Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ >> สมุทรโฆษคำกลอน
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สมุทรโฆษคำกลอน  (อ่าน 83664 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #75 เมื่อ: 26 กันยายน, 2561, 12:18:51 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน



-๗๘-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ สองพระวรกายลายด้วยแผล
        อนาถแท้พระฉวีสีดำกร้าน
        เมื่อยามหลงดงไพรไม่สราญ
        เหมือนเคยผ่านทุกสิ่งที่ชวนชี้ชม

        ๏ สองพระองค์ทรงมีรักได้พักพิง
        พอเอนอิงคลายทุกข์ค่อยสุขสม
        ความระกำมินำพาเป็นอารมณ์
        ถึงกายตรมข่มกมลทนตรากตรำ

        ๏ ออกเดินทางย่างไปโดยไม่ท้อ
        มิรีรอสู้ทนเช้าจนค่ำ
        เมื่อถึงคราอาภัพยอมรับกรรม
        มิเพ้อพร่ำร่ำไรข่มใจตน

        ๏ อันวนหิมพานต์ไพศาลแสน
        ผิข้ามแดนด้วยเดชะพระกุศล
        ดุจดังเทพเทวัญบันดาลดล
        พบสายชลล่องไหลในพนา

        ๏ เห็นเคว้งคว้างกลางสาครเป็นขอนไม้
        คิดขึ้นได้ “สมุทรโฆษ” กระโดดหา
        นำเถาวัลย์ผูกพันไว้ชายคงคา
        ได้เหมือนแม้นแทนนาวาพากายจร



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, กิติราช ทับทิม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~

ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #76 เมื่อ: 26 กันยายน, 2561, 12:20:16 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน


-๗๙-
ธนุ เสนสิงห์


            ๏ แล้วออกหาผลาหารใกล้ธารนั้น
          มามากครันกองไว้กลางไม้ขอน
          สองกระบอกกรอกน้ำใสในสาคร
          เก็บไว้ก่อนเผื่อภายหน้าหาไม่มี

            ๏ ควรเตรียมการกันไว้ไม่ประมาท
          ด้วยสุดคาดหมายใดในทุกที่
          ชวนกันนอนเกาะขอนไม้ได้มั่นดี
          ปล่อยเชือกให้สายวารีพารี่ไป

          ๏ วันหนึ่งเพลียเสียพลังกันทั้งสอง
          สายน้ำล่องตามลำดับก็หลับใหล
          มินำพาเวลาผ่านนานเท่าใด
          ตื่นขึ้นในสมุทรสุดคะนึง

          ๏ เกิดพายุใหญ่มาฟ้าพยับ
          เพิ่มระดับวาตะเพชรหึง
          เกลียวคลื่นซัดตัดไม้คล้ายฉุดดึง
          สักพักหนึ่งฟัดฟาดจนขาดกลาง

           ๏ แยกทั้งสองล่องไปในสายสินธุ์
          อกพังภินท์โหยหาเมื่อฟ้าสาง
          เฝ้าร้องร่ำโอ้กรรมใดให้อับปาง
          โดยอ้างว้างเดียวดายกลางสายชล



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, กิติราช ทับทิม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #77 เมื่อ: 28 กันยายน, 2561, 09:06:44 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๘๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ “พินทุมดี” รำพัน “การจำพราก
        ชีพฝังฝากอยู่หรือดับกับกุศล
        ได้พบกันต่อวันใดหรือไกลพ้น
        ดวงกมลสุดมาดหมายให้เป็นจริง

        ๏ ความรักเอ๋ยเคยสุขแสนแม้นสวรรค์
        เมื่อยามพรากจากกันพลันโศกยิ่ง
        เคยฝากคำพร่ำพลอดมิทอดทิ้ง
        โอ้ทุกสิ่งผันแปรมิแน่นอน
 
        ๏ ยิ่งรักมากยิ่งทุกข์มากยามพรากรัก
        ห่วงยิ่งนักเป็นหรือตายสุดถ่ายถอน
        เหมือนโนรีที่ไร้รังเซซังจร
        อาลัยหาอาวรณ์ทุกวารวัน

         ๏ ต้องปล่อยตามชะตาฟ้าลิขิต
        มิมีสิทธ์ไขว่คว้ามาดังฝัน
        ร้องร่ำไปใครยินคำเพ้อรำพัน
        เจ็บมหันต์..มั่นใจรักไม่รวนเร

        ๏ ด้วยบุญดลกุศลชูให้อยู่ยั้ง
        เกิดพลังลมผลักคลื่นหักเห
       “พินทุมดี” ได้ขึ้นยังฝั่งทะเล
        เดินซวนเซออกหาน้ำท่ากิน








