Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
เรื่องสั้น แนวนิยาย
>>
เสียงปืนจากดงไพร..กับเสียงหัวใจใครบางคน
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: เสียงปืนจากดงไพร..กับเสียงหัวใจใครบางคน (อ่าน 131 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Msp.
หนึ่งวินาทีในหัวใจคน..ไม่เท่า
บรรณารักษ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1416
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณ คือรางวัลอันยิ่งใหญ่
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
เสียงปืนจากดงไพร..กับเสียงหัวใจใครบางคน
«
เมื่อ:
14 ธันวาคม, 2568, 08:40:03 PM »
หน้าแรก
เสียงปืนจากดงไพร..กับเสียงหัวใจใครบางคน
.
.
หลายวันแล้ว ที่พีรดามาอาศัยอยู่บ้านญาติ
จุดที่น้ำท่วมไม่ถึง
ฝนหยุดตกแล้ว
และระดับน้ำก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ
เหลือไว้แต่ร่องรอยของซากข้าวของเสียหาย
ที่ถูกน้ำพัดพากระจัดกระจาย
และ..
“คราบน้ำตา..”
พีรดายังออกไปช่วยกู้ภัยอยู่บ้าง
ตามแต่จังหวะที่สถานที่และบริบทของงาน
ภาพจำในหัวของพีรดา มักวนเวียนซ้ำๆ
เหมือนกลัวเหตุการณ์ต่าง ๆ
มันจะถูกลืมไปเสียอย่างนั้น
-ความทรงจำยังฟุ้งเต็มหัวของพีรดา-
พีรดายืนอยู่หน้าฐานกู้ภัยชั่วคราว
รองเท้าบูทเปื้อนโคลน
กางเกงขายาวเหนียวติดขา
เสื้อผ้ายังมีคราบน้ำขุ่นเป็นวง ๆ
ผมที่เคยรวบเป็นมวยหลวม ๆ ตอนเช้า
คลายตัวรุ่ยลงมาปิดต้นคอบางส่วน
หัวใจของเธอยังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
ไม่ใช่เพราะความเหนื่อยจากภารกิจที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว
ภาพบ้านชั้นสองหลังเล็กซึ่งเคยเป็นที่ปลอดภัยที่สุดในชีวิต
ผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“พีรดา”
เสียงเรียกทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง
ดังชัดเหนือเสียงฝนเล็กน้อย
เหมือนมีใครปรับระดับไมค์
ให้พอดีกับโสตประสาทของเธอ
เธอหันไปมองตามเสียงนั้น
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
เขาสวมเสื้อกันฝนสีหม่น
ลากขอบเสื้อคลุมไปกับพื้นซีเมนต์เปียก ๆ
หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีดำสนิทถูกดึงต่ำ
หมวกเสื้อกันฝนคลุมทับลงไปอีกชั้น
แถมยังมีผ้าปิดจมูกแบบสนามลงพื้นที่ปิดครึ่งล่างของหน้า
ไฟจากดวงสลัวด้านบนส่องย้อนเข้าหาเขาพอดี
ทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นเพียงเงามืด
เห็นได้แค่แนวกรามราง ๆ
และแสงสะท้อนที่กระทบดวงตาเป็นจุดเล็ก ๆ เท่านั้น
เขา?..คนบนเรือ
“จะกลับเข้าพื้นที่เหรอ” เขาถาม
เสียงไม่ดังมาก แต่มั่นคง
เหมือนคนที่ชินกับการพูด
ในสถานการณ์เสียงดังและวุ่นวาย
“บ้านฉันอยู่ในโซนที่น้ำยังขึ้นค่ะ” พีรดา ตอบเขา
“และ…มีแมวอยู่ในนั้นหกตัว”
ชายคนนั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง
เขาหันไปมองแผนที่สถานการณ์น้ำ
ที่ถูกติดอยู่บนผนังภารกิจเล็ก ๆ
แล้วก็พูดขึ้น ขณะที่ตายังมองแผนที่สถานการณ์
“เธอไปคนเดียวไม่ได้”
พอสิ้นเสียงเขาก็หันหน้ามาทางพีรดา
ที่จ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว
เหมือนเห็นคำถามในสายตาของพีรดา
ก่อนที่เธอจะเอ่ยอะไร เขาก็พูดต่อทันที
“มีเวลาไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง ขึ้นเรือ จับให้แน่น
เราจะอ้อมไปอีกทาง แล้วเดินเข้าไป”
พีรดา มองเขาด้วยความงุนงงประหลาดใจ
“เร็วเข้าสิ ยืนรอน้ำรึไง! พีรดา ละล่ำละลัก
รีบขึ้นเรือทำตามที่เขาบอกอย่างงงๆ
……
เขาช่วยเอาแมวใส่ตะกร้าออกมาได้อย่างปลอดภัย..
