เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: วลีลักษณา ที่ 27 มกราคม, 2561, 08:58:26 AM



หัวข้อ: ~*~ ยอดดวงใจ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 27 มกราคม, 2561, 08:58:26 AM
~*~ กล่อมกานท์ ~*~

๐ บุหลันกระจ่างฟ้า.....รุจิราทิฆัมพร
ฤทัยก็รอนรอน............มนย้อนพจีใคร

๐ ลิขิตอะคร้าวคำ........ดุจย้ำนิยามนัย
คะนึงและอาลัย...........รติเพียงอนงค์นวล

๐ ประหวัดสิเนหา.........รจนาก็คร่ำครวญ
แถลงละคำล้วน...........ปฏิพัทธ์มนัสปอง

๐ นิราศนิวาสห่าง-.......คคนางค์ระหว่างครอง
หทัยสิหมายคล้อง........มิระย่อพยายาม

๐ เปรียบน้ำทิพถิ่นแถนโลมแผ่นหล้า
หลั่งโลมพาชื่นเย็นรินเป็นสาย-
สวาทหวานซ่านอยู่มิรู้คลาย
ด้วยมั่นหมายแน่วแน่มิแปรคำ

๐ แม้อยู่ห่างต่างถิ่นถวิลถึง
แต่หวานซึ้งคลอเคล้าอยู่เช้าค่ำ
ผ่านสร้อยกานท์เรียงร้อยทยอยนำ
วลีย้ำอาวรณ์มิซ่อนนัย

๐ ฤดูลมวนถึงอีกหนึ่งรอบ
เหมันต์ครอบห้วงหาว..พี่หนาวไหม?
ป่านนี้คงเย็นชื้นทั้งผืนไพร
ห่วงคนไกลโดดเดี่ยวเปลี่ยวกมล

๐ สูรย์ยอแสงแปลงสรวงก่อนล่วงฟ้า
เรื่อเรืองทาทาบหาวพร่างพราวหน
ก่อนม่านดำครอบหล้าคลุมสากล
เพื่อผ่อนปรนเหนื่อยล้าสู่ราตรี

๐ ลมเย็นพัดผ่านแผ่วโลมแนวไม้-
สะท้านกิ่งก้านใบอยู่ในที่
หอบกลิ่นหอมอบอวลมวลมาลี
แทรกฤดีซ่านอยู่มิรู้คลาย

๐ ล่องลอยเถิดแรงถวิลสู่ถิ่นโพ้น
เพื่อถ่ายโอนหอมหวานผ่านเป็นสาย
แล้วผูกเงื่อนรวบคล้องทั้งสองปลาย
ยึดมั่นอย่ารู้คลายตราบวายชนม์

๐ เดือนเต็มดวงกลางหาวธารดาวห้อม
นวลแสงย้อมคคนางค์กระจ่างหน
กระจ่างเช่นข้างในหัวใจคน
เฉกอำพนโคมแถนโลมแดนดิน

๐ จำเรียงร้อยคีตกานท์ล่องน่านฟ้า
กล่อมนิทราคนไกล..ให้ถวิล
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวฤดีทั้งชีวิน
แม้ห่างถิ่นสุดหล้าให้อาลัย

๐ แว่วหวานรสสังคีตประณีตนั้น
หมายแทรกซึ้งซ่านขวัญให้หวั่นไหว
ซอกซอนรักล้ำล่วงสู่ห้วงใจ
มิหมายใครอื่นปลูกความผูกพัน

๐ ตลอดช่วงล่วงวารแสนนานเนิ่น
แม้ห่างเหินเพียงกายยังหมายขวัญ
แนบสนิทพิศวาสมิขาดกัน
ตราบนิรันดร์มั่นหมายมิคลายคลอน

