เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนเศร้า => ข้อความที่เริ่มโดย: วลีลักษณา ที่ 10 มกราคม, 2561, 08:06:10 PM



หัวข้อ: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 10 มกราคม, 2561, 08:06:10 PM
~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~

๐ หยาดน้ำระยับวาว.........ดุจดาวกระพริบดวง
ผ่านคืนก็รื่นร่วง...............ระดะพรายประกายวาม
๐ ชื่นช่อพะนอมาลย์.........ทลบานตระการงาม
ภู่ร่อนภมรตาม.................ฉมโชยก็โบยบิน
๐ จู่จับประจบตน..............คุฬปรนกะชีวิน
หวานหอมก็ย่อมสิ้น..........สิริคล้อยทยอยทราม
๐ ดอกรักผลิกลีบแย้ม.......รติแต้มฤดีหวาม
แรกเริ่มประเดิมความ........อุระตรึงประหนึ่งตรวน
๐ มีเป็นก็เช่นนั้น...............จะละวันและคืนควร
พรากพ้นมิวนหวน.............สุขล้วนนิราศลา
๐ โศกซมระทมทน...........ทุรท้นประจญครา
สิ้นสุดสิเนหา...................สรล้ายทะลายทรวง

๐ สกุณาถลาเหินอย่างเพลินหาว
เมื่อเดือนดาววาวตาพรากลาสรวง
อรุโณทัยเริ่มสูรย์เจิมดวง-
เชิงฟ้าช่วงพรายรุ้งยามรุ่งราง
๐ อณูหมอกฟุ้งฟ่องลอยล่องล้อม
ปุยขาวห้อมห่มอยู่จนตรู่สาง
แทรกละอองหม่นมัวคลุมทั่วทาง
บ้างกลั่นหยดน้ำค้างระหว่างคืน
๐ ลิบลิบโน้นปีกนกยังผกผิน
จะทิ้งถิ่นบินฝ่านภาผืน-
ค่อยลับจากสายตาเหมือนว่ากลืน
ตนกับพื้นฟ้ากว้างในสางนั้น
๐ หยาดน้ำค้างพราวเม็ดราวเพชรรุ้ง
เมื่อแสงรุ่งรวีแต่งสีสัน
รอจะเหือดระเหยแห้งในแสงวัน
ทิ้งมาลย์พรรณแวดล้อมในอ้อมลม
๐ เริ่มวันชุ่มผ่านชื้นจากคืนฉ่ำ
คล้ายจะพรำหยาดหยดรดผสม
ให้ดื่มกินน้ำค้างที่พร่างพรม
แล้วจ่อมจมเวิ้งวังลำพังตน
๐ เมื่อฟ้าเบิกบทบาทแสงสาดส่อง
ฝันก็ล่องลอยห่างลับร้างหน
เฉกน้ำค้างกลางแดดที่แผดจน
แห้งเหือดบนกลีบมาลย์ ณ กาลนั้น
๐ เถิดเมื่อพลบตลบล้อมจะพร้อมก่อ
หยาดหยดรอชโลม โลกคลายโศกศัลย์
ถนอมกลีบบอบบางระหว่างวัน
ด้วยกำนัลชื่นฉ่ำแห่งค่ำคืน
๐ แต่หนาวสั่นสะท้านเทียบยะเยียบอยู่
ทุกอณูเนื้อห่มแต่ขมขื่น
แล้งน้ำใสใจจริงทุกสิ่งกลืน-
กับสายกาลเกินขืน...จำฝืนทน
๐ ท่องระหว่างทางฝันอันสุดฟ้า
ด้วยสายตาพร่าพรายที่ปลายหน
เหมือนว่าเห็นที่หมายจึงว่ายวน
แท้ไม่พ้นเวิ้งกว้างอ้างว้างนัก
๐ ค่ำคืนในเหมันต์ดวงจันทร์ผ่อง
แต่คนมองหมองหม่นทรวงป่นปรัก
ธารดาวดื่นดวงพร้อยเคยร้อยรัก
บรรจงถักใยล่วงโยงห้วงฟ้า
๐ ขึงสองปลายขมวดปมปรารมภ์ล่วง
รวบรัดร้อยเป็นบ่วงความห่วงหา
บัดนี้ปลายสายหนึ่งมาถึงครา
คลี่คลายเงื่อนเสน่หาสิ้นอาลัย
๐ ช่อผกาคืนหนาวย่อมพราวพร่าง
ด้วยน้ำค้างวางหยาดจนราดไหล
กลีบดอกรักหักร่วงกลางห้วงใจ
ชุ่มฉ่ำใดฤาฟื้นให้คืนตน

๐ จึงเช้าตรู่ฤดูลมห้อมห่มหนาว
เมื่อฟ้าพราวพร่างแสงทุกแห่งหน
ช่อมาลีสดสล้างน้ำค้างปรน-
เปรอหยาดล้นกลีบเรียวกลางเกลียวลม
๐ แต่หาใช่ดอกมาลย์แห่งวารก่อน
ที่ผุกร่อนเกินบานออกหว่านฉม
มิไยที่น้ำค้างจะพร่างพรม
เมื่อป่นจมหล่มลวงในห้วงกาล

