เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

อารมณ์กลอน => ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: share ที่ 10 มกราคม, 2558, 10:02:51 AM



หัวข้อ: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ (ลหุ ๑๔)
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 10 มกราคม, 2558, 10:02:51 AM
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

...หนูน้อย นะขอ คุรุถนอม............แนะตะล่อม กมลงาม
เรียนรู้ สงบ สติ ผละทราม............ขณะซึ่ง สนุกเรียน

...เด็กน้อย นะคอย คุรุประคอง......จิตปอง ขยันเพียร
ทางธรรม จะมุ่งมุ ลุ บ่เบียน...........ปฏิบัติ ขจัดเข็ญ



ตะล่อม = ว. ลักษณะการพูดหว่านล้อมหรือรวบรัดให้เข้าสู่จุดหมายหรือเข้าประเด็น
เบียน = ก. รบกวน, ทําให้เดือดร้อน



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 09 กุมภาพันธ์, 2558, 11:45:15 PM
....พอเพียง ประเดิมสติประจักษ์.........สิสลัก ณ แก่นใจ
พากเพียรมุมั่น มิลุไฉน....................ผลิไสวอร่ามงาม

....สานเศรษฐกิจชย ยะยง...............พระประสงค์ผดุงคาม
สบสันติสุขสิริ ประณาม....................นิรทุกข์ ธ โปรดชน


ประเดิม ก. เริ่มแรก, ตั้งต้น
ประจักษ์(มค. ปจฺจกฺข สก. ปฺรตฺยกฺษ) ว. ชัดเจน, แจ่มแจ้ง, แน่นอน.
ผลิ(ผฺลิ) ก. เริ่มงอกปริออกมา, เริ่มแตกดอกออกใบ
ชย(ชะ-ยะ) น. การชนะ
ยง ว. งาม, กล้าหาญ, นาน, มั่นคง, แผลงเป็น ยะยง หรือ ยรรยง ก็ได้.
คาม(มค. คาม) น. บ้าน, หมู่บ้าน.
สบ ก. พบ, ปะ, ถูก, เห็น, ประสมให้เข้ากัน
ประณาม(สก. ปฺรณาม มค. ปณาม) ก. น้อมไหว้, ขับไล่. (ที่นี้ = น้อมไหว้)
นิร(ระ) ว. คําประกอบหน้าคําอื่น แปลว่า ไม่ ไม่มี ออก.

*** ขอขอบคุณ คุณ"สุวัฒน์ ไวจรรยา" ที่ชี้แนะครับ


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 26 เมษายน, 2559, 11:09:47 AM
รักแท้ (วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)

...ความรัก เสมือน สุริยะฉาย...........รติพราย อร่ามงาม
รักแท้ ละแม้ สิสุขยาม...................สละสิ้น สนองชน

...แท้รัก ประเสริฐ จิตกระจ่าง..........ชะมล้าง กิเลสตน   
การงาน ปะหนัก พละจะดล............อุปสรรค พินาศไป

....x x ล x ล ล ล A........................ล ล A ล x B
x x ล x ล ล ล B............................ล ล x ล x W

....x x ล x ล ล ล A........................ล ล A ล x B(W)
x x ล x ล ล ล B............................ล ล x ล x W

x, A, B, W = ครุ          ล = ลหุ        *** ครุ ลหุ ต้องอยู่ตำแหน่งที่แน่นอน
W เป็นสัมผัสระหว่างบท

การอ่าน ฉันท์ เน้นออกเสียงให้มี หนัก(ครุ)เบา(ลหุ) ดังนั้นต้องอ่าน
สุข = สุ ขะ, จิต = จิ ตะ, อุปสรรค = อุปะสัก

รติ = น. ความยินดี, ความชอบใจ; ความรัก, แผลงใช้ว่า ฤดีหรือ รดี ก็ได้. (ป., ส.).
ฤดี [รึ] น. รติ, ความยินดี, ใจ. (ป., ส. รติ).  ที่นี้ = ใจ
ชะ ก. ชำระ, ล้าง.
มล้าง [มะล้าง] ก. ม้าง, ล้าง, ฆ่า, ผลาญ.


