Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> กลอนให้แง่คิด >> นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)  (อ่าน 25219 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #15 เมื่อ: 30 เมษายน, 2557, 03:58:04 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

ท่าเรือ ถ่ายจากในเรือ


เมื่อเรือผ่านสาวชาวพื้นเมืองออกมาร้องเพลงสด ๆ ให้ฟัง


   “เป่าเฟิงหู” เชิดชูว่าทะเลสาบ                   เท่าที่ทราบเขื่อนเขาสร้างขวางหุบผา
สู้เชี่ยวหลานบ้านผมไม่ได้จริงนา                 มองซ้ายขวาเขาสูงโปร่งเหมือนทรงเดียว
    ตอนกลับมาพาลงเกือบตรงดิ่ง                  สูงเสียยิ่งมองลงล่างทุกอย่างเสียว
ทางลงเล็กซิกแซ็กวนจนเป็นเกลียว               กระไรเชียวลงยากลำบากจัง
   ชีวิตคนดิ้นรนไปได้สูงส่ง                          แล้วต้องลงค้างฟ้าอย่าไปหวัง
โชคชะตาฟ้าลิขิตอนิจจัง                               นึกแล้วดังนายกฯเราเฝ้าอาลัย






                                                   ภายในทะเลสาบ

   ดร. จุไรรัตน์  วรรณยิ่ง                               นายกหญิง “กวีร่วมสมัย”
พัฒนาสมาคมฯให้ก้าวไกล                           มิทันไรวันวารผ่านสี่ปี
   สองสมัยได้เวลาวาระเปลี่ยน                     อาจหมุนเวียนมาใหม่อย่าหน่ายหนี    
ทุกถ้อยคำจำไว้ในสิ่งดี                                  สิ่งใดที่ขุ่นเคืองบ้างขอวางทิ้ง   
  ส่วนเลขาฯดูท่าทางลาร้างแล้ว                     ต้องคลาดแคล้วกันไปอาลัยยิ่ง
แม้หม่นหมองต้องยอมรับกับความจริง         สมทุกสิ่งก็ไม่...ใช่ชีวิต...
    คุณ “วรรณา  กำลูนเวสารัช”                     ข้อจำกัดการเข้ามาเฉพาะกิจ
แต่วันวารผ่านสี่ปีมีสักนิด...?                         บ้างที่คิดว่ากวีนี้จริงใจ
   หากใจดำ ทำได้ลง ก็คงจาก                        คำพรฝากให้สิ้นทุกข์พบสุขใส
มิอาจอ้อนวอนว่าประการใด                         ต่อนี้ไปเพลงคู่อด...หมดคนร้อง


ลงจากบันไดวนที่ชันและสูงลิบ


หน้าน้ำตกที่ไหลทะลุมาจากทะเลสาบ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, บุญคำ, ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~

ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #16 เมื่อ: 30 เมษายน, 2557, 04:12:33 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

