เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 ตุลาคม, 2563, 08:20:35 PM



หัวข้อ: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 ตุลาคม, 2563, 08:20:35 PM


...น้ำตาฟ้า...

หยาดน้ำฝน หยดลงถัง เสียงดังแหมะ
พ้องเปาะแปะ ผุพัง สังกะสี
เสียงครวญคร่ำ จากฟ้า ยามราตรี
คล้ายวาที เคล้าเพลง บรรเลงพิณ

คับขุ่นข้อง หมองไย อยู่ใต้ฟ้า
ย่อมเปียกปอน กายา มิราสิ้น
สบทุกข์โศก ไหลบ่า น้ำตาริน
ก็เกาะกิน กุมจิต จนอิดโรย

ถึงกายเปียกปอนแล้ว มิแคล้วแห้ง
ถูกทิ่มแทง หทัยชวน ไห้หวนโหย
ครั้นเพลา พัดโบก วิโยคโบย
สุขทุกข์โชย คล้อยเคลื่อน กับเงื่อนกาล

อนิจจัง อนิจจา ชีวานัก
มิตระหนัก ขื่นขม ระดมหว่าน-
เพาะกิเลส ตัณหา อุปาทาน
อภิบาล กำหนัด วิบัติบรรพ์

เพียงฝนพรำ ฉ่ำพา อุราพร้อย
ก็ออดเอื้อน อ่อนช้อย ร้อยคำมั่น
หวนกระหวัด พลัดพราก วิบากทัณฑ์
จึ่งประพันธ์ ประพรม คารมกวี

ถึงภพ ชาติ ชรา มรณะ
เศร้าโสกะ อุปายาส ฉกาจรี่
ปริเทวะ,ทุกขัง ต่อตั้งตี
ศานติมีโทมนัส คอยคัดง้าง

ตัดสังโยชน์ ด้วยโพชฌงค์ ธุดงควัตร
พึงขจัด อวิชชา มายาขจ่าง
กิเลสขืน ขัดเกลา ให้เบาบาง
ครั้นเสื่อมสิ้น สรรพางค์ ละวางพร้อม

มัวเชื่องช้าเชือนไย อาลัยชีวิต
ห่วงยึดติด ลูกเมีย คลอเคลียถนอม
ห่วงทรัพย์สิน เงินตรา เฝ้าหาออม
จนมิยอม สละทิ้ง สิ่งนอกกาย

โอ้ใจเอย ใจมนุษย์ มิหยุดพัก
ครุ่นครวญรัก ครวญชัง สิ่งทั้งหลาย
เพียงความสุข ชั่วครั้ง คลั่งมิคลาย
กี่วางวาย น้ำตาฟ้า ยังบ่าริน

น้ำตาฟ้าหลั่งท้น..........ปฐพี
ชลเนตรดั่งนที.............เอ่อรื้น
สุขเสพผ่านกายี...........ยั้งอยู่ ยืนฤา
สงบงามชุ่มชื้น.............ฉ่ำถ้อยธรรมกถา


WRQKjzrv5M8

โซ...เซอะเซอ
11 ตุลาคม 2563




หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 11 ตุลาคม, 2563, 09:47:26 PM
 :31: :12: :21:

พายุเข้าเหงาหงอยฝากถ้อยหวน
ดั่งเพลงทวนกวีชื่นกลับคืนถิ่น
เสียงโทนต่ำพร่ำไว้ที่ได้ยิน
มิชาชินวลีพจน์ตามบทโซ

สัจธรรมคำสอนวางกลอนแจ้ง
อ่านแถลง..เสียงก้องแล้วร้องโห่
หลักการแจ๋วแนวธรรมะเดโช
เราชอบโม้..แบบเก่า..ช่วยเล่าที

อ่านแนวธรรมของท่านโซ ไม่ค่อยคุ้น คุ้นแต่แบบเก่าแนวแซว  ตลก  หัวเราะร่า  นะครับ

Jannjao


หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 12 ตุลาคม, 2563, 12:39:50 PM


...น้ำตาฟ้า...