๐ กล่อมเพลงกานท์ผ่านล่วงทั้งห้วงฟ้า
ล้อมแผ่นหล้าโลมขวัญค่อยผันผ่อน
ผลัดความเหงาเผาไหม้ราวไฟฟอน
ค่อยลดทอนโศกทรวงผ่านล่วงคืน

วลีลักษณา
๒๖ มกราคม ๒๕๖๑
ที่มา
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana&month=26-01-2018&group=26&gblog=87


หัวข้อ: Re: ~*~ กล่อมกานท์ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: กิติราช ทับทิม ที่ 28 มกราคม, 2561, 01:59:02 PM
(https://upic.me/i/y4/ciel36.jpg)

อุปเปนทรวิเชียรฉันท์๑๑ และ กลอนสุภาพ ไพเราะมากครับ คุณวลีลักษณา
อ่านแล้วสุนทรียะยิ่งครับ  :32: ขอร่วมสักบทสองบทนะครับ...

 :35:
 อภิญญ์กวินท์เหงา .. วทะเศร้าสลดความ
สะทกสะเทือนตาม .. ตะละพจน์สะกดดึง

 ระเหระเร่ถิ่น .. ซิถวิลวิเวกขึง
สะอึกสะอื้นอึง .. ชรอุ่มอุราตรม..
.....

 :27pr:
แลท้องฟ้าราตรียามนี้หม่น
เศร้าระคนขานเอื้อนมองเดือนฝืน
เสียงหริ่งหรีดหวีดย้ำรำพันยืน
สั่นสะอื้นอกไหวนัยน์หลั่งริน..

ร่ำวอนลมห่มองค์ร่างนงเจ้า
ฝากความเหงางันคละความถวิล
อ้อนดาวผ่องคล้องชานวิมานดิน
โปรยกรุ่นกลิ่นกันเกราฉมเคล้านวล..

หลับเถอะศรีที่รักนอนพักเถิด
ฝันบรรเจิดแจ่มยลมงคลถ้วน
มนต์พรกานท์ผ่านคำล้ำเลิศมวล
คุ้มครองจวนเจ้านี้.อย่ามีภัย ฯะ

กิติราช ทับทิม : :letter:
๒๘ มกราคม ๒๕๖๑


หัวข้อ: Re: ~*~ กล่อมกานท์ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 28 มกราคม, 2561, 04:38:18 PM
(http://timjaboon.googlepages.com/lyse01.jpg)

๐ พิไรพิลาปร่ำ............ลหุคำขจายพรม
ลุคืนก็ขื่นขม................ขณะข่มคะนึงเงา

๐ อุษารวีใส.................เฉพาะใจสิหม่นเทา
ถวิล บ่ บางเบา.............คละเคล้ากระพือโหม

๐ ระบิลระบุนัย..............วจะไล้ประจบโลม
ฤ ใจจะหมายโน้ม..........มนคล้องประคองเคียง

คืนฟ้าดับอับโสมประโลมส่อง
ทั้งห้วงห้องหนหาวร้างดาวใส
ฟ้าดินช่างหม่นเหงาเมื่อเงาใคร
มาลับร้างห่างไกลเกินได้พบ

คงเหงาเงียบเยียบเย็นมิเว้นว่าง
เมื่อต้องห่างทางฝันมิบรรจบ
ฝากคำถึงใครนั้นอย่าพลันลบ-
เลือนอาวรณ์ก่อนกลบจนจบรัก

แว่วคำกานท์ฝากถึงก็ซึ้งจิต
ร่ายริขิตอ่อนหวานสานสลัก
ถ้วนทุกเนื้อความนัยชื่นใจนัก
ทุกเส้นสายลายลักษณ์ประจักษ์แล้วฯ

วลีลักษณา
๒๘ มกราคม ๒๕๖๑


หัวข้อ: Re: ~*~ กล่อมกานท์ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 29 มกราคม, 2561, 10:16:48 PM

พิรี้พิไรร่ำ................ขณะพร่ำพะวงเรียง
จะน้อยจะมากเพียง...ลหุคร้ามนิยามหมาย