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 27 เมษายน, 2559, 07:08:13 AM
รักตัวเองดีกว่า

ความรักประดุจชลธฯสาย   มนะคล้ายจะผ่านไป
รักแท้สิแม้บุรุษะไหน            ก็มิหวังกมลเจอ

โอ้คือพระพรหมลิขิตะเล่น   อุระเช่นกระหวัดเผลอ
จึงควรฤดีบ่มิละเมอ              จิตะมั่น ณ ตนเอง

สิริวตี
 :14:






หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 27 เมษายน, 2559, 02:54:07 PM
ขออนุญาต นำประเด็นมาถกครับ


ขอร่วมอภิปรายด้วยครับ...

--- จริงๆฉันท์/กาพย์ แต่ครั้งโบราณในยุคแรกๆ จะมีบังคับสัมผัสระหว่างท้ายวรรคสองกับท้ายวรรคสามเท่านั้น
     แต่..ตอนหลังมีการสังคายนาใหม่ ให้มีสัมผัสระหว่างท้ายวรรคแรกกับพยางค์ที่สามของวรรคสองด้วยเสมอ
     ดูตัวอย่างได้ในสามัคคีเภทคำฉันท์
     ส่วนสัมผัสระหว่างบทก็อย่างที่ จขกท. บอก

--- จากตัวอย่างที่แนะนำมา ผมอยากจะขอเคลียร์บางจุด
   ๑. " สุข " คำนี้ อ่านว่า สุก  ไม่ใช่ สุ - ขะ  ดังนั้นหากต้องการเป็น ลหุ -ลหุ ผมคิดว่าน่าจะเติมสระอะ ลงไปด้วยเป็น " สุขะ "
   ๒. " จิต " คำนี้ อ่านได้สองแบบ คือ " จิด " และ " จิด - ตะ "  จะเห็นว่า ไม่ได้อ่านว่า จิ - ตะ แต่อย่างใด
       ดังนั้นเห็นควรให้เขียนเป็น " จิตะ " ในเวลาที่ต้องการ ลหุ -ลหุ

    ปล.สำหรับสองข้อแรก เป็นความเห็นส่วนตัว เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานที่บัญญัติไว้อย่างชัดเจน มีเพียงแต่ผ่านตาจากบทกวีเก่าๆ
    
   ๓. คำว่า " อุปสรรค " อ่านได้สองแบบ เผื่อน้องๆบางท่านอาจจะยังไม่ทราบ คือ อ่านว่า " อุบ - ปะ- สัก " หรือ " อุ - ปะ - สัก " ก็ได้

ชลภูมิ

ถ้าเป็นฉันท์คงรูปเดิมแต่อ่านตามฉันทลักษณ์ได้เลย
ครับ เช่น
สุขจิต  ธรรมดา  อ่าน สุก-จิต
ถ้าอยู่ในฉันท์ที่ต้องการลหุ ๔คำติดกันก็อ่านว่า
สุ ขะ จิ ตะ  เลยครับ

วัคคุวัท

ตามที่คุณวัคคุวัทบอกมานั่นก็อีกกลุ่มนึงที่ยึดแบบอย่างนั้นครับ แต่อีกกลุ่มยังมีสระอะ สระอุ ฯลฯ อยู่อีกตามความเห็นแรกของผม
ถึงบอกว่ายังไม่มีมาตรฐานทองแผ่นเดียวกัน ( เอกภาพ ) จึงยังสร้างความสับสนอยู่บ้างครับอมยิ้ม19
คราวนี้ถ้างานที่เป็นทางการจริงๆ เช่น งานอาเศียรวาท , งานแต่งประกวด ,งานส่งครู จะต้องยึดแบบไหนครับ ??หรือว่าเอาตามสบาย
ไม่มีใครผิดใครถูก ผมว่าจริงๆน่าจะมีบทสรุปในเรื่องนี้ ...

