21
เมื่อ: 22 มีนาคม, 2567, 11:15:11 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
ไม้ม้วน กาพย์ยานี ๑๑ ใฝ่ใจแลให้ทาน ทังนอกในและใหม่ใส ใครใคร่แลยองใย อันใดใช้แลใหลหลง ใส่กลสใพ้ใบ้ ทังใต้เหนือแลใหญ่ยง ใกล้ใบแลใช่จง ญี่สิบม้วนคือวาจา จินดามณี * สังเกต : เดิม ในแต่ละบท มีสัมผัสบังคับเพียง 1 แห่ง ใส - ใย ยง - จง |
22
เมื่อ: 22 มีนาคม, 2567, 10:39:42 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม | ||
หัวใจที่ว่างเปล่า
๏ ฉันเหลือเพียง จิตใจที่ว่างเปล่า ยามอับเฉาเศร้าหมองใครมองเห็น รับบทเรียนทุกที เหมือนที่เป็น แค่ของเล่นชั่วคราวให้หนาวนาน ๏ ฉันต้องกลาย เป็นคนที่ว่างเปล่า เก็บหัวใจเหงาเหงาที่ร้าวฉาน ให้มันชินกับความเศร้าตลอดกาล ปวดร้าวทรมานเผาผลาญใจ ๏ สิ่งสุดท้ายจบลงตรงแผลเก่า กับหัวใจที่ว่างเปล่ามิหวั่นไหว เจ็บกี่ครั้งดั่งเดิมเพิ่มเดิมไป เจ็บยังไงอยากเลือนก็เหมือนเคย ๏ แห้งหมดเลยน้ำตา กลั่นมามากไป เยอะมากจนช้ำใจ ยากจะเอ่ย อยากจะหยุดขื่นขมไม่ชมเชย ไปซะเลย ดีกว่าคนหลายใจ ๚ะ๛ |
23
เมื่อ: 22 มีนาคม, 2567, 07:14:26 PM
|
||
เริ่มโดย ดิล ดีวาน่า - กระทู้ล่าสุด โดย ดิล ดีวาน่า | ||
24
เมื่อ: 19 มีนาคม, 2567, 10:16:52 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม | ||
รักบังใบ
๏ กามเทพกลับกลอก มาหลอกลวง ยิงศรเสียบปักทรวงให้ห่วงหา ส่งรักแล้วยังแถมให้แรมรา เหมือนส่งมาไม้หลักปักขี้เลน ๏ รักของข้า เหมือนดังบัวบังใบ บังมิให้หมายปองแต่มองเห็น ต้องคร่ำครวญหวนเศร้าทุกเช้าเย็น สุดลำเค็ญใบ้บ้า มิกล้าบอกใคร ๏ เย็นย่ำสุริยา ตาพามัวมิด โอ้ช่างเหมือนดวงจิต มืดมิดไฉน น้ำตาตกตามตะวัน ช่างหวั่นใจ อกเอ๋ยจะทำฉันใด เล่าใจเอย ๏ คู่ชื่นกลับลืมเชย รักเลยร้างรา ใจยิ่งพาหวั่นวิตก ณ อกเอ๋ย รักอย่างบัวบังใบเช่นใจเคย ต้องช้ำใจร้างเลย เหมือนเคยมา ๚ะ๛ |
25
เมื่อ: 19 มีนาคม, 2567, 08:59:10 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
@ ผู้เรียน เพียรถาม "ครูครับ สันโดษ เรายอมรับ แล้วหนา ขอบคุณ แนะสอน เมตตา แต่สงสัย ครูมา อีกทำไม" @ "อ้าวก็ มาแนะ สอนเพิ่ม" "เอ๊ะครู สันโดษ เข้าใจไหม ความรู้ เรามี เราพอใจ แล้วไย ต้องเรียน เพิ่มเติม" ฮา |
26
เมื่อ: 18 มีนาคม, 2567, 08:06:51 AM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
@ นาฬิกา บ่งบอก กาล"เปลี่ยนผ่าน" ดั่งญาณ ปัญญา พาไสว กิเลส ละไกล ใจสันต์ ครันครบ "สงบ"คง ธรรมไข "เมตตา รัก"ต้อง จรัสไป "เที่ยงธรรม"ให้ ไสวฉาน พาลพ่าย จง! * ระวัง : 1 บท ๘ วรรค ครับ |
27
เมื่อ: 17 มีนาคม, 2567, 07:09:39 AM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