๐ ปีกนกผกวกว่อนค่อยร่อนห่าง
ลับเลือนร่างกลางพรายแดดฉายผ่าน
ปีกรักโบกบินลับไปกับวาร
ปลิดวิญญาณพรากพ้นแต่หนนั้น

วลีลักษณา
๑๐ มกราคม ๒๕๖๑
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=01-2018&date=10&group=26&gblog=82


หัวข้อ: Re: ~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 มกราคม, 2561, 06:25:50 PM


๐ หยาดน้ำระยับวาว........ดุจดาวกระพริบดวง
ผ่านคืนก็รื่นร่วง...............ระดะพรายประกายวาม
๐ ชื่นช่อพะนอมาลย์.........ทลบานตระการงาม
ภู่ร่อนภมรตาม.................ฉมโชยก็โบยบิน
๐ จู่จับประจบตน..............คุฬปรนกะชีวิน
หวานหอมก็ย่อมสิ้น..........สิริคล้อยทยอยทราม
๐ ดอกรักผลิกลีบแย้ม.......รติแต้มฤดีหวาม
แรกเริ่มประเดิมความ........อุระตรึงประหนึ่งตรวน
๐ มีเป็นก็เช่นนั้น...............จะละวันและคืนควร
พรากพ้นมิวนหวน.............สุขล้วนนิราศลา
๐ โศกซมระทมทน...........ทุรท้นประจญครา
สิ้นสุดสิเนหา...................สรล้ายทะลายทรวง


เปียกฝนระคนหนาว..........ระอุอ้าวฤดีดวง
หนาวลมปฐมล่วง.............ประลุห้วงหทัยราน

แรกรักสลักจิต..................นิรมิตลิขิตจาร
เคลื่อนคล้อยชะรอยนาน....ผิวงามก็ทรามพลัน

ดลใดฤทัยหนอ................วจะพ้อพะนอจันทร์
ห้วงหาวสกาวนั่น..............สิริม้านมิมอง, เมิน

เจ็บช้ำระกำหม่น...............อติท้นระทมเกิน
มาดแม้นคุแค้นเทิน...........ปะทุล่มมลายม้าง

เคยรักปรักสิ้น..................เสนาะรินก็เจือจาง
แว่วขานมิหวานปาง..........ปฏิพัทธ์สลัดปลิว

หนาวลมประสมส่ง...........ระบุธงระแบบทิว
เรื่องร้ายเราะรายริ้ว..........รติร้างระหว่างจินต์

...ขออนุญาต คุณวลีลักษณา มาต่อฉันท์ นะครับ
ส่วนกลอนยังคิดไม่ทันครับ

พยายามซึมซับอารมณ์ของผู้แต่ง แล้วสร้างอารมณ์ร่วมเพื่อใช้การแต่งต่อนะครับ

แต่ถ้าหากเกิดไปล่วงเกินประการใด ขออภัยล่วงหน้า ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 11/1/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 12 มกราคม, 2561, 11:56:04 AM

สกุณชาติโผผินบินเลี้ยวเลาะ
ไร้คอนเกาะอิงแอบแทบอาสัญ
วิหคเจ้าเฝ้ามองปองตาวัน
ด้วยใจฝันมลังเมลืองถึงเมืองแมน

ครั้นฟ้าแจ้งจางปางสว่างรุ่ง
จดจ่อพุ่งทะยานวิมานแถน
ลิ่วลอยลมสูงฟ้าสุธาแดน
สู่ถิ่นแหนแม้นมาดจะวาดดาว

ดังผับผับกระหยับปีกฉีกหางลู่
ทิศทางสู่ภัสสรอัมพรหาว
แม้เหนื่อยร้อนอ่อนล้าหว่างฟ้าพราว
มิท้อราวชีวีพลียินยอม

ไกลลิบลิบขอบฟ้าสุดตาเห็น
ยากลำเข็ญใจกายมิบ่ายอ้อม
มุปักษิณผู้กล้าท้าตรมตรอม
เมินรอมชอมเพียงว่ายากฝ่าไป

เฉกตำนานดอกฟ้ากับหมาวัด
แม้ตามอรรถขัดเขินเกินรับได้
หากอดทนกล้ำกลืนฝืนครรไล
อาจสมใจไขว่คว้าดอกฟ้างาม

ช่างแตกต่างเรี่ยดิน ตฤณชาติ
เคล้าผุดผาดเกล็ดแก้ววับแววหวาม
แต่คราต้อง สุริยาพร่าพิราม
น้ำค้างวามวับหายสลายเลือน

มิอาจต้านแสงสูรย์แผดกูณฑ์เผา
รุกรานเข้าฉุดพรากวิบากเคลื่อน
ให้ยอมรับสภาพพิลาปเยือน
เช่นกลาดเกลื่อนใบหญ้าผู้อาดูร