ถนนหนทางสะอาดดี แต่สายไฟระโยงระยางไม่ต่างเมืองไทย

   ลงเขามาพาเข้าเหลาเกาหลี                         อาหารมีหลายหลากมากเต็มห้อง
จีน+เกาหลีรสเกลียวกลมสมปรองดอง          เมืองไทยต้องเน้นรสแท้แลจริงจัง
  ร้านญี่ปุ่น-เกาหลีเรามีขาย                           บางเมนูกินแล้วส่ายหน้าผิดหวัง
รสเดิมแท้แต่ไม่คุ้นขาดทุน “ตังค์”               ได้แต่นั่งเต๊ะท่าข้า “อินเตอร์”
   ไวน์ เบียร์ เหล้าเอามารินกินไม่ทัน            ถ้าพวกฉันพร้อมเพรียงมา “โอ้ละเหนอ...”
เจอะ “กวีสุวรรณภูมิ” กลุ่มเพื่อนเกลอ           บ๋อยอาจเบลอเหนื่อยหน่ายร่ายรินวน
   “อ.ณรงค์  อิ่มเย็น” ถือเป็นมิตร                 ที่ใกล้ชิดให้วิชามาแต่ต้น
เข้าจังหวะจะเที่ยวท่องกันสองคน                 เหตุและผลนั้นหนอ “คอเดียวกัน”
    กินเหล้าเก่งร้องเพลงก็พอไปได้                คืนหนึ่งให้ต่อกี่ที่มิมีพรั่น
นี่หากว่าได้มาด้วยหมวยงงงัน                       เพราะเมามัน...ขั้นเจรจาภาษาจีน
   ลงจากเหลาเข้า “โรงเตี๊ยม” เตรียมพักผ่อน  หลายคนนอนแต่หัวค่ำคร่ำเคร่งศีล
แต่กลุ่มหนุ่มโสดใหญ่ “วัยหลายทีน”            ยังอยากปีน “เขาคู่” อยู่ครามครัน
   หนีไม่พ้นคนกลุ่มนี้มีผมด้วย                      พอเห็นหมวยหุ่นดาราพาใจสั่น
ตอนต่อไป...ใจอยากเล่ายาวกว่านั้น               “เซ็นเซอร์” หั่นฉับ...ฉับ..กลับที่พัก



รูปประธานเหมาขนาดใหญ่ในห้องโถงโรงแรม



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, บุญคำ, ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #17 เมื่อ: 03 พฤษภาคม, 2557, 02:26:13 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

หน้าประตูทางเข้าต้องซื้อตั๋ว




 รุ่งเช้าเตรียมขึ้นเขา “เทียนจื่อซาน”              ไก๊ด์กล่าวซ้ำย้ำทุกท่านเจองานหนัก
ตรงวันหยุดจุดนี้คนล้นคึกคัก                        จริงดั่งว่ามาติดหงักหน้าประตู
   คณะทัวร์ถือธงนำประจำชาติ                      มิได้ขาดธงไทยไสวอยู่
จีนมากมายหลายเผ่าเท่าที่ดู                            เขาเรียนรู้ประเทศตนอย่างสนใจ
   ซื้อบัตรได้เดินไกลไหลตามช่อง                 แถมยังต้องแสกนลายนิ้วมือไฉน
คิดอีกที “นี่มันชักจะเกินไป”                         ตูเอา “ตังค์” มาให้ไยเรื่องมาก
   แต่เที่ยวท่องต้องตามเขาเราเป็นแขก          จะไปแหกกฎเมืองเรื่องลำบาก
นึกถึง “ทัวร์กวีร่วมสมัย” ไปทุกภาค             คงหลังจากมี “นายกใหม่” ไม่นานวัน    
   พี่ “ปราโมทย์  สัชฌุกร” นักกลอนเด่น        เคยร้องเล่นดนตรีมีชื่อลั่น
พิธีกรพิธีการงานสำคัญ                                 นักประชาสัมพันธ์หนึ่งเมืองไทย
   ถ้ามิมีเหตุการณ์อันผันผก                            ท่านก็คือ “นายกกวีร่วมสมัย”
ได้นำพา “นาวากวี” นี้ก้าวไกล                       ให้ใครใครชื่นชมนิยมยืน


 

  

มีแต่ภูเขารูปทรงแปลก ๆ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บุญคำ, ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #18 เมื่อ: 03 พฤษภาคม, 2557, 02:52:23 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)