 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #78 เมื่อ: 28 กันยายน, 2561, 09:07:49 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๑-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ เห็นอาหารกินกันตายไม่เลือกสรร
         แค่ชีวันอยู่ต่อไปไม่สูญสิ้น
         พอเริ่มมีพลังแรงแห่งชีวิน
         จึงถวิลจะมุ่งไปในชุมชน

         ๏ หวั่นอุรากระทาชายหมายเชิงชู้
         หรือพบหมู่กักขฬะอกุศล
         จึงคลุกคลีธุลีดินสิ้นโสภณ
         ประดุจคนจัณฑาลซมซานไป

         ๏ เพื่อให้รู้เป็นผู้ไม่ใฝ่โลกีย์
         จึงบวชชีพราหมณ์สิ้นจินต์สงสัย
         มิหันมองจ้องกายชายใดใด
         ค่อยครรไลเทวษล้ำตามมรรคา

         ๏ เข้าสู่ “เมืองมัทราช” มิคาดหมาย
         พบตายายใจดีมีปุจฉา
        “โอ้แม่คุณบุญน้อยต้อยชะตา
         ไฉนมาเร่ร่อนจรเดียวดาย

         ๏ กิริยาท่าทีผู้ดีแท้
         ใครทำแม่ช้ำชีวันขวัญสลาย
         ดูดุ่มเดินเหมือนดังซังกะตาย
         อย่าเขินอายยายอยากช่วยเอื้ออวยกัน”
  







 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #79 เมื่อ: 28 กันยายน, 2561, 09:09:35 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



           ๏ ครั้นเมื่อยินจึง “พินทุมดี”
        รับไมตรีจากยายดังหมายมั่น
        ความห่วงใยจากสายตาส่งมานั้น
        ชวนตื้นตันพลันดำรัสตามสัจจริง
    
          ๏ ว่าพลัดพรากจากพระสวามี
        ร้าวชีวีรันทดสลดยิ่ง
        สองตายายได้ชวนชักไปพักพิง
        พออุ่นอิงอาศัยในเรือนชาน

         ๏ จึง “พินทุมดี” มีจิตหมาย
        ขอตั้งหลักพักกายบ้านยายท่าน
        สวามีคงตามมามิช้านาน
        เดินทางผ่านคาดการณ์ว่าพบหน้ากัน

        ๏ คิดหาทางอย่างไรให้เป็นผล
        พบทรงพลดังใจที่ใฝ่ฝัน
        นึกขึ้นได้ใช้ธำมรงค์วงสำคัญ
        มอบยายพลันวานไปขายในพารา

        ๏ ยายมุ่งบ้านท่านโภคีเศรษฐีใหญ่
        ที่ใครใครยอมรับนับถือว่า…
        เป็นคนซื่อเชื่อถือได้การขายค้า
        เมื่อพบหน้าปราศรัยด้วยไมตรี



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #80 เมื่อ: 01 ตุลาคม, 2561, 01:02:13 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๓-
ธนุ เสนสิงห์


            ๏ ยายจึงส่งธำมรงค์วงงามให้
          พลันก็ได้ยินอุทานท่านเศรษฐี
         “ช่างเลิศล้ำค่าคำนวณควรบุรี
          ฉันมิมีทรัพย์พอให้ต่อรอง

           ๏ จักขอนำพาไปตามใจหวัง
          พบขุนคลังวังในไม่ขัดข้อง
          ประเมินค่าราคาเน้นเป็นเงินทอง
          คงสมปองที่ตั้งความหวังไว้”

          ๏ เศรษฐีนำยายไปในวังหลวง
          กิจทั้งปวงช่วยจัดการประสานให้
          ด้วยเป็นคนมิจนแท้แม้น้ำใจ
          สิ่งช่วยได้เอื้ออวยด้วยยินดี  

          ๏ ครั้นเมื่อพบขุนคลังดังมั่นหมาย
          จึงบอกขายธำมรงค์สูงส่งศรี
          พินิจดูรู้ว่าค่าเทียมธานี
          เอ่ยวจีขอให้แจ้งแหล่งที่มา

          ๏ ฟังยายว่าน่าตั้งใจไม่เปิดเผย
          จึงมิเอ่ยย้ำซักจนนักหนา
          เตรียมแลกเปลี่ยนเหรียญหิรัญ กาญจนา
          ตามอัตรานิยมสมดุลกัน