เช้าวันแห่งเหมันต์อันหนาวเหน็บ
หนึ่งนอนเจ็บหมอบราบพณาสูร
ส่วนอีกหนึ่งยิ่งช้ำยิ่งคำนูณ
มุเพิ่มพูนแรงใจให้ก้าวเดิน

อาจเพียงแค่คำกลอนอักษรร้อย
ฤ เคลื่อนคล้อยเพ้อพร่ำลำนำเปิ่น
พลัดไหววูบลูบไล้ใจเผลอเพลิน
ฤ คำเชิญ หาญท้าชะตาตน

...ขออภัยด้วยครับที่กลอนที่แต่ง
ไม่สอดคล้องเนื้อหาที่ต่อ
อีกทั้งไม่สอดคล้องกับฉันท์ที่แต่งไว้ก่อนหน้านะครับ

กลอนพาไปนี่ของจริง จะแต่งเรื่องเช้าแห่งวันฤดูหนาว
นก น้ำค้าง กับความรัก ไหงมาลงเอยแบบนี้ได้
สงสัยโรคสมาธิสั้นกำเริบ..หึหึ แถมจบแบบมึนๆ...เฮ้อ

Soul Searcher
Inspired to write 12/1/2018

 :12:


หัวข้อ: Re: ~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 13 มกราคม, 2561, 12:06:48 PM
สรรพสิ่งงดงามตามหน้าที่
มวลมาลีสดสล้างอยู่กลางหน
ยอดหญ้าอยู่ต่ำล่างน้ำค้างปรน
ต่างหยัดต้นเติบต่ออย่างพอดี

อ้อสูงเสียดเบียดยอดขึ้นพลอดแดด
ทอดทอแวดล้อมลนดอกหม่นสี
ยามล้อสายลมพาดเข้าวาดวี
ก็เลื่อมวาวราวมณีในทีนั้นฯ

วลีลักษณา


หัวข้อ: Re: ~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 มกราคม, 2561, 10:03:34 PM

ธรรมชาติวาดวางกระจ่างเห็น
หากแต่เป็นหัวใจที่ไหวสั่น
อยากจะไขว่จะคว้าสารพัน
ปรุงแต่งปั้นโลมลวงในห้วงคิด

ครั้นสมหวังดั่งใจให้ชิดชื่น
แปรผันอื่นขื่นขมพรหมลิขิต
เกิดสุขทุกข์ร้อนเย็นอยู่เป็นนิจ
จวบชีวิตวางวายยังว่ายเวียน

Soul Searcher
Inspired to write 15/1/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 16 มกราคม, 2561, 11:25:48 AM
ธรรมชาติจิตมนุษย์มิหยุดนิ่ง
กระทบสิ่งชอบชังก็ยังเปลี่ยน
หากฉุกคิดได้ก่อน หมั่นกร่อนเตียน
จุดแปลวเทียนแห่งธรรมไว้นำทาง

ปล่อยลงได้ใจก็เบาทุเลาทุกข์
ไม่หลงควานคว้าสุขเพราะทุกอย่าง
นั้นรอให้ค่อยค่อยปลดปล่อยวาง
เพราะก็ต่างดับลงไม่คงทน

วลีลักษณา
๑๖ มกราคม ๒๕๖๑


หัวข้อ: Re: ~*~ เช้าตรู่ฤดูหนาว ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 17 มกราคม, 2561, 06:41:19 AM

ยังยึดมั่นถือมั่นมิผันผาย
อัตตาหมาย ปล่อยวาง หว่างมรรคผล
เพริศแพร้วเพียงบริบทพจน์ประพนธ์
จึงว่ายวนหม่นเศร้าทุกข์เผาราน

เวทนาอินังยั้งแลเหลียว
เข้าผูกฟั่นพันเกลียวเหนียวใยป่าน
ถูกชอบชังรั้งร่นกมลมาน
สุดต้านทานกิเลสเทวษปวง

Soul Searcher
Inspired to write 17/1/2018



หัวข้อ: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 17 มกราคม, 2561, 07:59:35 PM
~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~

แสงสางสาด พาดสาย มาคลายโศก
ห้อมห่มโลก สว่างเรือง ปลดเปลื้องหล้า
จากความหนาว เหน็บเนื้อ เหลือคณา
พ้นผ่านพา รุ้งพร่าง กระจ่างพราย-

ทอลำลอด ทอดลาด ลงพาดแหล่ง
เป็นลู่แสง ยามสาง ขจ่างสาย
น้ำค้างวาว วาบวับ ก็ลับวาย
มอดมลาย รูปร้าง จนรางรอย

ลมโชยเอื่อย ลามอ้อน โลมซอนอ้อ
ต้องดอกฝ่อ ลอยฟ่อง ละอองฝอย
บ้างแรกผลิ ลมผ่าน สะท้านพลอย
ละเลื่อมพร้อย ลู่พลิ้ว ราวริ้วแพร

อารมณ์เอย ปลิวออก ราวดอกอ้อ
ยามลมคลอ โชยเคล้า หยอกเย้าแค่-
โลมลำเอื่อย ออดอ้อน ก็อ่อนแอ
ราวถูกแซ่ โบยซ้ำ กระหน่ำทรวง

