เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: พันคม ที่ 19 มกราคม, 2560, 05:34:03 PM



หัวข้อ: .๐..คนละมุม..๐.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 19 มกราคม, 2560, 05:34:03 PM
(http://3.bp.blogspot.com/-cn6NKJrXUHg/UHQdD-zq0cI/AAAAAAAAABA/y4thLn4QSjQ/s1600/576118_500178756664199_1920207311_n.jpg)

.๐..คนละมุม..๐.
.
ยืนคนเดียวในท่ามความสลัว
แสงสว่างส่องทั่วทุกท้องถิ่น
ดาวเดือนเคลื่อนไปมากับเมฆินทร์
เสียงเฮ-โห่ให้ยิน..ดังเย้วย้ำ
.
รับรู้สึกอึกทึกผู้ฮึกเหิม
เข้ามาเติมแสงสลัวในคืนค่ำ
ของหัวใจจำเจเป็นประจำ
กับสีดำที่ดาษดาในอารมณ์
.
ตากระทบแสงวาบเมื่อพลุวาว
เห็นสกาวเสียงปังก็ดังขรม
เหม่อมองเพ่งสายตาเพื่อหาชม
เสียงระงมเข้าหูผู้วังเวง
.
ในซอกหลืบแสงสีที่ส่องหล้า
นั่งเหว่ว้ากับอารมณ์ที่ข่มเหง
ต้องหัวเราะกับโลกที่ละเลง-
ความครื้นเครงมาให้แต่ไม่รับ
.
ไม่รู้สึกรู้สากับสนุก
เสียงเฮฮามาปลุกให้ขยับ
ตาหูยินและเห็นครั้งไม่นับ
แต่มันคล้ายหายวับเป็นเวิ้งว้าง
.
เป็นมุมอีกมุมหนึ่งซึ่งต้องมี
แทรกในสีสุขสันต์ที่คนสร้าง
เป็นดั่งหมู่เมฆหมอกที่คอยม้าง
ความสว่างสดใสให้หมองมัว
.
และอีกมุมของสลัวที่มัวหม่น
อาจอยู่ในใจคนทุกคนทั่ว
แสร้งสำนึกสุขนักให้มานัว
แท้ซ่อนตัวเหว่ว้ามิเว้นวาย
.
แต่ละมุมสุมซ่อนตะกอนแฝง
ด้วยเสแสร้งสุขเศร้าเป็นเงาฉาย
ผ่านฟิล์มของจริตเป็นลวดลาย
ที่สุดท้ายก็ไม่มีแม้ตัวเรา
.
.๐..พันคม..๐.



หัวข้อ: Re: .๐..คนละมุม..๐.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 21 มกราคม, 2560, 08:59:52 AM
ต่างมุมมองสองตาหารู้ไม่
ลึกหลืบในวิศิษฏ์ชิดเฉลา
แฝงไว้ซึ่งทุกข์โศกวิโยคเนา
เพียงพรางเงาบังร่างสร้างแสดง

สิ่งที่เห็นแค่เปลือกเลือกดูเด่น
ปิดซ่อนเร้นซุกในใจแสลง
โชว์เพียงภาพหรูหราราคาแพง
คลุมเคลือบแคลงมิเห็นเป็นเช่นไร

หญ้าบ้านอื่นเขียวกว่าว่าแน่หรือ
จึ่งยึดถือความคิดจิตวิสัย
จริตคนนั้นหนาว่าไปไย
ของอื่นไกลมีค่ากว่าของตัว

ทุกชีวีมีสุขคลุกเคล้าโขลก
กับวิโยคขุ่นข้องหมองสลัว
เมฆหมอกดำถมึงทึงสะพรึงกลัว
เกิดมืดมัวหมองจิตคิดกังวล

สรรพสิ่งเกิดไซร้ใช่ไร้เหตุ
ทุกอาเภทอาดูรที่พูนผล
หากตรองตรึกลึกในฤทัยดล
จักคว้าค้นสัจจาค่าอนันต์

อันความทุกข์หลายหลากเกิดจากคิด
หากพินิจพิศพร่างปล่อยวางขันธ์
จักบรรเทาร้อนรุ่มสุมทรวงครัน
คลายโศกศัลย์สงบพบสุขเอง



ทุกข์โศกวิโยคท้น              กายใจ
สติพิจารณ์ใด                     เท่านี้
หมกมุ่นครุ่นไฉน                 เหินห่าง
วางคิดปลิดปล่อยรี้             ผ่านเพี้ยงรำพัน

Soul Searcher
Inspired to write 21/1/2017

ป.ล. "หญ้าบ้านอื่นเขียวกว่า..."
ยืมสำนวน ภาษาอังกฤษมาใช้
"The grass is always greener on the other side of the fence."
ความหมาย คือคนเราไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี
คอยจะมองเห็นชีวิตคนอื่นนั้นสุขสบายกว่า
ซึ่งในความเป็นจริงก็อาจมิใช่เป็นเช่นนั้น เพราะคนอื่น
ก็มีปัญหาชีวิตเช่นกัน เพียงอาจแค่ต่างประเด็นกัน
แค่นั้นเอง...



