
“อ้าวแล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อดวงตาเพื่อนคุณ ออกกลมโตสวยขนาดนี้ ใครจะไปนึกล่ะ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่เข้าใจผิด”
“งั้น …เมื่อเข้าใจถูกแล้ว ก็รีบไปๆซะ ขืนยังเกร่อยู่แบบนี้ จะนึกว่าคุณจะเข้ามาจีบเพื่อนฉัน”
“รีย์ก็ ดูพูดเข้า“ ดวงตาสวยคู่นั้นรีบออกตัวแทน แม่กวนอู
“จันทร์ขอโทษแทนเพื่อน ด้วยนะคะ คือรีย์เค้า เป็นเพื่อนกับจันทร์ ตั้งแต่เด็ก เค้าคอยเป็นห่วงและดูแลปกป้องจันทร์ นะค่ะ”
“จันทร์มีอาการ ตาบอด ตาใสตั้งแต่เด็ก เส้นประสาทตาเสื่อม ทำให้เห็นภาพได้แค่รางราง แต่มองดูจากภายนอกจะดูไม่ออกน่ะค่ะ” เธอพยายามอธิบายว่าไม่ใช่ความผิดของผม ที่ไม่รู้ ว่าเธอมองไม่เห็น
ผมมองลึกลงไปในดวงตากลมสวยคู่นั้น ด้วยคำพูดเพียงสองสามประโยค แต่มันบอกอะไรกับผมเกี่ยวกับตัวเธอมากมาย…
ผมสัมผัสถึงความเข้มแข็งในจิตใจของเธอ ยามที่เธอพูดถึงความพิการของเธอ ได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ราวกับว่ามันไม่ใช่ปมด้อยในชีวิตเธอเลย
และยังสัมผัสถึงจิตใจที่ อ่อนโยนที่พยายาม แก้ตัวให้ผม ไม่ให้รู้สึกว่าโง่ตามคำพูดเพื่อน กวนอูของเธอ ในขณะเดียวกันก็ออกตัวแทน กิริยามารยาทที่ไม่ดีของเพื่อนเธอว่าที่ทำไป นั้นล้วนเกิดจากความปรารถนาดี
…ที่จริงเรื่องทั้งหมดก็ควรจะจบเพียงแค่นี้ แล้ว ต่างคนควรจะแยกย้ายไปดำเนินชีวิตของตนเองต่อ
…แต่มันมีความรู้สึกบางอย่าง มีสายใยอะไรบางอย่างที่ผูกรั้งผมไว้ เหมือนไม่อยากให้การสนทนานั้นจบลง
“…ไม่เป็นไรครับ คงมีพลังงานอะไรดลใจให้เราต้องมารู้จักกันน่ะครับ ผมวิญญูชนครับ เรียกผมว่าวิญญ์ก็ได้ครับ ยินดีที่รู้จักครับ…”
“ยินดีที่รู้จักค่ะ ดิฉัน จูบจันทร์ และนี่เพื่อนของดิฉัน สัตยาสุรีย์ ค่ะ“…
…เป็นเวลาครบหนึ่งปี ที่โชคชะตาชักพาเราให้มารู้จักกัน ผมนอนหนุนตักแฟนผม ใต้ร่มจามจุรีใหญ่เขียวครึ้ม ขณะที่เธอนั่งกุมมือผมอย่างเงียบๆ เราต่างถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้ง ให้กันและกัน โดยที่ไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ
สายลมพัดโชยเอื่อยๆ พร้อมกับเสียงเพลงคุ้นหู ที่ล่องลอยมาตามลม พอได้ยินเสียงเพลงนี้ พลันรอยยิ้มก็ปรากฏ บนใบหน้าของเราทั้งสองคนโดยมิได้นัดหมายกัน…
RN6aQMDlc64
“...หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ ว่ามีความหมายใดซ่อนในดวงฤทัย บ่งบอกความในใจ ที่ดวงตา
หากรู้ว่ารักเจ้ายังหลีกเร้นหลบ ถ้าพบจะพาดวงใจเปี่ยมรักมา แอบอารมณ์ละมุนอุ่นไอรักชักพา ให้วิญญาสองเรารื่นสราญ
โอ้ ความรักนั่นอยู่ไหนไยจึงไม่เห็น มองหาเช้าเย็น มิพบพาน ใจเอ๋ยใจเรารักเขาหรือนั่น ปล่อยรักนั้นให้เดินผ่านไป
หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ ว่ามีความรักซ้อนซ่อนในดวงฤทัย อาบอุ่นใจ สองเราเรื่อยมา...”
