เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

อารมณ์กลอน => ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: share ที่ 13 สิงหาคม, 2557, 01:43:19 PM



หัวข้อ: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 สิงหาคม, 2557, 01:43:19 PM

....กาพย์ฉบัง ฟังเสนาะ เพราะพริ้ง...........เสนอแนะ ยึดอิง
...........จังหวะ จะโคน โดนใจ

....สรรคำ กระชับ ฉับไว......................สำเนียง เสียงใส
...........เนื้อหา สาระ ครบครัน

....แต่อย่า อย่าลืม เลือนกัน..................ควร"คำ นำ"นั้น
............เกริ่นบอก บ่งเรื่อง เมลืองวาม

....กาพย์จบ ครบถ้วน กระบวนความ.........บทสรุป จงงาม
.............แง่คิด สะกิด ติดตรึง

....ให้ประทับ จับจิต ซาบซึ้ง.................ครุ่นคิด คำนึง
...............แม้ผ่าน พ้นกาล นานปี


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ 14 สิงหาคม, 2557, 01:33:18 AM
(http://upic.me/i/kp/1350696593.jpg) (http://upic.me/show/52293330)
upic.me/i/kp/1350696593


                                                                    กาพย์ฉบัง

                                            ๐ กาพย์ฉบังก่อนเก่าเนาฤดี          ลำนำวาที
                                         หลากแหล่งลำเพาพิไล
                                                  
                                            ๐ ลุมาเสน่ห์เสนาะน้อยไป          มิต้องใจใคร
                                        ให้เพียรขีดเขียนเวียนวัน

                                            ๐ คนมองลองเพ่งผ่านครัน         ไพเราะฤานั่น
                                        แล้วเหม่อมิเมียงเบี่ยงเบือน

                                            ๐ ขานคำนำชี้มาเยือน            ถ้อยถามแชเชือน
                                        ฉบังอันใดไหนฤา

                                            ๐ ยกคำปุจฉาว่าคือ             กาพย์ฉบังนั้นหรือ
                                        หากดีนี่เทียบเปรียบกลอน

                                            ๐ ไป่เห็นขับลำนำฟ้อน           วาทีแข่งกลอน
                                        บำเทิงเริงรำสำนวน

                                           ๐ กลอนแปดยานีชี้ชวน          โคลงสี่ฯกระบวน
.                                       กลบทร้อยรสพจน์พิณ

                                           ๐ กาพย์ฉบังคงเหลือรวยริน      กลุ่มกลอนพาทิน
                                        มุมน้อยเสงี่ยมเจียมตน

                                           ๐ คนรุ่นใหม่มิไฝ่ฝน             มองผ่านมองพ้น
                                        รอวันคืนลับโรยลา



                                       ขอบคุณครับ

                                        ศิลาสีรุ้ง
                                        ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๗
     (http://upic.me/i/tw/3images3.jpg) (http://upic.me/show/52297309)
      upic.me/i/tw/3images3

 

      ขอบคุณภาพจาก  Internet ครับ






หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 19 สิงหาคม, 2557, 01:08:04 PM
๐ กาพย์ฉบังคงเหลือรวยริน    กลุ่มกลอนพาทิน
มุมน้อยเสงี่ยมเจียมตน
๐ คนรุ่นใหม่มิไฝ่ฝน             มองผ่านมองพ้น
รอวันคืนลับโรยลา

ศิลาสีรุ้ง

ขอแสดงความเห็นครับ
- ไม่แค่ กาพย์ฉบัง ดอกครับ ร้อยกรอง เกือบทั้งหมดก็ว่าได้
ผมคิดว่าสาเหตุอย่างน้อยอาจเพราะ

๑ เน้น "รูป" มากกว่า "เสียง"
คนทั่วไป (สมัยก่อน น้อยคนเขียนได้) เขา"ขับร้อง"กันอย่างสนุกสนาน

...ร้อยกรอง เฉกเช่น ดนตรี
เริ่มที่ จังหวะเหมาะ เสนาะเสียง
ให้อารมณ์ ขมโศกสุข เพียบเครื่องเคียง
ร่ำร้อยเรียง เพียงสบายสบาย คลายเหงากัน

