.

.*..โอวาทปาติโมกข์..*.
.
ความอดกลั้นเป็นตบะเผากิเลส
บรมธรรมคือเจตน์อันสูงสุด
ไม่เบียดเบียนทั้งสัตว์และมนุษย์
สงบใจละหยุดสิ่งมืดมน
.
อย่าทำเลยดีกว่ากับความชั่ว
ความดีตัวต้องสร้างเป็นกุศล
ทำจิตครองผ่องใสให้ตัวตน
ตรัสเหตุผลท่ามภิกขุอุปสัมปทา
.
หนึ่งพันสองร้อยห้า*สิบองค์
ประชุมสงฆ์สอนหลักศาสนา
แด่พระผู้จา*ริกภิกขาจาร์
มิได้นัดวันเวลามาประชุม
.
คืนเพ็ญเต็มดวงเดือนมาฆะ
ล้วนองค์พระอรหันต์มารวมกลุ่ม
ณ.ที่วัดเวฬุวันสถานชุมนุม
บริเวณพุ่มสวนไผ่ในมคธ
.
ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์
เพื่อให้โลกรู้เห็นเหมือนเช่นกฎ
สิ่งใดควรส่วนไหนใคร่ควรงด
ท่านแสดงพุทธพุจน์ให้พร้อมพรัก
.
ไม่กล่าวร้ายผู้ใดให้เคืองแค้น
ไม่ขู่แค่นสอนใครผู้ไม่สมัคร
สร้างศรัทธาสาธุชนเขาจนภักดิ์
โดยใช้หลักสำรวมอย่างสำราญ
.
ต้องรู้ควรคราใช้ปัจจัยสี่
ไม่คลุกคลีเขละขละในสถาน
ฝึกจิตตนพ้นผิดติดสันดาน
หมู่สงฆ์รับสาธุการในวันนั้น
.
..๐๐..พันคม..๐๐..

...กราบสาธุ...

วันมาฆะพระธรรมน้อมนำศีล
มิป่ายปีนกิเลสเป็นเหตุหมอง
ถือศีลห้าประเทืองงามเรืองรอง
กายใจผ่องด้วยศีลประทินตน

มิทำร้ายสัตว์โลกให้โศกเศร้า
มิอยากได้ของเขาเป็นเงาหม่น
มิแอบซ่อนนอนชู้มากผู้คน
มิฉ้อฉนโกหกนรกมี

มิฉลองเกินหนอแค่พอเหมาะ
มิลัดเลาะสิ่งห้ามก็งามศรี
ทำบุญทานผ่านเห็นก็เป็นดี
เพียงเท่านี้ก็งามอร่ามจริง

ชาวพุทธะละเว้นที่เป็นบาป
ศีลขนาบใจกายเถิดชายหญิง
บาปกรรมเวรเห็นชั่วอย่ามัวอิง
อย่าประวิงเลวทรามกรรมตามมา

อันหัวใจของศีลเคยยินถาม
ศีลข้อสามกามเทสิเน่หา
ผิดเมียผัวมัวหมองมิผ่องตา
ยินบาปหนาไหม้หมกนรกรอ

วันมาฆะปาติโมกข์ชาวโลกกราบ
ความหมายทราบซึ้งนักประจักษ์หนอ
กราบพระแล้วปล่อยวางทุกอย่างพอ
แล้วสานต่อกุศลเป็นคนดี

.....วรรณพร.....