ชลภูมิ


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 มิถุนายน, 2559, 11:08:16 AM
...ความรักละโมหะผละผยอง.......จิตปองอภัยพลัน
อดทนชะโทสะปะทะกัน..............มนนั้นสงบเย็น

...ความรักพิสุทธิ์ระอุกระจ่าง........ลุสว่างประพฤติ"เป็น"
ปันแบ่งประจักษ์นยนะเห็น...........ดุจเทียนตะเกียงธรรม


โมห-, โมหะ [-หะ-] น. ความหลง, ความเขลา, ความโง่
ชะ ก. ชำระ, ล้าง.
โทสะ (มค. โทส; สก. โทษ) น. ความโกรธ, ความฉุนเฉียว, ความคิดร้าย, ความคิดที่จะทำลายผู้ที่ทำให้ตนโกรธ
มน [มะนะ, มน, มะนะ-] น. ใจ. (ป.).
พิสุทธิ์ ว. บริสุทธิ์, สะอาด, สุกใส. (ป. วิสุทฺธิ).
นยนะ [นะ-ยะ-นะ] (มค. นยน) น. การนำ, การชี้, การชักจูง, การแนะ; การถือเอา; การกำหนด

จิต อ่าน จิ-ตะ
มน   "   มะ-นะ
ดุจ   "   ดุ-จะ


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 13 มิถุนายน, 2559, 03:44:48 PM
(http://upic.me/i/76/tzt11.jpg) (http://upic.me/show/58379832)

ความรักกระจ่างรุจิกมล             และประพนธ์มโนไป
ดุจเริ่มแสดงณหฤทัย               วจะใครบ่เทียมทาน

หากโมหะของจิตะชะลอ           ก็จะพอและเพียงนาน
ความรักลุเริ่มอภิประทาน            รติชีพนิรันดร

สิริวตี

(http://upic.me/i/76/tzt11.jpg) (http://upic.me/show/58379832)

รุจิ = ความงาม
ประพนธ์ = เขียน

วจี=คำพูด
รติ=ความยินดี,ความชอบใจ




หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 11:52:59 AM
๔ แรงพื้นฐานแห่งจักรวาล

...แท้ธรรมชาติสิอลวน.............ระบุผลเปลี่ยนแปลง
เหตุแห่งประเจิดปะทะแสดง........กลแรงพลังคง

...พื้นฐาน(ะ)แรงจตุประจักษ์.......พละหลักประยุทธ์ยง
ดำรงก็ด้วยดุลยประจง...............ปริจักรวาลเห็น

อลวน อ่าน อะ-ละ-วน
ผล อ่าน ผน-ละ
กล อ่าน กะ-ละ
ดุลย อ่าน ดุน-ละ-ยะ
ปริ อ่าน ปะ-ริ

พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน

อลวน (อนละวน) ว. วุ่น สับสน.
ประเจิด ก. บรรเจิด เชิดขึ้นสูง สูงเด่น เฉิดฉาย. ว. งาม.
กล กล- (กน กนละ-) น. เครื่องกลไก เครื่องจักร เครื่องยนต์
ประจง ก. บรรจง ทําให้ดี.
ปริ- (ปะริ-) เป็นอุปสรรคในบาลีและสันสกฤต
ใช้นําหน้าศัพท์อื่นแปลว่า รอบ เช่น ปริมณฑล.


     


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 11:55:46 AM
๔ แรงพื้นฐานแห่งจักรวาล

Fundamental interactions, also known as fundamental forces,
are the interactions in physical systems that do not appear to be reducible
to more basic interactions.

There are four conventionally accepted fundamental interactions—
gravitational, electromagnetic, strong nuclear, and weak nuclear.

Each one is understood as the dynamics of a field.
The gravitational force is modelled as a continuous classical field.
The other three are each modelled as discrete quantum fields,
and exhibit a measurable unit or elementary particle.