๒ เน้นกฎเกณฑ์เกินไป (หากเป็นการแข่งขัน ก็รับได้ครับ) ทำให้ผู้แต่ง "เกร็ง"
๓ ติดกรอบ มีไม่กี่แนว เช่น แนวรัก ชมธรรมชาติ การเมือง

....อย่าหยุดเพียงร้อยเล่น.......ภาษา
พลิ้วพลิกรูปลักษณา.............ยากล้น
เติมแต่งเพิ่มปัญญา...............ควรเหมาะ
เชิญร่วมรุกก้าวพ้น................ร่ายซ้ำแนวเดิม...เดิมนา

....เติมแต่งแต่รักเศร้า...........เหงาตรม
เย้าหยอกหลอกหลงลม.........เล่ห์ลิ้น
ฤๅเรื่อยเรื่อยแวะเวียนชม........ธรรมชาติ
เลือดพล่านแทบฆ่าสิ้น...........แบ่งข้างการเมือง



หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ 20 สิงหาคม, 2557, 02:45:56 AM

ครับ สวัสดีครับท่าน share ครับ

อะไรทั้งหลายก็อยู่ที่ผู้บริหารประเทศ
จากรัฐบาล ไปกระทรวงวัฒนธรรมโดยตรง ไปกรม ที่เกี่ยวข้อง แต่แค่ชำเลืองดูนิดเดียว

แต่ไม่มาส่งเสริมจริงจัง แจกคำขวัญทุกปี
ดูตามสื่อสาธารณะ เช่น ประกวดโน่น นี่ นั่น  มีวัฒนธรรมต่างชาติมากมาย
สื่อการสอนที่มีก็ละเลย ใครสนใจก็ต้องเหนื่อย แม้แต่ ผู้อยากจะทำ แต่สปอนเซอร์เจ๊ง
ก็ต้องเลิก

แต่ก่อนๆผมฟังการอ่านกลอนจากวิทยุภาคกลางคืนประจำ สมัยยุดของกลุ่ม
ท่าน ส.เชื้อหอมเฟื่องฟูนั้นละครับ
ครับโลกไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  ..มุมของนักกลอนถึงจะกว้างใหญ่
แต่มันก็เล็กจังเลย และโดนเบียดเล็กลงไปเรื่อยๆ จากอิทธิพลหลายรูปแบบครับ

ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
20 ส.ค. 57

[/color]

.


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 20 สิงหาคม, 2557, 09:06:49 AM
โอ้ อย่าเพิ่งท้อสิครับ

ที่ผมเปิดประเด็น ข้อปัญหา
เพื่อเชิญชวนเพื่อนรักนักกลอน มาขยับเพิ่มแนวทางใหม่ ๆ ครับ

๑ "ร้อยกรองประลองคิด"
ผมนำปริศนา "ร้อยกรอง" ไปเสนอใน Pantip
แม้จะไม่ทราบจำนวนคนที่เข้าอ่าน แต่พบว่ามีคนใหม่ ๆ เข้ามาร่วมแบ่งปันครับ

๒ ผมเองแม้เล่นเครื่องดนตรีไม่ได้ แต่เคยเป็น นักขับโบสถ์ ทำให้
ประมาณปี ๒๐๐๓ ผมลองขับร้อง ร้อยกรอง ที่ผมแต่ง(เกี่ยวกับศาสนา)
แรก ๆ ปัญหามากพอควร แต่พอมีโปรแกรม เขียนโน้ตเพลง ได้ 555 ฉลุยเลยครับ

อย่าง กาพย์ฉบัง หรือ กลอนหก ใส่ทำนองเพลงสากลได้ไม่เลวเลยครับ
เนื่องจากลักษณะการอ่านเป็น ๒ - ๒ - ๒ หรือ ๓ - ๓
เมื่อนำไปใส่ทำนอง waltz หรือ quick waltz ก็ทำได้ง่ายมาก ๆ
ส่วน โคลง ค่อนข้างยาก แต่ ฉันท์ นี่ยังไม่สำเร็จเลย 555

ผมชอบชื่อ web นะครับ "อารมณ์กลอน" ใช่เลยครับ
ร้อยกรอง ดนตรี ต้องเน้นที่ "อารมณ์" ไม่ใช่ รูปแบบ

ขอบคุณครับ

เพื่อน ๆ ท่านอื่น เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยสิครับ


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 20 สิงหาคม, 2557, 01:33:48 PM
http://www.baanklon.com/index.php?topic=3545.msg10523#msg10523

