Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
 51 
 อารมณ์กลอน / โคลง / ความหวัง
 เมื่อ: 25 เมษายน, 2568, 07:27:51 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

 ความหวัง           

....ความหวังหวังวาดไว้............วิไล
"ธรรมสถิต"แนบเนื้อใน............สนิทแล้
ปรากฏดั่งสุริยะไข..................ขับมืด
แสงสู่ถิ่นทั่วแท้.....................ทุกผู้รับผล

....ดลประโยชน์สรรพสิ่งรู้..........บูชา
"หน้าที่"ประจักษ์ตรึงตา............อ่าแฉล้ม
สีสันแต่งแปลงนภา.................หล้าจรัส
รังสฤษดิ์ชีวิตแย้ม...................แจ่มแจ้งธรรมไข

....ไฉนตอกติดแต่ร้าย.............เลวพาล
ปลูกอยู่คู่สันดาน....................เด่นไซร้
ปัญญาเร่งรอนราญ..................รุกไล่
มุ่งมั่นยืนหยัดไว้....................วับสิ้นสูญสลาย

....มิมีสายดอกเจ้า..................เศร้าไย
ลุกใหม่เพียรกระทำไป...............ใช่ช้า
ปฏิบัติหลั่งจากใจ.....................ไสวแน่
อย่าหยุดแม้แรงล้า.................."ค่า"นี้ไป่สูญ

....เพิ่มพูนส่งสู่เจ้า...................จิตธรรม์
ผุดผ่องทุกวารวัน.....................วุ่นเว้น
สันติสุขทุกสถานพลัน................แผ่ทั่ว กันนา
สกลโลกลุกโลดเต้น................แต่งแต้มโลกสวรรค์

....คนพลันเกิดใหม่แล้ว.............แผ้วทาง
"หวัง"สว่างมิเลือนราง................ห่างพ้น
นิพพานใช่เปล่าจาง...................ร้างจิต
ธรรมสถิตสุขสงบล้น..................หม่นแพ้หฤหรรษ์



 52 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / หมวดศิลปกรรม / Re: ประวัติโรงแรมดาราเทวี ขึ้นชื่อ สถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ
 เมื่อ: 25 เมษายน, 2568, 02:12:03 PM 
เริ่มโดย พิกุลแก้ว - กระทู้ล่าสุด โดย พิกุลแก้ว



"กาดดาราเทวี" ถือกำเนิด

ชื่อโรงแรมหรูหรามากระดับ
ระยิบยับด้วยชื่อเสียงอันเก่งกล้า
ประติมากรรมภายในสะดุดตา
ล้วนมากซึ่งคุณค่าวัฒนธรรม

คนพื้นที่ต่างรู้ถึงความเฉียบ
บริการสุดเนี้ยบมิเกินก้ำ
กิจการหยุดลงแต่ทรงจำ
ยังคงย้ำเรื่องเล่าราวตำนาน

21 กุมภาพันธ์ ปี 68
จึงได้แอดแลนด์มาร์กใหม่ให้กล่าวขาน
"กาดดาราเทวี" ก่อกำเนิดเป็นโครงการ
วัฒนธรรมผสมผสานสู่ผองชน

เป็นพื้นที่..สาธารณประโยชน์
เข้าสู่โหมดเผยแผ่ด้วยหวังผล
การท่องเที่ยวและสัมผัสชีวิตคน
วัฒนธรรมทั่วแห่งหนบนล้านนา

มีร้านค้าผลิตภัณฑ์อันเก่าแก่
ตามพื้นแพดั้งเดิมเพิ่มคุณค่า
ทั้งอาหารพื้นถิ่นดาษดา
ให้ผู้คนก้าวเข้ามาเพื่อเยี่ยมเยือน

สนามหญ้าลานพักเพื่อนั่งเล่น
เพลงล้านนายามเย็นพาขับเคลื่อน
เสียงดนตรีเก่าก่อนเคยลืมเลือน
กลับสะเทือน ณ กาดดาราเทวี.