ยังเย็นเยียบ เพียบอยู่ บนลู่ย่าง
ทุกสิ่งห่าง ร้างหาย มิวายหวง
แต่ละภาพ พรากพ้น ทิ้งผลพวง
เหมือนคอยทวง พ่วงทบ เกินลบทัน

วลีลักษณา
๑๗ มกราคม ๒๕๖๑


หัวข้อ: ~* แสงสุดท้าย *~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 18 มกราคม, 2561, 11:57:00 AM

~* แสงสุดท้าย *~

แสงสุรีย์ คลี่ริ้ว ปลิวลมรัก
มิตระหนัก เหนี่ยวโน้ม ประโลมนั่น
ยินลมพัด ตัดพ้อ ต่อประพันธ์
นึกว่าฝัน ฟุ้งฟ่อง บนกองฟอน

ผินมองฟ้า สวยแฝง รอแปลงฝน
สุขปลอมปน เปรียบปาน วิมานป้อน
แต่รุ่มร้าย เตรียมรัด เข้าตัดรอน
สุดไถ่ถอน  ทุกข์ท้น หม่นระทม

เห็นวิหค ทิ้งเหิน เหมือนเมินหาว
เห็นหนุ่มสาว รักสร้าง แล้วสร่างสม
เห็นคนตาย ติดตา อุราตรม
เห็นขื่นขม แร้นแค้น ทั่วแคว้นคาม

สิ่งกระทบ กระทั่ง กระเทือนทั่ว
หดหู่หลัว จิตหล่น ทุรนหลาม
ประหนึ่งงอก เงยงด สิ้นหมดงาม
ปล่อยไหลตาม ธารตม คงจมตาย

จวบมอดม้วย จุดหมาย ที่ปลายมรรค
หาพึ่งพัก อัมพร ก่อนผันผาย
เข้าสู่เวิ้ง เขตว้าง ห่างวุ่นวาย
ดินกลบกาย คืนกลับ ชั่วกัปกัลป์

Soul Searcher
Inspired to write 18/1/2018

mAiUB5-mXyo



หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 22 มกราคม, 2561, 04:46:05 PM
:30:

เห็นแสงแรกแทรกมาผ่าขุนเขา
กลางลำเนาเคล้าคลอต่อเติมฝัน
อรุณรุ่งพุ่งพาดสาดแสงพลัน
คือเริ่มวันใหม่หมดสดชื่นใจ

น้ำค้างพรมรายเรียวเกี่ยวยอดหญ้า
ใต้แหล่งหล้าหนาวเย็นเป็นไฉน
ต้องแสงแดดแผดผายกลายเป็นไอ
ฤดูเปลี่ยนเวียนไปคล้ายใจคน

ก่อนเคยบอกรักเราจนเฒ่าแก่
มิผันแปรแม้นานผ่านกี่ฝน
สรรหาคำพูดเพราะเกาะกมล
กิ่งทองปนใบหยกยกให้ชาย

วันเดือนปีเคลื่อนไปไม่หวนกลับ
ความสับปรับคืบคลานหวานจางหาย
เคยพูดเพราะเสนาะจิตคิดมิวาย
ช่างน่าอายจริงแท้แค่ข้ามคืน

ใครจะเปลี่ยนช่างเถอะเจอะเพื่อจาก
เพียงลมปากฝากนิดอย่าคิดฝืน
ใจด้่านชาเชื่อเขาเรากล้ำกลืน
ต้องหยัดยืนขื่นขมแม้ตรมทรวง

เห็นแสงแรกเสมอเจอวันใหม่
ปรับฤทัยใครว่าน้ำตาร่วง
ยิ้มไว้หนอท้อใยใครจะลวง
บอกหายห่วงแค่นี้มิถึงตาย

วิริน
๒๒/๑/๖๑

 :30:




หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 22 มกราคม, 2561, 07:51:55 PM
สรรพสิ่งจริงจังยิ่งพลั้งพลาด
หมายมาดมากนักหวังจักหาย
ว่ายวนค้นคว้าล้าเดียวดาย
ผู้ชายแสนดียังมีพอ

ตัดขาดบาดเจ็บแค่เล็บข่วน
เซซวนเล็กน้อยหรือร่อยหรอ
หันหลังตั้งจิตพินิจรอ
รับช่อรักแท้ช่วยแก้ปม

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 23 มกราคม, 2561, 09:30:51 AM
ตัดขาดบาดเจ็บแค่เล็บข่วน
เซซวนเล็กน้อยหรือร่อยหรอ
หันหลังตั้งจิตพินิจรอ
รับช่อรักแท้ช่วยแก้ปม

เนิน จำราย

หากรักแล้วได้สมพิรมย์รื่น
ทั้งหญิงชาย คงชื่น หมดขื่นขม
ไหนเลยจะเศร้าโศกวิโยคตรม
ด้วยหวานล่มรักเลือนจนเคลื่อยคลาย