มองเห็นลิฟต์ที่จะพาขึ้นยอดเขา

  วันนี้เราจะขึ้นเขา“เทียนจื่อซาน”               กำหนดการลงข้างล่างเป็นทางอื่น
เหมือนชีวิตคิดไปไม่หวนคืน                      จึงควรชื่นชมกันในวันนี้
   ทำการใดไม่รอท่าหาวันพรุ่ง                    มิแน่ว่าฟ้าใหม่รุ่ง... ฤๅอับสี
เมื่อมีความมั่นใจใคร่ครวญดี                      มิรอรีเริ่มเดินทางสร้างสรรค์ไป
   ขาขึ้นให้ใช้ลิฟต์แก้วมองแล้งทึ่ง              ถือเป็นหนึ่งในโลกนี้ที่แปลกใหม่
หลายสิบช่องมองแลเห็นแต่ไกล                  แม้กว้างใหญ่ตัวลิฟต์สร้างตั้งสองชั้น
   รอบหนึ่งขนคนไปได้เกือบร้อย                หูอื้อเหมือนกับลอยเครื่องบินนั่น
ที่ไหนไหนทำลิฟต์ให้ขึ้นตึกกัน                  แต่นี่ดันขึ้นภูผาน่าแปลกซี
   ขากลับจะลงกระเช้าเขาอีกด้าน                บนเขาใช้รถเป็นยานเที่ยวโน่นนี่
จุดชมวิวสูงลิ่วหลายปลายคีรี                       แม้ยืนที่ชะง่อนหินเหมือนบินฟ้า....
   ที่บ้านเราเขาแบบนี้มีไหมหนอ                  เพชรบูรณ์เขาค้อขอถามหา
แม้สถานที่ได้ไร้ศรัทธา                               กระเช้าพาขึ้นภูกระดึงนานดึงไว้





ที่ไหน ๆ ก็มีแต่ภูเขา



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บุญคำ, ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #19 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 11:08:45 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

 

   พี่ “ประเสริฐ  ขวัญเผือก” รับเลือกตั้ง       คนเด่นดังโคกสะอาดมาดสดใส
เป็นตัวแทนเกษตรกรไทย                            ศรีเทพและหนองไผ่เพชรบูรณ์
   ท่านยึดถือแนวทางที่สร้างสรรค์               คนขยันผลงานใหญ่ไม่เสื่อมสูญ
ขอความดีมีมอบมาทวีคูณ                           และเพิ่มพูนชื่อดังทั้งเงินตรา
   อีกท่านหนึ่งซึ้งซ่านด้านกลกลอน            ตั้งแต่ก่อนผมไม่ได้ศึกษา
รู้สึกยากเย็นนักจักรจนา                              แต่มนตราอักษรมิผ่อนคลาย
   “สุขเกษม  นรสิงห์” สิงห์กลบท               มีปรากฏผลงานท่านหลากหลาย
ผมรุ่นน้องต้องฝึกฝนตนมากมาย                เพื่อสืบสายกลกลอนกระฉ่อนไกล
   พบกันบ่อยมิค่อยจะสนทนา                     ผมหันหาเหล้าเบียร์เสียเป็นใหญ่
ท่านดื่มน้ำผมร่ำสุราหากว่าไป                    มิต่างใจมนต์รักกลอนชักพา
    ถึงสะพานชื่อหลายคำจำไม่ไหว              แปลเป็นไทย “สะพานหนึ่งในใต้หล้า”
คู่รักเขาเอากุญแจติดมือมา                          ล็อคที่ราวเอาดอกปาทิ้งลงไป
   หวังให้อยู่เป็นชู้ชิดติดมิห่าง                     ยามเบื่อหน้าอยากราร้างจ้างช่างไข
ช่างก็คงต้องบินตรงจากเมืองไทย               หาเจอไหม..หลายหมื่นคงงงกุญแจ





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #20 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 11:25:48 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)