หยาดน้ำฝน หยดลงถัง เสียงดังแหมะ
พ้องเปาะแปะ ผุพัง สังกะสี
เสียงครวญคร่ำ จากฟ้า ยามราตรี
คล้ายวาที เคล้าเพลง บรรเลงพิณ

คับขุ่นข้อง หมองไย อยู่ใต้ฟ้า
ย่อมเปียกปอน กายา มิราสิ้น
สบทุกข์โศก ไหลบ่า น้ำตาริน
ก็เกาะกิน กุมจิต จนอิดโรย

ถึงกายเปียกปอนแล้ว มิแคล้วแห้ง
ถูกทิ่มแทง หทัยชวน ไห้หวนโหย
ครั้นเพลา พัดโบก วิโยคโบย
สุขทุกข์โชย คล้อยเคลื่อน กับเงื่อนกาล

อนิจจัง อนิจจา ชีวานัก
มิตระหนัก ขื่นขม ระดมหว่าน-
เพาะกิเลส ตัณหา อุปาทาน
อภิบาล กำหนัด วิบัติบรรพ์

เพียงฝนพรำ ฉ่ำพา อุราพร้อย
ก็ออดเอื้อน อ่อนช้อย ร้อยคำมั่น
หวนกระหวัด พลัดพราก วิบากทัณฑ์
จึ่งประพันธ์ ประพรม คารมกวี

ถึงภพ ชาติ ชรา มรณะ
เศร้าโสกะ อุปายาส ฉกาจรี่
ปริเทวะ,ทุกขัง ต่อตั้งตี
ศานติมีโทมนัส คอยคัดง้าง

ตัดสังโยชน์ ด้วยโพชฌงค์ ธุดงควัตร
พึงขจัด อวิชชา มายาขจ่าง
กิเลสขืน ขัดเกลา ให้เบาบาง
ครั้นเสื่อมสิ้น สรรพางค์ ละวางพร้อม

มัวเชื่องช้าเชือนไย อาลัยชีวิต
ห่วงยึดติด ลูกเมีย คลอเคลียถนอม
ห่วงทรัพย์สิน เงินตรา เฝ้าหาออม
จนมิยอม สละทิ้ง สิ่งนอกกาย

โอ้ใจเอย ใจมนุษย์ มิหยุดพัก
ครุ่นครวญรัก ครวญชัง สิ่งทั้งหลาย
เพียงความสุข ชั่วครั้ง คลั่งมิคลาย
กี่วางวาย น้ำตาฟ้า ยังบ่าริน

น้ำตาฟ้าหลั่งท้น..........ปฐพี
ชลเนตรดั่งนที.............เอ่อรื้น
สุขเสพผ่านกายี...........ยั้งอยู่ ยืนฤา
สงบงามชุ่มชื้น.............ฉ่ำถ้อยธรรมกถา


WRQKjzrv5M8

โซ...เซอะเซอ
11 ตุลาคม 2563




เสียงสายฝนหล่นถังดังเปาะแปะ
ซู่ซ่าแซะขวดโซดาคราถวิล
ตะเกียบเคาะข้างแก้วดั่งแพรวพิณ
บรรเทิงกลิ่นเย้ายวลดวลสุรา

เสียงสายฝนหรือน้ำตาคราลู่หล่น
แยกไม่ออกเสียจนต้องค้นหา
แท้เสียงรินเหล้าไหหรือไรนา
ดังเปาะแปะซูซ่าน่าฟังจริง

 :28:





หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดาวเอง ที่ 12 ตุลาคม, 2563, 12:50:38 PM
:31: :12: :21:

พายุเข้าเหงาหงอยฝากถ้อยหวน
ดั่งเพลงทวนกวีชื่นกลับคืนถิ่น
เสียงโทนต่ำพร่ำไว้ที่ได้ยิน
มิชาชินวลีพจน์ตามบทโซ

สัจธรรมคำสอนวางกลอนแจ้ง
อ่านแถลง..เสียงก้องแล้วร้องโห่
หลักการแจ๋วแนวธรรมะเดโช
เราชอบโม้..แบบเก่า..ช่วยเล่าที

