Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 8 9 [10]
 91 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเปล่า / Re: …หนึ่งเล่มเทียนไข…
 เมื่อ: 15 พฤษภาคม, 2568, 07:28:15 AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


แสงเทียนเล่มน้อยน้อยเหมือนด้อยค่า
หากเปี่ยมล้นศรัทธาความกล้าหาญ
พร้อมเปิดโปง โป้ปด คดโกง พาล
สะท้อนสะท้านสังคมป่วย…ด้วยเสียงกลอน

ส่งแรงใจให้แก่กันวันฟ้าหม่น
เกลือกน้ำฝนปนน้ำตาชุ่มคาหมอน
คราบน้ำหมึกกรังเกรอะเลอะหัวนอน
กว่าเว้าวอนอ่อนไหวใจโรยแรง

ยังคงมอบปลอบขวัญวันเหี่ยวหุบ
ถึงหลัวหลุบตันตีบชีพหน่ายแหนง
เกินขีดความสามารถหวาดระแวง
หวังปลี่ยนแปลงความคิดจิตสำนึก

อาจคลังคำน้อยนิดข้องติดขัด
พจน์สัมผัสมิงามคร้ามรู้สึก
ทั้งสื่อสารวกวนทนจารึก-
เช้ายันดึกต่อแสงเทียนเพียรมิท้อ

เก็บเอาความจริงใจจารใส่วรรค
รู้บอกรักชิงชังครั้งคราวก่อ
ถ่ายทอดลงอักษรอ่อนลออ
ร้อยถักทอลึกห้วงดวงฤดี

ผู้เสพศิลป์จินตนามิราร้าง
แม้เหินห่างโภคทรัพย์อับแสงสี
ไร้สูงเกียรติยศศักดิ์บารมี
สืบสร้างสรรค์งานกวีนี้เพียงตน

กำลังใจให้แก่กันรางวัลมอบ-
ผู้ชื่นชอบโคลงกลอนสุนทรผล
จุดแสงเทียนส่องสว่างกลางสกล
เกลี้ยกล่อมชนกอบกู้หวัง…กำลังใจ



รางวัลแด่คนช่างฝัน : จรัล มโนเพ็ชร]


“…จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน
จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน

จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน
คอยอวยพรให้เธอสมดังหวังได้นิรันดร์…



…ขอหยิบเอากลอนเก่ามาประยุกต์ใช้ครับ…

โซ…เซอะเซอ
15 พฤษภาคม 2568




 92 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / หมวดการท่องเที่ยว / Re: ภูชี้ฟ้า..ลาแล้วไม่หวนคืน
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 09:21:11 PM 
เริ่มโดย พิกุลแก้ว - กระทู้ล่าสุด โดย •แก่นไม้๛•


จะสุขใดไหนเล่าเท่าตื่นเช้า
สุขอยู่กับความเงียบเหงาจนย่ำค่ำ
เดินเหม่อมองเมฆหมอกไร้ผู้นำ
เพียงกระทำตามใจอยากเพียงผู้เดียว

สองวันสองคืน..ท่ามหุบเขา
จิบน้ำชารสเก่า-เก่า ราวห่อเหี่ยว
แต่มันกลับอิ่มเอมเสียจริงเชียว
ยามเดินเที่ยวชมน้ำค้างกลางพงไพร

หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว
พร้อมถุงมือสีขาวคราวสวมใส่
เดินลัดเลาะเอื่อยอ่อยแบบปล่อยใจ
อยู่ท่ามกลางใครต่อใครจนลายตา

แวะนั่งจิบกาแฟแลดงหมอก
สองมือซอกอุ่นไอร้อนกับแก้วหนา
เหม่อมองไปไกลโพ้นขอบนภา
ไม่รู้ว่าสิ้นสุดตรงที่ใด


มันเหมือนเงียบเหมือนเหงาแต่ก็สุข
ปล่อยวางทิ้งเจ้าความทุกข์จึงหลับใหล
สูดอากาศ ธรรมชาติ กับอุ่นไอ
ละมุนละไมในอารมณ์ร่ำกวี

มาคนเดียว กินคนเดียว สงบนัก
นั่งพิศดูคู่รักอันสุขศรี
ก็อมยิ้มสุขกับเขาราวเปรมปรีดิ์
สรุปว่าเรานี้ ....เป็นอันใด.