@ การเมือง ! ใช่ เรื่องร้าย เลวชั่วช้า ผ่านเวลา ตระหนักเห็น "อำนาจ" จำเป็น "เย็น" ดุล ทุน "ธรรม" ชัดย้ำ ! อุเบกขา "ปฏิบ้ติ"เที่ยง ทุกเวลา แท้"เมตตา รัก"จริง ทุกสิ่งครัน * ระวัง : 1 บท ๘ วรรค ครับ |
28
เมื่อ: 16 มีนาคม, 2567, 10:56:12 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม | ||
ฝันสลาย
๏ ความเปลี่ยนแปลงเธอนั้น นับวันเพิ่ม ตาสบตายิ่งเติมความหวั่นไหว ดูท่าทีที่ทำเรื่องราวใด สุดระทมหัวใจ ร้าวรานสิ้นดี ๏ คงเปลี่ยนแปลงไปตาม สากลกฎเกณฑ์ ความสดใสรู้เด่น อันเป็นสุขี ชินหูตาชินใจ รักไม่มี เลยเป็นการเซ้าซี้ ซ้ำซากหน่ายแหนง ๏ จึงพลีกาย ใจยอมสุดตรอมตรม เพื่อใจเธอสุขสม มิต้องแอบแฝง เรื่องอันใดต้องทน เฝ้าคอยระแวง สุดเสียดแทงเจ็บช้ำทั้งวิญญา ๏ ดังหนึ่งกายถูกตรึง ณ แดนประหาร ดูมืดไปทุกด้าน มีแต่ปัญหา ความฝันเพลิดพิไลแต่ไร้ค่า กลับกลายเป็นน้ำตา ทุกวันดื่มกิน ๚ะ๛ |
29
เมื่อ: 13 มีนาคม, 2567, 10:34:37 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม | ||
รักเอ๋ยรักข้า
๏ รักเอ๋ยรักข้า คิดยิ่งเหมือนกับพา อุราหวนไห้ เดี๋ยวรักก็เริงรื่นชื่นฉ่ำใจ เดี๋ยวรักก็จากไป ไม่เคยจีรัง ๏ รักเอ๋ยรักข้า ครั้งแรกเหมือนบุปผา งามสะพรั่ง ดูรักเจ้างามยิ่งอย่างจริงจัง ประหนึ่งมีมนต์ขลังเป็นอาจิณ ๏ รักเอยรักจงอย่า เฉยแรมไกล เจ้าโปรดเห็นดวงใจ หวนไห้ถวิล เมื่อรักร้างแรมรา น้ำตาร่วงริน ท่วมทั้งฟ้าดิน ไม่อยากจะกินจะนอน ๏ รักเอ๋ยรักข้า เคล้าด้วยน้ำตา หรือจึงพาใจอ่อน บางครั้งรักเจ้า งอแงช่างแง่งอน เดี๋ยวรักก็จากจร อกสะท้อนเอย ๚ะ๛ |
30
เมื่อ: 13 มีนาคม, 2567, 03:38:41 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
ขอบคุณ คุณพี พูนสุข
ที่ตั้งชื่อ ฉันท์ ฉันทลักษณ์ : กลอน จำนวนคำแต่ละวรรค ตามแต่จะกำหนด โดยให้ ครุ ลหุ สลับกันไป ในทุกวรรค ส่ง-รับ สัมผัส แบบกลอน เว้น วรรค 3 กับ 4 แบบฉันท์ คือ มี/ไม่มี ก็ได้ สมานฉันท์ ๓ @ ลดผยอง...ตรองกระจ่าง มุ่งมุสร้าง...สันติธรรม สมานฉันท์ ๔ @ จะร่วงจะรุ่ง...มุมุ่งลุฝัน ตระหนัก"ขยัน"..."ระทม"สบาย สมานฉันท์ ๕ ลด ตัว ตน กู @ ลด ละ"กู" ผยอง ตัว สนอง กิเลส ตน ประพฤติ สิเหตุ "กู" นรก สวรรค์ สมานฉันท์ ๖ @ ลุรุ่ง ตะวัน สว่าง กระจ่าง สิใจ ไสว พระพร "กระทำ" ผลิใบ "ระทม" ละไห้ ณ กาล สมานฉันท์ ๗ @ ฉันริฉันท์ สบายสบาย หวังทลาย สลดระทม เหงายะเยียบ บ่สุขบ่สม จักกระเซ็น กระเด็นสลาย สมานฉันท์ ๘ ฉัน ตั้ง หวัง สุข @ ฉัน ประเดิม ฉลอง อรุณ รุ่ง ตั้ง สติ มุมุ่ง พลัง สาน หวัง สนอง "ระทม" สงบ มาน สุข สราญ พระธรรม จรัส ยง |