เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน => คุยได้ทุกเรื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 26 มิถุนายน, 2560, 04:58:52 PM



หัวข้อ: ***...สมุนไพรไทย...?
เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 26 มิถุนายน, 2560, 04:58:52 PM
(http://upic.me/i/kf/caranda-3.jpg)

มะม่วงหาวมะนาวโห่
สรรพคุณของมะม่วงหาวมะนาวโห่
1.มะม่วงหาวมะนาวโห่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอย (ผล)
2.ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง (แก่น)
3.มะม่วงหาวมะนาวโห่ สรรพคุณแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า (เนื้อไม้)
4.เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย (ผล)
5.ช่วยให้เจริญอาหาร (ราก)
6.มีส่วนช่วยลดความอ้วน (ผล)
7.ช่วยขยายหลอดเลือดป้องกันการเกิดโรคหัวใจ (ผล)
8.มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง (ผล)
9.ธาตุเหล็กในผลมีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวาน (ผล)
10.มีส่วนช่วยรักษาโรคโลหิตจาง (ผล)
11.ช่วยรักษาโรคปอด (ผล)
12.ช่วยรักษาโรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ได้ดีมาก (ผล)
13.ช่วยรักษาโรคไต (ผล)
14.บรรเทาอาการของโรคตับ อย่างโรคตับแข็ง (ผล)
15.ช่วยรักษาโรคเกาต์ (ผล)
16.ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคไทรอยด์ (ผล)
17.ช่วยป้องกันโรคไหลตาย (ผล)
18.ในบังคลาเทศใช้ใบรักษาโรคลมชัก (ใบ)
19.มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มือเท้าชา (ผล)
20.ช่วยบำรุงกำลัง (เนื้อไม้)
21.ช่วยบำรุงธาตุ (ราก, แก่น, เนื้อไม้)
22.ช่วยบำรุงไขมันในร่างกาย (แก่น, เนื้อไม้)
23.ช่วยแก้ไข้ รวมถึงไข้มาลาเลีย (ราก, ใบ)
24.ช่วยดับพิษร้อน (ราก)
25.ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ (ผล)
26.ช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ (ผล)
27.ช่วยขับเสมหะ (ผล)
28.มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ไมเกรน
29.แก้อาการเจ็บคอ เจ็บในปาก (ใบ)
30.แก้อาการปวดหู (ใบ)
31.ช่วยรักษาลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟัน สมานแผลในช่องปาก (ผล)
32.ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร (ราก)
33.แก้อาการท้องเสีย (ใบ)
34.มะม่วงหาวมะนาวโห่ช่วยรักษาโรคบิด (ใบ)
35.ช่วยขับปัสสาวะ (ผล)
36.ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)
37.ช่วยขับพยาธิ (ราก)
38.ช่วยรักษาโรคเท้าช้าง (น้ำยาง)
39.ช่วยฆ่าเชื้อ (ผล)
40.ผลสุกใช้ในการสมานแผล (ผล, ยาง)
41.ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง (เปลือกต้น)
42.ช่วยแก้อาการคัน (ราก)
43.ในอินเดียใช้รากเพื่อรักษาแผลเบาหวาน (ราก)
44.แก้กลากเกลื้อน (เมล็ด, น้ำยาง)
45.แก้อาการเนื้อหนังชาในโรคเรื้อน (เมล็ด)
46.ช่วยรักษาแผลเนื้องอก (น้ำยาง)
47.ช่วยรักษาหูด (น้ำยาง)
48.ช่วยทำลายตาปลาและช่วยกัดทำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต (น้ำยาง)
49.ใช้พอกดับพิษ (ผล)
50.ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามข้อ (ผล)
51.น้ำของผลสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารแทนมะนาวได้
52.ใช้ทำเป็นผลไม้หมักดอง
53.นำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ผัดไทยเต้าหู้มะนาวโห่ น้ำพริกเผามะนาวโห่ ฟรุ้ตตี้ลืมหาว เป็นต้น