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #81 เมื่อ: 01 ตุลาคม, 2561, 01:03:21 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๘๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ มณีนี้เป็นหนึ่งในธรณินทร์
        พิศุทธิ์สิ้นไร้ราคีเลิศสีสัน
        ประกายแสงแรงกล้าท้าตะวัน
        เชื่อแน่ว่าราชันท่านโปรดปราน

        ๏ ด้วยมากค่ากว่าในคลังมีทั้งหมด
        เหนือกำหนดมูลค่ามหาศาล
        เมื่อตีค่าราคาของเป็นกองกาญจน์
        ได้ประมาณทองเต็มร้อยเล่มเกวียน

          ๏ ขุนคลังให้ฝ่ายคุ้มภัยนำไปส่ง
        ตามจำนง “พินทุมดี” มิผันเปลี่ยน
        ระดมช่างสร้างมณฑลทำมณเฑียร
        มองระเมียรเด่นศิลป์ในดินแดน

        ๏ หน้าสร้างโถงเป็นโรงทานอาคารคู่
        เพื่อเลี้ยงผู้ที่จนยากลำบากแสน
        ทั้งพราหมณ์อันสัญจรไปในแว่นแคว้น
        ผู้ขาดแคลนมอบทุนให้ไปสร้างตน

        ๏ โรงหนึ่งให้อาหารทานอิ่มท้อง
        โรงที่สองให้ทรัพย์พอไปก่อผล
        สถานที่นี้หมายให้ทุกคน
        ได้พักยลภาพศิลป์จินตนา



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #82 เมื่อ: 01 ตุลาคม, 2561, 01:04:34 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๕-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ แล้วจ้างหมู่ผู้ช่วยงานการทั้งหลาย
         แบ่งเป็นฝ่ายหน้าที่มีถ้วนหน้า
         ช่างประดิษฐ์วิจิตรศิลป์ดั่งจินดา
         รายรอบฝาผนังห้องชวนต้องใจ
 
         ๏ ศาลาสองปองหมายให้รอท่า
         มีเวลาชมภาพศิลป์ซึ้งจินต์ได้
         ด้วยลำดับรับทุนรอนก่อนให้ไป
         ต้องซักไซ้เห็นความหวังตั้งใจจริง

          ๏ เพราะว่าคนยากจนนั้นต่างกันอยู่
         หนึ่งคือผู้มิพยายามทำสักสิ่ง
         ชีวิตอยู่อย่างผู้ขอรอพึ่งพิง
         ถึงละทิ้งความรักศักดิ์ศรีตน

          ๏ หมู่สองนั้นหมั่นเพียรและเรียนรู้
         ทั้งต่อสู้การงานด้านกุศล
         ช่องทางที่มีไม่มากจึงยากจน
         ยังอดทนมุ่งมั่นสรรค์ความดี

          ๏ พวกหนึ่งนั้นทานอิ่มท้องก็ผ่องใส
         ด้วยมิใฝ่ฝันเห็นเป็นเศรษฐี
         อยู่วันวันแบบปล่อยวางสร้างชีวี
         ประเภทนี้ให้ไปเพียงโภคภัณฑ์



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #83 เมื่อ: 04 ตุลาคม, 2561, 08:23:10 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๘๖-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ พวกสองปองทุนรอนสักก้อนหนึ่ง
        เพื่อก้าวถึงชีวีที่ใฝ่ฝัน
        ทุนต่อทุนหนุนเนื่องไปไม่ตีบตัน
        ถึงวันนั้นคนทั้งหลายได้พึ่งพิง

        ๏ “พินทุมดี” มีทุกอย่างสมดังคิด
        ศิลป์วิจิตรสำเร็จเสร็จทุกสิ่ง
        จึงเริ่มงานแจกทานไปไม่ประวิง
        คนรับทานนานวันยิ่งทบทวี

        ๏ ชนนิยมชมศิลป์จินตนิยาย
        มองความหมายบันเทิงใจไม่หมองศรี
        แม้เล่าความตามอรรถคดี
        จริงตามที่ชีวันผันผ่านมา

        ๏ จากราตรีที่เทพสรรค์การอุ้มสม
        ถึงพระแท่นบรรทมแสนหรรษา
        ผ่านวาระอภิเษกสุขอุรา
        จนถึงคราจำเป็นต้องท่องอรัญ

        ๏ พิทยาธรช้ำถูกทำร้าย
        ทูลถวายสิ่งประเสริฐเลิศพระขรรค์
        แล้วเหินลมชมวนหิมวันต์
        จนชะตามาพลิกผันพลันเดินไพร