 53 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / หมวดการท่องเที่ยว / ท้องฟ้าบนยอดเขา
 เมื่อ: 25 เมษายน, 2568, 01:22:03 PM 
เริ่มโดย พิกุลแก้ว - กระทู้ล่าสุด โดย พิกุลแก้ว



ท้องฟ้าบนยอดเขา

สายลมพัดแผ้วผ่านลานยอดหญ้า
พลิ้วระริกระรื่นหาพาสดใส
ยิ่งอยู่สูงเสียดฟ้า...ทว่าใจ
กลับหม่นไหม้บนแผ่นดินอันโรยรา

แหงนหน้ามองท้องฟ้าบนยอดเขา
ไฉนเลย...ตัวเรา...ยิ่งไขว่คว้า
จับได้เพียงเสียงลมยามพัดพา
จับผืนฟ้าได้มาเพียง...ปฐพี

นกบินหราถลาร่อนก่อนลงต่ำ
ภูชี้ฟ้า...ทุกเช้าค่ำ ณ ที่นี่
สิทธิ์ได้เพียงปรารถนาทุกราตรี
ความหนาวเหน็บจึงล้นปรี่ทุกเวลา

ยิ่งสูงหรือยิ่งหนาวราวเคียงคู่
เสียงสะท้อนร้องกู่ทั่วแผ่นผา
แต่ไม่อาจดังไปถึงซึ่งแนวฟ้า
ด้วยต่างกันเกินกว่าจะถือครอง

แต่เป้าหมายใช่แผ่นฟ้าในครานี้
เพียงเพราะมีทะเลหมอกละลอยล่อง
ท่ามอาทิตย์พ้นขอบฟ้าผกากรอง
แสงสว่างเรืองรองผ่องอำไพ

เราขึ้นสู่สูงสุด...เพื่อหยุดจ้อง
แล้วเหม่อมองลงต่ำ....สิ้นสงสัย
เมื่ออยู่สูง...ความสวยงามกระจ่างไกล
แล้วกลับสู่...ผืนดินไปในสักวัน.



 54 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re:  คนนอกความฝัน
 เมื่อ: 24 เมษายน, 2568, 10:27:48 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม
ต้องใช้เวลาลืม

๏เมื่อคิดจะมูฟออนถึงตอนจาก
คงลำบากทำใจมิไปต่อ
คิดปล่อยวางขว้างงูให้พ้นคอ
ถ้ารีรอเจ็บช้ำยิ่งซ้ำรอย

๏จะลับลาหน้าก็ไม่ให้เห็น
ขอซ่อนเร้นแผลรักอีกสักหน่อย
คิดจะลืมเลยยากใจอยากคอย
ต้องค่อยค่อยทุ่มเทใช้เวลา

๏สักวันคงลืมเธอได้สนิท
ไม่ต้องคิดผูกพันหยุดฝันหา
ความรู้สึกดีดีเคยมีมา
คงต้องเปลืองน้ำตาล้างอีกนาน


๏นาฬิกาเดินไม่มีวันหยุด
แต่รักสุดหยุดลงน่าสงสาร
กอดรูปเก่าเราสองทรมาน
อยากจบความร้าวรานที่ผ่านมา


๏ต้องใช้เวลาลืมอย่างดื่มด่ำ
ให้สมกับความชอกช้ำที่ร่ำหา
รักแล้วเจ็บเก็บไว้รกลูกตา
ถึงเวลาเปลื้องบ่วงทั้งปวงเอย๚ะ๛ 29/4/67



 

 55 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / หมวดการท่องเที่ยว / ภูชี้ฟ้า..ลาแล้วไม่หวนคืน
 เมื่อ: 24 เมษายน, 2568, 07:56:25 AM 
เริ่มโดย พิกุลแก้ว - กระทู้ล่าสุด โดย พิกุลแก้ว



ภูชี้ฟ้า..ลาแล้วไม่หวนคืน

เมื่อหน้าหนาวก้าวย่างทางภาคเหนือ
ก็ม้วนเสื่อติดรถหมายออกเที่ยว
ทั้งเยี่ยมญาติพี่น้องร้องกลมเกลียว
ลัดเลาะเลี้ยวไปเรื่อยแบบเฉื่อยชา