นี่คือ ร้อยกรอง "พอเพียง" ที่ผมใส่ทำนองครับ
(ต้องขออภัย ! ผมไม่ใคร่มีเวลาศึกษาวิธีเอา "โน้ตเพลง"
ใส่เข้าไปใน web ต่าง ๆ ครับ)


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 20 สิงหาคม, 2557, 02:59:22 PM
ไม่เก่งเลยขอเป็นผู้เสพแล้วกันนะคะ ขอบคุณความรู้แนะแนวคิดดีๆ ค่ะ :21:


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ 20 สิงหาคม, 2557, 05:23:30 PM
ผมต้องขออภัยด้วยครับ
ผมไม่มีความรู้เรื่องดนตรีเลยครับ อ่านโน้ตไม่เป็น
ก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากการอ่านเนื้อเพลง
ที่ไม่ใช่ทำนองเพลงครับ

ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 29 สิงหาคม, 2557, 09:26:12 AM
กาพย์ฉบัง ของเขมร ....... สุจิตต์ วงษ์เทศ .... มติชนสุดสัปดาห์ 20-26 เมษายน 2555

ฉบัง มีรากจากคำเขมร "จฺบําง" หรือ "จํบําง" (ไทยใช้ จำบัง) - รบ สงคราม

โองการดำน้ำและลุยเพลิง
แต่งเป็นร่ายและกาพย์ฉบัง ร่าย เป็นคำเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฉบัง เป็นคำแช่งผีที่เห็นแก่สินบน


* เทเวศรอาเพศเขตขวง          ปีศาจทั้งปวง
แลหน่วงเอาเท็จมายา
* ให้มีไชยโยเสน่หา               เพราะรับกระยา
บูชาผู้เท็จอาธรรม์
* จงตกต่ำในนรกกันต์             ยินได้พุทธันดร์
นิรันดร์เสวยทุกขา
* อย่าเห็นแสงระวิจันทรา         มัวมืดมนทการ์
หมกไหม้อยู่ในนรกานต์
* เพลิงลุกทนทุกข์เนืองนาน     อย่าทันพระศรีอารย์
มาโปรดซึ่งเทวะสบสรรพ์
* เพราะด้วยมฤษฉาอาธรรม์     เอาความจริงผัน
ให้แพ้แก่ผู้มฤษา
* ครั้นพ้นจากขุมนรกา             กลับกลายรูปา
มาเกิดในชาติทรชน
* อัประภาคมีกายพิกล             เป็นคนมืดมน
ทการแลอับปัญญา


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 22 พฤศจิกายน, 2557, 06:51:21 AM
สิทธิ เสรี อันควร

….ผู้ใด จนเจ็บ ทุกข์ท้น……....ถูกกั้น กันพ้น
….......…..สิทธิ เสรี อันควร

….อย่าก่น พร่ำบ่น เรรวน……...เหลวไหล ชั่ว-ชวน
……..ทอดทิ้ง ทางธรรม อำไพ

….จงเจ้า มั่นมุ่ง จรุงใจ…...…..ผ่องผุด แจ่มใส
….....…..เนาใน เมตตา การุญ

….ลดละ ตัวตน แน่! หนุน……..มวลมิตร ค้ำจุน
…….......สุขสงบ สันติ แน่นอน


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 30 พฤศจิกายน, 2557, 11:18:49 PM
....กาพย์ฉบัง ขึงขัง ผังกานท์...................สามวรรค จดจาร
หก-สี่- หกขาน ขับไป

....เอื้อนอ่าน "สองคำ" จำไว้...................เน้นเสียง เข้มใส
กระชับ จับใจ บรรเลง

....วรรคหก อาจขยับ ปรับเพลง.................สาม-สาม ไป่เกรง
ครื้นเครง ฟังเสนาะ เพราะความ

....พลิกเพลง แต่งหลบ หลีกหนาม.............ใช่ต้อง เกณฑ์ตาม
"ควรเหมาะ" สิงาม ปัญญา

....อันกฎ ทดลอง ปรีชา..........................รู้ใช้ นำพา
ภาษา รุ่มรวย สวยจริง

ฉบัง มีรากจากคำเขมร "จฺบําง" หรือ "จํบําง" (ไทยใช้ จำบัง) - รบ สงคราม
กาพย์นี้จึงเหมาะกับ อารมณ์จริงจัง ดุดัน