Wikipedia


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 01:32:25 PM

แท้ธรรมชาติก็บริสุทธิ์       และประดุจ(ะ)ร่มเย็น
ตรองทิศ(ะ)ทั่วจตุรเป็น     ปริจักรวาลเอย

สิริวตี
 :14:


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 17 มิถุนายน, 2559, 10:59:28 AM

๏ โน้มถ่วงสิดึงวสดุชิด..........ปะทะติดประกบคู่
นิวเคลียระเข้ม-ปรมณู..........อนุภาคกัมมันต์

๏ นิวเคลียระอ่อน-รวิรุจี........ปฐพีสว่างพลัน
แม่เหล็กกระแสจรจรัล.........บริเวณสนามแรงฯ

มาวิน Pantip


แรงพื้นฐานในจักรวาล (ที่เรารู้จัก) มี 4 อย่าง คือ

- แรงแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic force)
- แรงโน้มถ่วง (Gravitation)
- แรง nuclear เข้ม (Strong Nuclear force)
- แรง nuclear อ่อน (Weak Nuclear force)


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 23 สิงหาคม, 2559, 09:15:03 AM

...จงพรพระโปรดพละลุผู้.............สละสู้กิเลสพาล
เธอ!ธรรมสว่างสติประทาน............มุประโยชน์ผลิเพื่อผอง

...เธอ!ธรรมสถิต ณ มน(ะ)กาย.......สิริฉายพิสุทธิ์ครอง
ดุจดาวและดวงสุริย(ะ)ส่อง...........สุประเสริฐละลด"ตน"


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 28 กุมภาพันธ์, 2560, 05:39:15 PM

...ฉันท์ฉันเสนอแนะมุสะสม
ลหุปมจะเบาไป
คลังศัพท์สิช่วยประจุพิสัย
ลุประเด็นจะจดจาร

...ศัพท์ยากละเลี่ยงก็จะประสบ
สิริพบพิชิตมาน
ชวนชนนิยมจิต(ะ)ประสาน
พละกานท์ประเจิดจริง



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 15 สิงหาคม, 2560, 12:29:55 AM
ใคร ?


...ใช่ญาติวงศ(ะ)มน(ะ)ให้........สละได้สกนธ์กาย
ชุบชีพ(ะ)พร้อมจิต(ะ)สบาย......นิรโศกสลายเข็ญ

...ให้แห่ง ณ พักภยขย้ำ...........ละถลำลุรอดเย็น
ตกต่ำระกำพละกระเซ็น............ดุจ(ะ)เทพทลายพลัน

...แม้ร่างจะจากมตะละล่วง........จิต(ะ)ห่วงมิเหหัน
เฝ้าร่ำ ธ อวยพระสิริครัน...........สุข(ะ)สันต์นิรันดร


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 09 ธันวาคม, 2560, 12:43:24 PM


@ มารีย์ ประดุจสุริยะแสง
ระอุแรงพลังงาน
ดั่งเดือนประโลม ณ ภยะฉาน
สิริหล้าสวัสดิ์ชน

พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธิ์นิรมล

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 21 สิงหาคม, 2561, 11:38:57 PM


@ โอ้โอสหาย สติคะนึง...........นยะซึ่งประกอบเป็น
รูปนามก็แค่ ภวะจะเห็น............บ่มิควรประเด็นหลง

@ สิ่งสรรพ(ะ)ล้วนมตะมลาย.....สิบ่สายมุธรรมคง
แม้ทุกข(ะ)ท้นก็จะประจง..........มิละหย่อน ฤหลบหาย


นย-, นยะ [นะยะ-] น. เค้าความที่ส่อให้เข้าใจเอาเอง. (ป., ส.).
ภว-, ภวะ (๑)  [พะวะ-] น. ความเกิด, ความมี, ความเป็น (ป., ส.).
            (๒) น. ภพ. (ป., ส.).
มตะ [มะตะ-] ก. ตายแล้ว. (ป.; ส. มฺฤต).
ประจง ก. บรรจง, ทำให้ดี.