อยากขับรถรับลมชมความหนาว
อากาศราวเย็นเยียบสิบองศา
เห็นป้ายปักข้างทาง"ภูชี้ฟ้า"
ลองไปดูดีกว่าเป็นอย่างไร

สามีหนึ่งลูกสองก็ร้องรับ
ก็นั่งนับเวลาพาสดใส
เมื่อเดินทางไปถึงซึ่งเส้นชัย
ต้องเดินเท้าขึ้นไปพิชิตภู

แค่เพียงเห็นความชันแทบหันกลับ
แต่ลูกจับมือจูงบอกให้สู้
1 กิโลเท่านั้นโปรดคิดดู
ไม่ลองหรือจะรู้...ซึ่งความจริง

กว่าจะผ่านร้อยเมตรลมแทบจับ
คอยสลับอุ้มลูกแบบรุ่งริ่ง
เสื้อกันหนาวกลายเป็นร้อนยามพักพิง
อยากถอดทิ้งไปเสีย..ละเหี่ยใจ

กว่าจะถึงแทบสิ้นแรงทั้งหมดแล้ว
แลไม่แคล้วครั้งหน้าคงมีไม่
แม้นจะสูง วิวสวย สักเพียงใด
ไม่กลับไปอีกแล้ว...ขอทูลลา.



อาจจะไม่เหมาะกับ ผู้สูงวัยและเด็ก ^_^




 56 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / หมวดศิลปกรรม / ประวัติโรงแรมดาราเทวี ขึ้นชื่อ สถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ
 เมื่อ: 24 เมษายน, 2568, 04:23:52 AM 
เริ่มโดย พิกุลแก้ว - กระทู้ล่าสุด โดย พิกุลแก้ว



ประวัติโรงแรมดาราเทวี ขึ้นชื่อ สถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ

กล่าวถึงชื่อโรงแรมอันหรูหรา
แนวโบราณล้านนาต่างเรียกขาน
"ดาราเทวี"เด่นประดับเป็นตำนาน
แม้จะปิดกิจการมานานเนา

ที่มาของชื่อนั้นมากความหมาย
เปล่งประกายอายกลิ่นถิ่นเมืองเก่า
ระยิบยับดั่งแสงเดือนเยือนใจเรา
สะท้อนถึงรากเหง้าวัฒนธรรม

"ดารา"นั้นมั่นหมายเพื่อเป็นเกียรติ
ด้วยท่านอยู่สูงเสียดแม้นพลบค่ำ
พระมเหสีใน ร.๕ พาน้อมนำ
ต่างจดจำนาม"เจ้าดารารัศมี"

อีกประการ...เชื่อมโยงการออกแบบ
ด้วยการแนบตามหลักจักรราศี
นัยยะแฝงความสูงส่งรุ่งรุจี
ณ ล้านนา แห่งนี้ไม่ลบเลือน

แลหมายถึง ดวงดาวจากฟากฟ้า
รวมมาเป็น "ดารา" พาขับเคลื่อน
ความรุ่งโรจน์โชติช่วงมาแย้มเยือน
อยู่คู่เดือนไม่เคยดับลับลาไกล

ส่วน"เทวี"คือเสียงสะท้อนภาพ
แลวางทาบหญิงสูงศักดิ์อันยิ่งใหญ่
ผู้เปี่ยมด้วยความงดงามในจิตใจ
ผ่องอำไพด้วยรูปโฉมสคราญตา.


 57 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเศร้า / Re: @ มือที่สาม @
 เมื่อ: 23 เมษายน, 2568, 03:23:17 PM 
เริ่มโดย กระต่ายสีเทา - กระทู้ล่าสุด โดย •แก่นไม้๛•
เมื่อหมดสิ้นสัมพันธ์เคยพันผูก
สถานะ พ่อ แม่ ลูก เพียงบังหน้า
รักที่เคยหอมหวานเพียงผ่านมา
แล้วจากลาไปกับเขามิกลับคืน

พรหมลิขิตขีดเขียนเวียนมาพบ
แต่หากลบเลือนไปให้เป็นอื่น
หากอดทนเหนี่ยวรั้งอย่างกล้ำกลืน
ก็มิอาจทนฝืนโชคชะตา

มิเข้าใจในเหตุแห่งเรื่องนี้
หรือว่าเรานั้นไม่มีวาสนา
หรือเป็นเพียงคู่กรรมจึงนำพา
รักที่ได้กลับมาเพียงคำลวง

หรือเราคงมิใช่เป็นคู่แท้
จึงผันแปรเปลี่ยนไปไม่แหนหวง
หากหัวใจมั่นคงเพียงหนึ่งดวง
แม้นร้อยบ่วงมารยาไม่อาจคลอน.