วรรคหน้าและวรรคหลัง ซึ่งมึ ๖ พยางค์ บางครั้งเพื่อความเข้าใจในเนื้อหา
อาจอ่านแบบ ทีละ ๓ ได้

ตัวอย่าง
๏ อินทรชิตบิดเบือนกายิน......เหมือนองค์อมรินทร์......ทรงคชเอราวัณ

ทรงคชเอราวัณ อ่าน ซงคด-ชะเอ-ราวัน เทียบกับ ซงคดชะ-เอราวัน


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 03 ธันวาคม, 2557, 11:41:23 PM

....กาพย์ฉบังเน้นหนักอักษร...............สัมผัสวรรคตอน
เสียง ส่ง-รับ ร้องจริงจัง

....ดุจสวดเสกมนต์จังงัง....................ฤทธิ์แรงบดบัง
อบายมุ่งร้ายพ่ายหนี

....ไป่ยากยุ่งเหยิงในวจี....................กระชับเร็วรี่
ถั่งโถมบดขยี้อวิชชา

....พึงเพียรมุ่งมั่นบ่กังขา....................ฝึกฝนมิรู้รา
ปัญญาประเจิดขจัด"ตน"

....มรรคแปดปฏิบัติชัดผล...................ธรรมาจักดล
สันติสงบแน่นิพพาน


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 กรกฎาคม, 2559, 12:57:32 PM

...นึกอยาก หัดแต่ง ร้อยกรอง
ขอเสนอ พึงลอง
กาพย์ฉบัง นี่แหละ ง่ายจริง

...เกณฑ์กฎ นั้นน้อย อย่างยิ่ง
จึงจง อย่าประวิง
กระดาษ ปากกา หยิบมา

...เริ่มเรื่อง หกคำ คิดหา
อีกสี่ รีบพา
พ่วงหก ตามติด ครื้นเครง

...หวังแต่ง ขับขาน เป็นเพลง
ร่ายร้อง บรรเลง
ไพเราะ เสนาะได้ แน่นอน

...เห็นไหม ห้าบท กาพย์กลอน
ง่ายง่าย จึงวอน
เร่งลอง นำให้ อ่านกัน


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 18 กรกฎาคม, 2559, 12:21:46 PM


ใคร่ขอขานเรียนเขียนกาพย์
พิไลพิลาป
ซึมซาบปลาบปลื้มชีวัน

เรียงร้อยถ้อยเสียงเคียงครัน
สานรับฉับพลัน
บรรเลงเลบงเพลงใจ

สื่อสารผ่านห้วงหทัย
บันดาลดลใด
สดับตรับซึ้งตรึงตรา

อ่อนไหวใจฝันพรรณนา
เคลิบเคลิ้มอุรา
หรรษารื่นรมย์สมดี

เสนาะเพราะพริ้งพาที
มอบมิตรไมตรี
ปรานีการุณย์สุนทร

...ขอลองเรียนแต่งกาพย์ฉบัง ๑๖
กับท่าน Share ด้วยคนนะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 18/7/2016




หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 15 สิงหาคม, 2559, 07:22:58 AM

๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖

(รับ)...รวมพลัง ผองเหล่า ประชา........ร่วมจิต วิญญาณ์
.....สืบสาน ประชา- ธิปไตย (ซ้ำ)

...ผู้คน (ยัง)ลำบาก ยากเข็ญ............ทุกข์แท้ ลำเค็ญ
.......ไม่เห็น ที่ซึ่ง พึ่งพา
...ทุรชน กดขี่ บีฑา.........................แปลงแฝง เร้นมา
.......สูบเลือด วิญญาณ์ สูญสิ้น
...ผู้"ปกครอง" หนวกบอด ยลยิน........บ้างร่วม โกงกิน
.......ผลาญเผา แผ่นดิน แห้งเหือด (รับ)

...บ้านเมือง สร้างด้วย เนื้อเลือด...........ประชา ดาลเดือด
......ล้างเชือด อธรรม พังภินท์
...สืบสาน ตำนาน แผ่นดิน..................ผู้คน ใฝ่ถวิล
..............“รักสามัคคี” ร่วมใจ
...ทูนเทิด กษัตริย์ ทรงชัย..................ธรรมะ สว่างไสว
.........ประชา-ธิปไตย ยืนยง (รับ)



หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 15 สิงหาคม, 2559, 10:55:23 PM
มาช้าอย่าเพิ่งไขขาน
ด้วยมีการงาน
มากนักหนักอึ้งหทัย

อีกตอนนี้มิสดใส
ถ้อยคำอำไพ
อาจไม่สลวยด้วยเบลอ

วันเสาร์อาทิตย์นี้สิเออ
คงได้มาเจอ
เพ้อพกรำพันลั้ลลา

หากยังมิหน่ายเจรจา
ขอท่านจงมา
ยื่นสนทนากันเอย

สิริวตี


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 17 สิงหาคม, 2559, 11:48:51 AM

(รับ)...ทุกทิวา รัตติกาล...........ข้าจัก ขับขาน...........สาธุการ ภูบาล เปรมปรีดิ์

...ชีวิต ปวงข้าฯ สุขยินดี...........ด้วยพระ ปรานี...........อารี อภัย อวยพร

นำทาง ให้ห่าง อโคจร.........อีกทรง กางกร...........ราญรอน บาปร้าย ภัยพาล

ทุกสิ่ง จำเป็น ที่ต้องการ.......องค์พระ ภูบาล...........ประทาน ฉับพลัน เพียงพอ

กลับใจ อย่าได้ รีรอ.............สรรเสริญ ขับคลอ........พระนาม พระเกียรติ เกริกไกร...(รับ)

* ประสงค์ให้ขับร้องทำนองเพลงสากลได้
จำนวนคำจึงแผกไปจาก 6-4-6 ครับ


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 28 มีนาคม, 2560, 04:55:57 PM

...เช้าค่ำ นำใจ ไหว้วอน....................ทรงชัย โปรดพระพร
เมตตา รักสอน อ่อนโยน
...ไป่ใส่ หน้ากาก ประดุจโขน.............ประพฤติ ดั่งโจร
ฤๅเล่น เช่นโหร โหดลวง
...อุตริ สิสู่ แดนสรวง........................อ้างเทพ เหตุห่วง
บอกบุญ รับทรัพย์ นับอนันต์
...กาลามสูตร สะดุด หยุดพลัน............เหลือเพียง แค่ควัน
รวนเร เหหัน ห่างธรรม
...โปรดข้าฯ มั่นคง มรรคค้ำ................ปฏิบัติ ประจำ
ใช่ร่ำ ไร้สติ ตริตรอง
...สรวงสวรรค์ หวังได้ ครอบครอง........กายใจ จักต้อง
รักผอง ทุกข์ท้น ลำเค็ญ


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 14 พฤษภาคม, 2561, 11:43:10 PM
 ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙

(รับ) วีรชนผองเหล่าประชา.............โอ้ใครบ้างหนา
...........ซึ้งค่าความดีของเธอ
     
....จิตวิญญาณ์กล้าสละตน.............หาญสู้ทุรชน
..............แม้ชีพชีวันบรรลัย
....เผด็จการดับฝันสดใส...............ดับประชาธิปไตย
.........พิราบเจ็บจากไปพนา
....มอมเมาสร้างเงามายา..............โกงกินท่วมฟ้า
............เมื่อไรหนา(แสง)ธรรมอำไพ (รับ)

....เงียบเหงาเศร้าลึกฤทัย................คนดี(ห่าง)หายไป
........เพื่อนใจแห่งจิตวิญญาณ
....เคยร่วมฝัน(ร่วม)สรรค์สร้างงาน.......หวังโลกเบิกบาน
.........สายธารเมตตาจรัสไสว
....หนุ่มสาวเธออยู่หนใด..................ตื่นฟื้นเร็วไว
..............ปลูกประชาธิปไตยยืนยง (รับ)


(มีบางคำใส่วงเล็บ เพราะคำเกินตามหลัก กาพย์ฉบัง ๑๖ ที่เกินเพราะใส่ทำนองขับร้องแบบเพลงสากล)

ระวังสับสนครับ : ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ และ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 20 เมษายน, 2562, 12:41:42 AM

