เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนเศร้า => ข้อความที่เริ่มโดย: ขาวมณี ที่ 10 มีนาคม, 2557, 01:40:26 PM



หัวข้อ: ครวญละคร ตอน ธิดาสวรรค์
เริ่มหัวข้อโดย: ขาวมณี ที่ 10 มีนาคม, 2557, 01:40:26 PM
ครวญละคร ตอน2

จะกล่าวถึงเมืองสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง
ต่ำกว่าดาวดึงส์อสงไขย
นามว่าจาตุมาศิวาลัย
จะกล่าวไปให้เห็นชัดเจนพลัน...

มีจอมเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ทิศ
เทวสถิตสุขสมภิรมย์สรรค์
เหล่าปวงเทพอัปสราวิลาวรรณ
กุมภกัณฑ์ยักษานาคาลัย....

ณ สถานที่นี้มีอัปสร
องค์เอวงอนงามวิจิตรพิศมัย
นามมณีเนตรธิดางามล้ำนัยน์
เจริญวัยพระชันษาสิบห้าปี...

เจ้าน้องนุชยิ่งเลิศงามเฉิดฉาย
เนตรประกายวับแววดั่งแก้วสี
สมญานามเนตรแดงดั่งแสงสุรีย์
นามมณีเนตรนี้เฉพาะนาง...

เพราะชอบซนวนไปให้ทุกที่
เจ้ามณีหนีไปตอนรุ่งสาง
เธอเพลิดเพลินท่องเที่ยวมิเว้นวาง
จนลงกลางทางกระแสแม่คงคา...

จะดิ่งลงก็สุดสู้มิรู้ได้
กลัวอันใต้ธารีที่นี่หนา
อาจจะมีปีศาจประหลาดตา
หรือจะเป็นอสุราค่อยว่าที...

ว่าแล้วองค์ธิดาพนมหัตถ์
นึกประหวัดมนตราศักดิ์สิทธิ์นี่
เป่าคาถาแยกธาราและวารี
ขอข้านี้ลงไปใต้บาดาล...
 
*ทันใดนั้นสมุทราผ่าแยกออก
ธารกระฉอกเปิดกว้างเป็นสองฝั่ง
พสุธาหลั่งเลื่อนจนเถื่อนพัง
เห็นเวียงวังหลังใหญ่ในบาดาล...





 
 ------------+++++++++++----------
โปรดติดตามตอนต่อไปนะ ทาเคชิ






หัวข้อ: Re: ครวญละคร ตอน ธิดาสวรรค์
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 10 มีนาคม, 2557, 11:13:20 PM

ดิ่งลงใต้สมุทรสุดเหวลึก
มนต์เคยฝึกคุ้มภัยด้วยใจหาญ
แหวกน้ำไหลคลื่นพุ่งเป็นคุ้งธาร
จิตผสานกายแก้วอันแววไว

มาหยุดอยู่ปากหน้าธาราถ้ำ
จึงร่ายคำแนวลงคงรูปใส่
แต่ห้วงเหวตรงนั้นอย่าหวั่นไป
เดินเหินได้ดุจดั่งที่วังบน

อสุรกายประตูกรูมาขับ
ร้องเว้ยจับ..เอ็งแถมาแต่หน
บุกเข้าสู่แดนดับต้องอับจน
มันวิ่งร่นต่อสู้หมายสู่นาง

มณีเนตรเดาการณ์จึงหาญกู้
เฉิดสีสู่อสุระไฟจับหาง
ดิ้นทุรนทุรายตายลงกลาง
ล้มลงข้างธรณีตรงที่นั้น

เสียงอึกทึกแว่วเหเร่มาใกล้
สังข์แตรไกวกลองเสนาะบันเดาะห์สั่น
ท่ามกลางหมู่พลรับนับร้อยพัน
แสงเฉิดฉันท์ฉัตรเด่นเร้นกายครอง

นั่น..ใครหรือไยหาญมาราญข้า
เย้ยศักดามิกลัวต้องมัวหมอง
มาประหารชาญคนจนเลือดนอง
มิเกี่ยวข้องไม่แยกต้องแตกกัน

มณีเนตรนึกรู้สู่ดวงจิต
เทวฤทธิ์องค์ศักดิ์ที่ทักนั้น
คือองค์เจ้าสมุทรสุดโลกันตร์
จึงรีบพลันทูลพจน์มิปดความ

ข้าพระองค์มาท่องล่องแดนมั่น
หฤหรรย์ได้ยินถิ่นเกรงขาม
มาพึ่งหาบารมีพระทรงนาม
หวั่นเกรงตามอิทธิดำริจริง

แต่ด้วยยัีกษ์เฝ้าประตูคือผู้ถ่อย
มันคิดพล่อยมิหยุดดุจสัตว์สิง
ใช้อาวุธหมายฆ่าหาประวิง
ข้าจะนิ่งเฉยแน่คงแพ้ภัย

พลั้งสังหารผลาญพลคนของท่าน
น้อมรับการใดผิดมิคิดใหญ่
โปรดลงทัณฑ์ตามกฎบทอันใด
ข้าพระองค์ยอมให้มิใคร่ครวญ

พระได้ฟังความสัตย์ตระบัดจริต
ไร้เคืองคิดรู้นำธรรมใหญ่หลวง
ผิดแล้วรับจับแล้วรู้มิสู้กลวง
หมดทั้งปวงอาฆาตเรื่องสาดไกล

ขอให้เจ้าดำเนินตามเพลินนึก
กษัตริย์ศึกบิดาหาไกลไม่
คือเพื่อนรักสลักถ้อยแก้วร้อยใจ
นิมิตรได้เรารู้เรื่องสู่ความ