   •แก่นไม้๛•

ทักทายค่ะคุณกระต่ายสีเทา

 58 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / Re: สมาน(ะ)ฉันท์
 เมื่อ: 23 เมษายน, 2568, 08:41:48 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

สมาน(ะ)ฉันท์ ๔

@ จะร่วงจะรุ่ง.....มุมุ่งลุฝัน
ตระหนัก"ขยัน"..."ระทม"สบาย

@ จะทุกข์จะสุข......จะรุกมิหาย
พระธรรมขยาย.......ไสวนิรันดร์

@ พระธรรมตระหนัก...มุ"รัก"ผลิสรรค์
มิเพียง "จำ"กัน...........ฤ ร่ำ คำมนต์

@ จะมั่นจะปัน...........จะสรรสิผล
"ระทม" ลุหน.............ประสบสบาย





 59 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / Re: ปมาณิกฉันท์ ๘
 เมื่อ: 23 เมษายน, 2568, 07:03:59 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share


สมาน(ะ)ฉันท์ ๔  vs  ปมาณิกฉันท์ ๘

ฉันท์ทั้งสอง จะเห็น "ต่าง" ที่
การ ส่ง-รับสัมผัส ระหว่างบท ครับ


สมาน(ะ)ฉันท์ ๔

@ จะร่วงจะรุ่ง.....มุมุ่งลุฝัน
ตระหนัก"ขยัน"..."ระทม"สบาย

@ จะทุกข์จะสุข......จะรุกมิหาย
พระธรรมขยาย.......ไสวนิรันดร์

@ พระธรรมตระหนัก...มุ"รัก"ผลิสรรค์
มิเพียง "จำ"กัน...........ฤ ร่ำ คำมนต์

@ จะมั่นจะปัน...........จะสรรสิผล
"ระทม" ลุหน.............ประสบสบาย


ปมาณิกฉันท์ ๘

@ จะร่วงจะรุ่ง.....มุมุ่งลุฝัน
ตระหนัก"ขยัน"..."ระทม"สบาย
จะทุกข์จะสุข......จะรุกมิหาย
พระธรรมขยาย....ไสวนิรันดร์

@ พระธรรมตระหนัก...มิพัก "กระทำ"
มิเพียง "จำ"คำ..........มุ"รัก"ผลิครัน
ประโยชน์จะมุ่ง.........พยุงประกัน
"ระทม" ลุพลัน..........สิสุขสบาย


* ซักถาม ติติง พูดคุยกันได้นะครับ
ขอบคุณครับ

 60 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง / …จดจำ“เรา”ไว้เช่นนี้ตลอดไป…
 เมื่อ: 22 เมษายน, 2568, 08:20:01 PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ



Always remember us this way
[By : Lady Gaga]


…จดจำ“เรา”ไว้เช่นนี้ตลอดไป…




“That Arizona sky burnin' in your eyes
You look at me and, babe, I wanna catch on fire”

   เหมือนท้องฟ้าแห่งอริโซน่า
กำลังเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของคุณ
ยามที่คุณมองมายังฉันนะที่รัก
มันทำให้ฉันร้อนเร่าจนแทบจะแหลกเป็นจุณ


“It's buried in my soul like California gold
You found the light in me that I couldn't find”

   สิ่งฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณฉัน
ดุจขุมทองแคลิฟอร์เนีย
แต่กลับเป็นคุณเสียอีก ที่ค้นพบมัน
ในขณะที่ตัวฉันเอง ยังไม่อาจค้นเจอ


“So when I'm all choked up
And I can't find the words
Every time we say goodbye
Baby, it hurts”