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 27 สิงหาคม, 2561, 12:58:56 AM

...แท้เธอสตรีพิริยะสาน.................ปณิธานมุช่วยชน
ศักดิ์ศรีและสิทธิลุผลิผล.................ชนะกลทุชนพาล

...ผองเธอประดุจสุริยะแสง..............ระอุแรงพลังงาน
ดั่งเดือนประโลม ณ ภยฉาน............สิริหล้าสวัสดิ์เรือน

วร [วะระ-, วอระ-] น. พร ของขวัญ. (ป., ส.).



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 สิงหาคม, 2561, 04:29:31 PM


...แด่เธอ...
[วสันตดิลกฉันท์14]


แด่เธอวิทูวทะวิทูร.............ปริปูรณ์ผิดาวเดือน
กังวานพนาพนสะเทือน......กวิวาทกวินไหว

ส่องแสงระยิบวรวิราม.......พสุงามเพราะงามใน
ท่วมท้นทวี ธ หฤทัย...........กระจะแจ้งกระจ่างจินต์

วิทู : น. ผู้ฉลาด, ผู้มีปัญญา
วทะ : คำพูด
วิทูร : ว. ฉลาด, มีปัญญา
ปริปูรณ์ : บริบูรณ์
พน : [พะนะ] ป่า, ดง
กวิ : ผู้แต่ง
วร : [วะระ] ดี, ประเสริฐ
วิราม : พิราม, งาม
พสุ : ดี, เลิศ

Soul Searcher
Inspired to write 31/8/2018



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 สิงหาคม, 2561, 11:53:59 PM


สูงค่าเพราะงามจริยวัตร.........ปฏิบัติวิไลริน
แช่มช้อยมิเชือนอชิระวินท์.......ผิวภาคมลากหลาย

หว่างเว้นสวาสดิ์ดนุจะรอ.........รติหนอมิจางคลาย
มาตรแม้นอณูมละมลาย..........มนมั่นมิบั่นรอน

อชิระ : คล่อง, ว่องไว
วินท์ : มี
ผิว : [ผิวะ] แม้นว่า
มลาก : มาก

Soul Searcher
Inspired to write 31/8/2018




หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 22 กันยายน, 2561, 05:57:44 PM
555 ขอบคุณครับ คุณพี พูนสุข
ที่นำ
"อารมณ์ขัน  อารมณ์อ่าง" มาให้บันเทิง
http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=29598.msg222435#msg222435
ตอบ #44 เมื่อ: 18 กันยายน 2018, 09:29:AM »

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

@ ขอบคุณสหายจิต(ะ)คะนึง....มน(ะ)ซึ้งประจักษ์ใจ
ขำขันสนุกก็จะริให้..................ประทุปัน ณ ฉันท์นี้

@ "คุณครูคะหนูวจนะด้วย.........คุรุช่วยสดับที
'ตุ๊ด'ครูนะเป็น ฤ? กิระมี...............ดนุน้อยประสงค์ถาม"

@ ไยเธอฉงนเฉพาะนะเรื่อง......สิสะกิดตลกตาม
"ด้วยครูก็ชอบ'ค่ะ คะ'ปะยาม.... เจอะประสบละเล่นกัน"

ฮา
(เอ๊ะ ขำไหมนี่)

กิระ ว. เล่าลือ เช่น คำกิระ หมายความว่า คำเล่าลือ. (ป.).


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 26 กันยายน, 2561, 05:26:54 PM

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

@ เขียนคำ"วสันต"สิฤดู.........สติรู้ระวัง"ความ"
"วรรษา"ฤดูสิ ณ สยาม..........ลุตระหนักมิหลุดหลง

วสันตฤดู น. ฤดูใบไม้ผลิ
วรรษา (๑)  [วัดสา] น. พรรษา, ฤดูฝน (ส.).



