เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน => คุยได้ทุกเรื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: ประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 20 ธันวาคม, 2556, 12:12:11 AM



หัวข้อ: คนหล้าหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: ประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 20 ธันวาคม, 2556, 12:12:11 AM


                                                          คนหล้าหลัง
                                                                 1.

           "นี่คุณนิตยา เคยนึกถึงครอบครัวคุณทวีบ้างมั้ย" กานดาถามเพื่อนร่วมงาน
 
           "ทวีไหนล่ะ" ชวนพิศย้อนถามด้วยความลังเล

           "ก็ทวีเพื่อนร่วมรุ่นเราสมัยเรียนโรงเรียนวัดไง ลืมแล้วรึ"

           "ไม่หรอกยังจำได้ วันก่อนฉันกลับไปทำบุญเดือนสิบที่บ้านยังได้นั่งคุยกับเขาอยู่เลย  ฉันชวนลูกของแกมาเที่ยวกรุงเทพ ฯ  ก็ไม่ยอมให้มา เออ..เธอถามถึงครอบครัวเขาทำไม"

           "ก็เธอดูซิ ความคิดของเขาดักดานเอามาก อยู่ทำกินอยู่กลางทุ่งนั้นกี่ปีมาแล้ว ไม่เคยคิดขยับขยายไปไหนเลย ลูกสองคนก็ไม่ส่งให้เรียนต่อ คนหัวปีมีครอบครัวแล้วก็อยู่จุกกันในที่ดินแปลงเดิมนี้แหละ ดีที่มีเนื้อที่ราว 20 ไร่   พอได้ทำกินกับเขาบ้าง"

           "ตอนที่พวกเราจบชั้น ป.4 เธอคงจำได้ พ่อเขาส่งให้ทวีเรียนต่อ ก็ไม่ยอมเรียน แต่เขามีเหตุผลของเขานะ"      ชวนพิศพูดด้วยสีหน้าบ่งบอกว่ามีความคิดบางอย่างอยู่ในใจ

          "เหตุผลอะไร" กานดาสอดคำถามทันที

          "เขาบอกว่า เขาชอบความสงบ เรียบง่าย ชอบแบบชนบทที่เคยชิน กับการใช้วิถีชีวิตอย่างพ่อแม่ เขาให้เหตุผลว่าอยู่แบบนี้ก็สบาย"

          "แต่นี่มันคนละยุค"

          "ใช่...มันคนละยุคก็จริง แต่เขาไม่ได้อยู่อย่างเรานี่" ชวนพิศแย้ง

          "อยู่อย่างไง.. เธออธิบายฉันซิ" กานดาย้อนถามด้วยเสียงยั่วยวน

          "เธอกลับบ้านแต่ละครั้ง ไม่ดู ไม่สังเกตบ้างรึ อย่าว่าแต่รถเครื่อง รถจักรยานก็ไม่มีเลย ตู้เย็นก็มีที่ไหน"      ชวนพิศจะพูดอีก แต่ถูกแทรกเสียก่อน

          "เออจริงนะ เขามีสุขของเขาอย่างไร" ต้องการให้ชวนพิศแสดงข้อคิดเห็น

          "เขาก็ทำนาปลูกข้าว ยังมียุ้งข้าวเหมือนที่เราเห็นตอน 40 ปี ก่อนนี้นั่นแหละ ข้าวที่เขาปลูกกินได้ตลอดปี  วันก่อนฉันแวะไปเยี่ยมเขายังให้ข้าวสารใหม่เป็นของฝากด้วย"

          "ข้าวหอมมะลิมั้ย" กานดาซอกแทรก

          "ใช่ แกยังบอกสรรพคุณด้วยว่าปลอดสารพิษแน่ ๆ พอพูดเรื่องสารพิษในอาหาร แกบรรยายเสียใหญ่เลย  ความรู้เรื่องนี้แกสันทัดมาก ฉันงงเหมือนกันว่าได้ข้อมูลที่ถูกต้องเหล่านี้มาจากไหน  สืบสาวราวเรื่องรู้ว่าได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อนามัยในหมู่บ้าน"      ขณะชวนพิศพูดลื่นไหลกานดาไม่วายจะสอดแทรก

         "ไม่น่าเชื่อนะ"

         "ต้องเชื่อซิ สุขภาพกาย สุขภาพจิตของทวีเขาดีนะ ฉันประเมินว่า เขาดีกว่าเราหลายเท่า เขาอยู่แต่พอดี ไม่มีหนี้มีสิน อาหารการกินก็ปลอดสารพิษ เพราะเขาปลูกผักกินเอง เสียงปลาในบ่อแบบธรรมชาติ  เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่แบบธรรมชาติ ได้กินทั้งไข่ และเนื้อ"

         "กับข้าวไม่ต้องซื้อสินะ"

          "ก็ใช่ นี่แหละจึงไม่ต้องวุ่นวายหาเงินทอง สิ่งของเครื่องใช้ อย่างตู้เย็นก็ไม่จำเป็น เก็บผักสด ๆ จากสวนครัว  ปลาสด ๆ จากบ่อเลี้ยงแบบธรรมชาติ " กานดาได้ฟังข้อมูลตรงนี้ ดูใบหน้าเปลี่ยนไป  ความสงสัยที่เคยมีน่าจะกระจ่างขึ้นบ้าง

          "เออฉันพอจะนึกออกบ้างแล้ว"       น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นการยอมรับ


                                                        2.

               เวลาผ่านไป 6 ปี 3 เดือน และอีก 5 วัน กานดา จึงได้พบกับ ชวนพิศ    ด้วยบริษัทต้องลอยแพคนงานจำนวนหนึ่ง   เนื่องจากพิษของระบบเศรษฐกิจ  โรงงานต้องประสบกับการขาดทุน คนงานในจำนวนนี้มีกานดา และ   ชวนพิศด้วย

               เขาเคยพูดเล่น ๆ ว่าโลกมันกลม สักวันหนึ่งอาจจะเจอกันอีก วันนี้ก็เช่นกัน  ชวนพิศพบกับกานดาโดยบังเอิญขณะเดินซื้อของที่ร้านแผงลอย พบกันครั้งนี้ดูแปลกไปกว่าเดิมมาก  กานดาซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด ชวนพิศถึงกับแปลกตาเพื่อนที่เคยสนิท จนแทบจำไม่ได้

                "ชวนพิศ นี่เธอจำฉันไม่ได้รึไง"     กานดาจับมือชวนพิศขณะเดินสวนทางกัน

                "ถ้าเธอไม่พูด ให้ฉันได้ยินน้ำเสียง ฉันจำไม่ได้จริง ๆ เธอผอมไปมากนะ" ชวนพิศบีบมือกานดาด้วยรัก และเป็นห่วง

                 "ฉันจะบอกอะไรให้เธอทราบ" น้ำตาของกานดาเริ่มคลอเป้า

                "จ้ะ" เสียงตอบรับเบา ๆ ของเพื่อนที่เคยรู้ใจ

            "น้อย..มันติดยา ส่วนลูกนิด มันท้อง ฉันนำไปฝากไว้กับทวี เผื่ออะไรจะดีขึ้น"

             แขนทั้งสองของชวนพิศกอดรัดกานดาไว้แน่น ไม่มีคำพูดใด ๆ นอกจากเสียงสะอึกสะอื้นเบา ๆ จากหัวใจ

                                                    http://www.naturedharma.com/data-1784.html