 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #84 เมื่อ: 04 ตุลาคม, 2561, 08:24:12 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๗-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ครั้นเมื่อผ่านธารสายเกาะไม้ขอน
         จากดงดอนสู่โอฆะทะเลใหญ่
         มีพายุคลื่นแรงเหมือนแกล้งไซร้
         ซัดขอนไม้ขาดกลางจำร้างกัน

         ๏ เป็นคดีชีวิตลิขิตไว้
         มิรู้นัยที่มาว่าเพ้อฝัน
         ทุกทิวาให้อาหาร ทาน สารพัน
         ผู้หมายมั่นทุนรอนผ่อนยากจน
  
         ๏ สั่งทาสีมีความสำคัญว่า
        “ผู้ที่มาดูภาพเรื่องแต่เบื้องต้น
         พินิจแน่แลท่าทีดีทุกคน
         ก่อนจะพ้นจากลามีอารมณ์

         ๏ พลอยแช่มชื่นรื่นอุราหรือว่าเศร้า
         แม้นใครเขามีลีลาว่าขื่นขม
         แจ้งข่าวไวเพื่อให้เข้ามาดูชม
         เป็นเงื่อนปมที่เน้นย้ำสำคัญนัก”

        ๏ ตั้งแต่นั้นโรงทานนี้มีผู้ผ่าน
         ยิ่งเนิ่นนานมากล้นชนรู้จัก
         คนห่างเหเคหาได้มาพัก
         ส่วนมากมักเห็นภาพซาบซึ้งใจ


 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #85 เมื่อ: 04 ตุลาคม, 2561, 08:25:32 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๘๘-
สมุทรโฆษคำกลอน

 
          ๏ เหมือนยลยินศิลปะประโลมโลก
        จักทุกข์โศกตามจินดาก็หาไม่
       “พินทุมดี” มิมีท้อรอต่อไป
        คงมั่นในรักศรัทธาไม่ราร้าง

        ๏ ย้อนภาวะ“สมุทรโฆษ”อยู่โดดเดี่ยว
        ใจห่อเหี่ยวรู้เอกาเมื่อฟ้าสาง
        ชะเง้อชะแง้แลทางไหนใจอ้างว้าง
        ขอบน้ำกว้างไกลเหมือนเดือนตะวัน

          ๏ อกวิโยคโชคชะตามาพลัดพราก
        เมื่อจำจาก “พินทุมดี” มีโศกศัลย์
        ลอยสาครนอนละเมอเพ้อรำพัน
        “กรรมใดกันกลั่นแกล้งรุนแรงเกิน

          ๏ ตั้งใจมั่นต่อกันมาว่าชาตินี้
        จักมิมีเริดร้างหรือห่างเหิน
        โชคชะตามาแยกไกลให้เผชิญ
        บนทางเดินที่เป็นตายยังไม่รู้

        ๏ เห็นแต่น้ำกับฟ้าน่าท้อแท้
        ฟากฝั่งแลห่างหายใจหดหู่
        อยากจะแปลงกายาเป็นปลาปู
        แหวกธาราหาพธูคู่ชีวัน



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
กิติราช ทับทิม, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #86 เมื่อ: 05 ตุลาคม, 2561, 09:18:30 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๘๙-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ชีพน้อยน้อยลอยล่องเศร้าหมองศรี
         ฝากชีวีด้วยเดชะแห่งสวรรค์
         แม้นยามนี้มีน้องครองสัมพันธ์
         คงมิหวั่นพรั่นพรึงคะนึงครวญ

        ๏ รักจำพรากจากรักสุดหักจิต
         รำพึงคิดหวั่นไหวฤทัยป่วน
         ถ้ายังอยู่คู่คนดีจะชี้ชวน
         แม่เนื้อนวลล่องชลเล่นเช่นโลมา”

          ๏ เฝ้าละเมอเพ้อพร่ำคร่ำครวญอยู่
         แสนรันทดอดสูอาลัยหา
         ตายหรือรอดห่วงแต่ยอดพระชายา
        “อนิจจาแม่พลอยต้องหมองจาบัลย์

           ๏ ร่วมฤดีพี่กับน้องหมายครองสุข
         ตกชะตามาทุกข์ยิ่งโศกศัลย์
         ถึงเวรกรรมจำพรากต้องจากกัน
         ขอรักมั่นตราบที่ยังชีวา”
 
         ๏ แล้วเทพีที่รักษาชลาศัย
         พิมพ์ประไพนาม “มณีเมขลา”
         เหาะเวหนวนสำรวจตรวจธารา
         สายนัยนาเห็น “สมุทรโฆษ”นั้น



