เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: สนอง เสาทอง ที่ 27 สิงหาคม, 2556, 04:09:50 PM



หัวข้อ: รางสายแสงแรกเบิกอรุณ
เริ่มหัวข้อโดย: สนอง เสาทอง ที่ 27 สิงหาคม, 2556, 04:09:50 PM
รางสายแสงแรกเบิกอรุณ

     รางสายแสงแรกเบิกอรุณ                สายยังมิอุ่น
วิรุณพลัดรุดมาเยือน
     ครืนฟ้าครืนฝนครื้นเตือน                มิเอื่อยช้าเชือน
พร่างฟ้าลมฝนโถมกรู
     ลำนำฟ้าฝนพราวพรู                     มาทักแต่ตรู่
ฟายฝนพรมดินปรกฟ้า
     ร้างส่ำเสียงสกุณา                        หลบอุ่นเอกา
ซุกเนารังอุ่นหญ้าใย
     ลมวกโยกเรือนยอดไม้                 เย้าก้านกิ่งใบ
ไหวไหวพลิ้วเอนลู่โงน
     เอื่อยร่ายอ่อนลมผกโผน                ฟ้าฝนอ่อนโอน
พรำพรำระเรื่อยเฉื่อยล้า
     แผ่วลมผ่อนฝนพรมฟ้า                  พงศ์สกุณา
พลันถลากรีดกรายร่ายรำ
     แจ้วแจ้วส่ำเสียงลำนำ                   เริงรื่นชื่นฉ่ำ
อาบแสงแรกสูรย์รื่นบาน
     กากาอีกาขับขาน                         กระจิบประสาน
เอี้ยงแกลบขับคลอพร้องหมู่
     นกกวักร้องกวักกวักคู่                    นกเขาขานคู
ระงมระงำรับอรุณ
     ฝนซาสูรย์สายปรายอุ่น                 สาดสายละมุน
ไอกรุ่นเรี่ยรายอุ่นดิน
     สร่างแจ้งเบิกฟ้าแจ้งสิ้น                 ถ้วนทุกชีวิน
โลดว่องประเลงชีวี
     อลเวงสับสนอึงมี่                        มิช้ารอรี
รีบเร่งร้อนรนรับวัน
     ไววอกยื้อแย่งแข่งขัน                   เหลี่ยมคูเชิงชั้น
ลับวาวคมกริบเถือเฉือน
     ต่างคนมิช้าแชเชือน                    ระห่ำฟั่นเฟือน
เงิ่นงกทำงานทำเงิน
     ไขว่คว้าไล่ฝันผกเผิน                  ต่างใครต่างเดิน
หนักเหนื่อยหมดเรี่ยวสิ้นแรงฯ


จาก
สนอง เสาทอง, กวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ, กรุงเทพฯ, วิภาษา, 2554


หัวข้อ: Re: รางสายแสงแรกเบิกอรุณ
เริ่มหัวข้อโดย: สนอง เสาทอง ที่ 27 สิงหาคม, 2556, 04:21:06 PM
ดอกดินฝันของชาวดิน

