Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> กลอนให้แง่คิด >> พระอริยบุคคล ๔ ประเภท
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พระอริยบุคคล ๔ ประเภท  (อ่าน 7519 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สมพงศ์ ชูสุวรรณ
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 416



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาทองแดง

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

รองอันดับ๑




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
พระอริยบุคคล ๔ ประเภท
« เมื่อ: 24 พฤศจิกายน, 2559, 08:34:55 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

พระอริยบุคคล ๔ ประเภท




พระอริยบุคคล ๔ ประเภท

๑. พระโสดาบัน ละสังโยชน์ในข้อ ๑ - ๓ ได้ ยังต้องกลับมาเกิดอีก แต่ไม่เกิน ๗ ชาติแล้วจะบรรลุนิพพาน คือ ได้เป็นพระอรหันต์
๒. พระสกิทาคามี ละสังโยชน์ในข้อ ๑ - ๓ ได้ และจิตคลายจากราคะ โทสะ โมหะ ได้มากขึ้น จะเกิดอีกเพียงครั้งเดียวแล้วจะบรรลุนิพพาน
๓. พระอนาคามี ละสังโยชน์ในข้อ ๑ - ๕ ได้ บรรลุชั้นนี้แล้วจะเลิกการครองเรือน หันมา ประพฤติพรหมจรรย์ ละสังขารแล้วจะไปเกิดในพรหมโลก
๔. พระอรหันต์ ละสังโยชน์ได้ทั้ง ๑๐ ข้อ เมื่อละสังขารแล้วจะไม่กลับมาเกิดอีก คือ นิพพาน
ผลที่เกิดจากการปฏิบัติ หรือปฏิเวธธรรม ทำให้ได้บรรลุ มรรคผล นิพพาน ตั้งแต่ ชั้นต้นไปตามลำดับ ดังนี้

๑. โสดาปัตติมรรค คือ มรรคอันให้ถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน เป็นเหตุให้ละกิเลส สังโยชน์ ในข้อที่ ๑ - ๓ ได้
๒. โสดาปัตติผล คือ ผลแห่งการเข้าถึงกระแสที่นำไปสู่พระนิพพาน
๓. สกทาคามิมรรค คือ มรรคที่มีคุณธรรมสูงกว่าพระโสดาปัตติมรรค ทำให้ละกิเลส ข้อ ๑ - ๓ ได้ และราคะ โทสะ โมหะ ในจิตเบาบางมากแล้ว
๔. สกทาคามิผล คือ ผลที่พระสกทาคามิผลพึงเสวย เพราะทำให้ ราคะ โทสะ โมหะ เบาบางลง
๕. อนาคามิมรรค คือ มรรคที่ละกิเลสอย่างหยาบ ข้อ ๑ - ๕ ได้
๖. อนาคามิผล คือ ความสุขที่พระอนาคามีได้รับเพราะละกิเลสอย่างหยาบได้ ผู้บรรลุพระอนาคามีแล้วจะบวช ไม่มีใครอยู่ในเพศฆราวาสเลย
๗. อรหัตมรรค คือ ญาณเป็นเครื่องละกิเลสอย่างละเอียด หรือสังโยชน์ ข้อ ๖ - ๑๐ รวมทั้งข้อ ๑ - ๕ ได้โดยสิ้นเชิง
๘. อรหัตผล คือ ผลที่พระอรหันต์พึงได้รับเพราะละการยึดมั่นถือมั่นในกิเลส
มรรค คือ ญาณที่ทำให้ละสังโยชน์ได้ขาด เป็นทางให้เข้าถึงความเป็นอริยบุคคล

ผล คือ  ผลที่เกิดสืบเนื่องจากการละกิเลสได้ด้วยมรรค หรือ ธรรมารมณ์อันพระอริยะพึงเสวย ที่เป็นผลเกิดเอง ในเมื่อกิเลสสิ้นไปด้วยอำนาจมรรคนั้น ๆ

นิพพาน คือ สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว ที่บรรลุคุณธรรม ๘ ข้อนี้ ตั้งแต่พระโสดาปัตติมรรคขึ้นไป เรียกว่า พระอริยบุคคล หากบรรพชาเรียกว่า พระอริยสงฆ์

สังโยชน์ (บาลี: samyojana) คือ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ หรือกิเลสเครื่องร้อยรัดจิตใจให้จมในวัฏฏะ มี 10 อย่าง คือ
ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ได้แก่
1. สักกายทิฏฐิ - มีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา มีความยึดมั่นถือมั่นในระดับหนึ่ง
2. วิจิกิจฉา - มีความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร หรือนำศีลและพรตไปใช้เพื่อเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีลเพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่าคนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงความเชื่อถือในพิธีกรรมที่งมงายด้วย
4. กามราคะ - มีความติดใจในกามคุณ
5. ปฏิฆะ - มีความกระทบกระทั่งในใจ

ข. อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง 5 ได้แก่
6. รูปราคะ - มีความติดใจในวัตถุหรือรูปฌาน
7. อรูปราคะ - มีความติดใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทั้งหลาย
8. มานะ - มีความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนหรือคุณสมบัติของตน
9. อุทธัจจะ - มีความฟุ้งซ่าน
10. อวิชชา - มีความไม่รู้จริง

พระโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 ข้อต้นได้คือ หมดสักกายทิฏฐิ,วิจิกิจฉาและสีลัพพตปรามาส
พระสกทาคามี ทำสังโยชน์ข้อ 4 และ 5 คือ กามราคะและปฏิฆะ ให้เบาบางลงด้วย
พระอนาคามี ละสังโยชน์ 5 ข้อแรกได้หมด
พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ



สมพงศ์ ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, สิริวตี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

สมพงศ์  ชูสุวรรณ  ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตและทุก ๆ แหล่งข้อมูลครับ


~รวมทุกสำนวนของ"สมพงศ์ ชูสุวรรณ"ครับ ~

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.39 วินาที กับ 41 คำสั่ง
กำลังโหลด...