พีรดาขอบคุณเขาด้วยเสียงเบา ๆ ที่
เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
กริ๊ง....... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พีรดาตกใจ
จนภวังค์หลุดจากความคิดเหล่านั้น
“วันนี้ไปช่วยคนที่ติดค้าง ไหวไหมดา”
เพื่อนในทีมถามาเพื่อขอความความช่วยเหลืออีก
“ไหวจ้ะ”
“ไหวนะดา แค่เวียนหัวนิดหน่อย
คนอื่นลำบากหนักมากกว่าเราเยอะ” พีรดาบอกกับตัวเอง
....
“วันนี้น้ำลดลง แต่ยังต้องใช้เรืออยู่
บางจุดอาจได้ลุยน้ำนะ เตรียมตัวให้พร้อม!
เสียงคุ้นคนบนเรือ จนพีรดาต้องหันไปมอง
เขาสวมโม่งกับหมวกใบเดิม
“ใส่อะไรนักหนาวะ” พีรดาหงุดหงิด
เหมือนอยากเห็นหน้าเขาเล็กน้อย
“อย่าบอกนะว่าต้องไปกับทีมตานี่อีก ดุชิปหาย”
พีรดานึกในใจพลางเดินขึ้นเรือ
และสายตาก็เหลือบไปเห็นบัตรประจำตัวเขา
“ปภาวิน”
“ปภาวิน งั้นเหรอ” พีรดาเอ่ยชื่อเขาเบาๆ
วันนี้ทั้งวันไม่มีแดดเลย
ฝนไม่ได้หยุดตกเสียทีเดียวแต่มันปรอย ๆ
สลับกับแดดออกจางๆ
ฝนตกในฤดูหนาว ก็ยิ่งหนาว
เสร็จภาระกิจ
คืนนั้นพีรดา
ไข้ขึ้นสูง
หัวหนัก
ตัวร้อน
ลมหายใจติดขัด
เหมือนร่างกายกำลังพังทลายลงเงียบ ๆ
ในที่ที่ไม่มีใครเห็น
และในคืนนั้นเอง…
“ปัง!”
เสียงปืนดัง
ฉีกผ่าอากาศอย่างรุนแรง
พื้นดินสะเทือน
แรงสั่นสะเทือนแล่นขึ้นมาตามฝ่าเท้า
จนหัวใจสะดุดวูบ
กลิ่นดินไหม้
กลิ่นควัน
และกลิ่นโลหะร้อน
ลอยคลุ้ง บีบลมหายใจจนแทบหายใจไม่ออก
พีรดายืนอยู่ท่ามกลางสนามรบ
ไม่ใช่ภาพข่าว
ไม่ใช่หน้าจอโทรทัศน์
แต่เป็นความจริงที่อยู่ตรงหน้า
ผู้คนในชุดลายพรางเคลื่อนไหวรวดเร็ว
เสียงสั่งการตะโกนแข่งกับเสียงปืน
ฝุ่นควันบดบังท้องฟ้า
โลกทั้งใบหม่นเทา
ราวกับถูกกลืนกินด้วยความโกลาหล
เธอไม่รู้ว่ามาที่นี่ได้อย่างไร
รู้เพียงว่า
หัวใจเต้นแรง
และสัญชาตญาณบางอย่างในร่างกาย
กำลังตื่นขึ้น
รุนแรง
ชัดเจน
“หมอบ!”