...ความในใจ...(เพลงประกอบละคร ปริศนา) [ คำร้อง ทำนอง โดย อ.วิรัช อยู่ถาวร ]
…จากคนเขียนกลอนข้างถนน อยากจะขอมาหัดเขียนเรื่องสั้นกับเขาบ้าง… รบกวนคอมเม้นท์ ติชมได้แบบไม่ต้องเกรงใจนะครับ เพื่อจะได้นำไปแก้ไขปรับปรุงพัฒนาการเขียนต่อไปครับ ขอบพระคุณครับ…
วิญญูชน 11 มีนาคม 2568
|
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 27 มีนาคม, 2568, 11:37:26 PM
สวัสดีคุณวิญญ์ ตกลงนางเอกคือคนไหนคะ คิดได้ทั้งสองคนเลยนะเนี่ย :28:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 28 มีนาคม, 2568, 12:34:16 PM
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รัก
ก่อนจะตอบคำถามที่ท่านถามมานี้ ผู้เขียนขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านผู้น่ารัก ที่สู้อุตส่าห์ตั้งใจอ่านงานเขียน และตั้งคำถามที่ตรงใจผู้เขียนยิ่ง
และผู้เขียนใคร่ขอเผย “ความในใจ” จากประสบการณ์การเขียนเรื่องสั้นนี้ สักเล็กน้อย
ในความเห็นของผู้เขียนนั้น การเขียนเรื่องสั้นนี้ยากกว่าที่คิด แม้ว่าจะไม่มีข้อจำกัดเรื่องฉันทลักษณ์ แต่ก็รู้สึกว่ายากกว่าการเขียนบทกวีเสียอีก
จุดเริ่มต้นของการเขียนงานอาจคล้ายกัน คือเริ่มต้นด้วยแรงบรรดาลใจ จากสิ่งที่พบเห็น ได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง ได้สัมผัสผ่านสื่อต่าง หรือจากประสบการณ์ ของตนเองโดยตรง
การเขียนบทกวี อาจไม่ต้องคิดอะไรไกลมาก แค่จับเอาความรู้สึกนั้นๆ มาถ่ายทอดเป็น ข้อความ
สำหรับผู้เขียนแล้ว “วรรคแรก” สำคัญมาก เป็นวรรคเบิกทาง ถ้าเขียนเริ่มต้นได้ดีก็จะ บันดาลใจให้ข้อความในวรรคต่อๆไป พรั่งพรูออกมา โดยมิได้ต้องคิดวางแผน ล่วงหน้ามากมาย เหมือนกับคำที่ว่า ”กลอนพาไป“
ซึ่งนักกลอนพึงต้องระวัง“กลอนพาไป”นี้ ให้มากด้วย เพราะเวลาเขียนคำอาจฟังดู คล้องจองสละสลวย แต่อาจพาให้ความหมาย ออกนอกประเด็น นอกลู่นอกทาง จนทำให้งานเขียนดูเลอะเทอะ และดูด้อยลง
ส่วนการเขียนเรื่องสั้นนั้น ไม่สามารถ แค่เขียนจั่วหัวเรื่องหรือเขียนประโยคนำ แล้วหวังว่าคำหรือข้อความนั้น จะนำพาเราให้เขียนเรื่องราวต่อๆไปได้ จำจักต้องคิดโครงร่าง พล็อทเรื่องไว้ล่วงหน้า แล้วค่อยมาลงรายละเอียดและใส่รสชาติ ของเนื้อหาเพิ่มเติมอีกที
ในความเห็นของผู้เขียน เป็นการใช้ กรอบความคิด (Mind Set) คนละอย่างกัน คนเขียนบทกวีได้ดี ก็อาจจะเขียนเรื่องสั้น ได้ไม่ดี หรือคนเขียนเรื่องสั้นได้ดีก็อาจ เขียนบทกวีไม่เก่งก็ได้
เวลาเขียนบทกวีใช้ความรู้สักสัมผัสนำ ผสมกับจินตนาการ คลังคำ และทักษะใน การใช้ฉันทลักษณ์ แล้วถ่ายทอดเป็นคำคม ”วรรคทอง“หรือข้อความที่กินใจ แล้วผูกโยงเป็นกลุ่มคำที่สละสลวย ตามฉันทลักษณ์ต่างๆ
