เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: สุวัฒน์ ไวจรรยา ที่ 04 กุมภาพันธ์, 2557, 11:02:19 PM



หัวข้อ: กินน้ำไม่เผื่อแล้ง (น้ำในสำนวนไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: สุวัฒน์ ไวจรรยา ที่ 04 กุมภาพันธ์, 2557, 11:02:19 PM

><><><><

กินน้ำไม่เผื่อแล้ง
(มีอะไรก็ใช้หมดทันที ไม่คิดถึงวันข้างหน้า)

มีเงินก็จับจ่ายไม่ประหยัด
มีสมบัติก็ใช้ไม่รักษา
ใช้สนุกทุกเรื่องเปลืองเวลา
ไม่รู้ค่ารู้คุณที่สูญไป
บางครั้งหามาหนึ่ง..ใช้ถึงสอง
มิเคยมองข้างหน้าจะเป็นไฉน
เหมือนคำคนโบราณกล่าวขานไว้
กินน้ำไม่มีเหลือเผื่อยามแล้ง

สุวัฒน์  ไวจรรยา
๐๔ / ๐๒ / ๒๕๕๗
(http://upic.me/i/18/images86.jpg) (http://upic.me/show/49114418)


หัวข้อ: Re: กินน้ำไม่เผื่อแล้ง (น้ำในสำนวนไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเพลิง ที่ 05 กุมภาพันธ์, 2557, 02:59:43 AM
อยากกินน้ำตามคำโบราณว่า
เผื่อถึงคราดินแยกแตกระแหง
ยังปรากฎหยดน้ำพอทำแกง
มิให้แห้งชีวาโรยราไป

แต่ทำไงได้เล่ากับคราวนี้
ไม่รู้มีน้ำท่าวันหน้าไหม
วันที่เคยผ่านผ่าวร้อนร้าวใจ
พบเพียงภัยล้างผลาญกันดารดิน

หลายชีวิตคิดรู้อยู่เต็มอก
น้ำตาตกข้างในใจแดดิ้น
เมื่อถึงวันวันนี้อันมีกิน
ไม่อยากชินชาเฉยเช่นเคยมา

น้ำวันนี้หากเหลือเผื่อคราวแล้ง
กลัวฟ้ากลั่นโลกแกล้งรุนแรงกล้า
คงจะมีแววฉ่ำคือน้ำตา
กับธาราน้ำลายคล้ายดูแคลน

อ่านสำนวนชวนไขก็ใจแป้ว
แต่ไม่แคล้วอดสูหดหู่แสน
วันหน้าหนอหากน้ำกินหมดดินแดน
อย่าแร้นแค้นน้ำใจให้แก่กัน

........................................

เปลวเพลิง


หัวข้อ: Re: กินน้ำไม่เผื่อแล้ง (น้ำในสำนวนไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: สุวัฒน์ ไวจรรยา ที่ 05 กุมภาพันธ์, 2557, 03:44:08 PM

><><><><

หยาดน้ำใจได้ดื่มย่อมปลื้มจิต
จึงต้องรักษามิตรให้คงมั่น
ถ้ามิตรเลือนเบือนหนี..ช้ำชีวัน
ขาดคนปันน้ำใจให้ชื่นเย็น

แม้นรู้จักอดออมถนอมทรัพย์
ย่อมไมอับจนมากถึงยากเข็ญ
"ทรัพย์ในดินสินในน้ำ" ใช้จำเป็น
คราวลำเค็ญเหลือพอ..ต่อชีวิต

สุวัฒน์  ไวจรรยา
๐๕ / ๐๑ / ๒๕๕๗
(http://upic.me/i/18/images86.jpg) (http://upic.me/show/49114418)


หัวข้อ: Re: กินน้ำไม่เผื่อแล้ง (น้ำในสำนวนไทย)
เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเพลิง ที่ 05 กุมภาพันธ์, 2557, 08:52:50 PM
ขอขอบคุณน้ำคำแสนฉ่ำหวาน
แม้อ้อยตาลยังชืดจืดสนิท
ชื่นน้ำใจไมตรีที่อุทิศ
ยามมิ่งมิตรมอบมาเป็นอากร

ทรัพย์ในดินอินทรีย์ดีชุ่มฉ่ำ
สินในน้ำล้ำค่ามาแต่ก่อน
โลกชูชีพประทีปนานด้วยธารพร
น้ำใจรับดับร้อนรอนผองภัย

....................................

เปลวเพลิง