เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 09 กันยายน, 2559, 05:47:26 AM



หัวข้อ: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 09 กันยายน, 2559, 05:47:26 AM



รัก...ในพรหมวิหารธรรม

จะคิดรัก อย่างไร จึ่งไม่ทุกข์
ใจมีสุข สว่าง อย่างสร้างสรรค์
พรหมวิหาร สี่ครอง มิหมองพลัน
ทุกวารวัน เริงรื่น ฉ่ำชื่นบาน

รักด้วยเมตตาจิต คิดจะให้
รักด้วยใจ เจตน์จง คิดสงสาร
รักมิได้ หวังครอง หรือต้องการ
รักเฉกนี้ ยืนนาน สานสุขใจ

กรุณา เอื้อเฟื้อ ทุกเมื่อมั่น
ตอบแทนกัน ปรานี มิหนีไหน
มุทิตา ยินดี ยามมีชัย
เติมหทัย เปี่ยมล้น กมลงาม

อุเบกขา พาตน พ้นหมองหมาง
ยามจืดจาง วางจิต พิศขื่นขาม
สิ่งมิสม ฤดี ให้ตีความ
ปล่อยไปตาม ยถากรรม ด้วยธรรมพรหม

Soul Searcher
Inspired to write 9/9/2016




หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 09 กันยายน, 2559, 04:11:14 PM
หากมีรักดับเข้าไว้ไม่เป็นทุกข์
เพราะติดสุขนานเกินเพลินติดหล่ม
รักคือกามกิเลสสังเวชตรม
ดังอาจมร้อยเจ็บเกินเจ็บใจ

พรหมวิหารสี่ข้อน่าตรองนึก
จะลองฝึกทำดูอาจรู้ได้
เผื่อชาตินี้เจอรักปักทรวงใน
ก็ขอให้รักดังพรหมกอดห่มทรวง

สิริวตี



หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ไชยเชษฐ์ ที่ 11 กันยายน, 2559, 05:41:38 AM
มีเมตตากรุณาอารีตอบ
และใจมอบมุทิตาอย่าหึงหวง
อุเบกขาเมื่อผิดหวังสิ่งทั้งปวง
ย่อมลุล่วงถึงธรรมน้อมนำใจ

พรหมวิหารสี่ข้อขอส่งเสริม
มาเพิ่มเติมชีวิตจิตสดใส
เพื่อความรักมั่นคงยืนยงไป
ยอมรับได้แม้หากต้องจากกัน

ไชยเชษฐ์


หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 11 กันยายน, 2559, 06:04:35 AM
เมื่อเกิดมามีพบจบที่พราก
ก็ไม่ยากจิตใจมิไหวหวั่น
พรหมวิหารรู้ตัวทุกชั่ววัน
ก็สุขสันต์ไร้เศร้านั่งเหงาทรวง

เอาเมตตามาน้อมใช้พร้อมรัก
กรุณาเชิญชักให้เราห่วง
มุทิตายินดีปรีดาปวง
อุเบกขานั้นล่วงให้วางตาม

หากเมื่อพรากจากกันวันนี้แล้ว
ยังผ่องแผ้วยิ้มได้ไม่ต้องถาม
มีความสุขกายใจในทุกยาม
จิตพิรามผ่องประภัสสร์สวัสดี

สิริวตี


หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 กันยายน, 2559, 10:44:33 AM

หากจิตปลง คงมั่น มิหวั่นไหว
ห้วงหทัย หนักแน่น น้อมแก่นศรี
แม้คลื่นลม ถมทับ นับทวี
จักฤดี ผ่านพ้น หม่นฟ้าพาล

เติมพลัง จากใจ ใสพิสุทธิ์
แม้มิหยุด ข้องขัด วัฏสังสาร
หากมิต้อง โดดเดี่ยว เปลี่ยววิญญาณ
จะเนิ่นนาน เพียงไหน ไม่คร้ามครัน

ให้ดำเนิน เดินไป ไกลสุดหล้า
ให้ฟันฝ่า อุปสรรค พิทักษ์ฝัน
ให้ก้าวถึง จุดหมาย ปลายทางทัน
ชื่นชีวัน สุขสม อารมณ์ปอง