เราอยากลองใจจิตความคิดเจ้า
เลยล่อเอาเรื่องเร้นมาเข่นถาม
พลที่วายชีวาวาตน์มิขาดนาม
มนต์เราตามชุบฟื้นเร่งคืนคน

เจ้าจงล่องท่องไปตามใจนึก
ใต้ผนึกธาราบาดาลหน
อันตรายมิเร้นเคล้นกมล
จงดั้นด้นไปเถิด......  ข้าเปิดประตู

จั่นเจา (ลองช่วยแต่งนะครับ ผิดถูกขออภัยครับ เห็นแล้วอยากแต่งน่ะ )






หัวข้อ: Re: ครวญละคร ตอน ธิดาสวรรค์
เริ่มหัวข้อโดย: ขาวมณี ที่ 10 มีนาคม, 2557, 11:27:41 PM
ต่อ---

อันชาวเมืองบาดาลชลธรา
เหล่านาคานาคีมีมากหลาย
เดินสวนกันขวักไขว่ให้วุ่นวาย
การแต่งกายเกล็ดแทรกดูแปลกตา...

ชาวเมืองล้วนโพกศรีษะประดับมวย
ปักพลอยสวยเม็ดใหญ่งามหนักหนา
นุ่งผ้าซิ่นดิ้นทองยาวกรอมมา
ถึงข้อขาดูหลวมสวมกมลา..

โหม่งเหม่งเสียงเพลงบรรเลงพาทย์
กระวีวาดชาวเมืองแตกแยกซ้ายขวา
คงจะมีพิธีการบางอย่างมา
เฝ้ารอท่าคอยดูให้รู้ที...

พระเสร็จจากวังด้วยเกี้ยวแก้ว
งามเลิศแล้วพักต์สง่าด้วยราศี
สมเป็นชาติเก่งฉกรรจ์ดั่งชาตรี
พระไม่มีผู้เปรียบเทียบเทียมทัน...

นามท่านคือพระองค์นคเรศ
มีฤทธิ์เดชและกายาที่ล่ำสัน
แต่ไร้คู่เคียงหมายใจผูกพัน
อิสตรีนั้นปองรักมองพักตร์เพลิน...

****-----***++~~=^^^^^^^<<>>>>>>>>

รอคนใจดีมาแต่งต่อ o_O











หัวข้อ: Re: ครวญละคร ตอน ธิดาสวรรค์
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 11 มีนาคม, 2557, 11:10:12 PM
ประตูเปิดโอฬารตระการยิ่ง
วังเวียงอิงแอบข้างทางซ้ายขวา
ประดับยอดเกล็ดแก้วดูแววตา
สีเหลื่อมผ้าสะบัดยามพัดงาม

มิเหมือนเมืองบาดาลตำนานคิด
ดำเนินติดพสุธาน่าเกรงขาม
อัครเมืองเด่นซ่อนเร้นนาม
คือนิยามใช่เล่นเรื่องเป็นจริง

เดินปะปนพลข้าบาดาลสมุทร
ดูเร็วรุดท้วงก้าวราวสมิง
อาภรณ์สดสวยสรรสวรรค์อิง
ดุจเจ้าหญิงชายเชื้อมิเบื่อแล

เหล่าฝีเท่าก้าวดังระวังจิต
หันมองติดประสบพบดวงแข
เกี้ยวแก้วหามบุรุษสุดดวงแด
ลอยเด่นแท้ยลพักตร์สลักใจ

มิทราบนามทนงค์ผู้ทรงศักดิ์
แต่รูปลักษณ์ลอยเด่นมาเคล้นใกล้
มิต้องทราบเชื้อองค์ว่านวงศ์ใด
แต่หัวใจจำรู้คือคู่เรา

ด้วยบุญญาก่อนเก่าโน้มเข้าพบ
ได้ประสบบุพเพอยากเร่เฝ้า
เหตุและผลเรื่องรักมีหนักเบา
แต่บุญเก่ามีอยู่คือคู่ใจ

คิดดำริตริตรองหวั่นสองเรื่อง
หนึ่งขัดเคืองเป็นหญิงยากวิ่งใส่
สิทธิสตรีมิมีที่ควรไป
ให้ทุกข์ใจจมเศร้าต้องเหงาทรวง

สองต่างศักดิ์ต่างพันธ์ต่างกันหมด
ถิ่นงามงดบาดาลหาญแดนสรวง
กฎสวรรค์สูงยิ่งสิ่งทั้งปวง
จะฝ่าล่วงพ้นเหวเรื่องเลวทราม

มณีเนตรช่างคิดลิขิตช่วง
ดำเนินท่วงตรองตริมิไต่ถาม
เร้นกายหลบหลีกละพระทรงนาม
ก้มหน้างามรุดชิงกึ่งวิ่งไป

ด้วยบุพเพพระพรหมอุ้มสมสู่
เทพพธูนคเรศเปิดเนตรใกล้
สายตาสบใจส่องต้องหทัย
หยุดขบวนเร็วไซร้มิใคร่ครวญ

ทรงดำเนินขยับประทับร่าง
สุรเสียงกระจ่างสุภางค์ขวน
ช้าก่อน…นางยอดหญิงมิ่งเนื้อนวล
อัญเชิญชวนฟังถ้อยพี่ร้อยเรียง……….

55555555  เรื่องจะเป็นยังไงต่อยังไม่รู้น่ะครับ    ไว้ว่างวันหลังมาแต่งใหม่นะครับ……….จั่นเจา