วลีลักษณา
๒๓ มกราคม ๒๕๖๑

จวบมอดม้วย จุดหมาย ที่ปลายมรรค
หาพึ่งพัก อัมพร ก่อนผันผาย
เข้าสู่เวิ้ง เขตว้าง ห่างวุ่นวาย
ดินกลบกาย คืนกลับ ชั่วกัปกัลป์

Soul Searcher
Inspired to write 18/1/2018

จิตมิเคยเก่าแก่สักแต่น้อย
ใจยังคอยแกว่งไกวอยู่ในขันธ์
ที่อ่อนล้าแรงไปตามวัยวัน
เพราะติดพันความคิดคอยริดรอน

โลกหมุนเวียนเปลี่ยนปลับสำหรับให้
เกิดสิ่งใหม่งดงามกว่ายามก่อน
ผลัดเหตุการณ์ผ่านล่วงจบช่วงตอน
ทั้งหนาว ร้อน ย้อนฝน เวียนวนปี

ธรรมชาติวาดวางเป็นทางผ่าน
ล้อมวิญญาณ เอื้อสุขในทุกที่
สรรพสิ่งไขว่คว้าบรรดามี
จักพอดีหรือไม่ก็ใจคิด

แสวงหาสารพัดมามัดล่าม
ทั้งหอบหิ้วแบกหามเอาตามติด
รุ่มร้อนดั่งอัคคีลนชีวิต
ความถูกผิดปรุงแต่งจนแกว่งไกว

เพียงหนึ่งน้อยความสงบสยบหมด
หากกำหนดจิตปลงมิหลงใฝ่
ทุกสิ่งล้วนเป็นมีอยู่ที่ใจ
ล้วนมิมีสิ่งใดทำให้เป็นฯลฯ

วลีลักษณา
๒๓ มกราคม ๒๕๖๑


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 23 มกราคม, 2561, 11:36:00 AM
สรรพสิ่งจริงจังยิ่งพลั้งพลาด
หมายมาดมากนักหวังจักหาย
ว่ายวนค้นคว้าล้าเดียวดาย
ผู้ชายแสนดียังมีพอ

ตัดขาดบาดเจ็บแค่เล็บข่วน
เซซวนเล็กน้อยหรือร่อยหรอ
หันหลังตั้งจิตพินิจรอ
รับช่อรักแท้ช่วยแก้ปม

เนิน จำราย

 :30:

ช่อรักแท้มีจริงหรือกลิ้งกลอก
มาหลอนหลอกเล่นลิ้นให้จินต์ขม
มิอยากเชื่อใครแล้วแห้วนอนซม
ขอมีปมอย่างนี้มิช้ำใจ

วิริน

 :30:


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 26 มกราคม, 2561, 06:29:12 AM
หอมกลิ่นหอมความรักปักดวงจิต
หอมกลิ่นของลิขิตทุกวันใหม่
หอมกลิ่นจำนรรจาพาหทัย
ชื่นฉ่ำไปด้วยโลกนี้ล้วนมีรัก

ธรรมชาติอาจสร้างวางกฎโลก
สุขสบโศกเรียนรู้อยู่เป็นหลัก
พบ-พรากคือคู้แท้ช่างแน่นัก
หัวใจยังถามทักเพื่อรักมา

ฤดูกาลผ่านไปไม่หวนกลับ
ฤดูรักคงมิลับลงวันหน้า
ขอให้เบ่งเบิกบานกาลเวลา
ช่วยงามอย่างช้าช้าและยั่งยืน

สิริวตี


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 26 มกราคม, 2561, 08:27:23 PM
๐ รักไม่มีวันดับลาลับโลก
แม้เศร้าโศกอารมณ์สุดขมขื่น
ร้อนราวเพลิงรุกไหม้สุมไฟฟืน
แต่ยามชื่นสุขนั้นเกินพรรณา

๐ รักหนึ่งที่มั่นคงดำรงอยู่
สถิตคู่ตัวตน หากค้นหา
ก็จะพบประจุในอุรา
ทรงคุณค่าเลิศล้ำคอยค้ำใจ

๐ อยู่นอกเหนือเงื่อนไขใดทั้งสิ้น
สลักจินต์สงบนิ่งและยิ่งใหญ่
ยอมรับอย่างเชิดชูรู้อภัย
คือรักในตัวตนของตนเอง

วลีลักษณา
๒๖ มกราคม ๒๕๖๑

พอดีพี่วลีฟังบทความหนึ่งมาเกี่ยวกับความรักและประทับใจกับประโยคที่บอกว่า ให้
รักตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข
ยอมรับตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข
ให้อภัยตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข




หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 มกราคม, 2561, 06:31:56 AM


รักแห่งตน...ทำให้นึกถึงเพลงนี้เลยครับ
“Greatest Love of All”
ของอดีตนักร้องอมตะผู้หนึ่งของวงการเพลง
Whitney Houston

“...Because the greatest love of all
Is happening to me
I found the greatest love of all
Inside of me...”