วลีวิถีถ้อย...............สุตด้อยดนูอาย
ระทึกฤทัยชาย.........มติยั้งมิรั้งรอ

มิลองฤ จักรู้............วจะคู่วธูคลอ
จะผิดจะเพี้ยนขอ......รติเร้าระรึงนวล

คืนฟ้าหลัวกลัวใจวาบไหวนั่น
พาลปลุกปั่นเรรวนกระบวนแถว
เพราะมัวหลงเพ็ญโสมโฉมเพริศแพรว
จนซมแซ่วเหว่ว้างแทบวางวาย

อันความเศร้าเหงาทรวงในห้วงลึก
ครั้นตรองตรึกตรึงตราอุราหมาย
ก็หวังเคล้าเคียงข้างมิห่างกาย
แต่กลับคล้ายเงาบาปมาทาบบัง

จึ่งร่ายร่ำโคลงกลอนอักษรร้อย
ปนชื่นช้อย ตัดพ้อ ต่อความหวัง
หากว่ารักโลเลคงเซซัง
แต่หากยังคงมั่น...ฉันจะรอ...

Soul Searcher
Inspired to write 29/1/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ กล่อมกานท์ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 30 มกราคม, 2561, 07:44:28 PM

ลิขิตวิจิตรร้อย..............วิเคราะห์สร้อยทยอยเรียง
ประพนธหมายเพียง......ระบุนัยยะบรรสาน

ผิขาม ฤ ห้ามไหว.........ปิติใดมิอาจราน
ระรวยระรินกานท์........พิเราะพร้องประลองเชิง

จรดจรัสเลิศ...............จะประเสริฐและดำเกิง
ประดิษฐ์ประดอยเริง.....ระบิถ้อยสุภาพทำ

ต้นเป็นรักปักลง ให้สงสัย
ว่านานไปใจเปลี่ยน ที่เวียนก่อ-
สานไมตรี ไม่นานก็รานกอ-
รักมิทันผลิช่อก็เฉาตาย

คล้ายขว้างหินถามทางไปพรางก่อน
หวั่นรักซ้อนซ่อนเงื่อน แล้วเลือนหาย
เกรงโศกเศร้าร้าวรอนเกินผ่อนคลาย
หรือจึงร่ายเรียงความมาถามกัน

หากเข้าใจนิยามของความรัก
ย่อมประจักษ์ใจแน่มิแปรผัน
ดำรงอยู่กลางจิตนิจนิรันดร์
ไม่มีวันลบเลือนตามเงื่อนกาล

วลีลักษณา
๓๐ มกราคม ๒๕๖๑



หัวข้อ: Re: ~*~ กล่อมกานท์ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2561, 04:58:16 PM


ประหวัดประหวั่นร้อย....ผิวะพร้อยชะรอยดำ
จรดเจรียงคำ................จริยาผวาพลั้ง

กระมิดกระเมี้ยนแม้น....วจะแค่นมิจีรัง
สะดุดสะดุ้งดัง..............ปฏิพัทธ์วิบัติวาย

ประลองประเล่ห์ล้น.......นฤมลมิเมียงหมาย
ระทดระทวยราย...........ระบิถ้อยมิเท่าเทียม

ขึ้นต้นคำจำรายคล้ายต้นรัก
พอวางวรรคหวั่นไหวจนไร้หวาน
กลายต้นปีบลีบเยี่ยง เสลี่ยงคาน
เก่าบุราณพาหนะปลดระวาง

อุปสรรครักมากลำบากแท้
ถูกตั้งแง่แปลงเสียงจำเรียงหมาง
ไกลเกินเอื้อมเชื่อมชิดสนิทนาง
หมดหนทางสางช่อพะนอเนา

เพราะซึ้งในนิยามความรักนั่น
ว่าแปรผันตามจิตพินิจเหย้า
แต่หัวใจเหว่ว้างช่างบางเบา
แค่เห็นเงาเย้าหยอก...หลอกก็กลัว

...แต่งไปตามบริบทของกลอนนะครับ
หากพลาดพลั้งไปกระทบกระทั่งประการใด
ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ...