ส่วนการเขียนเรื่องสั้น จะต้องมีเนื้อหา สาระสำคัญ (Theme)ที่ต้องการจะสื่อที่ชัดเจน แล้วใช้ จินตนาการ (Imagination) ประกอบกับ เชาว์นปัญญา ไหวพริบ (wit) ในการดำเนินเรื่องให้น่าสนใจ แล้วโยง เข้าถึงบทสรุป ที่สื่อความหมายตาม Theme ของเรื่อง
เวลาเขียนเรื่องสั้น จำต้องใช้จินตนาการ มาวางพล็อทเรื่องให้น่าสนใจ และจำเป็นต้องมี สไตล์ของตนเอง เช่น การใส่อารมณ์ขัน เป็นต้น รวมทั้งทักษะในการพรรณนารายละเอียด ที่สามารถถ่ายทอด บุคลิกลักษณะของตัวละคร หรือสถานการณ์ต่างๆให้ผู้อ่านเห็นภาพ คล้อยตาม จินตนาการตามบทหรือตัวละครนั้นๆ
อย่างในกรณีจุดเริ่มต้นของ “ความในใจ”นี้ ได้แรงบันดาลใจ จากเสียงดนตรีและเนื้อร้อง ของบทเพลงที่พรรณนาไว้ อย่างสละสลวยว่า…
“...หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ ว่ามีความหมายใดซ่อนในดวงฤทัย บ่งบอกความในใจ ที่ดวงตา…“
อารัมภบทไปเสียไกล ขอย้อนกลับมาตอบ คำถามที่ว่า: “สวัสดีคุณวิญญ์ ตกลงนางเอกคือคนไหนคะ คิดได้ทั้งสองคนเลยนะเนี่ย”
เรียนท่านผู้อ่านผู้น่ารัก… ผู้เขียนสัมผัสได้ว่า ท่านเป็นผู้มี ความคิดวิเคราะห์สูง “Critical Thinking “ มีอารมณ์ขัน (Humor) อีกทั้งอาจมีความแปรปรวนเล็กๆในอารมณ์ แบบว่าชื่นชอบความ Romantic แต่ก็มีแอบมีความ Anti-romantic ปนอยู่ จึงขอตอบคำถามของท่านดังนี้
จะเห็นว่าในช่วงฉากจบของเรื่องฉายภาพ พระเอก นางเอก กับบทเพลง “ความในใจ” ซึ่งสื่อความหมายว่าเนื้อเพลงมีความ ผูกพันเกี่ยวข้องลึกซึ้งกับคนทั้งสอง
ก็คือเกี่ยวข้องกับตัวละครที่เป็นผู้หญิง ที่มีอยู่ในเรื่อง สองคนนั้นคือ “จูบจันทร์” และ “สัตยาสุรีย์”
ที่ผู้เขียนมิได้บ่งชี้ชัดเจนว่าแฟนพระเอกนั้น เป็นผู้ใด เพราะต้องการเปิดโอกาสให้ผู้อ่าน ใช้จินตนาการร่วมกันไปด้วย
ดังนั้นคำตอบที่ว่านางเอกเป็นใคร เป็นไปได้ สามกรณี ตามแต่จินตนาการของ ท่านผู้อ่าน
1. แบบ Romantic นางเอกย่อมเป็น “จูบจันทร์” 2. แบบ Anti-Romantic นางเอกก็จะเป็น “สัตยาสุรีย์” 3. แบบแหกกฎความคิด Rebellious นางเอกอาจเป็นทั้งสองคนเลย ตามที่ท่านผู้อ่านผู้น่ารักเขียนไว้ว่า “…คิดได้ทั้งสองคนเลยนะเนี่ย“ พระเอกก็เลยคิดจีบไว้ทั้งสองคนเลย (ในเมื่อทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันอยู่แล้ว จะจับเแยกกันเพราะคนหนึ่งมีแฟน ก็อาจจะ ทำให้อีกคนเปลี่ยวเหงาเศร้าใจ เมื่อขาดเพื่อนได้ เลยจีบทั้งสองคนเลยจะได้คอยช่วยดูแล กันและกันด้วย…Happy ดีออก…
หลงความงามหยดย้อย……..นวลพรรณ ตราบเคลิบเคลิ้มนามอัน…….อะเคื้อ ฝันริอ่าน“จูบจันทร์”………..…แม้นมาตร- เกินอาจเอื้อมชิดเชื้อ……….…สุดห้ามปรามถวิล
G2wl3r4E2-8
ด้วยความเคารพ วิญญูชน 28 มีนาคม 2568
ป.ล. ผู้เขียนชอบชื่อ “จูบจันทร์” ฟังดูเก๋มาก เห็นชื่อแล้วอยากเห็นหน้าเลย จึงนำมาใช้เป็นชื่อตัวละครเอกในเรื่อง
