เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: วลีลักษณา ที่ 07 มกราคม, 2561, 10:21:33 AM



หัวข้อ: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 07 มกราคม, 2561, 10:21:33 AM
๐ หนาว-ร้อน-ฝน วนผันตามวันผ่าน
กลางห้วงกาลเคล้าสุขคละทุกข์เข็ญ
รุกถาโถมกระหน่ำสุดลำเค็ญ
ความ..มี-เป็น..เต้นยั่วทุกตัวตน

๐ สนยืนต้นเสียดยอดอยู่พลอดหาว
ผ่านร้อนหนาวผลัดช่วงใบร่วงหล่น
แล้วระบัดเรียวริ้วพลิ้วลม,วน-
เวียนอยู่บนสายธารกาลเวลา

๐ ม่านน้ำฝนหลั่งรินโลมดินแห้ง
ครั้งร้อนแล้งห้อมหาวโอบราวป่า
สิ้นมาลีคลี่บานละลานตา
ต่างร่วงลาลงดื่นทั้งผืนดิน

๐ สนยืนต้นหม่นเหงาผ่านเช้าค่ำ
สายลมร่ำฝนร่วงจากสรวงถิ่น
ภายใต้เปลือกเย็นฉ่ำหยาดน้ำริน
กลไกแห่งชีวินยังดิ้นรน

๐ อ้อมกอดเวิ้งฟ้ากว้างในต่างที่
ผลัดเปลี่ยนสีรุ้งรวงแต่งห้วงหน
ฟากฝั่งดินหมุนเวียนผันเปลี่ยนวน
พาพานพบ..พรากพ้น..ผ่าน..ต้น-ปลาย

๐ นั่นเรียวใบร่อนคว้างออกห่างลับ
รอแหลกดับกับดินสิ้นสลาย
ริ้วอารมณ์เรื่อรุ้งอันพุ่งพราย
ก็คลับคล้ายคล้อยเคลื่อนแล้วเลือนรอย

๐ สะท้านกิ่งก้านใบในลมร่ำ
ผ่านคืนค่ำหม่นเทาอันเหงาหงอย
เบื้องบนนั้นจันทร์เสี้ยวรูปเรียวคอย
จักเคลื่อนคล้อยลับฟ้าคราอรุณ

๐ ปลุกปวงชีพตื่นรับจากหลับใหล
พร้อมอุ่นไอแผ่เอื้อลงเกื้อหนุน
ป่นเหงาเงียบเยียบเย็นแหลกเป็นจุล
ด้วยละมุนลำแสงแรงสุรีย์

๐ ขอบฟ้านั่นแปลงภาพเมื่อคาบรุ่ง
เมื่อพรายรุ้งเรื่อสายจนพรายสี
หอมกลิ่นโชยเจือจางบางมาลี
เมื่อยามคลี่กลีบบานบนลานดิน

๐ กลางสรวงฟ้าหล้าต่ำธรรมชาติ
คล้ายภาพวาดผ่านวารตระการถิ่น
สลักลวดลายแฝงในแหล่งจินต์
มิรู้สิ้นสุดลง ณ. ตรงใด

๐ เพียงไม่นานม่านฝนก็หล่นร่วง
กลบกลืนห้วงเวหาดับฟ้าใส
โรยหยาดหยดปนละอองปลิวล่องไป
แทรกทรวงใครซ่านซับอยู่นับนาน

๐ รอกาลเคลื่อนเดือนขับจนลับช่วง
วรรษาล่วงพ้นสิ้นจากถิ่นฐาน
เพื่อริ้วหนาวแผ่ระลอกโลมดอกมาลย์
ที่จะบานรับรู้ฤดูลม

๐ สนระบัดใบอ่อนกลางม่อนหนาว
แพหมอกขาวแผ่ล้อมออกห้อมห่ม
บางอณูฟูฟ่องละล่องพรม
ให้กดข่มความหนาวอันยาวนาน

วลีลักษณา
๖ มกราคม ๒๕๖๑
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=01-2018&date=06&group=26&gblog=81


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 07 มกราคม, 2561, 04:46:41 PM
~*~ ผลัดกาล ~*~