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #87 เมื่อ: 05 ตุลาคม, 2561, 09:19:48 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



         ๏ เฝ้าแหวกว่ายไม่ยอมแพ้กระแสสินธุ์  
       ห่างไกลแสนจากแผ่นดินถิ่นเขตขัณฑ์
       รู้บารมีเป็นที่อเนกอนันต์
       “สมุทรโฆษ” นามโจษจันลือขานไกล

        ๏ วันประสูติสมุทรยังคลั่งเหลือหลาย
       จะมาตายขายชื่อหรือไฉน
       ควรชูช่วยอวยชีวันหรือฉันใด
       ยากปลงใจจึงนำความถามอินทรา

       ๏ ครานั้นองค์อัมรินทร์ปิ่นเทเวศ
       ทิพยเนตรส่องดูก็รู้ว่า…
      “สมุทรโฆษ” ชดใช้กรรมเคยทำมา
       ถึงเวลาพ้นเคราะห์จำเพาะกาล

       ๏  ควรเวลาคลาไคลไปชูช่วย
       มิให้ม้วยลับล่วงห้วงละหาร
      “เมขลา” รับบัญชามิช้านาน
       เหาะทะยานดิ่งตรงลงชลธี

       ๏ “สมุทรโฆษ” ซมซบสลบไสล
       โอบอุ้มไว้กระทำตามหน้าที่
       เหาะโดยไวไปยังฝั่งธานี
       หาวารีจืดได้หยอดให้กิน





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #88 เมื่อ: 05 ตุลาคม, 2561, 09:21:08 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๑-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ข้างฝ่ายองค์อินทราในครานั้น
         จักษุพลันแลเล็งเพ่งกสิณ
         หาพิทยาธรที่มีราคิน
         ทั่วแดนดินมินานพบพานกาย

         ๏ ในพริบตาอินทรท่านเสด็จถึง
         ถมึงทึงเข้าหาว่าเสียหาย
        “เจ้าเป็นผู้รู้วิชามิน่าร้าย
         ล่วงทำลายทั้งไร้สิทธิ์คิดเคืองแค้น

         ๏ ขโมยพระขรรค์ชัยเขาใช้อยู่
         เกิดอดสูแก่เจ้าของหมองเหลือแสน
         ดุจพรากแม่ลูกอ่อนไปก็ไม่แม้น
         เขาต้องเดินดินแดนอันแสนไกล

         ๏ เจ้าทำเล่นเห็นสนุกแต่เพียงนิด
         จะมีคิดเมตตาก็หาไม่
         ถ้ารู้ตัวว่าชั่วช้าจงพาไป
         เอาคืนให้เขาอย่าถึงกึ่งชั่วยาม”
 
        ๏ พิทยาธรอ่อนใจหวั่นไหวยิ่ง
         กลัวเสียจริงโทษทัณฑ์พลันไต่ถาม
        “เขาดั้นด้นอยู่หนใดไม่รู้ความ
         จะติดตามคืนพระขรรค์ให้ทันการณ์”




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #89 เมื่อ: 06 ตุลาคม, 2561, 06:41:27 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



         ๏ องค์อินทร์ชี้ทิศที่ไปสู่ชายฝั่ง
        มิรอรั้งกราบลาอินทราท่าน
        เหินเวหาฝ่าไปไม่เนิ่นนาน
        เมื่อพบพานคืนพระขรรค์ในทันที

        ๏ เห็น “สมุทรโฆษ” ซบสลบอยู่
        จึงรับรู้ว่าทุกข์ยากมากเหลือที่
        คงตะเกียกตะกายสายวารี
        กระยาหารนั้นมิมีเลี้ยงกายา

        ๏ เห็นดังนั้นพลันออกหาผลาผล
        เป็นเบื้องต้นพอได้ลิ้มชิมภักษา
        วางเอาไว้ใกล้พระขรรค์แล้ววันทา
        จิตจดจ่อขอขมาก่อนลาไกล

         ๏ ครั้น “สมุทรโฆษ” ฟื้นตื่นลืมตา
        รู้ตัวว่ามาขึ้นยังฝั่งกว้างใหญ่
        คงด้วยบุญบารมีที่ทำไว้
        แลเทพไท้เบื้องบนดลบันดาล

         ๏ เห็นพระขรรค์นั้นวางข้างกายด้วย
        ทั้งเอื้ออวยด้วยนานาผลาหาร
        เกิดนิยามความหวังกลางดวงมาน
        ทุกข์คงผ่านไปหนึ่งขั้นพอบรรเทา




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.181 วินาที กับ 182 คำสั่ง
กำลังโหลด...