ถ้าใครชื่นชอบเช่นกันจะนำไปเปลี่ยนชื่อตัวเอง เปลี่ยนชื่อแฟนหรือตั้งชื่อลูก …ก็ไม่ขัดข้องนะครับ
หมายเหตุ: ผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนมีใช่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องการเขียน บทกวี หรือเรื่องสั้น หรือมีความรู้ ลึกซึ้งด้าน ปรัชญา หรือภาษาศาสตร์ แต่อย่างใด
เพียงมีความชอบ ความสนใจ และแค่อยากบันทึก ประสบการณ์การเดินทางของความใฝ่ฝันที่อยาก เป็นนักเขียนของตนเอง (My Personal Journey to become a Writer) ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเริ่มต้นจากศูนย์ เลยทีเดียว แค่อ่านเขียนภาษาไทยได้ ไม่เคยได้รับการฝึกอบรมเป็นทางการแต่อย่างใด แค่ค้นหาข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต แล้วฝึกเขียนลงในเวปกลอนต่าง ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำ จากผู้รู้ ครูบาอาจารย์ ตามที่เวปกลอนที่ให้ความกรุณาติชมงาน และแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆให้
ข้อเขียนนี้จึงไม่ควรนำไปใช้อ้างอิงใดๆ แค่ลองอ่านแล้วพิจารณาดูเอง หากพบว่าเป็นประโยชน์ก็นำไปใช้
และหากผู้ที่พลัดหลงเข้ามาอ่าน จะได้รับความบันเทิง หรือได้ประโยชน์ จากประสบการณ์ลองผิดลองถูก ของผู้เขียนบ้างไม่มากก็น้อย ก็ถือว่าความตั้งใจของผู้เขียนได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว
|
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 28 มีนาคม, 2568, 12:43:52 PM
…ผมยังกดเยี่ยมชมไม่ได้อยู่เหมือนเดิมครับ แต่ในเวปบ้านกลอน กดได้นะครับ ซึ่งใช้browser อันเดียวกันครับ… รบกวนช่วยดูให้อีกทีครับ
ขอบพระคุณครับ
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 29 มีนาคม, 2568, 11:22:35 PM
อ้าว! วิเคราะห์คนอ่านซะแล้ว คนอ่านมีคนเดียวที่หนล่ะคะ มีหนึ่งคำทำให้บทบรรยายขาดเสน่ห์ ควรไปอยู่ในบทพูด มีหนึ่งคำหรูเกินไปให้เดาความหมายซึ่งอาจเดาคลาดเคลื่อน หรือคนอ่านอาจขี้เกียจนึกความหมาย แต่เข้าใจได้ในบริบทของเรื่อง ตามความเห็นของข้าพเจ้า
ดาวแค่สงสัย ดาวไม่ได้เดาเรื่องต่อไปทางอื่น ในเมื่อบทสนทนา และการบรรยาย มันชี้ไปที่รักแรกพบที่จูบจันทร์ชัดกว่า
แต่ดาวเดาเรื่องไม่ถูก ประเด็นมันแตกไปหาข้อสรุปบ่ได้ นางเอกคือผู้ใด เพราะการเดินเรื่องกับเพื่อนนางไม่มีให้คิดต่อ
เรื่องรวบรัดสองคน เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงว่า พระเอกจะเป็นคนเช่นนั้น จากในเรื่องนะคะ ดาวเลยไม่ได้เดาหรือแต่งเติมต่อ
เขียนขยาย หรือต่ออีกนี้สสสสสส นึงนะค้า คุณวิญญ์ขา มีเพื่อนเขียนแล้ว สัปดาห์หน้าดาวจะขึ้นเรื่องใหม่ลองดูค่ะ :12:
เย้!