ข้าวเขียวแยงยอดเปรียว
แยงฟ้าอวดเขียว
เขียวหญ้าแยงใบแกมพรม

เถาเลื้อยแย่งแซมประสม
เลื้อยรกเขียวห่ม
พฤกษ์ดินเลื้อยปรุงใจนา

แย่งยืนแพรกดินข้าวหญ้า
แข่งยอดชูฟ้า
แบ่งระบัดระเนนไหว

อ้อแขมเสียดยอดแซมใบ
พงเขียวเสียดไสว
อาศัยเสียดบึงฉ่ำนอง

มวลหมู่สกุณาเริงร้อง
สำเนียงขานพร้อง
รื่นสนาน-คอรัส-สกุณี

นาทุ่งผลัดฝนน้ำดี
ผัดผิวธรณี
พฤกษ์ใบผลัดเขียวปรกทุ่ง

ข้าวเขียวผัดแป้งดินปรุง
ผลัดงามอำรุง
ชาวดินผลัดฝันข้าวรวง

แอบหวังวาดฤดีดวง
หน้าฝนวาดล่วง
ดินฉ่ำวาดชุ่มเจือจุน

วอนเว้าเอกองค์วิรุณ
เมตตาเกื้อหนุน
โปรยฝนฉ่ำอุ้มผืนนา

พอข้าวเฒ่ารวงเต็มตา
ค่อยจรอำลา
เสกฝนห่างหนฟ้าไกล

ข้าวเขียวโบกยอดไหวไหว
โบกรวงหทัย
โบกใจฝันเกี่ยวดอกดิน

บำเรอชุบดอกชีวิน
ดอกหนี้ล้างสิ้น
ดอกดินค้ำชูชีวี

ชาวดินหวังดอกดินดี
หวังประสามี
ผ่านปีไร้หนี้รุงรัง

มิหวังร่ำรวยมากคั่ง
แต่พอประทัง
หาอยู่หากินเลี้ยงตน

มิฉ้อคิดชั่วร้ายฉล
เฉกทุรชน
ปอกปลิ้นเกลือกเสพอาจมฯ

จาก
สนอง เสาทอง, กวีนิพนธ์ อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ, กรุงเทพฯ, วิภาษา, 2554



หัวข้อ: Re: รางสายแสงแรกเบิกอรุณ
เริ่มหัวข้อโดย: สนอง เสาทอง ที่ 27 สิงหาคม, 2556, 04:26:49 PM
วิมานรังหนู
(มิขังขึงไฟสรรค์ศิลป์)

วิมานรังหนูรกเรื้อ
อยู่พอเหลือเฟือ
ล้นเกินใช้สอยถ้วนสิ่ง

หลบนอนเลื้อยกายพักพิง
เอมใจอุ่นอิง
หนักเหนื่อยการใดปลดปลง

ร้ายสิ่งมิค้างคาคง
เก็บมาพะวง
พลุ่งจิตคลุ้งใจเร้ารุม

สงบใจนิ่งกายสุขุม
มิเอาร้ายสุม
ทบกลุ้มอัตตาทับถม

ขึ้งเครียดการใดรุกรม
มิเก็บพันห่ม
มุ่นหมกให้ใจโศกหมอง

วิมานรังหนูหับห้อง
ใช่เขื่องคับข้อง
บ่มใจเลี้ยงกายยินดี

บุราณท่านว่าคับที่
สุขล้นมากมี
คับใจมิอาจทานทน

ใดร้ายมิหอบเชยปรน
ทิ้งขว้างข้างหน
มิเก็บสุมถมรกรัง

การใดร้ายหนักระวัง
มินำประดัง
กอดเกยเผาไหม้มานทรวง

ห้องน้อยดุจพิมานสรวง
โศกทุกข์ทั้งปวง
ผ่ายผ่อนออกนอกรังนอน

มิพร่ำเสพดื่มนิวรณ์
อุ่นต่างอาภรณ์
กรอกหลอนวิญญาณอารมณ์

คำใครร้ายใดเขื่องข่ม
มิหลงจ่อมจม
เก็บหอบพันห่มฤดี

ใคร่ครวญใดร้ายใดดี
ละเมียดถ้วนถี่
จำจดเลือกสรรบำเรอ

ใช่เปลือกลมแล้งฝันเพ้อ
บ้าใบ้ละเมอ
มายาลวงหลอกสาไถย

ห้องน้อยมิขังขึงใจ
อีกคับข้องใฝ่
กุลีบรรณเจตนาจินต์

ไฟฝันปั้นเสกเพ็ญศิลป์
รังสรรค์ถ้วนสิ้น
แต่ห้องเรื้อรกรังหนูฯ

จาก
สนอง เสาทอง, กวีนิพนธ์, อุ่นลมรัก พัดคืนหวน มาอุ่นใจ, วิภาษา, กรุงเทพฯ, 2554