IYzlVDlE72w

อันความรักหนึ่งแจ้ง.....กลางใจ
มิห่างร้างราไกล...........หลีกลี้
รอแบกทุกข์เงื่อนไข......ใครเล่า
เพียงรักจากตนนี้..........ผ่านร้อนผ่านหนาว

Soul Searcher
Inspired to write 27/1/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 27 มกราคม, 2561, 07:59:46 AM
จึงเปรมปริ่มอิ่มทั้ง......ลานทรวง
คุณค่าเกินยกปวง.............กล่าวอ้าง
มิแปรเปลี่ยนหลอกลวง........เจือเล่ห์กลเนอ
แลจักเผื่อแผ่สร้าง.............สุขถ้วนหทัยชน

วลีลักษณา

ถ้ารักตัวเองเป็น ก็จะรักทุกสรรพสิ่งได้อย่างไร้เงื่อนไขเช่นกัน
*อ่านมาอีกเช่นกันค่ะ


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 มกราคม, 2561, 09:02:20 AM

รักตนใช่รักนั้น.........เพียงตน
เติมรักใส่กมล..........หนึ่งแล้
เต็มรักจึ่งท่วมจน......ล้นเอ่อ
ไหลสู่ผู้อื่นแท้...........อาตม์ทิ้งเงื่อนไข

Soul Searcher
Inspired to write 27/1/2018



หัวข้อ: ~*~ ทางกรรม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 07 มิถุนายน, 2561, 09:04:30 AM
~*~ทางกรรม~*~

๐ คีตาครวญหวนแผ่วฝังแว่วหวาน
ยังกังวาลก้องในหัวใจหนึ่ง
เหมือนย้อนกาลเวลาพารำพึง
ความหวานซึ้งแทรกทรวงไม่ล่วงเลย

๐ นานเพียงไหนท่องทางอันว่างเปล่า
เก็บความเหงาเคล้าฝันรอวันเผย
หวังรอบบุญเวียนกรายมาก่ายเกย
กลับคล้ายลมรำเพยพัดเลยไกล

๐ แลมิหวนทวนหอบมาปลอบขวัญ
ล่วงพ้นวันผันเดือนแปรเงื่อนไข
ดั่งลมเพลมพัดสะบัดไกว
แกว่งเหมือนใจของคนวกวนนัก

๐ หรือลิขิตเบื้องบรรพ์ลงทัณฑ์ทบ
มิอาจลบเพรงกรรมตรึงจำหลัก
จึงแยกฟ้าพรางฝันแม้มั่นภักดิ์
ราวถูกผลักให้พ้นคนละทิศ

๐ คงอยู่แต่เยื่อใยอันไหวสั่น
ที่ผูกพันเกินพรากออกจากจิต
พร้อมฝ่าลู่ขวากขวางทางชีวิต
รอวันปลิดปราณวางบนทางกรรม

วลีลักษณา

ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&group=26&month=07-2017&date=20


หัวข้อ: Re: ~*~ทางกรรม~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 09 มิถุนายน, 2561, 02:38:04 PM



คีตาครวญอาบซึ้งคะนึงร้อย
ชื่นชดช้อย แฝงหม่นระคนร่ำ
สื่อสะท้อนอ่อนไหวในทรงจำ
ระลึกพร่ำพรรณนาพัดพานี้

บนหนทางเวิ้งว้าง วัฏฏ์ว่างเปล่า
จะหาใดไหนเล่าเท่าสุขศรี
ยามเยื้อน เยี่ยมหยาดพจน์บทกวี
ฉ่ำฤดีแช่มชื้น เต็มตื้นนัก

เปรียบรวยรินปิ่นแพร้ว แก้วกาหลง
พลัดพะวงเคลิ้มคล้อย รอยสลัก
เหมือนแย้มยิ้มพริ้มพรายประกายรัก
เข้าทายทัก ปลอบขวัญเอื้อบรรเทา

จะบาปเบื้องบ่วงบรรพ์แต่กัลป์ไหน
ถึงห่างไกลสุดหล้าลึกป่าเขา
เพียงสดับแว่วหวาน บรรสานเนา
ความเปลี่ยวเหงาเศร้าโศกวิโยคคลาย

Soul Searcher
Inspired to write 9/6/2018




หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 09 มิถุนายน, 2561, 10:10:23 PM
๐ จากวันนั้นวสันต์พรมสายลมพัด
คล้ายลางร้ายสาดซัดจนพลัดหาย
ไม่นึกเลยชื่นหวานจะพาลกลาย
จนสุดหมายสานหวังลงทั้งปวง

๐ หนาวเหน็บแทรกผิวเนื้อลามเถืออก
ดุจนรกสุมในหัวใจหวง
คมอาวรณ์รอนสิ้นทั้งถิ่นทรวง
จักผ่านช่วงร้าวร้างได้อย่างไร

๐ เบนบุพเพสันนิวาสนิราศห่าง
บีบเส้นทางชิดกันแล้วกั้นให้-
มิอาจฝ่าปราการด่านบาปใด
หนอขวางใจสองดวงเกินพ่วงพัน

๐ ลมเอ๋ยลมรำเพยช่วยเผยคำ
พาลำนำพัดเพให้เหหัน
หัวใจผู้อยู่ห่างแม้ต่างกัน
อย่าตัดบั่นหวานซึ้งอันพึงมี ฯลฯ