|
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 12:22:19 AM
…ขอแปะโป้งไว้ก่อนครับ ต้องกลับไป คิด วิเคราะห์ แยกแยะก่อนครับ
:24:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: กวินพัฒน์ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 08:28:14 PM
สุดยอดมากเลยนะครับ เขียนเรื่องสั้นก็ไม่ใช่ง่ายเลยนะครับต้องใช้จินตนาการเหมือนกัน :32:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 08:44:15 PM
ขอบคุณสำหรับคำให้กำลังใจครับ
แต่อยากได้ comment ติๆมากๆหน่อยครับ เอาแบบคุณแม่“หนามกุหลาบ” ยิ่งดีครับ จะได้เอาไปปรับปรุงครับ
ความเห็นส่วนตัว ว่ามันจบเหมือนด้วนๆ ไปหน่อย แต่ที่จบด้วนๆ เพราะคิดพล็อตไม่ออกครับ…แหะๆ
:12:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: กวินพัฒน์ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 08:52:50 PM
ตอบคุณโซครับ เพราะผมเขียนไม่เป็นครับผมเลยไม่รู้จะติตรงไหน คือมีคนเขียนได้ผมก็ทึ่งมากเลยครับ ส่วนเนื้อเรื่องจะมองว่าประทับใจหรืออย่างไร ผมอ่านผมก็รู้เรื่องนะครับ และก็รู้สึกว่าอาจจะจบห้วนไปหน่อยเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้จะติวิจารณ์ตรงไหน สำหรับข้อวิจารณ์ที่มะสะแปร์ให้ ผมว่าไม่เท่าไหร่นะครับแค่เฉียดๆยังไม่เจาะเนื้อเถือหนังเท่าไหร่ คงเพราะหน้าบอร์ด ลองไปถามหลังบอร์ดดูสิครับ เตรียมยาแดงไปด้วยนะครับ :28:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 09:22:27 PM
คุณแม่กุหลาบ เขาทรงนักวิชาการครับ ถ้าเป็นทรงซ้อ คงจะโดนเจ็บแสบกว่านี้ครับ
เดี๋ยวคืนนี้ถ้าคุณแม่กุหลาบ คนนอนดึกเข้ามา เห็นเว็บไหลลื่นคงจะดีใจ แต่พออ่านเนื้อหาว่ามีแต่เรื่องนินทาฉัน นี่…ก็อยากคอยดู เหมือนกันครับ ว่าจะสะเทือนระดับ 7หรือ 8 ริกเตอร์กันแน่…หึหึ
:12:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: กวินพัฒน์ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 09:38:54 PM
แบบดาวเหรอจะโกรธเป็น :28:
กดเยี่ยมชมได้หรือยังครับถ้ายังไม่ได้ลอง restart เครื่องลองดูบ้างนะครับ
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 มีนาคม, 2568, 09:52:51 PM
ยังกดเยี่ยมชมไม่ได้เลยครับ ทั้งเปิดจากคอม และมือถือ ก็ไม่ได้ครับ สงสัยโดน Black list นี่อาจเป็นการเตือนขั้นต้นก่อน ต่อไปอาจโดน Block…555 :21:
ปล. แบบคุณแม่กุหลาบ อาจจะดูสงบเย็นฉ่ำเหมือนสายน้ำ แต่อย่าลืมว่าเวลา มหาสมุทรพิโรธนี่ คว่ำเรือ ไททานิค ได้เลยนะครับ หึหึ
:24:
หัวข้อ: Re: …ความในใจ….
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 31 มีนาคม, 2568, 11:30:41 PM
:13:
(https://i.ibb.co/kVTWmhb6/114227368.gif)สนุกปากอยากเฉาะแล้วเลาะเนื้อ เอาหินเถือเกลือทาเสียสาสม(https://i.ibb.co/0yhhpNW6/114227463.gif) ขุดดินลึกถึงแกนโลกโบกให้จม(https://i.ibb.co/4wRNTvRs/114227399.gif) แล้วทับถมด้วยศิลาสาสมใจ(https://i.ibb.co/zVWfTjF7/114227435.gif)
:28:
เอาเถอะค่า...FC พันธ์แท้ จะถือว่าเอ่ยถึงด้วยร๊ากกกกก นะค้า :28: แต่ว่าการ์ตูนดุ๊กดิ๊กดาวน่ารักมะ
|