   •แก่นไม้๛•




 93 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเศร้า / Re: @ ต้นอ่อนของความรัก @
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 09:02:28 PM 
เริ่มโดย กระต่ายสีเทา - กระทู้ล่าสุด โดย •แก่นไม้๛•


แม้เป็นเพียงต้นอ่อนของความรัก
ก็แน่นหนักมั่นคงซึ่งความหมาย
หวังเติบโตเพื่อครองเคียงคู่ใจกาย
จนวาระสุดท้ายจะมาเยือน

หากไม่ทันแข็งแกร่งก็แห้งเฉา
เมื่อความเศร้าเร้ารึงรักจึงเฝื่อน
ความห่างเหินเดินเข้ามาพาลืมเลือน
สัญญาณเตือนต้นอ่อนรักจะโรยรา

ไร้ถ้อยคำห่วงใย มาไถ่ถาม
ทุกสิ่งล้วน"ต้องห้าม"แม้นโหยหา
ฉันต้องการเธอปัดตกด้วยวาจา
ซ้ำขีดคร่าคำว่ารัก..ไปจากกัน

ต้นอ่อนของความรักจึงแห้งเฉา
ไม่มีแล้วคำว่า"เรา"ให้ฝ่าฝัน
รักต้องจบ เราต้องจาก อย่างงงงัน
ถึงทางตันจึงต้องแยกคนละทาง

   •แก่นไม้๛•

ทักทายค่ะ คุณกระต่ายสีเทา



 94 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเปล่า / Re: …หนึ่งเล่มเทียนไข…
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 08:43:19 PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย •แก่นไม้๛•


ชีวิตนับถอยหลังแต่ยังสู้
ศรัทธายังคงอยู่ทั่วแห่งหน
เปลวเทียนน้อยลอยวาบกลางหมู่คน
เป็นความหวังหลังฟ้าฝนกระหน่ำใจ

อุทิศให้ส่วนรวมร่วมชีวิต
ด้วยแนวคิดผลิบานกาลแขไข
หากปลายทางร้างถิ่นสิ้นทางไป
จะยังขอต่อไฟอุดมการณ์.

   •แก่นไม้๛•

 95 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / คุยได้ทุกเรื่อง / Re: ใช้ชีวิต
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 08:32:17 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย •แก่นไม้๛•


@ ถ้อยคำ ทักทาย ให้สุภาพ
ลดละ คำหยาบ คำด่ากร่น
มรรยาท พึงมี ต่อทุกคน
วาจา ระคน ความจริงใจ.

   •แก่นไม้๛•

 96 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเปล่า / Re: …การตายครั้งที่สองของฉัน…
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 08:26:07 PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย •แก่นไม้๛•


ใกล้กัน...ดังไกลห่าง
เคียงข้าง..ดังห่างฝัน
คิดถึง...เพียงคืนวัน
พ่นถ้อยคำ...การจากลา

คงอยู่แต่ไร้...ความหมาย
ดังตาย....อย่างไร้คุณค่า
ก่อนลมหายใจ...พัดพา
ฉันตายมาแล้วกี่ครั้งหนา...ในใจเธอ.

ทักทายค่ะลุงโซ


   •แก่นไม้๛•

 97 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / กลบท จตุรงคยมก
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 05:19:31 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share


จตุรงคยมก

[จะตุรงคะยะมก]
น. ชื่อกลอนกลบทโบราณ
มีบังคับพิเศษคือ
ทุก ๆ ๒ บทให้ใช้ภาษาบาลีแต่งวรรคแรกทั้งวรรค
และวรรคที่ ๒ เฉพาะจังหวะแรก

ตัวอย่างว่า

ภุมมาจายันตุเทวา
ภุมมะจาเจ้าที่บดีสูร
อารักษ์เรืองฤทธิ์เดชเกษสกูล
อันเรืองรูญรังษีระวีวร.
(ชุมนุมตำรากลอน)


กลบทจตุรงคยมก 
"กลบทศิริวิบุลกิตติ์"
โดย หลวงศรีปรีชา (เซ่ง)

# ยักขะคันธรรพนาคา 
ยักษ์คณาคนธรรพ์อันเสร็จสรรพ ทั่วโลกล้วนนาคครุฑมนุษย์นับ     
เที่ยวเลี้ยวลับเลื่อนล่วงจงจ้วงใจ
     
# มามุ่งมองย่องหยิบเปนทิพญาณ
 มากมาดหมานหมายจิตรเราพิสไมย
แจ่มแจ้งจิตรใจจัดศรัทธาใน       
จอดจริงใจจิตรมั่นกตัญญู



จะขอ นำเสนอ ในรูปแบบ  กลอนหก ครับ

@ รักเมตตา พาปันแบ่ง
รู้"มั่น"แต่ง สรรค์สร้าง"สรวง"
ตัด"กู"นั้น บั่นหลอกลวง
"ตน"ก่อหน่วง ถ่วงเกื้อกูล