เสียงตะโกนดังขึ้นใกล้ตัว
ก่อนที่แขนแข็งแรงจะดึงเธอเข้าไป
หลบหลังแนวกำบังอย่างรวดเร็ว
แรงนั้นมั่นคง
เด็ดขาด
และคุ้นเคยอย่างประหลาด
พีรดาเงยหน้าขึ้น
ชายในชุดทหารยืนบังเธอไว้
หมวกเหล็กบดบังใบหน้า
แต่ดวงตาคมเข้มคู่นั้น—
เธอจำได้ทันที
เป็นเขาแน่นอน “ปภาวิน”
แม้ไม่เคยเห็นหน้า
แต่หัวใจกลับรู้จักเขาดีเหลือเกิน
“อยู่นี่ อย่าขยับ”
น้ำเสียงดุ ลดต่ำลง
แทบจะกระซิบ แต่หนักแน่นราวกับคำสัญญา
มือของเขากกระชับหัวไหล่
กดนิ้วโป้งลงแนบหลังอย่างเผลอไผล
เหมือนเป็นสัญญาณว่า ยังอยู่ปกป้องเธอ
ในวินาทีนั้น
พีรดารับรู้ถึงกลิ่นบางอย่าง
ไม่ใช่ควัน
ไม่ใช่ดิน
เป็นกลิ่นอุ่น ลึก และหนักแน่น
กลิ่นที่ทำให้หัวใจสั่น
ร่างกายอ่อนยวบโดยไม่รู้ตัว
อัลฟ่า…
คำนี้ผุดขึ้นมาในหัว
ทั้งที่เธอไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้จริงจัง
ที่นี่ที่ไหน..ฝันเหรอ “เรากำลังฝันเหรอ”
แต่มันชัดเจนเกินจะปฏิเสธ
“โอเมก้าไม่ควรอยู่แนวหน้า”
เขาพูดเสียงต่ำ
เหมือนตำหนิ
เหมือนห่วงใย
และเหมือนกำลังย้ำกับตัวเอง
พีรดาเริ่มรู้สึกถึงร่างกายตัวเองที่ไม่ได้เป็นเธอ
เธอคือโอเมก้า!
เธออยากเถียงเขา
อยากบอกว่าเธอไม่อ่อนแอ
อยากยืนหยัดด้วยตัวเอง
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง
แรงอัดกระแทกจนร่างเธอเซ
เขาคว้าเธอไว้ทัน
แขนแข็งแรงรัดรอบเอว
กอดแน่น
ราวกับไม่ยอมให้โลกแยกเธอออกไป
“อย่าเสี่ยง”
เขากระซิบ
ใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวข้างหู
ท่ามกลางเสียงปืน
เสียงระเบิด
เสียงร้องของผู้คน
อ้อมแขนของเขา
กลับเป็นที่เดียว
ที่พีรดารู้สึกปลอดภัย
เมื่อเสียงปืนเงียบลง
เขาค่อย ๆ คลายแรงกอด
ช้าๆ
ราวกับกำลังชั่งใจ
มือที่ควรปล่อย
กลับค้างอยู่ อีกเพียงวินาที
พอร่างเธอเป็นอิสระ
ความหนาวก็ไหลกลับเข้ามาแทนที่
อย่างรวดเร็ว
พีรดาเพิ่งรู้ตัวว่า
เธอขาดอะไรไป
เขาถอยออก
หมวกกันฝนบังใบหน้า
เห็นเพียงดวงตาคมเข้ม
นิ่ง
ระวัง
และอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
“โอเคไหม”
คำถามสั้น ๆ
แต่สายตานั้นตรวจสอบทุกอณู
เหมือนจะไม่ยอมให้เธอแตกสลายตรงหน้า
พีรดาพยักหน้า
ทั้งที่หัวใจยังเต้นแรง
ร่างกายยังจดจำอ้อมแขนนั้นได้ชัดเจน
และในวินาทีนั้นเอง
เธอก็รู้ว่า—
ต่อให้เสียงปืนจะดังอีกกี่ครั้ง
หัวใจของเธอ
ได้เลือก จำสัมผัสนี้
ไว้ก่อนความกลัวทั้งหมดแล้ว
ดินแดนแห่งสรามนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงง่าย
เธอเห็นทหารบาดเจ็บ
เห็นผู้คนล้มลง
เห็นความสูญเสียที่ไม่มีฝ่ายใดชนะจริง ๆ
เหมือนภาพข่าวชายแดน
ที่เธอเพิ่งอ่านผ่านตา
ทำไมเธอต้องมาอยู่ในสถานการณ์นี้
อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้
หัวใจเธอหนักอึ้ง
เหมือนน้ำที่ยังไม่แห้ง
เหมือนโลกทั้งใบ
กำลังแบกรับความเจ็บปวดไว้พร้อมกัน
“พอแล้ว…”
เธอพึมพำ
เสียงเบาจนแทบไม่ใช่คำพูด
แสงสว่างวาบขึ้นรอบตัว
เสียงปืนค่อย ๆ เลือนหาย
ภาพสนามรบแตกสลาย
ราวกับหมอกถูกลมพัดพาเลือนหายไป
—
พีรดาสะดุ้งตื่น
เหงื่อชุ่มทั้งตัว
หัวใจเต้นแรง
จนรู้สึกเจ็บแน่นอก
เสียงฝนยังดังอยู่ข้างนอก
เพดานห้องนิ่งสงบ
ไม่มีควัน
ไม่มีเสียงปืน
มีเพียงร่างกายที่อ่อนแรง
และหัวใจที่ยังไม่หายสั่น
“ฝันบ้าอะไรเนี่ย!…”
เธอพึมพำ
ก่อนจะหัวเราะแผ่ว ๆ อย่างขำตัวเอง
คงเป็นเพราะดูซีรีส์วายมากไป
หรือไม่ก็เพราะข่าวสถานการณ์ชายแดน
ที่เธอเปิดฟังทั้งวัน
ภาพเหล่านั้นเลยหลอมรวม
เข้ากับความอ่อนล้า
จนกลายเป็นฝันประหลาด
แต่ถึงจะบอกตัวเองแบบนั้น
ดวงตาคมคู่นั้น
และเสียงดุแต่ห่วงใย
กลับยังชัดเจนในความทรงจำ
“ทำไมต้องมายุ่ง แม้กระทั่งในฝันของฉันได้วะเนี่ย!
พีรดา บ่นกับตัวเองบนที่นอนก่อนลุกจากเตียง
เช้าวันใหม่
พีรดายังมีภารกิจต้องออกไปช่วยเหลือผู้คน
ยังมีน้ำท่วม
ยังมีข่าวการสู้รบ
ที่ทำให้หัวใจหดหู่
เธอลุกขึ้นนั่ง
สูดลมหายใจลึก
แล้วบอกตัวเองเบา ๆ
“โลกมันโหดร้ายก็จริง…
แต่ตราบใดที่เรายังเลือกจะยืนอยู่ข้างกัน
เราก็ยังไม่แพ้”
masapaer
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
พิมพ์กานท์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"masapaer"ค่ะ~
~สติตัวเดียวก็เอาอยู่~
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> ห้องศิลปวัฒนธรรม
===> หมวดการท่องเที่ยว
===> หมวดอาหาร
===> หมวดศิลปกรรม
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...