กลัวมิได้เห็นเขาเศร้าเหลือหลาย
อยู่เขียนกลอนรอเธอเพ้อระบาย
ถึงหญิงชายคนกลอนแต่ก่อนมา
รอคนกลอนออนไลน์ในอีกครั้ง
ด้วยพลังความเชื่อด้วยเอื้อว่า
ความผูกพันคนกลอนย้อนเวลา
จะคืนหาห้วงถวิลกวินกานท์
masapaer

11
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 11:16:00 PM
|
||
เริ่มโดย masapaer - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer | ||
ฉันรักคนเขียนกลอนจนอ่อนไหว
กลัวมิได้เห็นเขาเศร้าเหลือหลาย อยู่เขียนกลอนรอเธอเพ้อระบาย ถึงหญิงชายคนกลอนแต่ก่อนมา รอคนกลอนออนไลน์ในอีกครั้ง ด้วยพลังความเชื่อด้วยเอื้อว่า ความผูกพันคนกลอนย้อนเวลา จะคืนหาห้วงถวิลกวินกานท์ masapaer ![]() |
12
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 11:02:09 PM
|
||
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer | ||
เยี่ยม! ปรบมือ! อ่านเพลินค่ะ ชวนติดตามนะคะ ลุ้นเรื่องตามได้แล้ว
![]() |
13
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 10:51:14 PM
|
||
เริ่มโดย masapaer - กระทู้ล่าสุด โดย กวินพัฒน์ | ||
ไม่ได้นะครับดาวอย่างนี้อยากรู้ต่อเลย 55
|
14
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 10:48:08 PM
|
||
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย กวินพัฒน์ | ||
อาจเพียงแค่คิดถึงจึงอ่อนไหว
เพราะหัวใจเราท้าดุจว่าเก่ง หลงคารมเคลิ้มไปคล้ายฟังเพลง ติดรสกานท์บรรเลงเพลงคนธรรพ์ อาจเพียงแค่หลงใหลในเพียงครั้ง ใจก็ยังรำพึงจึงไหวหวั่น แต่ก็กลับฝังรากลึกนึกนานวัน ก็ยังฝันถึงใครไปเนิ่นนาน กวินพัฒน์ อ๋ออย่างนี้นี่เอง ![]() |
15
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 10:40:29 PM
|
||
เริ่มโดย กระต่ายสีเทา - กระทู้ล่าสุด โดย กวินพัฒน์ | ||
เหม่อมองสายน้ำไหลทำใจเหงา ยิ่งมองยิ่งเศร้าหัวใจให้เหว่ว้า ดั่งสายน้ำจากไปไม่กลับมา เหมือนรักถูกซัดพาให้ห่างไกล เธอจากไปไม่คิดถึงซึ่งคนเก่า ทิ้งรอยเงาดิ่งดำสายน้ำไหล ปล่อยความรักร่วงลาน้ำพาไป น้ำตาใสไหลหลั่งดั่งสายธาร กวินพัฒน์ ลง youtube ผ่านมือถือสำเร็จสักที 55 เห็นมะสะแปร์ติดน้าอ้นจัง ฟังตามนี้เพราะทุกเพลงเลยนะครับฮีลใจดี ผมเองก็คล้ายกับคุณกระต่ายเหมือนกันนะครับบางที |
16
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 10:30:35 PM
|
||
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer | ||
อาจเพียงแค่มองเพลินเลยเดินพลาด
สิ้นองอาจอ่อนไหวให้เสียหลัก อาจเพียงแค่หลงทางร้างพำนัก ติดกับดักคิดถึงเกินดึงคืน อาจเพียงแค่อ่อนไหวในโลกฝัน ที่สร้างชั้นหลากสีมีดาษดื่น ด้วยพิษของอารมณ์แอบขมกลืน และระรื่นจากใจในเราเอง masapaer ![]() ดาวเขียว กับดาวน้ำเงินเข้ม ดำเลยหล่ะ เรียกตามสีชื่อค่ะ สองหนุ่มกระทู้พล่านเลยนะคะเมื่อคืน ![]() |
17
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 10:05:18 PM
|
||
เริ่มโดย กระต่ายสีเทา - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer | ||
ยังติดตรึงฤทัยในคำหวาน ยังประสานรักนั่นอันสุขสม อีกสักครั้งคำนี้ที่ภิรมย์ ดุจแพรพรหมห่มใจในทุกกาล ใจต่อใจเราสองประคองฝัน แม้คืนวันเคลื่อนคล้อยจะลอยผ่าน รอคำหนึ่งตรึงฝันทุกวันวาน อีกครั้งหนึ่งรักเนิ่นนานนั้นที่รัก masapaer ![]() เสน่ห์หลง เสน่ห์แรง ไม่มี้ค่า...ไม่ว่างเข้าใจได้ค่า ว่างก็มาค่ะ ![]() (ยังติดน้าอ้นอยู่ค่ะ) |
