|
หัวข้อ: ~"เขียนฟ้า?"~ เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 08 มกราคม, 2557, 03:55:24 PM (http://upic.me/i/7y/hbkz..jpg) (http://upic.me/show/49005323)
~"เขียนฟ้า?"~ ๏ ๐ เคยเอามือเขียนฟ้าคำว่า"รัก" ยามหนุนตักอนงค์ตอนหลงใหล มองผ่านคางหูแนบแอบทรวงใจ ยังจำได้สวรรค์นั้นของเรา ๐ ฟังเธอพร่ำน้ำคำฉ่ำระเรื่อ บัดนี้เหลือเพียงแต่แค่วันเก่า แผลอดีตพิษร้ายทำลายเอา เมื่อยามเขลาเป็นเหยื่อเชื่อคนลวง ๐ ทนโอบกอดหมอนข้างแบบร้างคู่ ต้านความคิดโจมจู่สู่ก้นบ่วง หนีกับทาสอารมณ์ตรมในทรวง ทุกคืนล่วงเสน่หาคร่าติดตาม ๐ ภาพลิ้นลมตวัดชัดส่งฤทธิ์ เสียงล่องติดประสาทวาดหวิวหวาม ข่มอารมณ์กดไว้กลัวไฟลาม กลางกองท่ามถ่านเถ้าที่เร้าเพลิง ๐ วันนี้ฟ้าว่างเปล่าราวกระดาษ คิดขยาดฝันร้ายครั้งใจเหลิง ก่อนเขียนรักคับฟ้าครารื่นเริง ยามนี้เพิ่งกลับเห็นเช่นม่านมัว ๐ ก่อนใช้มือเขียนฟ้าครานี้ขัน วารต่างกันความคิดจิตในหัว อยากใช้มือเขียนช้ำซ้ำหลายตัว เขียนให้ทั่วผืนฟ้าว่า"อยากลืม"๚ะ๛ ธนเดช จตุคามฯ :letter: หัวข้อ: Re: ~"เขียนฟ้า?"~ เริ่มหัวข้อโดย: ตรีประภัสร์ ที่ 08 มกราคม, 2557, 05:38:26 PM ...........◆........... ยินถ้อยเพียรเขียนรักปักฟากฟ้า อวลอุราหวานหยดพจน์ดูดดื่ม ยามพักพิงอิงแอบแนบมิลืม พี่เปรมปลื้มมิเลือนเจือนจากเงา ...........◆........... มองนภาฟ้าฝันมีจันทร์ผ่อง ฉายแสงส่องคิดถึงคนึงเหงา อวลไออุ่นกรุ่นจางมิบางเบา คงแนบเนาห่วงหาทุกนาที ...........◆........... คืนเหมันต์ลมหนาวพราวพรมพร่าง โอบน้องนางประคองมิหมองศรี รักฉ่ำหวานซ่านซึ้งตรึงฤดี ทั้งราตรีสุขแท้แม้ห่างไกล ...........◆........... แม้นคราใดน้องตรมระทมทุกข์ พี่คอยปลุกปลอบมั่นมิหวั่นไหว อิงอกแอบแนบทรวงด้วยห่วงใย รักล้นใจอ้อมแขนพี่แสนนาน ...........◆........... ขอคนดีพี่ชายอย่ากลายอื่น คำรักชื่นชีพวายมิคลายหวาน สัญญาภพร่วมเรียงคู่เคียงกาล ให้เปรียบปานโซ่ทองสานคล้องใจ.. ...........◆........... หนึ่งโสม ๘.๑.๒๕๕๗ :21: หัวข้อ: Re: ~"เขียนฟ้า?"~ เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเพลิง ที่ 08 มกราคม, 2557, 06:01:15 PM เห็นพี่เขียนฟ้าไปก็ใจเศร้า กะเอาเหล้าย้อมใจให้พี่ดื่ม หรือบางทีกะจะตั้งตังค์ให้ยืม เผื่อพี่ปลื้มเศร้าก็อาจปลาตไป .................................... เปลวเพลิง หัวข้อ: Re: ~"เขียนฟ้า?"~ เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 08 มกราคม, 2557, 06:56:58 PM ...........◆........... ยินถ้อยเพียรเขียนรักปักฟากฟ้า อวลอุราหวานหยดพจน์ดูดดื่ม ยามพักพิงอิงแอบแนบมิลืม พี่เปรมปลื้มมิเลือนเจือนจากเงา ...........◆........... มองนภาฟ้าฝันมีจันทร์ผ่อง ฉายแสงส่องคิดถึงคนึงเหงา อวลไออุ่นกรุ่นจางมิบางเบา คงแนบเนาห่วงหาทุกนาที ...........◆........... คืนเหมันต์ลมหนาวพราวพรมพร่าง โอบน้องนางประคองมิหมองศรี รักฉ่ำหวานซ่านซึ้งตรึงฤดี ทั้งราตรีสุขแท้แม้ห่างไกล ...........◆........... แม้นคราใดน้องตรมระทมทุกข์ พี่คอยปลุกปลอบมั่นมิหวั่นไหว อิงอกแอบแนบทรวงด้วยห่วงใย รักล้นใจอ้อมแขนพี่แสนนาน ...........◆........... ขอคนดีพี่ชายอย่ากลายอื่น คำรักชื่นชีพวายมิคลายหวาน สัญญาภพร่วมเรียงคู่เคียงกาล ให้เปรียบปานโซ่ทองสานคล้องใจ.. ...........◆........... หนึ่งโสม ๘.๑.๒๕๕๗ :21: ปลอบประโลมคนช้ำผู้ร่ำไห้ ดุจน้ำทิพย์โถมถาหาฤทัย ดับเปลวไฟแผดเผาเถ้ากลางทรวง เหลียวมองฟ้าปรากฎดาวลดหลั่น ทอแสงฝันเปล่งปลั่งโชติทั้งห้วง จันทร์รูปเคียวเที่ยวยิ้มพริ้มเด่นดวง งามเช่นสรวงสวรรค์ในทันที ใต้ไอจันทร์คนเศร้าเคยเหงาหงอย คล้ายเธอปล่อยฝันร้ายในใจพี่ หวานเจ้าเอยน้ำคำพร่ำไมตรี รัศมีเผื่อแผ่และเยือกเย็น ในคำหวานซ่านซึ้งประหนึ่งโซ่ เกิดมโนภาพหลากจากที่เห็น ร้อยคล้องรัดมัดพี่ที่จ้องเพ็ญ ความลำเค็ญสลายในพริบตา.. ระนาดเอก :12: |