   ฉันรู้สึกกล้ำกลืน เกินฝืนใฝ่หา-
คำพูด ในทุกคราบอกลากันนั่น
ที่รัก…คุณรู้ไหมว่า
มันเจ็บจนหัวใจฉันไหวเทิ้มสั่น…กว่าบรรยาย


“When the sun goes down
And the band won't play
I'll always remember us this way”

   เมื่ออาทิตย์อัสดงตรงฟ้าปลาย
และวงดนตรีทั้งหลายหยุดบรรเลง
จดจำ“เรา”ไว้เสมือนเป็นบทเพลง
…บทกวี ที่ตราตรึงสถิตนิจมิเลือน


“Lovers in the night
Poets tryin' to write
We don't know how to rhyme
But, damn, we try”

   คู่รัก…ท่ามกลางความเงียบสงัดของราตรี
คร่ำเคร่งราวกับกวี กลั่นเสียงจำเรียงร่าย
แม้สัมผัสผสานผสม มิคมคาย
แต่เราทุ่มเทสุดใจกาย…เพื่อร้อยร่ำคำประพันธ์


“But all I really know
You're where I wanna go
The part of me that's you will never die”

   ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร…ใจฉันนั้นเพียงแค่รู้
ว่ายังมีคุณอยู่ ณ จุดหมายที่ปลายฝัน
เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
จากวันนี้จวบนิรันดร์อนันตกาล


“So when I'm all choked up
And I can't find the words
Every time we say goodbye
Baby, it hurts”

   ฉันรู้สึกกล้ำกลืน เกินฝืนใฝ่หา-
คำพูด ในทุกคราบอกลากันนั่น
ที่รัก…คุณรู้ไหมว่า
มันเจ็บจนหัวใจฉันไหวเทิ้มสั่น…กว่าบรรยาย


“When the sun goes down
And the band won't play
I'll always remember us this way”

   เมื่ออาทิตย์อัสดงตรงฟ้าปลาย
และวงดนตรีทั้งหลายหยุดบรรเลง
จดจำ“เรา”ไว้เสมือนเป็นบทเพลง
…บทกวี ที่ตราตรึงสถิตนิจมิเลือน


“Oh, yeah
I don't wanna be just a memory, baby, yeah”

   ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นเพียงแค่
ความทรงจำของคุณ…นะที่รัก


“Hoo, hoo, hoo, hoo
Hoo, hoo, hoo, hoo
Hoo, hoo, hoo, hoo, hoo

So when I'm all choked up
And I can't find the words
Every time we say goodbye
Baby, it hurts”

   ฉันรู้สึกกล้ำกลืน เกินฝืนใฝ่หา-
คำพูด ในทุกคราบอกลากันนั่น
ที่รัก…คุณรู้ไหม ว่า
มันเจ็บจนหัวใจฉันไหวเทิ้มสั่น…กว่าบรรยาย


“When the sun goes down
And the band won't play
I'll always remember us this way, way, yeah”

   เมื่ออาทิตย์อัสดงตรงฟ้าปลาย
และวงดนตรีทั้งหลายหยุดบรรเลง
จดจำ“เรา”ไว้เสมือนเป็นบทเพลง
…บทกวี ที่ตราตรึงสถิตนิจมิเลือน


“When you look at me
And the whole world fades
I'll always remember us this way”

   ขณะที่คุณจ้องมองดูฉัน
และโลกทั้งใบนั้นกำลังเลือนสลาย
ขอจงจดจำ“เรา”ไว้เช่นนี้ แบบนี้
มิเสื่อมคลาย…ตลอดไป…นะที่รัก




   จดจำ“เรา” ไว้ ในดวงใจนิรันดร์
แม้ว่าวันสุดท้าย เยื้องกรายปรี่
ยังคงฝากรอยยิ้ม พากย์พริ้มพจี
จะวันนี้หรือวันไหน…หัวใจฉันนั้น มีเพียงแต่เธอ


Soul Searcher
Inspired to write 22/4/2025


ป.ล. บทเพลงแปลตามความรู้สึกของผู้เขียน



หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.161 วินาที กับ 29 คำสั่ง
กำลังโหลด...