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 16 ตุลาคม, 2561, 02:26:09 PM
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

@ ฉันฉันท(ะ)ขอบคุณ(ะ)สหาย
มุจะร่ายแสดงหนุน
เพียงศัพท์สิเกินจะปะจะชุน
ยุวซุนคะมำลง


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 พฤศจิกายน, 2561, 10:00:36 AM

@ รัก สุทธิธรรมปะทุสว่าง...........ระอุสร้างสงบครัน
โกรธหลงกิเลสสิมุสะบั้น.............มน(ะ)พ้นเพาะตัณหา

@ รักแท้ประสิทธิสุประโยชน์........ละริโฉดอวิชชา
โอบเอื้อสะพรั่งผลิกรุณา..............ลุประจักษ์ ณ กาลเทอญ

* บันดาลใจจาก คุณชลภูมิ
pantip.com/topic/38255290


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 21 พฤศจิกายน, 2561, 01:00:51 AM

...แท้ธรรมะเบาลหุสบาย.......จิต(ะ)กายสงบครัน
เมตตากระทำมิละขยัน.........ผลิสวรรค์ประโยชน์ผอง

...ปัญญาสะกิดสติตระหนัก....ชย(ะ)หลักลุธรรมครอง
แท้"ธรรมดา"จะละผยอง.......มุสะบั้นสิ"ตัวกู"


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 31 สิงหาคม, 2562, 11:47:55 PM

มรรค ๘
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

ธรรมพุทธมรรคสิริพิพัฒน์ ปฏิบัติบ่เสื่อมคลาย  
สิ่งสรรพล้วนมตะมลาย สิมิสายมุธรรมคง

๑ ปัญญากระจ่างอริยสัจ ทิฐิชัดไสวธง
แม้ทุกขท้นก็จะมิหลง พละธรรมประจำใจ

๒ สังกัปปะตรองตริพิเคราะห์ผล ภวะดลสลัดไป
มั่นดำริชอบปกติไซร้  ฐิติในอหิงสา

๓ เอื้อนสาระสารวจนะมั่น มิติครันลุเมตตา
เที่ยงธรรมตระหนักและกรุณา ปะทุสัจจะขานไข

๔ กัมมันตะมั่นมุกิริยา วปุถาประเจิดใส
การกิจกระจ่าง ณ หฤทัย ชยภัยกิเลสดล

๕ อาชีวะจงจริตงาม ขณะถามประโยชน์ผล
กอปรกิจการมุนฤมล ริถกลวิสุทธ์คาม

๖ วายามะมั่นพิริยะเรียน ละพุเบียนกิเลสกาม
พรักพร้อม ณ กาลมรณะถาม ปฏิภาณสว่างหน

๗ มรรคธรรมครองสติไสว หิริไกรละเล่ห์กล
ดำรงมุผู้ผละอกุศล มนปลงอุเบกขา

๘ จงจิตสมาธิมุตระหนัก ลุประจักษ์อวิชชา
ตื่นรู้ชะฤทธิ์อคติพา เพาะสงบประสบสันต์


มต-, มตะ  [มะตะ-] ก. ตายแล้ว. (ป.; ส. มฺฤต).
ภว-, ภวะ (๑)  [พะวะ-] น. ความเกิด, ความมี, ความเป็น (ป., ส.).
ฐิติ (๑)  [ถิติ] น. การตั้งอยู่, การยืนอยู่, การดำรงอยู่ (ป.).
มิติ ๒ น. มุมมอง
วปุ  (แบบ) น. ตัว, ร่างกาย. (ป., ส.).
ถา (โบ) ลับ, ถูให้คม
ถกล (๑)  [ถะกน]  (กลอน) ก. ก่อสร้าง, ตั้ง, ตั้งขึ้น, ตั้งไว้
เบียน (๑) ก. รบกวน, ทำให้เดือดร้อน



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 03 กันยายน, 2562, 07:35:29 AM