  ขอบใจทีมสามสาวปูนอินทรีย์                    ดูแลดีทุกปัญหามาร่วมแก้
นึกถึงสาวสมาคมกวีก็ดีแท้                            ล็อคกุญแจหัวใจรอใครแทง*
   “เกศรา  เกษมสุขสถาพร”ทั้ง                    “เกษร  ปานน้อย”  “วรวรรณ  เอี่ยมแสง”
พบหน้ากันนานเท่าใดไม่เปลี่ยนแปลง          ยากสำแดงน้ำจิตมิตรไมตรี
   ผมส่วนใหญ่อยู่ในวงก๊งเบียร์ เหล้า            จะเจรจากะใครเขาคิดถ้วนถี่
ยิ่งสาวสาวเขาจะหาว่า “ชอกี”                       สัมพันธ์มีน้อยก็หมายให้ยืนนาน      
   อีกอาจารย์ “สุรินทร์  หอศิลป์”                  ท่านคือปิ่นสตรีที่อ่อนหวาน
เคยต้อนรับขับสู้ดูแลงาน                              เรื่องเนิ่นนานผมยังจะประทับใจ
   วันประชุม+เปิดหนังสือ “แม่ศรีวรรณทอง”  ผมเป็นน้องรุ่นเยาว์เข้ามาใหม่   
แรกคิดว่าพี่พงษ์คงสั่งไว้                               ว่าขอให้ดูแลน้องดีดี
   คนอื่นกลับกันไปท่านไม่กลับ                   ผมอยู่กับกลุ่มเพลง-เหล้าก็เข้าที่
เพิ่งรับรู้ท่านผู้ซึ้งถึงดนตรี                            ความจริงพี่มิเกรงใจได้ร่วมวง
   ถึง“ภาพเขียนสิบลี้”อันนี้แปลก                 เมื่อครั้งแรกยินว่าพาให้หลง
จินตนาภาษาไทยไปตรงตรง                        ที่แท้คงเป็นภูเขาเหมือนเก่านั้น
   แต่เรียงรายไล่ไปชายลำธาร                       สูงตระหง่านดั่งทะลวงสรวงสวรรค์
เมฆคลุมล่าง กลาง ปลายต่างสายกัน            ขึ้นทางชันตรงนี้ขี่รถราง
   แลไล่ไปได้สิบลี้ตามที่ว่า                           หรือรวมนับตอนกลับมาถึงข้างล่าง
มิแน่ใจในมาตราระยะทาง                            แต่การสร้างความพร้อมนี่ยอมรับ


 


ภาพเขียนสิบลี้ คือทิวเขารูปทรงศิลปะ ที่สามารถเข้าไปชมได้ถึงตูนเขา
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #21 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 11:37:51 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)




  ธรรมชาติรู้จักใช้ได้คุณค่า                          อยู่ยืนนานสรรค์ชีวาชื่นเย็นกลับ
บ้านเรานั้นจันทบุรีก็ดีครับ                            รักษ์สัตว์กับป่าไม้ไว้ดีนา  
   สาวเมืองจันท์สัมพันธ์ใกล้ได้กลอนฝาก     ส่งมาจากชมรมจันท์ฯดั่งฝันหา
รอพบปะประชุมใหญ่ก็ไม่มา                        รูปต่างหน้าหนึ่งใบพอได้เค้า
   ที่ว่าหรือคือ “อิงอร  ถนอมวัฒน์”               เคยสัมผัสผลงานกลอนแต่ก่อนเก่า
อีกท่านหนึ่งซึ้งสัมพันธ์กันนานเนา               นามสาวเจ้า “หิ่งห้อย หฤทัย”
   อากาศเมืองจันท์ดีมิมีหมอง                        แต่ระยองบ้านใกล้มิใคร่ไหว
อาจารย์ผมตรอมตรมนักยากหักใจ                ต่อเมื่อไหร่สิ่งแวดล้อมจะพร้อมเน้น
   ดั่งที่ว่าอาจารย์ “วิรุฬห์ แสงทอง”              อยู่ระยองนักกลอนที่ได้ดีเด่น
คนสัจซื่อถือกำหนดรักกำเกณฑ์                    มิโอนเอนคัดค้านด้านอธรรม
   แม้สูงวัยใจสู้เป็นอยู่สุข                               ผ่านกี่ยุคกลอนกานท์ยังหวานฉ่ำ
มินานนี้มีเพลงด้วยช่วยร้องรำ                       ร่วมลำนำกับสี่หนุ่ม(เหลือ)น้อยกลุ่มเดิม





ร้านขายของที่ระลึก-ร้านอาหาร
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #22 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 12:08:40 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