รอเวลาคล้อยเคลื่อนตราบเดือนเสี้ยว
รอเก็บเกี่ยวถ้อยศิลป์กวินขาน
รออักษรอ้อนรักสลักกานท์
รอรสหวานซ่านซึ้งตราตรึงใจ

เพียงเวลาน้อยนิดแทรกคิดถึง
เสมือนหนึ่งน้องพี่จะดีไหม
แม้นมิเคยพบเห็นความเป็นไป
แต่เหตุใดให้ปลูกความผูกพัน

คล้ายอ้อมอุ่นคุ้นเคยมาเกยกอด
แสร้งอิดออดนวลแขเคยแปลผัน
คำตัดพ้อต่อว่าสุดจาบัลย์
แค่หมื่นวันหันสบกลับลบเลือน

ฤาโทษกาลเวลานำพาหาย
สำคัญหมายแห้งเหือดแล้วเชือดเฉือน
เหมือนดั่งสนผลัดใบยอดใหม่เยือน
ลมหนาวเตือนเหมือนลาปลายฟ้าเดิม

คิดถึงไหมใจหนาวบางคราวหม่น
ยามเมฆฝนปนมาน้ำตาเสริม
ความหนาวเหน็บเจ็บลึกผนึกเติม
ก็ยิ่งเพิ่มเจ็บช้ำยินคำลา

แนวทิวสนดลใจก้าวไปสู่
แม้ยืนอยู่ใกล้ถิ่นโขดหินผา
คล้ายยินเสียงอ้อมกอดเล็ดลอดมา
จากฝั่งฟ้าครึ่งโลกลบโศกตน

หนาวอากาศเมืองไทยมิได้ครึ่ง
สุดตราตรึงยิ่งนักหนาวสักหน
แต่หนาวใจให้สั่นสะบั้นจน
ครึ่งโลกหม่นหมองตามสงครามอาย

แม้นเวลาคล้อยเคลื่อนตราบเดือนเสี้ยว
รักกอดเกี่ยวคอยทางมิจางหาย
แม้นเดินทางห่างไกลเหนื่อยใจกาย
รักเป็นสายใจเตือนยังเหมือนเดิม

พิณจันทร์
๗ มกราคม ๒๕๖๑


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 07 มกราคม, 2561, 06:17:27 PM
อวลกลิ่นหอมนานาภาษาสวรรค์​
อวลกลิ่นอายจำนรรจ์สัมพันธ์​เพิ่ม
คล้ายสายรุ้งพุ่งแย้มเข้าแต้มเติม
ท้องฟ้าเริ่มหฤหรรษ์​กันอีกครา

ฤดูเดือนนี้หรือคือเดือนอ้าย
ความรักเปล่งประกายร่ายหรรษา
ดอกกุหลาบผลิม่านกาลเวลา
สายลมล้อมพัดพาว่ายินดี

แม้หนาว, ร้อน, ฝนเวียนเปลี่ยนแค่ไหน
ความทรงจำห้วงใจอยู่ที่นี่
ขอเรียงร้อยถ้อยเพชรเก็จมณี
ให้แวววาวพราววลีทุกทุกคำ

เพื่อช่วยโปรยหยาดใจไล่ขื่นขม
โปรยละมุนคารมทุกเช้าค่ำ
อ่อนโยนนักทุกบท, ใจจดจำ
ดั่งหยาดทิพย์ค่าล้ำชื่นฉ่ำจริง

สิริวตี


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 10 มกราคม, 2561, 08:58:29 AM
ทั้งคำหวานคำขมผสมร้อย
ประดิษฐ์ประดอยสร้อยโศกวิโยคยิ่ง
เหมือนทั้งโลกขาดซึ่งที่พึ่งพิง
สูญทุกสิ่งพ่ายพังเสียทั้งนั้น

บ้างวาดดอกรักบานตระการสวน
มาลีล้วนแย้มคลี่อวดสีสัน
แต้มน้ำค้างเหยาะหยอดเกาะพลอดพรรณ
กลางแสงวันพรายพร่างแล้วรางเลือน