หัวข้อ: Re: .๐..คนละมุม..๐.
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 21 มกราคม, 2560, 10:09:47 AM
ตากระทบแสงวาบเมื่อเปลี่ยนแว่น
มองดินแดนสีเขียวว่าสุขสันต์
กระจกเปลี่ยนสีขาวเหมือนหนาวครัน
มองโลกนั้นจืดชืดและเชื่องช้า

ปรับเปลี่ยนเลนส์สีแดงดังเพลิงไหม้
กระทบใจผู้มองเข่นเคืองฆ่า
หวังให้เลนส์สีเหลืองเรืองปัญญา
กระทบเข้าในตาว่าพอดี

แต่มิอาจถูกใจได้ทั้งหมด
มันปรากฏเกินไปน้อยไปนี่
ลองใช้แว่นใสเก่าเราเคยมี
กลับรู้ค่าวลีที่เพียงพอ

หญ้าบ้านอื่นอาจสวยและงามเด่น
เพราะน้ำ-ดิน-ปุ๋ยเช่นตัวอย่างขอ
เพราะอากาศเพราะแสงแดดแต่งต้นตอ
งามละออที่เขียวอีกด้วยพันธุ์

อนึ่งดังเจ้าของอย่ามองข้าม
แม้หญ้าท่านมิงามอย่าหยามหยัน
บำรุงดินบำรุงน้ำใส่ปุ๋ยครัน
หญ้าหย่อมนั้นจะเจริญเกินใจคิด

แต่หากได้พันธุ์หญ้าว่าเลวแล้ว
จะบำรุงให้แผ้วก็ไร้สิทธิ์
คงจะต้องเป็นกรรมนำประชิด
เกินลิขิตเปลี่ยนพันธุ์หญ้าชั้นเลว

เปรียบเปลวไฟแห่งข้อ       ธรรมา
มิใช่แกล้งเขียนครา           หยอกเย้า
จริตแห่งวิชา                      บังเกิด        
ประเสริฐแนะนำเข้า          ทั่วทั้งชีพผอง

สิริวตี






หัวข้อ: Re: .๐..คนละมุม..๐.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 24 มกราคม, 2560, 10:19:20 PM

...๐๐๐…ลวงตา...๐๐๐...
.
สองมือกระพุ่มไหว้......ว่างาม
ถือมีดคอยคุกคาม.......ว่าร้าย
หากถางกิ่งหรือหนาม...ว่าเก่ง
ผลต่างในความคล้าย....แค่แสร้งกริยา

สิ่งที่เห็นอาจมิเป็นเช่นที่คิด
ความถูกผิดอาจมิใช่ที่ใฝ่หา
สรรพสิ่งทั้งปวงแค่ลวงตา
จึงไขว่คว้าตามจริตที่บิดเบือน
.
เช่นแสงสีจัดสรรให้สวยสะ
แล้วให้กระทบกับการขับเคลื่อน
ของสัมผัสแห่งจิตคอยติดเตือน
ให้แชเชือนชิงชังหรือคลั่งไคล้
.
ว่ารูปสวยหรือทรามตามสำนึก
ต่างรู้สึกชมชอบฤามิใช่
หากส่วนรวมสวมสิทธิ์ตามจิตใด
หรือจริตมิผิดไปจากความจริง
.
อาจเห็นถูกเป็นผิดตามจิตบอก
โลกก็จึงลวงหลอกและกลอกกลิ้ง
สวมหน้ากากใส่กันขยันจริง
ความยุ่งขิงจึงมิคลายไปจากคน
.
แสร้งสำอางสร้างองค์ดั่งวงศ์อินทร์
หลากลมลิ้นลวงไล้เกินถอยร่น
แต่สีทองฉาบทาไม่ทานทน
พอล่วงหล่นหลุดลอกพลันออกลาย
.
เผยด่างดำให้ดูจึงรู้ด้อย
พอลายพร้อยเปิดเผยก็แพ้พ่าย
ต้องกลบเกลื่อนกลากเกลื้อนด้วยพอกกาย
เอาโคลนแปะปาดป้ายให้ลายแปร
.
หวังกระชากลากตนให้พ้นต่ำ
ปิดผิวดำด่างดวงเช่นดักแด้
ไม่ยอมรับว่าลายหมายน่าแล
ผู้กลัวแผลแพร่เผยก็เลยพาล
.
พอยิ่งพอกปิดแผลยิ่งแพร่เผย
คนจึงเยาะหยันเย้ยทุกหย่อมย่าน
ถูกเขาเทียบเทียมทันเช่นจัณฑาล
คนกล่าวขานแถลงไขตามใจคิด
.
สิ่งที่ใครเขาเห็นเช่นเขาเห็น
เราควรอยู่อย่างเป็นไม่ปกปิด
เห็นกับเป็นเช่นฉะนี้แหละชีวิต
ต่างล้วนทำตามจริตที่ติดตัว
.
.๐..พันคม..๐.

BXSxSXKQCl8?fs&hl=th_TH&autoplay=1


หัวข้อ: Re: .๐..คนละมุม..๐.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 26 มกราคม, 2560, 10:19:02 AM


เจตนาบอกสิ้น           เหตุนำ
บริบทน้อมทำ            เหตุสร้าง
มืดมัวสลัวดำ            ในจิต
บริสุทธิ์ใดอ้าง           หากแท้หวังผล

สรรพสิ่งวาบไหวใดสัมผัส
เพียงผ่านถัดหูตาพร่าสลัว
เกิดตีความตามเลศกิเลศมัว
ต่างดีชั่วต่างคิดต่างจิตใจ

Soul Searcher
Inspired to write 26/1/2016


315Ubn3VFvI