(รับ)...ชวนเชิญ ผองเรา ร่วมใจ.......กราบษมา ทรงชัย
พระผู้ รักเรา นิรันดร์

...ธ สรรค์ สร้างเรา เฉิดฉัน.......โปรดคุณ อนันต์
ชีวัน สุขสันต์ ปรีดา

...ไป่สำนึก ในเมตตา...............โลภหลง โกรธา   
วิญญาณ์ จึ่งทุกข์ ระทม (รับ)

...แม้ชีพ จักขื่น จักขม...............น้อมจิต ชื่นชม
ถวาย ไท้เป็น พ(ะ)ลี

....กราบขอ อภัย ทรงศรี.............วอน ธ ปรานี
จักกอปร กิจดี เทิดไท (รับ)

พลี ๑ [พะลี] น. การบวงสรวง, เครื่องบวงสรวง, ส่วย, การบูชา

* ขับร้องได้ครับ


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 24 พฤษภาคม, 2563, 12:31:09 PM
100 - 80 / 4 * 2 = ?

กาพย์ฉบัง ๑๖

@ ขั้นตอน คณิตนั้น มั่นไว้
ปฏิบัติ ฉลาดใช้
จักไม่ พลาดผิด หลงทาง

@ ถ้ามี วงเล็บ จัดวาง
คู่ใน เร่งสาง
จึ่งจัก ถัก-ถาง ถัดไป

@ power, ถอด root ยากไฉน
มองเมียง ทันใด
ซ้ายให้ ต้องแก้ ก่อนนา

@ คูณหาร แล้วบวก ลบหนา
ซ้ายก่อน แล้วขวา
จักพา ผลลัพท์ แจ้งจริง

@ ดั่งโจทย์ ของข้าฯ อ้างอิง
เริ่มหาร อย่าประวิง
คูณนั้น อย่าชิง ก่อนเลย

@ แล้วตาม ต่อด้วย ลบเฉลย
ผลลัพธ์ แน่เผย
คำตอบ "หกสิบ (60)" ปิดคดี

power (exponentiation) = ยกกำลัง
root = ค่าของจำนวนเลข
ใต้เครื่องหมายกรณฑ์/ราก


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 19 สิงหาคม, 2563, 03:11:21 PM



นักเรียน ชายหญิง น่ารัก
ร่วมใจ ร่วมสมัคร
ผูกโบ สีขาว รายเรียง

สามนิ้ว ชูชัด พร้อมเพรียง
ร่วมกัน ยืนเคียง
ทุกภาค ประสานร้อง ก้องดัง

เจื้อยแจ้ว แว่วขอ ความหวัง
พ่อแม่ หนูพัง
ลูกค้า ลาลับ ไม่มา

อาผม พี่หนู ศึกษา
ไยถึง เวลา
ตกงาน เตะฝุ่น วุ่นไป

ท่านครับ ท่านขา ฟังไว
รีบเร่ง แก้ไข
ก่อนที่ กองไฟ ลุกโชน





หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 พฤศจิกายน, 2563, 08:21:17 PM

@ ฤๅด้วย ฟ้าดิน ลงทัณฑ์.............รังเกียจ เดียดฉันท์
จึ่งพิกล พิการ ชีวา

@ ฤ ญาติ บิดร มารดา..................ตัวเขา ชั่วช้า
ผลกรรม ส่งมา_ วานเฉลย ??

@ ธรรมพิสิฐ พิสุทธิ์เผย.................อันใด อ้างเอ่ย
อัปลักษณ์ พิกล พิการ

@ ราคะ ตัณหา เผาผลาญ..............โลภหลง โกรธพาล
สามานย์ อัปลักษณ์ แท้จริง

@ "ขาด/เกิน" เกิดใน สรรพสิ่ง..........บ่งบอก พึ่งพิง
สัมพันธ์ เอื้อเฟื้อ เกื้อหนุน

@ รักเมตตา เปี่ยมการุญ..................เป็นมรรค เป็นบุญ
ดับกิเลส เหตุทุกข์ภัย

@ ผองชนพึง สดับไว้.....................ปฏิบัติมั่นไซร้
สงบ สันติ นิรันดร์


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 31 พฤษภาคม, 2564, 02:14:08 PM

ฉล! ผลดล ชนฅนจน
กลล้น จนท้น
มลหน วนรน ตน! ฉงน?

สระ โ-ะ ๑๖ คำ ครับ