ใบหน้าเธอนวลขาวราวไข่ปอก
ผิวพรรณบอกบ่งว่าสง่าศรี
สวมเสื้อแพรแลรุ่นกุลสตรี
เหมือนผู้ดีทุกอย่างช่างงามจริง

ดั่งองค์เทพธิดามาปรากฏ
คำหวานหยดพิลาสนักปราชญ์หญิง
หลงละเมอเพ้อคลั่งอยากนั่งอิง
ดุจไฟผิงอกหนุ่มเร้ารุ่มนัก

เฝ้าคะนึงถึงเธอใจเผลอไผล
อยากโอบไหล่ละอ่อนนอนหนุนตัก
ขอดูแลแม่งามตามทายทัก
พร้อมจะควักหัวใจทุ่มให้แล้ว

สวยแต่รูปจูบไปคงไม่หอม
ดอกพะยอมเน่าในทำชายแห้ว
เธอนั้นล้วงใจกันบั่นเป็นแนว
ผัวเป็นแถวในถิ่นวินมอไซต์

 
....................................................

กล้าอยากให้ช่วยแก้ไขในกลอนกระทู้นี้ให้กล้าหน่อยครับ
ใจกล้าอยากจะได้ถึง หกบท แต่กล้าเขียนได้แค่นี้เอง
ถ้าท่านใดใจบุญใจกุศล ขอแต่งเติม หรือจะตัดตรงนั้นต่อตรงนี้ก็ได้ขอรับ

ขาดตกบกพร่องตรงไหนก็ชี้แนะมาได้เลยขอรับ
ตรงหน้าบอร์ดนี่เลยครับ
กล้าไม่ถือ...+ช้อบชอบ...

ขอบคุณครับ

 
[/quote




๑.
ใบหน้าเธอนวลขาวราวไข่ปอก
ผิวพรรณบอกบ่งว่าสง่าศรี
สวมเสื้อแพรแลรุ่นกุลสตรี
เหมือนผู้ดีทุกอย่างช่างงามจริง

๒.
ดั่งองค์เทพธิดามาปรากฏ
คำหวานหยดพิลาสนักปราชญ์หญิง
หลงละเมอเพ้อคลั่งอยากนั่งอิง
ดุจไฟผิงอกหนุ่มเร้ารุ่มนัก

3.
เฝ้าคะนึงถึงเธอใจเผลอไผล
อยากโอบไหล่ละอ่อนนอนหนุนตัก
ขอดูแลแม่งามตามทายทัก
พร้อมจะควักหัวใจทุ่มให้แล้ว




ขอนุญาตสมมติเพิ่มเติมบท ๔ - ๕ ครับ
โดยปรับคำท้ายวรรคส่งของบทที่ ๓ ใหม่..สมมติ

..พร้อมจะควักหัวใจทุ่มให้กัน.........(คำเดิม = แล้ว )

๔.
จะร่วมปลูกต้นรักสลักซึ้ง
ให้ตราตรึงดวงจิตดั่งคิดฝัน
จะพรวนดินรดน้ำงามผ่องพรรณ
รักคงมั่นคู่สมภิรมย์ปอง

๕.
เหมือนฟ้าฟาดบาดใจสลายสิ้น
ข่าวนารินยินยลแสนหม่นหมอง
เทพธิดาปีกช้ำทำคะนอง
ค่าควรครองกลับกลายมลายแล้ว




๖.
สวยแต่รูปจูบไปคงไม่หอม
ดอกพะยอมเน่าในทำชายแห้ว
เธอนั้นล้วงใจกันบั่นเป็นแนว
ผัวเป็นแถวในถิ่นวินมอไซต์







ท่านกล้าครับ ทั้งสองบทที่ผมนำมาวางให้ เป็นการสมมติครับ
ท่านสามารถปรับเปลี่ยนคำได้ทุกคำครับตามที่เห็นของท่านครับ

คำ..เทพธิดา..ในวรรครองบทที่ ๕ ผมไปเอามาจากวรรคสดับของบทที่ ๒ ครับ
เพื่อย้ำความหมายของบุคคลที่ ๒ ของกลอนบทนี้


ขอบคุณครับ

๒ มิถุนายน ๒๕๕๙

.

ยามเยื้องย่างยักย้าย คล้ายสมัน
พักตร์เพราพรรณเพริศพริ้ม ยิ้มสวยใส
อกอวบอึ๋มอิ่มอุ่น ละมุนละไม
เนื้อนุ่มนิ่มนางใน ไข่เยี่ยวม้า

......................................

ใช้ได้ไหมขอรับท่านลุงศิลา

เบญจวรรณ