วลีลักษณา
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=06-2018&date=08&group=26&gblog=100


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: กิติราช ทับทิม ที่ 10 มิถุนายน, 2561, 12:07:21 PM
(http://upic.me/i/n8/28958502_1629119300517528_4843096060132167951_n.jpg) (http://upic.me/show/62085924)

ก่อนอื่นทักทายนะครับ.. สวัสดียามเที่ยงวันพักผ่อนสุดสัปดาห์ครับ
แวะมาโพสต์นี้ มาอ่านโคลง และกลอน อันไพเราะได้อรรถรสความ
ในกานท์รัก ทั้งโวหารหวาน และโวหารเศร้า คละเคล้ากันไป พร้อม
กับมีเพลง ไพเราะๆ ให้ฟังด้วยนะครับ คุณ Soul และคุณ วลีลักษณา
รวมถึงนักกลอนทุกท่านที่ร่วมเขียน ทุกท่านเขียนบทกวีได้ดีมากๆนะครับ
.เยี่ยมครับ ขอร่วมสักสำนวนสั้นๆ เป็นกลอนเปล่า เบาๆ นะครับ..

 :19:
โอ้ใจข้า อย่าเร่งริรัก
เจ้าจงตระหนักเจ็บหน่วงหนักนี่
กับซากรักเก่าเผาร้าวย่ำยี
ทรวงแหลกป่นปี้ปานตายทั้งเป็น
 :25:
เถิดเจ้าใจ จงไหวหลบกลับ
อย่าเพิ่งขยับไปจับไปเห็น
พลาดเจ้าจะช้ำน้ำตากระเซ็น
โดนเชือดเลือดเย็นยิ่งกว่าผ่านมา ฯะ

กิติราช ทับทิม
10/06/2018





หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 11 มิถุนายน, 2561, 08:54:27 PM
หากรู้จักที่จะรัก
คงไม่ยากนักที่จะประคองใจ
แม้สุขทุกข์เพียงใด
ย่อมรับได้และอยู่เป็น

เพราะทุกผู้ทุกคน
ต่างเกิดมาจากความรัก
หล่อหลอมด้วยความรัก
อยู่ได้ด้วยความรัก

จึงไม่มีใครหนีพ้นคำว่ารัก

55555  อย่างนี้เรียกว่ากลอนเปล่าหรือเปล่าคะ
ขอบคุณคุณกิติราช ทับทิมค่ะ


หัวข้อ: ~* แทนคำนั้น *~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 12 มิถุนายน, 2561, 10:00:37 PM


ลมรำเพยตัดพ้อต่อความรัก
แว่วเวียนวรรค เยื้อนย้อน รอนคุณค่า
ฤาคำ”รัก”หม่นไหม้ ไร้ราคา
แล้วจะหาใดเล่า เท่าเทียมแทน

คะเนนึกคะนึงหวน ทั่วทวนทบ
ห้วงอรรณพกว้างใหญ่ ไพศาลแสน
ภาคผืนดินสรวงฟ้าสุธาแดน
ก็มิแม้นพานพบประสบคำ

ชะงักงันทดท้อ บริบท
ประหม่าพจน์พรรณนา คราครวญคร่ำ
ปานประหนึ่งศรรัก หักกลางลำ
ท่วงถลำเกินกว่าถ้อยพาที

เกินคำพูดชิดชวนประมวลสรรค์
เกินไกลฝัน แต่งเติมเพิ่มสวยสี
เกินระรื่นเริงรสพจน์พจี
เกินกว่าที่เขียนขีดประณีตความ

หากต้องถอดดวงใจ ใส่อักษร
กลั่นเป็นกลอน ผายผันคืน วันหวาม
จักขอถอดทั้งหมดนี้พลีนงราม
สร้างนิยามใหม่แม้น...“แทนคำนั้น”

เช้าจรดค่ำพร่ำร้อย..........รำพัน
ทอนทุกข์บรรเทาทัณฑ์......เทวษท้น
บนเศษซากความฝัน.........วันอดีต
เขียนขีดคว้าไขว่ค้น..........ฝากไว้อนุสรณ์


IMWJasmHBHA

Soul Searcher
Inspired to write 12/6/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 12 มิถุนายน, 2561, 11:20:49 PM
งามกลอนกลอนเล่าอ้าง​     คราวครวญ
คืนลับดับหายหวน​              ห่างเศร้า
ยามร้างห่างไกลนวล          คะนึงจิต
ครุ่นคิดคำเคยเคล้า​            คู่เนื้อนวลสมร

ขอแทนคำแทนค่าคณาหยาด
โดยมิอาจเอื้อมกันเช่นวันก่อน
จึ่งร้อยเพียงเรียงถ้อยสร้อยสุนทร
ใครเล่าจักถอดถอนหนึ่งฤทัย

แม้ยามรักรักพบประสบสุข
แม้ยามทุกข์ทุกข์หายมิกรายใกล้
รับรู้เถิดควรเห็นว่าเป็นใคร
ที่เอาใจมาปลูกต้นผูกพัน