อาจบางครั้งคั่งแค้นแสนสาหัส
สารพัดถ้อยขมอารมณ์เฝื่อน
ทุกคำสรรค์ผันเปลียนเวียนวันเดือน
ตามแต่เงื่อนอารมณ์ย้อมบ่มจินต์

จับมาร้อยกรองกานท์บรรสารบท
ตามกำหนดฉันทลักษณ์อักษรศิลป์
ขอที่ว่างกลางลานฯสานระบิล
เพื่อหลั่งรินจินตนาหลากอารมณ์

วลีลักษณา


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 10 มกราคม, 2561, 11:47:29 AM
(http://image.dek-d.com/27/0327/0411/120399598)

ทุกถ้อยคำนำเขียนระเบียนจด
แสงปรากฏจำเพาะงามเหมาะสม
ช่างรังสรรค์กลั่นถ้อยพลิ้วลอยลม
ถ้อยคำคมหวานซึ้งตราตรึงมาน

เอกปฐมชมชื่นหยิบยื่นค่า
พรรณางามโขถ้อยโวหาร
น้อมสำนึกปรึกษาครูอาจารย์
ขอยกพานน้อมจิตเป็นศิษย์เรือน

หลายร้อยกรองข้องขัดมิชัดถ้อย
ด้วยเด็กน้อยถ้อยศิลป์กวินเฉือน
ด้วยมิได้พร่างพราวดุจดาวเดือน
ถ้อยคำเหมือนต่ำตมมิคมคาย

ฝึกเขียนรับจับต้องครรลองแผ้ว
หัดเจื้อยแจ้วแนวดินแทบสิ้นสาย
เพียงซ่อนแอบแนบเสียงศิลป์เรียงราย
เพียงซ่อนกายใต้เรือนแทบเลือนลาง

ยินยินแว่วอาศรมงามสมหนึ่ง
เข้าไม่ถึงจึงหัน แอบสรรสร้าง
เก็บถ้อยคำร่วงหล่นหลายคนวาง
ทิ้งตามทาง คุ้ยเขี่ย เจียรนัย

รุ่งแสงทองส่องมาอุราหวัง
หากแม้นยังชีวาสายตาไหว
จะเรียงร้อยสร้อยศิลป์ถวิลไป
ตราบสิ้นใจให้ขานน้ำตาลอาย
 :28:
อุ้ยตายว้ายกรี๊ดดด วิ้ดวิ้วๆๆ ฮ่าๆ
ต่ายจ้า คนบ้ากลอน ฮ่าๆ
 :34:




หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 10 มกราคม, 2561, 08:32:54 PM
ลมหนาวโชยโบยโบกโลมโลกแล้ว
พัดผ่านแนวสนพลิ้วใบปลิวหาย
กิ่งก้านลู่แกว่งกวัดสะบัดปลาย
แต่งเสียงหวีดหวิวคล้ายเสียงใครครวญ

น้องต่ายกลอนนี้ต่อสัมผัสแต่ความคงไม่ต่ออิๆ แล้วจะมาเขียนเพิ่มนะหาทิศทางลมก่อน 555


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 11 มกราคม, 2561, 12:50:39 PM
ไม้ผลัดใบ ใจผลัดคน

เบื้องหน้าใบเกลื่อนปนเปื้อนดอก
ใบ้บอกเป็นนัยฤทัยหวน
ทบทานกาลเก่าเราคร่ำครวญ
ครานวลจากลาน้ำตาคลอ

กงกรรมนำหนุนหมดบุญเก่า
ตัวเขาก็หมองแต่ร้องขอ
สบตาล่าสุดหยุดเรื่องรอ
แม่พ่อขอร้องจำต้องลา

แต่ก่อนตอนใบไสวพุ่ม
สาวหนุ่มพลอดสมใต้ร่มหนา
ถึงวันใบร่วงรังรวงลา
สาลิกาทิ้งดงด้วยพงเตียน...

เนิน จำราย


        


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: กิติราช ทับทิม ที่ 11 มกราคม, 2561, 01:27:49 PM
สวัสดีทุกๆท่านนะครับ .ดูแลสุขภาพตามฤดูกาลนะครับ

(https://ctd-thechristianpost.netdna-ssl.com/en/full/52153/wilted-flower.jpg?w=760&h=570)

 :smiley35: เหมันต์เคลื่อนเลื่อนคล้อย.คลายปรอยหนาว
สมุทรอ่าวไอกรุ่น.อบอุ่นเปลี่ยน
ฤดูกาลสานรับ.สลับเวียน
ต่างเยี่ยมเยียนเยือนชิดเรียงติดตาม..