Soul Searcher
Inspired to write 11/9/2016



หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 13 กันยายน, 2559, 09:41:34 AM
:30:

แม้จิตปลงลงแล้วมิแคล้วคลาด
พิศวาสวาดไว้ไม่สมสอง
ขออยู่เดียวเดี่ยวโดดโปรดอย่ามอง
ว่าตัวน้องงี้เง้าเต่าล้านปี

เติมพลังครั้งใหม่ใส่เต็มร้อย
แล้วเฝ้าคอยรอวันมิหันหนี
สุขภาพดูแลเป็นอย่างดี
โอกาสมีมาถึงอย่าพึ่งท้อ

จะดำเนินเดินไปด้วยใจมั่น
จะมิหวั่นขวากหนามต้องตามต่อ
จะดั้นด้นค้นหามาพนอ
จะคอยรอขอเพียงเคียงคู่กัน

วิริน
๑๓/๙/๕๙

 :30:


หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 24 กันยายน, 2559, 05:35:46 PM

หากจิตปลง คงมั่น มิหวั่นไหว
ห้วงหทัย หนักแน่น น้อมแก่นศรี
แม้คลื่นลม ถมทับ นับทวี
จักฤดี ผ่านพ้น หม่นฟ้าพาล

เติมพลัง จากใจ ใสพิสุทธิ์
แม้มิหยุด ข้องขัด วัฏสังสาร
หากมิต้อง โดดเดี่ยว เปลี่ยววิญญาณ
จะเนิ่นนาน เพียงไหน ไม่คร้ามครัน

ให้ดำเนิน เดินไป ไกลสุดหล้า
ให้ฟันฝ่า อุปสรรค พิทักษ์ฝัน
ให้ก้าวถึง จุดหมาย ปลายทางทัน
ชื่นชีวัน สุขสม อารมณ์ปอง

Soul Searcher
Inspired to write 11/9/2016



จิตมิปลงคงมิมั่นยังหวั่นไหว
เพราะข้างในยังรออยู่เป็นคู่สอง
ก้าวมิถึงสุขมิสมอารมณ์ครอง
น้ำตานองมากมายโอ้ใจเรา

พระพรหมแกล้งหยอกล้อต่อกรรมใด
แสนอาลัยมากมายจนหน่ายเศร้า
มอบความรักภักดีนี้เป็นเงา
เนิ่นนานเนาแม้เจ็บไม่เก็บคืน

จะอยู่แหล่งแห่งใด ณ ใต้หล้า
จะขอฝ่าฟ้าพรหมแม้ขมขื่น
ด้วยความรักหยัดยงดำรงยืน
มิมีวันเป็นอื่นชื่นรักเอย

สิริวตี



หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ไชยเชษฐ์ ที่ 24 กันยายน, 2559, 06:21:38 PM
รักในพรหมวิหารธรรมงามล้ำค่า
รู้รักษากายใจใฝ่เฉลย
ดำรงตามความดีที่คุ้นเคย
ไม่ละเลยศีลธรรมน้อมนำทาง

จะทำให้สงบพบความสุข
พ้นความทุกข์หากมิสมอารมณ์บ้าง
อยู่ครองเรือนครองรักไปไม่จืดจาง
ทุกทุกอย่างมั่นคงและลงตัว

ไชยเชษฐ์


หัวข้อ: Re: รัก...ในพรหมวิหารธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 24 กันยายน, 2559, 09:18:59 PM
น้อมศีลธรรมนำสร้างทางไสว
มีรักให้ดีงามมิทรามชั่ว
พรหมวิหารถูกต้องมิหมองมัว
จึงไม่กลัวบาปกรรมย่ำนรก

ขอใจซื่อถือสัตย์มิพลัดหลง
สวรรค์คงเห็นงามยามดวงตก
จึงยังมีแรงฝันวันระทก
หมดตระหนกเคราะห์กรรมคราซ้ำเติม

สิริวตี