เสียงธรรมประทีปทะลุทะลวง
สุตะล่วงมิจีรัง
ความคิด-กระทำสติสตัง
ผิวพาตพระพายผวน

เหนี่ยวรั้งมโนรติรุจี
กระจะคลี่และทบทวน
ฝึกฝนกระบิลกระบิกระบวน
สติถ้วนมิถ่ายถอน

หากแม้นกระเซ้าวจะวจี
วหะรี่เชลงกลอน
โจ่งแจ้งเจรียงจิระขจร
กวิชาติชโลมศิลป์

Soul Searcher
Inspired to write 3/9/2019


สุตะ : ไหลไป
ผิว : (ผิวะ) แม้นว่า
พาต : ลม
รติ : ความรัก, ความพอใจ
รุจี : ความงาม
กระจะ : แจ่มแจ้ง, ชัดเจน
กระบิล : ระเบียบ, หมู่
กระบิ : ชิ้น หรือ ส่วนที่แยกออกจากส่วนใหญ่
กระบวน : วิธีการ
วจะ : คำพูด
วหะ : นำไป, พาไป
เจรียง : ขับกล่อม
จิระ : นาน, ช้า
กวิชาติ : พวกนักคิด, นักกลอน



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 16 กันยายน, 2562, 08:31:11 AM
แพรวพุทธศาสนประเทือง

...แพรวพุทธศาสนประเทือง.........รุจิเรืองอร่ามงาม
ธรรมแผ่ผดุงนครคาม..................สุขศานติ์สราญรมย์

...แคว้นแดนมคธวจนะเริ่ม............ธ ประเดิมสมาคม
ก่อพุทธแกนจตุสดมภ์..................พละค้ำพระธรรมคง

...ผ่านกาล(ะ)ล่วงลุศตวรรษ..........ภยพัดกระหน่ำลง
แผกผิดจริตจิตประสงค์................ริปริแยกนิกายกัน

...ปวงบริษัทสมณเพศ.................ลุละเหตุประนอมพลัน
สืบศาสนาวจนะครัน....................มิบิผันผลิบุญบาน

...ชวนชนสกล(ะ)มนน้อม.............วปุพร้อมสดับขาน
เทนซินทะไลมุประจุจาร...............อภิธานขจรธรรม

...นัทฮันห์กระตุ้นสติตระหนัก........ระบุหลักมิพร่ำคำ
ธรรมาพลังรุจิระล้ำ....................ปฏิบัติกระทำจริง

...ธรรมพุทธองค์อริยสัจ................มุขจัดกิเลสสิง
กาลามสูตร(ะ)ชะละอิง.................ระบุชัดอนัตตา

...เมตตาผดุงสุขสงบ.................สิริภพพิสุทธ์หล้า
ผองชนประจักษ์จิตประภา.............ตถตากระจ่างใจ

รุจิ, รุจี น. แสง, ความรุ่งเรือง; ความงาม; ความชอบใจ. ว. รุ่งเรือง, สว่าง.(ป., ส. รุจิ).
คาม, คาม- [คามะ-, คามมะ-] (แบบ) น. บ้าน, หมู่บ้าน. (ป.).
ศานติ น. ความสงบ, ความระงับ. (ส.; ป. สนฺติ).
สราญ, สำราญ (ข. สํราล). สุขสบาย
รมย์ (สก. รมฺย) ว. น่าชม, น่ารัก, น่ายินดี, งดงาม.

วจนะ [วะ-จะ-นะ] (มค. วจน) น. การพูด, การแสดง, การออกเสียง, คำชี้แจง, คำบอกเล่า, คำพูด.
สมาคม (มค. สมาคม) น. ที่ประชุม, การประชุม, คนที่ชุมนุมกัน, การพบปะ. ก. คบค้า, วิสาสะ.
จตุสดมภ์ (มค. จตุ = สี่ + สฺตมฺภ = หลัก) น. "หลักทั้ง ๔"