สถานีรถไฟฉางซา

  ถึงเวลาล่าถอยหลังยัง “กวางเจา”               หลังตีเข้า “ฉางซา” ดั่งมาเริ่ม
ในเมืองนี้ที่อยากกล่าวเล่าเพิ่มเติม                 และ “คอนเฟิร์ม” เขาได้เรื่องใช้ดิน
   แผ่นดินจีนกว้างใหญ่สุดไพศาล                แต่ริมทางข้างบ้านทุกร้านถิ่น
เศษพื้นที่มีต้องปลูกของกิน                          ตามซอกหินเชิงภูเขามิเปล่าจริง
   ย้อนกลับยังกวางเจาอย่างเหงาจิต              คณะเราเขาฮิตเรื่อง “ช้อบปิ้ง”                                
ผมดูได้แต่ไม่ซื้อไปทิ้ง                                 มิได้หยิ่งแต่เบื่อขอต่อราคา
   เขาขายค้าแบบตาใครดีได้                         ถ้าแถวใต้อย่างนี้สิโดนด่า
“ความจริงใจ” ควรให้กลับกับ “ลูกค้า”        แต่อย่างว่าเขามุ่งหมายขาย “คนจร”
   ถ้าคล่องภาษาจีนมั่งหรืออังกฤษ                พอได้คิดเจราว่าลดหย่อน...
ในงานนี้ถ้าพี่ใหญ่ไปแน่นอน                       ออดอ้อน “เจรจา ต้าอ่วย” กัน
   พี่ “เวทิน  ศันสนียเวทย์”                           ผู้มีเจตจำนงอันคงมั่น
เขียนผลงานกานท์กวีทุกวี่ทุกวัน                  ล้วนสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้ความคิด
   ในหลายเล่มหนังสือถือเป็นหนึ่ง               ความและคำนำซึ้งถึงดวงจิต
อัชฌาสัยไมตรีมากมีมิตร                             แม้คำนิดมิข่มใครให้อับอาย


รถไฟพาเราจากฉางซากลับกวางเจา
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #23 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 12:25:51 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

พิพิธภัณฑ์ใต้พื้นถนนกวางเจา

  ถึงเวลาล่าถอยหลังยัง “กวางเจา”               หลังตีเข้า “ฉางซา” ดั่งมาเริ่ม
ในเมืองนี้ที่อยากกล่าวเล่าเพิ่มเติม                 และ “คอนเฟิร์ม” เขาได้เรื่องใช้ดิน
   แผ่นดินจีนกว้างใหญ่สุดไพศาล                แต่ริมทางข้างบ้านทุกร้านถิ่น
เศษพื้นที่มีต้องปลูกของกิน                          ตามซอกหินเชิงภูเขามิเปล่าจริง
   ย้อนกลับยังกวางเจาอย่างเหงาจิต              คณะเราเขาฮิตเรื่อง “ช้อบปิ้ง”                                
ผมดูได้แต่ไม่ซื้อไปทิ้ง                                 มิได้หยิ่งแต่เบื่อขอต่อราคา
   เขาขายค้าแบบตาใครดีได้                         ถ้าแถวใต้อย่างนี้สิโดนด่า
“ความจริงใจ” ควรให้กลับกับ “ลูกค้า”        แต่อย่างว่าเขามุ่งหมายขาย “คนจร”
   ถ้าคล่องภาษาจีนมั่งหรืออังกฤษ                พอได้คิดเจราว่าลดหย่อน...
ในงานนี้ถ้าพี่ใหญ่ไปแน่นอน                       ออดอ้อน “เจรจา ต้าอ่วย” กัน
   พี่ “เวทิน  ศันสนียเวทย์”                           ผู้มีเจตจำนงอันคงมั่น
เขียนผลงานกานท์กวีทุกวี่ทุกวัน                  ล้วนสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้ความคิด
   ในหลายเล่มหนังสือถือเป็นหนึ่ง               ความและคำนำซึ้งถึงดวงจิต
อัชฌาสัยไมตรีมากมีมิตร                             แม้คำนิดมิข่มใครให้อับอาย


ร้านค้าขายสินค้าประเภทคล้ายตลาดคลองถมบ้านเรา



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ศิลาสีรุ้ง, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #24 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 12:37:22 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)


