ตัวอย่างตอนพระสุธนใด้นางมโนราห์
๏ ถึงเวียงวังกลางสวนขวัญพลันไปหา ปรารถนาปลอบประโลมแม่โฉมศรี
พบเห็นนางเศร้าโศกวิโยคฤดี พระจึงมีจำนรรจาปลอบยาใจ
๏ “แม้วิโยคอย่าโศกใจให้มากนัก ขอจงพักผ่อนกายให้สดใส
ห่วงบิดรมารดาที่มาไกล กาลต่อไปต้องได้พบประสบกัน
๏ อันความรักญาติกาจำลาจาก รู้ว่ามากยิ่งนักหนักมหันต์
ขอเอารักจากอกพี่เทียมชีวัน มากำนัลทั้งหมดเพื่อทดแทน
๏ ต้องเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต สองชีวิตเราเกิดกายอยู่ไกลแสน
บุญนำพาน้องมาถิ่นถึงดินแดน เชื่อมั่นแม่นเราคู่กันแต่บรรพกาล”
๏ มโนราห์ฟังปรารภนั่งซบหน้า ชลนารินลงน่าสงสาร
ส่งผ้าซับชลนัยให้ดวงมาลย์ มิกล้าจักหักหาญจำรับไว้
๏ พระมองเห็นหัตถาทั้งขวาซ้าย เป็นแผลลายด้วยรอยหนามผิวช้ำไหม้
หยิบโอสถมาจะทาให้อรทัย นางเบี่ยงเลี่ยงกายไปตกใจกลัว
๏ พระสุธนย้ำว่า “อย่าหน่ายหนี เพราะไม่มีพระพี่เลี้ยงแล้วทูนหัว
พี่เองจะดูแลน้องมิหมองมัว” เสียงระรัวมโนราห์ว่า “อย่าเลย
๏ น้องดูแลตนเองได้มิใช่เด็ก ตัวเล็กเล็กที่ไหน” ฝืนใจเอ่ย
พระสุธนมิยั้งฟังคำเปรย มิเชือนเฉยคว้ามากุมทั้งสองกร
๏ มโนราห์ทรวงสั่นสะท้านสะเทิ้น สุดขัดเขินมิต้องกายชายมาก่อน
ร้องห้ามไว้แต่พระไม่ฟังคำวอน จำโอนอ่อนนั่งขดระทดระทวย
๏ ทรงชโลมลูบไล้ใส่โอสถ จนครบหมดกรซ้ายขวาบาทาด้วย
มโนราห์อนงค์ยังงงงวย ยอมให้ช่วยพึ่งพาพยาบาล
๏ ตั้งแต่วันนั้นมาหาขาดไม่ พระดูแลเอาใจยอดสงสาร
มโนราห์คลายขมขื่นชื่นดวงมาน เมื่ออาการเจ็บไข้กลับหายดี
๏ ในครานั้นพระสุธนรักล้นอก แต่วิตกอยู่ภายในใจเหลือที่
ด้วยมิเคยเลยก่อนมาเรื่องนารี จักพลอดรักสัตรีวิธีใด
๏ พระกุมกรเหมือนก่อนมาทาโอสถ เหลือจะอดหักจิตพิสมัย
จึงจุมพิตหัตถาอรทัย เผยความนัยขอความรักมโนราห์
๏ มโนราห์บ่ายเบี่ยงเลี่ยงองค์หนี จึงอ้อนวอนวจีว่า “พี่จ๋า
มองน้องเป็นเชลยหรือไรนา เห็นกำพร้าจึงลวนลามตามอารมณ์”
๏ คนวนาจากป่าชัฏพลัดเคหา ขัดจำนงลงอาญาให้สาสม”
พระว่า “ทำด้วยความรักอยากชื่นชม มิหมายข่มเหงกันทั้งใจกาย
๏ ทรงตระกองกอดก่ายมิให้ห่าง โนราห์นางอกสั่นพระขวัญหาย
ยังวอนว่า “ พระองค์คงเป็นนาย น้องพรานป่ามาถวายเป็นทาสพระองค์
๏ มิควรคู่ผู้เป็นราชบุตร เสมือนฉุดรั้งศักดิ์ศรีมิเสริมส่ง
ยากยิ่งนักรักครองคู่อยู่ดำรง” พระจุมพิตสนิทอนงค์พร้อมพลอดพลาง
๏ “พี่มิเคยรักใครในโลกนี้ ทุกคนล้วนรู้ดีที่เอ่ยอ้าง
พี่สวาทปรารถนาพระน้องนาง มิมีใครไหนขัดขวางอย่ากังวล”
๏ “น้องเสมือนลูกไก่ในกำมือ พี่ปล่อยไปได้ชื่อสร้างกุศล”
พระมิฟังวาจานฤมล สวาทล้นอุระแล้วแม่แก้วตา
๏ พระชมชิดพิสมัยไม่เหหัน ทรวงสนิทติดพันไซ้นาสา
พระโอฐแอบแนบชมดมพักตรา หัตถ์เคล้าคลึงปทุมมาเป็นเนานาน
๏ การโลกีย์มีกฎรสสวาท มนุษยชาติทั่วถึงย่อมซึ้งซ่าน
สุขกระสันปานท่องแมนแดนพิมาน อันรสชาติสวาทหวานนับอนันต์
๏ จนอนงค์ปลงจิตสนิทมนัส ปฏิพัทธ์เริงรุดสุดสวรรค์
ทรงเปรมปรีดิ์ราตรีกาลทั้งวารวัน พร่ำรำพันแต่คำรักปักฤดี