เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

...สูรย์ร้อน โรจน์ไร้ เหิมเกริม......เผาผลาญ พลังเติม
เสริมสร้าง ชีวี โลกา

...มิใฝ่ ไยดี วาจา...................ยกย่อง นินทา
อุเบกขา แบบอย่าง ผู้คน

...ยังประโยชน์ ถ้วนทั่ว ชั้นชน.....ผิวสี รวยจน
รับผล ไป่เว้น วันคืน

สอนแบบแผนวิธีการเขียนด้วยได้ไหมคะ

ขอบคุณครับที่สนใจ

หลังจากหัดแต่ง ร่ายยาว แล้ว
ร้อยกรองที่อยากให้ฝึกฝนคือ กาพย์ฉบัง ๑๖
ทำนองเดียวกันกับ ร่ายยาว กาพย์นี้มีกฎเกณฑ์น้อย
(แต่แต่งให้ไพเราะ ไม่ง่ายนัก) คือ

บทหนึ่งมี ๓ วรรค แต่ละวรรคอ่านทีละ ๒  ดังนี้

* XX  XX  XN.........XX  XN.........XX  XX  XU

* YY  YY  YU.........YY  YU..........YY  YY  YY

N คือ สัมผัสในบท
U คือ สัมผัสระหว่างบท แต่จะบังคับให้ สัมผัสในบท ไปด้วย

ตัวอย่าง
* แว่วแว่ว แผ่วเสียง ถามไถ่.....จากกาล นานไกล.....ถามใจ ถามเรา เยาวชน
* ท่านถาม ถามไย ให้ฉงน.......ถามแห่ง ถามหน......เหล่าเรา ดั้นด้น ดาวไหน

วรรคหน้า และหลัง ซึ่งมึ ๖ พยางค์ บางครั้งเพื่อความเข้าใจในเนื้อหา
อาจอ่านแบบ ทีละ ๓ ก็ได้
อย่างตัวอย่างล่าง หากอ่าน ธรรมพิ  สิฐพิ  สุทธิ์เผย จะไม่เข้าใจ

* ธรรมพิสิฐ พิสุทธิ์เผย..........อันใด อ้างเอ่ย.............อัปลักษณ์ พิกล พิการ
* ราคะ ตัณหา เผาผลาญ.......โลภหลง โกรธพาล.......สามานย์ อัปลักษณ์ แท้จริง

สังเกต : เราอาจเพิ่มความไพเราะได้ด้วยการ เพิ่มสัมผัส
โดยส่งสัมผัสคำท้ายวรรค ๒ แล้วไปรับสัมผัสคำที่ 2 หรือ 4 ของวรรค ๓
จากตัวอย่าง คือ พาล กับ สามานย์

ขอบพระคุณค่ะ
สิริวตี
 :14:

(ขอต่อกลอนกับบทของพี่ด้านบนนะคะ)

สร้างทางเวรกรรมนำฝืน    ชอกช้ำกล้ำกลืน
เพิ่งตื่นดังรู้นิทรา

ขอนำกรรมดลยลหา   ดีใดจะมา
แก้ขัดสลัดปัดไป

เมื่อยามสิ้นอายุขัย  สวรรคาลัย
ฝักใฝ่อยู่ในวิมาน

เร่งสร้างทางบุญจุนสถาน   ศีลภาวนาทาน
เป็นช่องทางการค้ำจุน

ขอเหล่ามนุษย์ผู้บุญ  อย่าห่างร้างทุน
ผลหนุนเนืองท่านนานเอย

....กาพย์ฉบัง ฟังเสนาะ เพราะพริ้ง...........เสนอแนะ ยึดอิง
จังหวะ จะโคน โดนใจ

....สรรคำ กระชับ ฉับไว.......................สำเนียง เสียงใส
เนื้อหา สาระ ครบครัน

ขอบคุณเอื้อเฟื้อเกื้ออัน-      มอบความรู้นั้น
แถลงยังแจ้งฤทัย

ฉบังงดงามแค่ไหน     ช่างบันเทิงใจ
พี่ให้ได้เล่นต่อคำ

ร่ายฉันท์โคลงกาพย์ตราบจำ   ทุกวารฉนำ
บันทึกลึกลงวิชา

เช่นเรียนในคาบภาษา   ลิขิตปริญญา
กับทางเวบอารมณ์กลอน

ขอท่านอย่าด่วนร้างรอน  คอยชักหลักสอน
หน้าบ้านในบ้านนั้นแล

สิริวตี