  ณ กลางเมืองกวางเจาเขายิ่งใหญ่               สินค้าใหม่ ไอ. ที. มีมากหลาย
ของเกรดบี. “ก๊อบปี้แบรนด์” แสนมากมาย   การซื้อ-ขายต้องตาดีรู้ดีครบ
   นึกถึงน้อง “ธนเดช  รักษ์ชูชีพ”                 ผมตัวลีบเลยนะแรกประสบ
คนดังเด่น ด้อยเช่นเรา เขารึคบ                     ยากปรารภเรืองพระ “จตุคาม”
   ด้วยผมนี้มิถนัดแม้สักหน่อย                      จึงมักถอยไปนั่งฝั่งตรงข้าม
มินานนักชักสนิทเลิกคิดคร้าม                      จึงรู้ความว่าคนซื่อมิถือตน
   นับเป็นนักกลอนดังฝั่ง ไอ.ที.                    มิตรมากมีกว้างไกลไปทุกหน
ผมเพิ่งได้ร่วมเล่นเป็นกังวล                          ด้วยเป็นคนมิเก่งกล้าวิชาคอมฯ    
    อีกท่านหนึ่งที่ขึงขังครั้งแรกปะ                 บางจังหวะเข้าใกล้ใจตุ้มต่อม
อยากคุยด้วยป่วยใจมิใคร่พร้อม                     มักจะอ้อมห่างไกลไม่นั่งชิด  
   พี่ “ประสิทธิ์-นนทวรรณ  บุญวงษ์”           บอกตามตรงเคยเกรงขามนามประสิทธิ์
ท่านพูดตรงส่งเสียงดังตั้งข้อคิด                     เมื่อพินิจคือผู้ใหญ่น้ำใจงาม
   พี่นนทวรรณท่านเรียบร้อยพูดน้อยนัก         เพียงถามทักมิเหมือนเราเมาแล้วพล่าม
ชื่นชมท่านด้านร้อยกรองทั้งสองนาม             คอยติดตามด้วยใจพร้อมน้อมประณต    

[/color][/size][/font]

 
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)
« ตอบ #25 เมื่อ: 05 พฤษภาคม, 2557, 12:42:52 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง)

หน้าอนุสาวรีย์แพะ สัญลักษณ์เมืองกวางเจา
 

ตรวจพาสปอร์ต แล้วขึ้นเครื่องอำลา


   กลับมายังกวางเจาเข้าใจถิ่น                         ผมได้ยินความเป็นมาน่าจำจด
อดีตกาล ปัจจุบัน อนาคต                             ล้วนสัมพันธ์กันหมดกฎโลกา
  กวางเจานี้เขามีฉายามาก                       “เมืองแพะ” จากอนุสาวรีย์มีคุณค่า
ฝรั่งเรียก “แคนตั้น” อีกฉายา                       “ก๋องเจ๊า” “หนานต้าเหมิน” พาที  
   แล้วเวลาห้าวันก็ผันผ่าน                            ขอคืนบ้านแดนดินถิ่นสุขี
รอประชุมสมาคมกวีฯ                                  พบน้องพี่มากมายจากใกล้ไกล
   ท่านที่มิมีนามตามนิราศฯ                          ก็ล้วนญาติมิตร “กวีร่วมสมัย”
มิได้ลืมเลือนนะขออภัย                                เรื่องมันไม่ยาวหนาฟ้าใหม่มี
   ต้องขอขอบพระคุณทุกทุกท่าน                 ที่ทนอ่านแต่หน้าหนึ่งมาถึงนี่...
พบกันใหม่ในปีหน้าถ้าจรลี                          มิรอรีแต่งนิราศแห่งชาตินั้น
   ขอความสุขสวัสดีมีทั่วหน้า                       พลั้งผิดไปอภัยหนาอย่าเดียดฉันท์
ถือความรัก สามัคคีมีสัมพันธ์                        ร่วมสร้างสรรค์ศักดิ์ศรีกวีเอย      

.............................................๑.................................................            





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.245 วินาที กับ 80 คำสั่ง
กำลังโหลด...