 :aab15:
แหล่งอ้างอิงคลิก  (https://medthai.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88/)


(http://upic.me/i/77/fsasi.jpg)

นี่ศิยืนยันว่าทานอยู่ค่ะ
นำมาล้างน้ำแล้วโรยเกลือ น้ำตาลทิ้งไว้สักพัก
หูย ย ย ย จุ๊ จุ๊ จุ๊ :21:


หัวข้อ: Re: ***...สมุนไพรไทย...?
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 26 มิถุนายน, 2560, 07:14:43 PM

โห...เจอกระทู้ดีมีสาระ เล่นเอาเกรียนไม่ออกเลย...แหะแหะ
ขอบพระคุณ คุณแม่บ้านมากครับ...

เป็นประโยชน์สำหรับคนโรคมาก เช่นกระผม
เหมือนจะรักษาได้เกือบทุกโรคเลยนะครับ

แต่ถ้าจะให้ดี แก้โรคทรัพย์จางได้อีกโรค
นี่จะเรี่ยมเลย...หึหึ

Soul :32:



หัวข้อ: Re: ***...สมุนไพรไทย...?
เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 27 มิถุนายน, 2560, 05:55:57 AM
อืม ม ม  ม
ก้อ...คงแก่น่ะเนาะ :21:
ทะเลาะกะสองเฒ่าเหนื่อยเลยต้องหาไรโดปบำรุงหัวจายยยยย :12:



(http://www.bloggang.com/data/f/fasaiwonmai/picture/1340290887.jpg)(http://i01.i.aliimg.com/img/pb/873/974/749/749974873_656.jpg)

ผลโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้)

ต้นกำเนิดของโกจิเบอรี่ มาจากจีนแต่ก็หาซื้อได้ไม่ยากนัก

สรรพคุณ และ ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ได้แก่
   1. ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด (ปกติมี 20 ชนิด) แต่มีกรดอะมิโนครบทั้ง 9 ชนิด
   2. มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องกายในปริมาณน้อย รวม 21 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง
แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม ฯลฯ
   3. มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า (เป็นพืชที่มีวิตามินิซีสูงเป็นอันดับสอง รองจาก คามู คามูเบอร์รี่)
   4. มีวิตามิน บี1 บี2 บี6 และวิตามินอี
   5. มีสารโพลี่แซคคาไรด์ 4 ชนิด : LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4      - ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลดี      - ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ      - ช่วยให้น้ำตาลในเลือด และอินซูลินอยู่ในสภาวะสมดุล      - ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน      - ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้สู่ปกติได้เร็วขึ้น
   6. มีสารเจอร์มาเนี่ยม Germanium : Ge ที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ (organic) ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง
   7. มีสารซิแซนทิน(Zeaxanthin) มีสูงถึง162 มก./100 กรัมสูงกว่าสาหร่ายเกลียวทองประมาณ 5 เท่า       - ช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา       - ช่วยผู้มีอาการ ต้อลม ตาพร่า ตามัว ให้คืนสู่สภาพปกติ
   8. เบต้า - ไซโตสเตอรอล (Beta - sitosterol)       - ช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยการดูดซึมที่ลำไส้       - ช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโต       - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพน้ำอสุจิให้แข็งแรง
   9. ไซเพอโรน (Cyperone) ช่วยให้หัวใจและความดันทำงานได้ปกติ
  10. ไฟซาลิน (Physalin) ช่วยกำจัดโรคร้าย ลิวคีเมีย (Leukemia)
  11. บีรเทน (Betaine) เป็นสารประกอบที่ให้ตับใช้ ผลิตโคลีนซึ่งเป็นสารประกอบที่        - ช่วยให้มีความจำดี        - ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโต        - ช่วยป้องกันโรคตับ
  12. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้อื่นๆ คือ มีค่า ORAC สูง 25,300 unite
       จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นคุณสามารถดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) เพื่อรักษาและป้องกันอาการต่างๆ ได้ เพราะน้ำโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ก็คือ น้ำผลไม้ไม่ใช่ยา ไม่มีผลข้างเคียง ชาวจีนใช้กันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 3,000 ปี
 :aab15:
 แหล่งที่มาคลิก (http://guru.sanook.com/6611/)
 
 


หัวข้อ: Re: ***...สมุนไพรไทย...?
เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 01 กรกฎาคม, 2560, 07:15:37 AM
(http://4.bp.blogspot.com/-42CoCQLKeQw/Uw7WAusvsKI/AAAAAAAAOMc/GERjVOhXdXE/s1600/hairybasil1.jpg)(http://upic.me/i/jn/lzodk.jpg)
ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก
1.เม็ดแมงลัก ลดความอ้วน เพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ มีสรรพคุณในการเปลี่ยนคอเลสเตอรอลไปเป็นกรดน้ำดี และยังช่วยเพิ่มการขับออกของกรดน้ำดีด้วย ซึ่งจะไปลดเฉพาะคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) แต่ไม่มีผลใด ๆ กับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
2.เม็ดแมงลัก ลดน้ําหนัก ตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องควบคุมน้ำหนักและความอ้วน เนื่องจากเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน และมันสามารถพองตัวได้มากถึง 45 เท่า ! เมื่อนำมารับประทานเป็นอาหาร (ควรรับประทานแค่บางมื้อต่อวัน เพื่อป้องกันโรคขาดสารอาหาร) หรือจะรับประทานก่อนอาหารเพื่อทำให้กระเพาะไม่ว่างและรู้สึกอิ่มเป็นการช่วยควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานไปด้วยเป็นอย่างดี สำหรับวิธีชงเม็ดแมงลักก็คือใช้เม็ดแมงลักประมาณ 2 ช้อนชานำมาแช่น้ำ 1 แก้วใหญ่ทิ้งไว้จนพองตัวเต็ม นำมาผสมกับน้ำร้อน 1 แก้วแล้วนำมารับประทาน (หรือจะผสมกับน้ำผึ้ง น้ำสมุนไพร หรือนมก็ได้)
3.ประโยชน์เม็ดแมงลัก เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย
4.เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะช่วยทำให้การดูดซึมของน้ำตาลลดลง เนื่องจากเม็ดแมงลักทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลงอยู่แล้ว
5.เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่รับประทานง่าย กลืนง่าย ลื่นคอ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยรับประทานอาหารที่มีกากใยอย่างพวก ผักผลไม้
6.ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติและมีประสิทธิภาพ ขับถ่ายสะดวก
7.เม็ดแมงลัก สรรพคุณล้างลำไส้ ช่วยดีท็อกซ์แก้ปัญหาอุจจาระตกค้าง ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย มีพยาธิ ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ระบบดูดซึมเสีย และขับถ่ายไม่เป็นเวลา (ช่วงเช้า 05.00 – 07.00 น.)
8.เม็ดแมงลักสรรพคุณใบแมงลักช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะได้
9.ใบแมงลักมีสรรพคุณในการช่วยขับเหงื่อ
10.แมงลัก สรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ด้วยการใช้ใบสดมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วรับประทาน
11.ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้
12.ประโยชน์ของแมงลักใช้เป็นยาระบาย กระตุ้นการขับถ่ายให้ดีขึ้น โดยการรับประทานเม็ดแมงลักก่อนเข้านอน
13.ใบแมงลักต้มกับน้ำดื่มเป็นประจำช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้หรือทางเดินอาหารได้
14.ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้
15.รักษาโรคกลากเกลื้อนด้วยการใช้ใบสดประมาณ 10 ใบ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาตำผสมน้ำเล็กน้อย แล้วทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนวันละ 1 ครั้งประมาณ 1-2 สัปดาห์อาการจะดีขึ้น
 :aab15:
แหล่งอ้างอิงคลิก (https://medthai.com/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81/)