ด้วยความเคารพ
Soul Searcher
Inspired to write 1/2/2018




หัวข้อ: ~*~ ยอดดวงใจ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 11 กุมภาพันธ์, 2561, 07:45:13 PM
(https://cdn.pixabay.com/photo/2017/07/20/21/23/red-rose-2523854__340.jpg)


~*~ ยอดดวงใจ ~*~

๐ ยามโพล้เพล้แปรภาพระนาบภพ
พรายพระลบย้อมแสงแต้มแต่งสี
ก่อนผลัดช่วงล่วงฟ้าเพื่อราตรี
ค่อยค่อยคลี่ม่านดำครอบงำกาล

๐ กลืนกลบแถบสีทองบนท้องฟ้า
ตามเวลานาทีที่คล้อยผ่าน
แสง-ภาพ ต่าง หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนวาร
แต่สิ่งหนึ่งตรึงนานทั้งลานทรวง

๐ นับตั้งแต่ครั้งนั้นถึงวันนี้
มิเคยมีวันไหนที่ไม่ห่วง
เฝ้าร้อยเรียงสื่อความคอยถามทวง
เพื่อหมายพ่วงเยื่อใยรั้งใจนั้น

๐ สูรย์หลีกเร้นเพ็ญเดือนก็เยือนหาว
ประดับดาวพราวใสชวนให้ฝัน
ลืมหรือยังสร้อยคำเคยรำพัน
ยังดำรงคงมั่นฤาผันแปร

๐ อาจต้องอยู่ไกลห่างราวต่างฟ้า
เพียงสบตาบนสรวงฝากดวงแข
นวลแสงเรื่อเรืองเคลือบทอดเหลือบแล
มอบเพียงแต่หนึ่งนั้นด้วยฉันทา

๐ ลมยามค่ำร่ำสายรำพายแผ่ว
เพลงพาทย์แว่วหวานครวญคล้ายหวนหา
ล่องลอยปนผสมสายลมมา
สืบส่งนัยรจนาแห่งปรารมภ์

๐ ดุจตอกย้ำซ้ำลงจำนงนั้น
จักร่นฟ้าร้อยฝันรอวันสม
คนไหนอื่นหมื่นแสนมิแม้นชม
ขอผูกปมคล้องวาสน์มิคลาดคลาย

๐ หากแต่แรงลิขิตอธิษฐาน
ตรึงวิญญานรั้งอยู่เป็นคู่หมาย
แม้รอบกาลแปรเปลี่ยนหมุนเวียนกลาย
จนเบนบ่ายปลายทิศให้ผิดทาง

๐ ยังรอคอยคืนวันให้ผันล่วง
ลิดรอนปวงโทษทัณฑ์ที่คั่นขวาง
แม้สัมผัสรูปเงาเพียงเบาบาง
ที่แคว้งคว้างกลางฝันยังมั่นรัก

วลีลักษณา
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
ที่มา
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana&month=10-02-2018&group=26&gblog=90


หัวข้อ: Re: ~*~ ยอดดวงใจ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 13 กุมภาพันธ์, 2561, 07:54:25 AM


โพล้เพล้พระลบลี้.........ล่วงพา
เหินห่างร้างแรมรา........หลีกเร้น
หมองหม่นหว่างเวหา....มืดสนิท
เดือนดับมิวายเว้น.........หวั่นว้างอ่อนไหว

ยามอาทิตย์อัสดงพลัดหลงเศร้า
สู่เงียบเหงาเวิ้งว้างหลุมพรางดัก
อัสสุชลย้อนเยื้อนเหมือนทายทัก
ทิ้งคำรักคงมั่น นิรันดร์ร้าง