อ่านแนวธรรมของท่านโซ ไม่ค่อยคุ้น คุ้นแต่แบบเก่าแนวแซว  ตลก  หัวเราะร่า  นะครับ

Jannjao


ทำตัวไว้ให้คุ้นเถิดคุณจั่น
ตามประสานักฝันหลากชั้นสี
เชิงชั้นครูหลายรสพจนีย์
ก็เพลินดีนะพ่อขอชี้แจง

ตอบแทนให้คุณเซอะติดทานข้าวอยู่ค่ะ :28:



หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 12 ตุลาคม, 2563, 05:13:50 PM
 :31: :12: :34:

เราฟังหูไว้หูพอรู้อ้าง
ที่จริงบ้างก็คราวดาวแถลง
เพลิดเพลินรสบทกานท์ชอบงานแรง
กลอนกลั่นแกล้งอำเขาแซวเอามันส์

กลอนสวยหรูดูงามอ่านตามหลับ
กลอนใสวับพราวแพรวใช่แนวฉัน
รักกลอนสู้บู๊ฟัดจ้องกัดกัน
เรื่องห้ำหั่นแนวบ้าออกหน้าลุย


Jannjao



หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: มนตรี ประทุม(2) ที่ 12 ตุลาคม, 2563, 05:41:59 PM

 :26: :26: :26:
ร่วมยินดีนักกลอนมินอนหนาว
หลายวันยาวเหมือนหลงดั่งผงผุย
นักกลอนกานท์ห่างไปไม่มาคุย
ฉันขุดคุ้ยเขียนกลอนร่อนเดียวดาย

มาเถอะหนาน้องพี่ที่กลอนเด็ด
รวมเบ็ดเสร็จแนวไหนได้หลากหลาย
มาร่วมฝันด้วยหวังทั้งหญิงชาย
นั่งก้มกายแต่งฝันเช่นวันวาน
 :letter: :letter: :letter: :letter: :letter:

มนตรี  ประทุม(2)
๑๒ ต.ค.๖๓


หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 12 ตุลาคม, 2563, 08:11:44 PM
 :31: :12: :21:

เวลาอยากเขียนกลอนดันนอนหลับ
เลยลาลับกรนร่ำกรรมฐาน
ตาดำซ่อนนอนอู้อยู่มานาน
ทิ้งบทกานท์กวีเพื่อนลับเลือนลา

คิดถึงคุณพี่ระนาดบังอาจเอ่ย
ด้วยละเลยลืมวันสุขหรรษา
อีกพี่น้องผองมิตรลิขิตมา
ร่วมรักษาวรรณศิลป์ท้องถิ่นไทย

ก่อนเก่าย้อนอิ่มเอมเกษมสุข
แต่งสนุกต่อสนานสร้างงานใหม่
เสียงหัวเราะแว่วยินจินตนาไป
ร่วมดวงใจกันเข้าไร้เศร้าตรม

มาเถิดหนาน้องพี่ยอดศรีศิลป์
มาโบยบินระรื่นมิขื่นขม
บรรยากาศวันคืนเคยชื่นชม
คราอ่านก้ม..พิมพ์แต่ง..เขียนแข่งกัน


Jannjao


หัวข้อ: Re: ...น้ำตาฟ้า...
เริ่มหัวข้อโดย: มนตรี ประทุม(2) ที่ 13 ตุลาคม, 2563, 09:01:54 PM

หลายวันที่นักกลอนนอนพักผ่อน
วันนี้จรมาเยือนเตือนใจฝัน
มาร่วมเรียงอักขราเพื่อพากัน
สารพันวจีมีมากมาย

ได้อ่านกล่อนเพื่อนพ้องและน้องพี่
แสนโชคดีกลอนมีวางมิห่างหาย
โลกอักษรเตือนจิตมิคิดคลาย
จะสุขกายอ่านกลอนทุกตอนไป

มนตรี  ประทุม(2)