ภย– [พะยะ–] (แบบ) น. ความกลัว, ของที่น่ากลัว. (ป., ส.).
แผก ว. แตกต่าง. ก. แยกออก, แตกออก, ต่างออกไปอีกส่วนหนึ่ง.
จริต [จะหฺริด] น. ความประพฤติ, กิริยาหรืออาการ
ริ ก. เริ่มคิดหรือทําแปลกจากปรกติ (มักใช้ในทางไม่ดี)
บริษัท [บอ-ริ-สัด] (สก. ปริษทฺ; มค. ปริสา) น. หมู่, คนแวดล้อม, คนรวมกัน;
                       ทางศาสนาหมายถึงคนที่นับถือพระพุทธศาสนาทุกประเภท
ครัน [คฺรัน] ว. ใช้ประกอบคําอื่นมีความหมายไปในทํานองว่า นัก, แท้, ยิ่ง, จริง,

สกล (มค. สกล) ว. เต็มบริบูรณ์, ทั้งหมด, ทั้งสิ้น.
วปุ (แบบ) น. ตัว, ร่างกาย. (ป., ส.).
เทนซิน เกียตโซ องค์ทะไลลามะ พระองค์ที่ สิบสี่
ประจุ ก. บรรจุ, ใส่; ใส่เข้าที่ให้แน่น
อภิธาน (มค. อภิธาน) น. ชื่อ, คำพูด, คำเรียงหรือร้อยกรองไว้เป็นลำดับ,
                        ปทานุกรม หรือพจนานุกรม. น. หนังสืออธิบายศัพท์เฉพาะเรื่อง

ติช นัทฮันห์ Thich Nhat Hanh แห่งหมู่บ้าน Plum
กระตุ้น ก. หนุน, ค้ำ, ผลักไป; เตือน.
รุจิระ, รุจิรา ว. งาม, สว่าง, รุ่งเรือง, สวย; กะทัดรัด. (ป., ส.).

อนัตตา ว. ไม่ใช่อัตตา, ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน. (ป.).
ประจักษ์ (มค. ปจฺจกฺข; สก. ปฺรตฺยกฺษ) ว. ชัดเจน, แจ่มแจ้ง, แน่นอน.
ประภา น. แสง, แสงสว่าง, แสงไฟ. (ส. ปฺรภา; ป. ปภา).
ตถตา (มค. ตถา = อย่างนั้น) เป็นไปอย่างนั้น

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔


หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 03 ตุลาคม, 2562, 10:34:35 AM
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

@ "ชิต"นามะกีรติประวัติ.........."บุรทัต"ประจักษ์งาม
ฉันท์กานท(ะ)เรืองรุจิระคาม......ผลิอร่ามสยามไทย

@ ชวนชนกวีมุปณิธาน............มะนะสานประเจิดไกล
เชิญเยาวชนปะทุไสว...............พละค้ำกระทำเทอญ



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 สิงหาคม, 2563, 10:33:49 AM

24 ก.ย. วันมหิดล

@ จงพรพระโปรด ธ สุข(ะ)ศานต์.....สิริฉานประโลมไทย
"การแพทย์" ธ ทรงประจุไสว..........มน(ะ)น้อมระลึกคุณ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า
นามปากกา share/toshare ประพันธ์



หัวข้อ: Re: วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 สิงหาคม, 2563, 10:46:32 AM


@ ความ"รัก" เสมือน สุริยะฉาย
รติพราย อร่ามงาม
รักแท้ ละแม้ สิสุข(ะ)ยาม
สละสิ้น สนองชน

@ แท้รัก ประเสริฐ จิต(ะ)กระจ่าง
ชะมล้าง กิเลสตน       
การงาน ปะหนัก พละจะดล
อุปสรรค พินาศพลัน

@ รัก สุทธิธรรม ปะทุสว่าง
ระอุสร้าง สงบครัน
โกรธหลง กิเลส สิมุสะบั้น
มน(ะ)พ้น เพาะตัณหา

@ รักแท้ ประสิท-ธิสุประโยชน์
ละริโฉด อวิชชา
โอบเอื้อ สะพรั่ง ผลิกรุณา
ลุประจักษ์ ณ กาลเทอญ

วสันตดิลกฉันท์๑๔