@ รักเมตตา อารีก่อ
เร่งมุต่อ "รัก" บ่สูญ
ตัว"กู"พลัน สรรค์จรูญ
"ตน"ก็พูน สงบครัน





 98 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนคิดถึง / ...ชั่วนิจนิรันดร...(ย้อนอดีต)
 เมื่อ: 14 พฤษภาคม, 2568, 06:24:08 AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


...ชั่วนิจนิรันดร...(ย้อนอดีต)

“...ฉันรักเธอแม้เทียบเสมอกับดวงชีวิต
รักเธอชั่วนิจนิรันดร
แม้เธอห่างไกลใจก็หวงห่วงนิวรณ์
ถึงแม้ม้วยมรณ์ ไม่ถอนรักที่มี

รักฉันนั่น เหมือนดั่งตะวันมั่นรักฟากฟ้า
รักดังหมู่ปลารักวารี
เหมือนดังกับแหวนแสนจะรักแก้วมณี
เหมือนขุนคีรีสวาทพื้นดินเดียวกัน

มากมายราวกับห้วงมหรรณพ
มิรู้จบดังกับมีทำนบกั้น
แต่มั่นคงเหมือนดั่งสิงขร ซ้อนแผ่นดินนั้น
ทั้งความซื่อสัตย์ มัดใจคงมั่น
ดั่งตะวันซื่อต่อฟ้า

ฉันรักเธอ แท้จริงเสมอไม่ลวงให้หลง
รักฉันมั่นคงดังวาจา
เห็นใจฉันเถิดหนอ ขอมอบไว้ให้สัญญา
ฉันจะบูชาชั่วนิจนิรันดร
ชั่วนิจนิรันดร ชั่วนิจนิรันดร...”

[ชั่วนิจนิรันดร : คำร้อง/ทำนอง : พยงค์ มุกดา]




   อรุโณทัยทอแสงแห่งรัก
โผล่มายิ้มทายทักเหมือนรักเก่า
ที่แม้เนิ่นนานนั้นมิบรรเทา
ยังความเศร้าส่งคะนึงถึงมิลืม
   คราหวนอ่านอักษรกลอนลายสือ
มักคุ้นคือรสสวาทเยิ้มหยาดปลื้ม
คอยสอดแทรกทรวงผสานคำหวานยืม
พจน์ด่ำดื่มพร่างฝันพรรณนา
   พร้องเพรียกกาลพักสะดุดหยุดกับที่
เพื่อวารีพลิกฟื้นพื้นภูผา
ด้วยงดงามความรักมั่นศรัทธา
ย้อนเวลาคืนสู่ฝัน…นิรันดร

  ย้อนรอยอดีตเรื้อง………..บรรเลง
คลอสดับเสียงเพลง.…….…เก่าละเน้อ
ระบายบอกรักเกรง…………ร้างกร่อย
ได้แต่เขียนกลอนเพ้อ………พลอดฟ้าอุษาสาง



…ย้อนกลับไปอ่านกลอนเก่าๆ
พร้อมฟังบทเพลงซึ้งๆ กับเสียงใสๆ
เป็นธรรมชาติของนักร้องสมัครเล่น
เลยอดไม่ได้ที่จะหยิบกลอนเก่ามาปัดฝุ่น
ขัดเกลาใหม่มาลงอีกครั้ง…


โซ…เซอะเซอ
14 พฤษภาคม 2568



 99 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / Re: กลบท เบญจวรรณห้าสี
 เมื่อ: 13 พฤษภาคม, 2568, 08:09:39 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

โคลง กลบท เบญจวรรณห้าสี

@ รักเรียน เราเรียงร้อย.....ถ้อยขาน
เผื่อแผ่ ผองเพื่อน พาล.....ทั่วแล้
กอปรกิจ เกื้อกูล การ........ปันแบ่ง
พลาดผิด พิษพ่ายแพ้.......มิอาจต้าน"รัก"ฉาน



 100 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / กลบท เบญจวรรณห้าสี
 เมื่อ: 13 พฤษภาคม, 2568, 07:19:27 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

กลอน กลบท เบญจวรรณห้าสี

@ รักเรียน เรารุ่งเรือง ฟุ้งเฟื่องแน่​
ตกต่ำตรากตรำ แต่ ไป่หนีหาย
พรักพร้อม เผื่อแผ่เพื่อ "ระทม"สบาย
กอปรกิจเกื้อกูล กราย ​ใกล้สวรรค์



หน้า: 1 ... 8 9 [10]
Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.324 วินาที กับ 29 คำสั่ง
กำลังโหลด...