เมื่อรักแรงแสงเดือนจ้าเกลื่อนกล่น
ครั้นรักหม่นดุจเทียนกระเสียรจ่าง
น้ำต้มผักเคยหวานก็พาลจาง
กลิ่นแก้มนางชวนชิดยังคิดเมิน

ลมรำเพยเชยพัดผ่านวรรษา
ลุล่วงมาเหมันต์แต่วันเนิ่น
อุปสรรคยิ่งมากยากเผชิญ
มิอาจก้าวดำเนิน เหินห่างไกล

วิวิตวามรับรุ่งอรุณแว่ว-
เสียงเจื้อยแจ้วลอยมาแต่ฟ้าไหน
ยั้งสติครั่นคร้ามมิตามใจ
ห้วงอาลัยฉุดลากกระชากย้อน

ฤาเป็นแรงลิขิตอธิษฐาน
รั้งผูกพ่วงดวงมานแต่กาลก่อน
ขึงกระหวัดไหววาบอาบนิวรณ์
ลวงภมรเชื่อมชิดสนิทนวล

ยามสงัดราตรีฤดีสบ
ซึ้งสงบหว่างใจที่ไห้หวน
ผ่านเส้นทางชีวิตคิดใคร่ครวญ
หยั่งตรึงตรวนร้อยวาสน์ชาติภพเจอ

ฤาอาทิตย์อัสดงให้ปลงตก
ไร้นรกไร้สวรรค์เพียงฝันเก้อ
ธรรมชาติชี้นำธรรมเลิศเลอ
หลอมใจเธอเคียงฉันนิรันดร์เนา

Soul Searcher
Inspired to write 13/2/2018

*กระเสียร : คับแคบ, ลำบาก, ฝืดเคือง
                  ใช้เข้าคู่กับคำ กระเบียด
                   เป็น กระเบียดกระเสียร
วิวิต : สงัด, ปลีกตัวไปอยู่ในที่สงัด

kOkr_fD1kn4




หัวข้อ: Re: ~*~ ยอดดวงใจ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 13 กุมภาพันธ์, 2561, 08:24:23 PM
เพลงคลื่น

เพลงคลื่นครืนครืนหยั่ง
กระทบทั่งดังวันเก่า
เม็ดทรายกระจายเบา
มิรู้เงาอยู่แห่งใด

ค่ำคืนนี้สงัด
ลมเคยพัดก็หวั่นใจ
เกิดพายุลูกใหญ่
ทะเลใดจึ่งร่ำร้อง

โอ้โอ๋บทเพลงคลื่น
หลับเป็นตื่นโกลาก้อง
เล็กใหญ่ย้ายทำนอง
มิอาจทั่วทั้งโลกา

เพลงคลื่นคือเพลงคลื่น
ที่คร่ำครืนใต้นภา
มิอาจสะท้านฟ้า
สะเทือนท้วงถึงดวงดาว

สิริวตี
12-02-2561

ช่วงนี้เพ้อนะลุง​  ลืมกินยาฤๅ


หัวข้อ: ...เพลงคลื่น กับวันแห่งความรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 14 กุมภาพันธ์, 2561, 08:48:45 AM

...เพลงคลื่น กับวันแห่งความรัก...

เพลงคลื่นลบรื้นทราย
ผ่องผกายพร่างพรายพราว
คัดวางหว่างห้วงหาว
ราวเรียงรับกับรื่นร้อย

ลมเหนือเจือปนโศก
พลิ้วพัดโบกวิโยคปรอย
ภู่ผึ้งตรึงตราคอย
ช้อยชื่นเคล้าเยาวมาลย์

ทะเลเอ๋ยทะเล
เหมือนจะเห่จะห่มกานท์
เอื้อมหัตถ์ป้องปัดราน-
รอนปลอบช้ำระกำทรวง

เพลงคลื่นกลบขื่นรัก
ที่ปรักประลัยปวง
แนบชิดสนิทห้วง
จุมพิตขวัญ...วันแห่ง(ความ)รัก...