หอมใดเอ๋ยปรากฎหอมรสรัก
กลิ่นหอมฟุ้งกำจายจักคล้ายดั่งฝัน
ฝากคำหอมหอมล้ำที่รำพัน
มากำนัลคนรับประทับใจ

สิริวตี


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 13 มิถุนายน, 2561, 09:29:40 PM
๐ กรองคำกลอนกล่าวอ้าง.........อาลัย
ผิเชื่อถือน้ำใจ.......................พี่แล้ว
วันเวียนเปลี่ยนแปรไป...........เป็นอื่น
ชีพหนึ่งคงมิแคล้ว.................โศกเศร้าทรวงสลาย

๐ สบสาส์นสมานจิต ลิขิตลักษณ์
แม้ประจักษ์จำนง มิสงสัย
ว่าทั้งหมดทั้งปวง คือห่วงใย
ถอดดวงใจวางปน ประพนธ์ความ

๐ พ้อรำพึงรำพัน กำนัลถึง
พี่ลึกซึ้งเพียงใด อยากใคร่ถาม
ถ้วนทั่วถ้อยลิขิต ให้ติดตาม
ช่างงดงามละไม ด้วยนัยนั้น

๐ ทั้งเพลงแผ่วแว่วครวญก็ชวนเชื่อ
แรกเริ่มเมื่อพึงใจก็ไหวหวั่น
หากนานไปใจเปลี่ยนดั่งเวียนวัน
ถ้อยคำนั้นเชื่อถือได้หรือไร

วลีลักษณา


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 16 มิถุนายน, 2561, 12:50:39 PM


อึงอลอิงเอ่ยอ้าง.......อันใด แม่เอย
ชวนชื่นชิดชไม.........ชมดชม้อย
พะวักพะวงไหว.........ภวังค์หว่าง
ซึมแทรกทีละน้อย.....ซาบซึ้งทรวงสมาน

บรรสบซ่านบรรสานซ้องบรรเลงศิลป์
บรรจงรินหยาดพจน์หยดคำไข
บันดาลหอมอวลอุ่นละมุนละไม
บรรลุล่วงลึกไล้หทัยโลม

หอมใดเอยหอมเล่าเท่าหอมรัก
ยามเยื้อนทักทายมาดั่งถาโถม
ฉุดมืดหน้าตามัวสลัวโคม
รุกจู่โจมยากยั้งระวังตน

แรงกระแสหน่วงหนักนักเหนี่ยวน้าว
พาปวดร้าวอ่อนแอแพ้สับสน
เฝ้าพะวงห่วงรักพะวักพะวน
มากเสียจนชุ่มชื้นรื้นฉ่ำตา

หากรักเพื่อพลีให้ไร้หม่นหมอง
มิเปี่ยมปองปลอมปนบนตัณหา
มิตรไมตรีหยิบยื่นชื่นอุรา
ปรารถนาเพียงรอยยิ้ม...ปริ่มแก้มนวล

Soul Searcher
Inspired to write 16/6/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 18 มิถุนายน, 2561, 01:08:03 PM
:30:

รานรอนรอนเร่งเร้า   ทรวงใน
อกอุ่นอึงอลไป     เจ็บแท้
ระริกระรัวไหว     หวิวหวั่น
ระรื่นฝืนทางแก้   พ่ายแพ้ทำใจ

รานรอนเร่งเกรงว่าอุราร้าว
รานรอนหนาวทรวงในใจหวิวโหวง
ระริกรี้พลิ้วไหวใจเครงโครง
ระรื่นโล่งเรียบแปล้แดเดียวดาย

วิริน

๑๘/๖/๖๑

 :30:


หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 22 มิถุนายน, 2561, 08:59:20 AM


รวยรินรินเกลือกแก้ม......ชลนา
พายุยุยงพา...................พากย์พลั้ง
ฝืนข่มข่มหลับตา............มิหลับ
หวนจิตพะวงรั้ง..............จิตให้คอยหวน

รวยรินรินหยาดท้นหม่นสองแก้ม
ทุกข์เหน็บแนมคงยากพรากเลือนหาย
หากต่อยตีเจ็บร้างก็จางคลาย
บาดใจร้ายเก็บช้ำจำมิลืม

Soul Searcher
Inspired to write 21/6/2018




หัวข้อ: Re: ~*~ ดอกอ้อล้อลม ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 25 มิถุนายน, 2561, 04:03:35 PM
:30:

รอนรอนราวเร่งเร้า   เหงาทรวง
ใจเจ็บเเหน็บเพราะดวง- จิตช้ำ
ระทึกระทวยหวง       เหินห่าง
ระทมแทบกลืนกล้ำ    กระหน่ำ่เช้าเต็มทรวง

รอนรอนนอนหนาวเนื้อเมื่อใกล้สาง
อุระนางขวาซ้ายกลายดูดดื่ม
ขอได้ไหมน้ำคำจำหยิบยืม
หรือว่าลืมกันแล้วแก้วดวงใจ

วิริน
๒๕/๖/๖๑

 :30: