555 บอกแล้วว่า
ปริศนาข้อใหม่ครับ (ยากนะจะบอกให้)

พยายามบอกใบ้ให้แล้วนะครับ

...ผองเพื่อนลองสืบค้น..........อัฟริกา
ก่อนคริสตกาลนั่นหนา...........จักรู้
แดนไนล์น่าทัศนา................ทุกเมื่อ
เทพท่านอวยพรผู้.................แวะเข้าเยี่ยมชม

====

....เทพใดพลังชีพให้..............โลกา
คำตอบไขปริศนา....................บ่งชี้
วอนวานแต่งวาจา....................แจงละเอียด
ประโยชน์ ณ ครั้งนี้...................กระจ่างรู้ "รา" แรง

....แข็งแกร่งหลอมระเหิดได้.......ฉับพลัน
ใกล้นักจักมิทัน.......................หลบได้
เคราะห์น้อยใหญ่พร้อมกัน..........สูญหมด
อียิปต์ชนจึ่งไหว้......................เทพไท้ใหญ่จริง

Ra (/rɑː/;[1] Egyptian: Rꜥ, Rˤ) or Re (/reɪ/; Coptic: ⲣⲏ, Rē) is the ancient Egyptian sun god. By the Fifth Dynasty in the 25th and 24th centuries bc, he had become a major god in ancient Egyptian religion, identified primarily with the noon sun.

In later Egyptian dynastic times, Ra was merged with the god Horus, as Ra-Horakhty ("Ra, who is Horus of the Two Horizons"). He was believed to rule in all parts of the created world: the sky, the earth, and the underworld.[2]
He was associated with the falcon or hawk. When in the New Kingdom the god Amun rose to prominence he was fused with Ra as Amun-Ra.
During the Amarna Period, Akhenaten suppressed the cult of Ra in favor of another solar deity, the Aten, the deified solar disc, but after the death of Akhenaten the cult of Ra was restored.

อันนี้หนูตอบก่อนอาจารย์โพสใหม่  ...ยังไม่ถูกหรือคะอาจารย์
แงๆๆๆๆ

สิริวตี

 

ถูกแล้วเจ้าข้า

คือ ทั้งขิงทั้งข่านั้น ร้อนแรง
ทั้งสองฝ่าย ทั้งร้อนทั้งแรงต่อกัน
(ไม่ยอมกัน)
สำนวนจึงนำมาใช้
ขิงก็ร้อน ข่าก็แรง  แต่
คนไทยชอบ สัมผัสคล้องจอง
จึงหาคำมาแทน ร้อน
 
ปราชญ์ท่านรอบรู้ ทราบว่า
ดวงอาทิตย์ ซึ่งร้อน อียิปต์ชนเรียก เทพ"รา"

สำนวนจึงนำมาใช้
ขิงก็รา ข่าก็แรง

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันครับ

ขอบคุณคร้าบบบบ

เอาอีกๆๆ

 

วตี

555 บอกด้วยครับ เอาแนวไหน ฮา
เอ้า ภาษาไทย นี่แหละตัวดี

..."ถ(ถอ)-น(นอ)-น(นอ)" อยากให้......เพื่อนเผย
ไฉนอ่าน"ถนน(ถะหฺนน)" ได้เอย...........ใคร่รู้
หลักสะกดอย่างไรเฉลย.....................บอกหน่อย
เหนื่อยยากลำบากสู้.........................สืบค้นเป็นทาน

ถนนหากให้หลักคำ    หมายจักนำคำตอบ    ตามชอบสมควรชี้    "วตี"นี้เคยเรียน    เพ่งเพียรพอได้รู้    เพราะครูเคยพร่ำสอน   เมื่อยังอ่อนยังเยาว์   ว่าเรามีพยัญชนะสามเสียง  เริ่มเรียงหมู่กันมา  ว่าเสียงสูงกลางและต่ำ  ก่อเกิดคำตามใช้   ถนนนี้ไซร้มีอักขระ  มิประวิสรรชนีย์ อีกยังมีถอถุง ที่มุ่งไปในเสียงสูง แต่ยังจูงนอหนู อยู่ต่ำตามเดี่ยว จึงเคี่ยวให้อ่าน ผ่านเหมือนมีหอนำ  น่าขำผันได้เสียงจัตวา   พาชี้สองแจ่มแจ้ง    ตามบทจดมิแล้ง   จุ่งชี้บอกมอบ ตอบนา

สิริวตี

กลอนพาไปเรื่อยเลยค่ะ ไม่ไพเราะเลย เอาสนุกเข้าว่า

 

จะต้องจรจากแล้วจ้า ว่างจะกลับมาดู

ถูกครับ อักษรสูงนำอักษรต่ำ อ่านแบบ ห นำ

แต่
ข้อถาม ยังไม่ได้ คำตอบทั้งหมด คือ
ทำไมอ่าน  ถะหฺนน

ทิ้งปริศนาไว้ เผื่อห่างหายนาน

อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

...เดือนใด นะนวลนาง.........นิมิตปาง วจีน้อย
ชายชอบ ระรื่นคอย.............ละห้อยให้ ประทับมา
...จริงแท้ มิเว้นชาย............สหายงด พิโรธข้า
เย้าแหย่ บ่ได้บ้า................เพาะ-หาเหตุ กระเทือนซาง

 
หลักภาษาด้านอื่นขอไประลึกก่อนน้าา

วตีกลับบ้านก่อน กลัวผี
 

มาแล้วคร้าาา....

จริงจริงแล้วคำนี้  มีตำราเคยบอก  เอื้อนออกตามหลักการ  ที่อาจารย์ท่านชี้แนะ   วตีแงะขอต่อตอบ  ชอบภาษาไทยแสนยาก เคยลำบากฝึกฝน  พานำคนให้รู้แจ้ง  ตามแสดงอักษรนำ  ที่ทำแบ่งเป็นส่วน  และควรมีข้อมูล  เกื้อกูลหนุนส่วนแรก แปลกที่ ออ นำ ยอ   และ หอ นำต่ำเดี่ยว   เชี่ยวท่องตอนประถม  สมรื้อจินต์มาต่อ  ใคร่ขอตอบส่วนที่สอง  ต้องแบ่งห้องอีกนิด  ตามจริตของหลัก ว่าเมื่อพักอักษรนำ ที่คำเป็นสองพยางค์ ก็ให้สางออกจากกัน และพันเข้าสู่มรรค พยางค์แรกรักส่งประ  ออกอะวิสรรชนีย์  รู้ปรานีคำสอง ประคองตามรูปการณ์ แล้วมองประสานที่เหตุ  ว่าเอื้อเขตคามใด หลักนั้นฉันจึ่งใช้  มุ่งชี้บอกมอบ ตอบเอย


 
งามเอยงามหมดจด               มากปรากฏพจน์อักษร
เรียงร่ายกลายเป็นกลอน       หลักที่อ่อนมาต่อเติม
สุดแสนจะสนุก                       นิราศทุกข์ลุกหาญเหิม
ภาษาพาจารเจิม                     แต่ละวันพลันสุขใจ
ขอด้วยช่วยชี้แนะ                   จะงัดแงะต่อเติมไว
ฉ่ำคำล้ำหทัย                           ภาษาใดไม่เท่าเรา  (หมายถึงภาษาใดในโลกไม่เท่าภาษาไทย)


*****คำว่าถนนนี้ เป็นคำที่อยู่ในอักษรนำ ประเภทคำที่มีสองพยางค์  หากคำใดที่มีสองพยางค์ พยางค์แรกจะอ่านเสียงสระอะ ตามด้วยคำที่สองที่อ่านเหมือนตัวหอมานำ จึงอ่าน ถะ-หนน*****  ค่ะ



สิริวตี

ขอบคุณคร้าบบบ
 

โอ๊ย ปวดหัว ๆๆๆ

ก็บอกแล้วว่า "ถูกครับ อักษรสูงนำอักษรต่ำ อ่านแบบ ห นำ"
แต่ ทำไมอ่าน  ถะหฺนน

ลองดูนะครับ
 มอ อ่านว่า มอ
สมอ   "     สะ-หมอ

นอ     "      นอ
ถนอ  จึงอ่านได้แค่ ถะ-หนอ
ฉนอ         "       ฉะ-หนอ

ไฉน อ่านว่า ฉะ-ไหน
เพราะมี สระ ไ ครับ

เธอ ยังไม่ได้ตอบเลยว่า

ถนน มี "สระ" อะไรใช้อยู่
แถม ยังมี น เป็น ตัวสะกด
ไม่ใช่หรือครับ 

คิดดี ๆ ก่อนตอบจ้า

อ้าว...แงๆๆๆๆ   ก็กระทู้ที่แล้วหนูทำสีเขียวไว้ด้านล่างกาพย์ยานี๑๑  ว่าอักษรนำประเภทนี้คือ อักษรนำแบบสองพยางค์ เมื่อใดก็ตามที่อักษรนำเป็นคำสองพยางค์ พยางค์แรกจะอ่านออกเสียง สระ อะ ก่อน แล้วพยางค์ที่สอง อ่านแบบ หอนำ
 ถนน จึงอ่านว่า ถะ-หนน (หอ-นอ-โอะ-นอ.....มีนอสะกด เป็นสระลดรูปด้วย ขอเพิ่มๆๆ อิอิ..) ถ้านอกเหนือจากนี้หนูยอมแพ้แล้วน้าาาา

 
  งั้นขอเฉลยได้ได้ม้าาาาาา อิอิ....หนูเริ่มงง แย้ววว แหะๆๆ
 
สิริวตี

ถนน จึงอ่านว่า ถะ-หนน (หอ-นอ-โอะ-นอ.....มีนอสะกด เป็นสระลดรูปด้วย ขอเพิ่มๆๆ อิอิ..)

โอ้ ถูกเสียที

เธอมัวอธิบาย "พยางค์แรกจะอ่านออกเสียง สระ อะ ก่อน แล้วพยางค์ที่สอง อ่านแบบ หอนำ"
ก็บอกแล้วว่า ส่วนนี้ ถูกแล้ว
แต่
"โอะ-นอ.....มีนอสะกด เป็นสระลดรูปด้วย"
ไม่ตอบสักที ฮา

เราควรสอนอ่านแนวนี้ครับ

ถนน
ถน อ่าน ถะหนอ
ถะหนอ (+) โอะ อ่าน ถะ-โหนะ
ถะ-โหนะ (+) น อ่าน ถะหฺนน

ขนม
ขน อ่าน ขะหนอ
ขะหนอ (+) โอะ อ่าน ขะ-โหนะ
ขะ-โหนะ (+) ม อ่าน ขะหฺนม

ขนบ
ขน อ่าน ขะหนอ
ขะหนอ (+) โอะ อ่าน ขะ-โหนะ
ขะ-โหนะ (+) บ อ่าน ขะหฺนบ

ขอบคุณจ้า

ปริศนาใหม่ เสนอไปแล้วนะคร้าบ สู้ ๆ

"เดือนสาม"นะคุณพี่       จะปรานีวจีมา
ไทยเรียกสิ"กุมภา-        และพันธ์"อยู่ฤดีเพียง
จริงแท้บ่เว้นชาย            ละพิโรธ ณ โกรธเถียง
ดุจรักพนักเอียง             ระรื่นเพี้ยงหทัยปอง

สิริวตี

 

รอนะรอคำตอบ
เมื่อใดมอบวจีเฉลย
เวลามาเอื้อนเอ่ย
ของหนูเลยน้อยเต็มที

หากถูกจะขอรับ
สดับคำทายมิหนี
ใหม่ใหม่มารอรี
มิประวิงยิ่งชอบใจ

ขอบพระคุณค่ะ

สิริวตี