Soul Searcher
Inspired to write 14/2/2018




หัวข้อ: ...เพลงคลื่น กับวันแห่งความรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2561, 08:25:00 PM
๐ แสงตรู่สางเรื่อเรืองเข้าเปลื้องภพ
แต่งอรรณพวาบวิบระยิบไหว
ขับความหนาวคราวอรุณด้วยอุ่นไอ
ดุจโอบโลกหล้าไว้ด้วยใจรัก

๐ ลมทะเลเห่กล่อมตะล่อมคลื่น
แต่งลำตื่นซัดสาดสู่หาดผลัก-
เม็ดทรายดื่นเกลือกกลิ้งไม่นิ่งพัก
ก่อรอยทรายคล้ายสลักด้วยอักษรา

๐ คลื่นอารมณ์ร่ายริ้วอยู่พลิ้วไหว
วาดวางในลานฝันสื่อหรรษา
ขับกล่อมถ้อยประพันธ์กำนัลพา
คลายความว้าเหว่พรากออกจากทรวง

๐ หวั่นรอยนั้นเลือนหายกับสายน้ำ
ยามสาดซ้ำกล้ำกรายมลายล่วง
ไม่เหลือแม้สักนิดลิขิตปวง
ครั้นสิ้นช่วงล่วงวันก็ผันแปร

วลีลักษณา
ที่มา
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana&month=15-02-2018&group=26&gblog=91



หัวข้อ: ...เพลงคลื่น กับวันแห่งความรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 19 กุมภาพันธ์, 2561, 08:09:12 AM


เรืองรองระลอกริ้ว..............วารี
สวยส่องอรุณี.....................แต่งแต้ม
ระยิบระยับธี-.....................รภาส
ยวนหยอกเยิ้มหยาดแย้ม....หยั่งถ้อยถวิล

รวยรินระบัดร้อย.................รังสรรค์
หอมห่มหฤหรรษ์.................หว่านล้อม
รติร่วมทางฝัน.....................ฟุ้งเฟื่อง
กลอนเห่นวลเหนี่ยวน้อม......สุดต้านทานไหว

ไกลกันกระหวัดแจ้ง.............กำจาย
ปรุงแต่งว้างวุ่นวาย..............เหว่ว้า
เหินห่างแต่มิหาย................หวนจิต
“เพลงคลื่น”แม้อ่อนล้า.........โอบเคล้าคลอขวัญ

Soul Searcher
Inspired to write 19/2/2018



หัวข้อ: Re: ...เพลงคลื่น กับวันแห่งความรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 20 กุมภาพันธ์, 2561, 11:13:49 PM


หอบจำนรรจ์เห่ลมและห่มคลื่น
ย้อนหยิบคืนวันหวนทวนกระแส
สายลมเอื่อยเฉื่อยชักพักเชือนแช
ช่วยดูแลชอกช้ำอย่าทำลาย

คลื่นซัดสาดหาดลบกลบรอยริ้ว
เปลื้องปลิดปลิวอารมณ์ระทมหน่าย
ระลอกคลื่นหลอมรักรวมทักทาย
สื่อความหมายคะนึงส่งถึงกัน

ลมยามเย็นอ่อนโชยโบยสะบัด
เยี่ยมกระหวัดอ้างว้างหว่างใจฝัน
อ่อนระโหยโรยแรงแสงตะวัน
เมื่อรักอันพิสุทธิ์ต้องหลุดลอย

เนียนละเอียดเม็ดทรายใต้ฝ่าเท้า
ทั้งเกลื่อนเศร้ากลิ้งเกลือกของเปลือกหอย
เหมือนเวลาโลกหยุดฉุดรั้งคอย
รอริ้วรอยรักร้างเรื่อจางคลาย