 :smiley31: สู่คิมหันต์ผันมา.อีกคราใกล้
พืชผลัดใบเบี่ยงหล่น.ลานล้นหลาม
บ้างก็ออกดอกสด.แสนงดงาม
ทุกครายามเยื้องกาย.สบายชม ฯะ

.
กิติราช ทับทิม :ร้อยกรอง


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 11 มกราคม, 2561, 07:21:59 PM
]หนาวลมเหนือเจือฟ้าเพลาเช้า
โชยเฉื่อยเคล้าดอกมาลย์หอมซ่านฉม
ช่อดอกไกวไหวเอนล้อเล่นลม
น้ำค้างห่มช่อพวงก็ร่วงพรู

พร้อมบางดอกปลิดโปรยเหี่ยวโรยหล่น
ดอกใหม่บนกิ่งก้านก็บานอยู่
ครั้นล่วงเลยคาบกาลผ่านฤดู
ย่อมคืนสู่อกดินทั้งสิ้นพรรณ

วลีลักษณา



หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 11 มกราคม, 2561, 07:48:57 PM
หนาวอกเสื้อเจือหนาว..ณ.คราวนี้
ทรวงฤดีเย็นเยือก..จึงเลือกสั่น
สะท้านกลางร่างริ้วรอยผิวครัน
ฤา..เหมันต์เลยลับหวลกลับมา

นั่งระเบียงเรียงรายมองชายเสา
สลับเงาลดหลั่น..แสงคั่นฝา
แดดอ่อนอ่อนตอนเช้า...แผดเผาพา
ให้เอกา...คลายยะเยือก...อุ่นเกลือกตัว

กาแฟร้อนตอนนี้..คือที่สุด
กลิ่น..ควันผุด...เสกสรรค์..สวรรค์สลัว
เรามนุษย์ปุถุชน...คนเมามัว
กิเลศยั่ว..กลืนหาย..สบายเอย

Jannjao



หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 12 มกราคม, 2561, 04:15:44 PM
กลางม่านหมอกระลอกลม ห่มไอหนาว
เชิงฟ้าคราวอุษาม่านฟ้าเผย
พรายรวิเอื้ออุ่นอย่างคุ้นเคย
หอมระเหยรวยรื่นดื่นผกา

คล้ายรูปเงาเลือนรางอำพรางเร้น
ลู่ล้อเล่นลำลมโลมภูผา
อีกสักหน่อยม่านเหมยระเหยลา
บุษบาจักแย้มอยู่แกมลานฯ


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 12 มกราคม, 2561, 04:28:04 PM
อาจหลงหล่นมนตร์ร่ำรำพันแล้ว
คล้ายดั่งแก้วกลางจิตนิมิตหวาน
บุษบาลิ่วล้ออยู่กลางลาน
ส่งกลิ่นหอมตระการอยู่กลางใจ

ฝากหนึ่งน้อยคำนิดคำคิดถึง
ที่มีความตราตรึงประโลมให้
แม้วันคลี่เคลื่อนคลายอย่าหายไป
โอบอาลัยหนึ่งนิตย์คิดถึงเอย

สิริวตี
 :30:


หัวข้อ: Re: ~*~ ผลัดใบ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 13 มกราคม, 2561, 11:36:12 AM
ดอกบัวตองช่วงสางน้ำค้างฉ่ำ
สายลมร่ำแดดไล้ให้ระเหย
หอมอ่อนอ่อนรวยรื่นชวนชื่นเชย
หวั่นว่าเลยผ่านช่วงจะร่วงโรย

เหน็บหนาวในลมเหนือลามเจือฟ้า
ครั้นทิวาเรืองแสงให้แห้งโหย
ถึงปลายวันครองหนคงหล่นโปรย
ล่วงลงโดยดุษฎีในที่นั้นฯ

วลีลักษณา