18
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 07:15:15 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
Klonthaiclub.com
ในวันที่กลอน(กลอนห้า) «17 มีนาคม 2021, 12:12:AM ในวันที่กลอน ในบรรดากลอนทั้งหลายนั้น (ใช้เครื่องเครื่องหมายดอกจันทร์ แทนสัญลักษณดาว) กลอนแปด ***** กลอนเก้า **** กลอนเจ็ด *** กลอนหก กลอนสี่ ** กลอนห้า * การให้ดาว ให้โดยอาศัยหลักความถี่ที่ได้พบเห็นว่ามีผู้แต่ง ในกลอนห้าชนิด. กลอนแปดเป็นกลอนที่มีผู้นิยมแต่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาน่าจะเป็นกลอนเก้าและกลอนเจ็ดตามลำดับ ส่วนกลอนที่มีผู้นิยมแต่งน้อย(เพราะพบเห็นได้น้อย) น่าจะได้แก่ กลอนหกและกลอนสี่ ที่นานๆจะพบเห็นมีผู้แต่งที และกลอนที่พบเห็นแต่งน้อยที่สุด ได้แก่ กลอนห้า สำหรับหัวข้อในวันนี้ ในวันที่กลอน ก็จะเป็นการแต่งกลอน ให้สมกับชื่อหัวข้อ. แต่กลอนที่จะแต่ง จะเป็นกลอนที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแต่งกัน นั่นคือ กลอนห้า กลอนแปดมีมากผู้ ประพันธ์ มักปะได้ทุกวัน. ยิ่งแล้ว กลอนห้ากลับเสกสรรค์ น้อยกว่า น้อยแล เหมือนก่องมณีแก้ว. เลิศล้ำถูกพราง แผ้วถางรกชัฎถ้วน. ทีเผย งามยิ่งควรชมเชย. ทั่วหล้า หวังสร้างเสพคุ้นเคย. ชินทุก เหล่าแล ทั้งหมดคือกลอนห้า. จักได้นำเสนอฯ จริงๆแล้วกลอนห้าก็มีดีไม่แพ้ กลอนอื่นๆ. วันนี้จะแต่งกลอนห้า ซึ่งปกติไมค่อยได้แต่ง กลอนห้า วันนี้แต่งกลอนห้า. วันหน้าก็แต่งใหม่ จะเพียรแต่งเรื่อยไป. หวังใจได้ใช้จริง เพราะอยากให้โลกรู้ มีอยู่อีกหลายสิ่ง ควรค่าใช้อ้างอิง. ช่วงชิงฝึกศึกษา อย่าปล่อยให้หลุดมือ. มั่นถือในมรรคา เชิญเถิดฝึกไว้หนา. มีค่านับอนันต์ บูรพาทรนง 16 มีค. 64 ๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา), มือขวา, บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ, สิงสู่, ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่ เดียวดาย, เทพเจ้าไก่ |
19
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 06:28:50 PM
|
|||
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ | |||
|
20
เมื่อ: 01 เมษายน, 2568, 04:59:09 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
ลมหนาวย้าวเยี่ยมแล้ว
คลาดแคล้วอย่าคล้อยเคลื่อน หนาวลมยั้งห่มเตือน ย้อนเยื้อนความทรงจำ ดอกไม้กลายเปลี่ยนสี, วลีที่พร้อยพร่ำ แว่วหวานในขานคำ ลำนำเคยร่ำร้อง คงมั่นมิผันเปลี่ยน วนเวียนหว่างใจสอง ร้อยเรียวรั้งเกี่ยวคล้อง แซ่ซ้องทุกคืนวัน ฤดูกุหลาบสวย รุ่มรวยด้วยสีสัน หลายแหล่แม้ต่างพันธุ์ ประชันชื่นฉมเชย กุหลาบอาบคมหนาม แม้งามคร้ามอกเอ๋ย แผลถากหากละเลย ก่ายเกยถึงชีวี เจ็บปวดรวดร้าวราน เนิ่นนานมิหน่ายหนี ร่อยรอยถ้อยคดี ต่างมีให้เห็นกัน ศรัทธามิพร่าหาย คลอนคลายจากปลายฝัน แม้กาลล่วงผ่านนั้น ใจรั้นมิเปลี่ยนแปลง ลมหนาวโบยโบกแล้ว..คนดี บุษบันผันเปลี่ยนสี........แต่งแต้ม หัวใจหยัดยงพลี..........เพื่อรัก กุหลาบฤดูแย้ม............ตอกย้ำคำไสว ภาระในหน้าที่.............เปี่ยมปาง หน่วงหนักมิอาจวาง.....ปล่อยได้ อุปสรรครักพราง..........พลัดพราก เหินห่างมิสร่างให้.........หักห้ามคะนึงหา Soul Searcher Inspired to write 8/11/2017 ป.ล. กลอนอะไรหว่า? กลอนห้า...ฤา มิเคยเห็น |