Soul Searcher
Inspired to write 20/2/2018



หัวข้อ: ~*~ รักที่มั่นคง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 22 กุมภาพันธ์, 2561, 05:07:36 AM
~*~ รักที่มั่นคง ~*~

๐ เมื่อควานหาความหมายจากภายนอก
ก็กลิ้งกลอกกลับกลายเป็นหลายหน
ช่างยากนักหยั่งรู้ใจผู้คน
ที่วกวนไหวตื่นดุจคลื่นลม

๐ ไม่คงที่มีแต่จะแปรผัน
ครั้งสัมพันธ์เป็นอื่นก็ขื่นขม
ยึดมั่นอย่างไม่พร้อมจะตรอมตรม
จึงถูกคมแห่งกาลลิดรานรอน

๐ ฟ้าแปลงทัศน์ผลัดสีนทีเปลี่ยน
วันเดือนเวียนกรายผลัดเข้ากัดกร่อน
สุขทุกข์ต่างลาล่วงตามช่วงตอน
ทิ้งตะกอนขุ่นข้นอยู่ปนใจ

๐ แสงตรู่สางเรื่อเรืองเข้าเปลื้องภพ
อีกคำรบแปลงฟ้าอุษาใส
และอีกครั้งปลดเปลื้องทุกเรื่องไป
ที่ค้างคาข้างในให้ลบเลือน

๐ ปลูกความรักปักลงมิสงสัย
เป็นรักที่ยิ่งใหญ่หาใดเหมือน
แม้เนิ่นนานผ่านผันเปลี่ยนวันเดือน
ขอผูกเงื่อนรักไว้เพียงใจตน

ขออภัยที่ไม่ต่อสัมผัสนะคะ

วลีลักษณา
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=02-2018&date=15&group=26&gblog=91


หัวข้อ: Re: ~*~ ยอดดวงใจ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 23 กุมภาพันธ์, 2561, 10:40:05 PM

คิดหยั่งรู้ความในใจมนุษย์
คงเกินขุดคะเนค่าผลาผล
จักรุกล่วงลึกซึ้งหนึ่งกมล
เพื่อไขว่ค้นวูบไหวไปไยกัน

พึงพอจิตมากน้อยย่อมคล้อยเคลื่อน
ตามแต่เยือนหยั่งภพประสบนั่น
แย้มยลบทชดช้อยร้อยจำนรรจ์
ก็ผกผันคุคลุ้งเป็นคุ้ง(เป็น)แคว

แสงตรู่สางร้างฝันห่างวัลลภ
ดั่งคำพบเพื่อพรากแล้วฝากแผล
ทิ้งเพียงรอยทรงจำย่ำดวงแด
หมดทางแก้แผลนั้นนิรันดร์เนา

Soul Searcher
Inspired to write 23/2/2018



หัวข้อ: Re: ~*~ ยอดดวงใจ ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 28 กุมภาพันธ์, 2561, 03:51:13 PM
:30:

ใครหยั่งรู้เรื่องใครไม่อยากสน
สาระวนเขียนกลอนอ้อนแต่เขา
หายหน้านานเนิ่นหนอก็เพราะเรา
นั่งจับเจ่าเข่าเกยเลยตรอมตรม

มิรุกล่วงหลอกหลอนขอวอนเถิด
ใจเตลิดเปิดเปิงเอิงเอยขม
เขียนแต่เช้ายันค่ำพร่ำลอยลม
เพียงชื่นชมคนเก่งในเพลงกานท์

มิไขว่คว้าอันใดให้ใจปวด
แม้นร้าวรวดทรวงในให้พ้นผ่าน
เพลิดเพลินตามประสามาตั้งนาน
ยังยืนกรานต่อไปด้วยใจรัก

วิริน.
๒๘/๒/๖๑

 :30: