หัวข้อ: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 11:47:02 AM (http://upic.me/i/mj/dscf6698.jpg) (http://upic.me/show/50712349)
เก้าพันเก้าโค้งถนนคนมาถึง สักโค้งหนึ่งพลาดลงคงดับสูญ โค้งใจน้องมากกว่านี้ทวีคูณ แสนอาดูรก็เดินทางเพื่องสร้างรัก ขอเชิญท่านพบกับนิราศ "จางเจี่ยเจี้ย" ดินแดนแห่งมหัศจรรย์ทิวเขาและแมกไม้ หลายท่านอาจจะเห็นเพียงภาพฉายจาก ภาพยนต์ฝรั่งเรื่องดัง "อวตาล" ซึ่งใช้เป็น สถานที่หลักในการถ่ายทำ ขอเชิญมิตรรัก นักกลอนทุกท่าน เดินทางไปร่วมกับกระผม ในนิราศนี้อย่างมีความสุขด้วยกันนะครับ ธนุ เสนสิงห์ บทนำ นิราศจางเจียเจี้ยนี้ ผู้แต่ง เดินทางไปเมื่อ 16 -20 มี.ค. 2555 นอกจากการ เก็บเรื่องราวที่พบเห็นในการเดินทางมาเล่าสู่กันฟังแล้ว ยังคละเคล้า กับความระลึกถึง มิตรกวีร่วมสมัยซึ่งมีความตั้งใจไว้เป็นอย่างยิ่งแต่เดิมแล้ว ที่จะมอบ “นิราศจางเจียเจี้ย” นี้ แด่มิตรกวีในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีสมาคมกวีร่วมสมัย วันที่ 6 เมษายน 2555 ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพมหานครฯ ผลงานนี้เคยนำลงในเว็บสมาคมกวีร่วมสมัยแล้ว แต่เมื่อมีการย้ายบริษัทผู้ดูแลเว็บฯ มาที่ใหม่นี้ก็มิสามารถเก็บมาได้ทั้งหมดจนจบเรื่อง และก่อนนั้นยังไม่มีความรู้ในการลงรูป จึงนำมาปรับปรุงเป็นนิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) ฝากทุกท่านในโอกาสนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งความเป็นไป สถานที่ ในนิราศนี้ คือความจริงตามที่เห็นมา และความรู้สึกต่อบุคคล ที่กล่าวถึงในเรื่องนี้ทุกท่าน คือความจริงจากใจผู้แต่งโดยแท้ เชิญทุกท่านไปจางเจี่ยเจี้ย ด้วยกันครับ ธนุ เสนสิงห์ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 11:56:11 AM เริ่มนิราศแรมร้างห่างเคหา มิไหวหวั่นอันใดไม่โศกา ถึงเวลาปล่อยใจให้รื่นรมย์ “ภรรยาที่รัก” ฝากใจด้วย กายต้องช่วยเฝ้าร้านงานทับถม ลูกชายอยู่ดูแลแม่เกลียวกลม ทำให้ผมเที่ยวได้สบายใจ ที่เที่ยวทางต่างประเทศด้วยเหตุว่า... การขายค้าเป้าถึงแล้วจึงได้... อยู่ดีดีคงมิมีปัญญาไป หาก “ภรรยาจัดให้” จีนหลายครั้ง เช่นเที่ยวเมืองอุตสาหกรรมนาม “เสิ่นเจิ้น” จะตามอย่างทางดำเนินใหญ่เกินหวัง “โอลิมปิกสองพันแปด” แซดโด่งดัง ไป “ปักกิ่ง” กะเขามั่งครั้งผ่านมา ตอนนั้นได้นิราศมาหนึ่งเรื่อง เที่ยวทั้งเมืองกับ “โอฬาร” ห้าวันกว่า รอบนี้ “ปูนอินทรีย์” มีเมตตา “จางเจียเจี้ย” (สอง)ห้าห้าห้า อยู่หนใด ชื่อแรกฟังครั้งนี้ในชีวิต เฝ้าครุ่นคิด “เขาจะพาข้าไปไหน” บินไปลง “กวางเจา” จึงเข้าใจ อยู่ภาคใต้ของแคว้น “แดนมังกร” สนามบินกว่างโจว หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 11:57:19 AM เรียกอีกอย่างว่า “กว่างโจว” เมืองโตใหญ่ ชื่อลือไกล “กายกรรม” นามกระฉ่อน ใน “กวางตุ้งมณฑล” เฉกเอกนคร จำลาจรจากไทยไปห้าวัน เข้ามณฑล “หูหนาน”อุทยานแห่งชาติ เขาสามารถจัดตั้งและรังสรรค์ ทำเส้นทางสร้างสิ่งดีมีครบครัน สอดคล้องกันวิจิตรพิสดาร หากถามว่าทำไมไปจีนถี่ ตอบเรื่องนี้ ภรรยาเขาบริหาร อาจมีมูลตระกูล “ตั้ง” หวังจัดการ ให้ท่องไปใกล้ใกล้บ้านเดิม “พ่อตา” นึกถึงเพื่อนน้องพี่ “กวีร่วมสมัย” ตัวอยู่ไกลในทรวงยังห่วงหา ฮัลโหล..กันเกือบทุกวันที่เคยมา แต่มิทำสัญญา “ไชน์โมบาย” เพราะต้อง “ลับ” กับใครไม่บอกกล่าว แม้แต่ “จ้าวมังกร” ใหญ่ไม่ขยาย พี่ “มังกร - เพชรีย์ แพ่งต่าย” จุดมุ่งหมายแต่แรกให้แปลกใจ ตลาดคนเดินเมืองกว่างโจว หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 11:58:23 AM ด้วยนิราศ “จางเจียเจี้ย” เล่มนี้ แทนน้ำจิตแด่มิตร “กวีร่วมสมัย” หกเมษาประชุมกันดังมั่นไว้ ทำ “เซอร์ไพรส์” มิส่งข่าวเล่าใครเลย เมื่อถึง “เมืองกวางเจา” คงเหงาจิต “เมื่อห่างมิตรดีกรีพี่กรเอ๋ย” เพื่อนร่วมกลุ่มแม้อยู่ใกล้ไม่คุ้นเคย ยากเฉลยวาทะเจรจา เก้าโมงกว่าช้าหน่อยก็พอรับได้ การบินไทยพาเพลินเหินเวหา เครื่องบินผ่านอีสานใต้ดุจสายฟ้า ข้าม “เวียดนาม” มุ่ง “ไชน่า” ประเทศโต ผมเฝ้าจ้องมอง “แผนที่การบิน” เมื่อลาถิ่นเมืองไทยมาไกลโข งดดูหนัง-ฟังเพลงเล็งจอโชว์ ถึง “กว่างโจว” สองโมงลงเครื่องพลัน แรกสัมผัสอากาศหนาวเข้านิดหน่อย แต่ยังน้อยกว่าที่คิดจิตไหวหวั่น ห้องแอร์กับข้างนอกก็เย็นพอกัน แต่งงงันฐานถิ่นของกินใช้ นึกถึง “พี่พงษ์ พี่ล้อม โหละสุต” เปรียบประดุจบุพการีเป็นพี่ใหญ่ อุปถัมภ์ค้ำชูอยู่ร่ำไป มีสิ่งใดไหว้วานท่านยินดี ก่อนจะไป “ปักกิ่ง” เมื่อคราวก่อน ยังขอพรก่อนจากมิพรากหนี แต่มา “จีนแผ่นดินใหญ่” ในครานี้ ปิดเงียบฉี่…ตั้งใจไม่แพร่งพราย สถานีรถไฟหัวจรวด หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 11:59:30 AM รวมดวงใจใฝ่รักสมัครสมาน ร่วมสืบสานวรรณศิลป์มิสิ้นสาย วัยแตกต่างมิห่างใจรักไม่คลาย ทุกคนหมายเมตตามาพึ่งพิง “ ศ.ศรีสุรางค์ พูลทรัพย์” ยอมรับท่าน เป็นผู้ใหญ่ไว้อาการสงบนิ่ง ทนเด็กได้ไม่ตำหนิและติติง พบตัวจริงถึงจะประทับใจ “แดนคนธรรพ์” ท่านเขียนคำนิยม พร้อมคำคมข้อคิดลิขิตให้ ซาบซึ้งคุณท่านจริงทุกสิ่งไซร้ น้อมจิตไหว้แทบตักฝากใจกาย การตรวจคนเข้าเมืองเรื่องน่าลุ้น เพราะมันวุ่นเหลือล้นคนมากหลาย มีบางคนโดนกักไว้ใจแทบวาย ผมสอดส่ายกล้องกดฉับ..จับภาพเลย ไก๊ด์จีนพร้อมรอท่าพาขึ้นรถ แจ้งกำหนดขึ้นรถไฟได้เอื้อนเอ่ย สำเนียง “ไทยเยาวราช” อาจคุ้นเคย “กวางเจา” เอ๋ยวันสุดท้ายหมายกลับมา รถไฟหัวจรวด หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 12:00:32 PM รถไฟความเร็วสูงพุ่งเป็นจรวด เขาได้อวดแขกเมืองเรื่องก้าวหน้า มองให้ดีก็มิใช่ธรรมดา ระบบดูหรูหราน่าชมเชียว วิ่งสามห้าสองก.ม.ต่อชั่วโมง หัวลำโพง-สุราษฎร์ธานีขี่ประเดี๋ยว แม้ช้ากว่าเครื่องบินแต่แค่เดี๋ยวเดียว การท่องเที่ยวย่นเวลาสะดวกสบาย อย่าง “กวางเจา” เมือง “ฉางซา” น่าไม่ห่าง การเดินทางสองชั่วโมงครึ่งถึงเป้าหมาย เอาความเร็วคุณเวลาว่าง่ายดาย ผลสุดท้ายไกลกันเกือบพันกิโล มีกระแสมิแน่ว่ามาถึงไทย ยังผ่านไปทางใต้อีกไกลโข เชื่อม “เวียดนาม” “ลาว” “มาเลย์” “สิงคโปร์” ถึง “อินโดฯ” ได้ด้วยก็สวยดี เทคโนฯ นั้นพัฒนาพาโลกแคบ เหมือนฟ้าแลบเว็บไปได้หลายที่ เอเชียเราก้าวหน้าไปไม่กี่ปี แซงรุ่นพี่ฝรั่งให้รั้งท้าย ภายในขบวนรถ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 เมษายน, 2557, 12:01:31 PM ถึง “ฉางซา” กินอาหารกันมื้อใหญ่ เห็นคนไทย กลุ่มอื่นดาษดื่นหลาย เรื่อง “บ้าเห่อ-เบอร์ห้า” น่าจะคล้าย ล้วนจุดหมาย “ภูผาอาวตาล” พวกฝรั่งหนังเขาสร้างยังไม่เห็น ส่วนมากเป็นไทย-เกาหลีเท่าที่ผ่าน ผมศึกษา “นิราศบาหลี” วิธีการ ทุกทุกด้านจดจำเพื่อทำตาม พี่ "สุวัฒน์ ไวจรรยา" อาจารย์ใหญ่ คับข้องใจทุกข้อขอไต่ถาม ท่านพร้อมจะบรรยายขยายความ น้ำใจงามจิตเจตเปี่ยมเมตตา “แม่ศรีวรรณทอง” ทั้งสองเล่มเต็มใจช่วย ทุกเล่มนั้นท่านอวยด้วยออกหน้า บรรณาธิการงานใหญ่ใช้เวลา ทุ่มชีวาด้วยร่างกายมิใคร่ดี เล่มนี้จึงเกรงใจไม่กวนท่าน ขอจัดการเองบ้างอย่างเร็วรี่ รู้ว่าหลายคนคอย “ร้อยวลี” ให้เวลาท่านเต็มที่เล่มสำคัญ “แม่ศรีวรรณทอง” ขอต่อภาคสาม “ธานีศรีวิชัย” นามนี้ยังหวั่น ยากหลีกหลบรบกวนครูดูอีกชั้น แต่ตั้งมั่นว่ามิบ่อยน้อยรอบลง ผมเหมือนศิษย์สอนยากลำบากยิ่ง ครูติติงกี่ครั้งยังลืมหลง เขียนเรื่องยาวบางคราวมันงุนงง หมายเสริมส่งทัศนะสารพัน โรงแรมฉางซา หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 เมษายน, 2557, 09:15:09 AM (http://upic.me/i/xi/dscf6657.jpg) (http://upic.me/show/50748744)
หน้าโรงแรมที่พัก (http://upic.me/i/ie/dscf6662.jpg)[/url นาไร่ริมทาง (http://upic.me/show/50748767) รุ่งขึ้นเช้าเดินทาง “จางเจียเจี้ย” เริ่มใจเสียหมอกหนาพาหนาวสั่น เห็นไร่นาป่าเขาคละเคล้ากัน บ้านเรือนนั้นแบบบ้านนอกมีคอกฟาร์ม ผักผลไม้ขายข้างทางวิถี ของกินมีชิมกันไปไม่มองข้าม มิเซ้าซี้กี่ “หยวน” จ่ายไม่ครั่นคร้าม แต่มิตามเขามองพวกของใช้ ของจีนนั้นมันหลอกตาคุณค่าต่ำ มินานซ้ำเป็นขยะเกะกะได้ หลังอาหารกลางวันขั้นต่อไป ขึ้นเขาใหญ่ที่ถ่ายหนังดังก้องฟ้า นั่งกระเช้ายาวไกลสุดในโลก อากาศดีเหมือนมีโชควาสนา ไก๊ด์แจ้งข่าวราวสามวันที่ผ่านมา เมฆคลุมฟ้าหิมะตกยกเลิกทัวร์ หน้าสถานีกระเช้า (http://upic.me/i/56/dscf6672.jpg) (http://upic.me/show/50748893) กระเช้าเริ่มออกจากสถานี หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 เมษายน, 2557, 09:39:09 AM (http://upic.me/i/l3/dscf6675.jpg) (http://upic.me/show/50749027)
กระเช้าเริ่มขึ้นภูเขา (http://upic.me/i/ch/dscf6692.jpg) (http://upic.me/show/50749035) ข้ามภูเขาไปเรื่อย ๆ สถานีกระเช้าของเขาสร้าง ให้ขึ้นกลางเมืองใหญ่มิได้มั่ว (http://upic.me/i/4r/dscf6700.jpg) (http://upic.me/show/50749048)ข้ามหลังคาร้านค้าไปไม่น่ากลัว เชื่อว่าชัวร์เมื่อได้เห็นเส้นสลิง ให้ขึ้นนั่งหกคนบนกระเช้า พอขึ้นเขาวุ้ยว้ายทั้งชายหญิง ขาทรงสูงเสียดฟ้าแปลกตาจริง เมฆหมอกลอยอ้อยอิ่งยิ่งวิมาน ยังนึกถึงเมืองไทยไม่หาย อยากบรรยายเป็นเพลงบรรเลงหวาน แต่หนทางห่างนักยากพบพาน ขอเล่าขานเป็นนิราศฝากญาติมิตร (http://upic.me/i/07/dscf6709.jpg) (http://upic.me/show/50749062) ภาพถ่ายจากกระเช้า หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 เมษายน, 2557, 09:58:23 AM (http://upic.me/i/ff/dscf6691.jpg) (http://upic.me/show/50749136)
(http://upic.me/i/s9/dscf6697.jpg) (http://upic.me/show/50749153) ถนนขึ้นภูผาอาวตารโดยรถยนต์ถ่ายจากกระเช้า เรื่องเพลงนั้นยังยังมุ่งมั่นทำกันเรื่อย แม้เอ่ยเฉื่อยไฟไม่มอดจอดสนิท แม้รู้เรื่องโด่งดังอย่าหวัง คิด ทำด้วยจิตที่รักไม่ได้ขายซื้อ พี่ “ประจักษ์ สิทธิกรทวีชัย” เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่นับถือ “ครูบนดอย” คว้ารางวัลอันระบือ นามเลื่องลือกระฉ่อนทั้งกลอนเพลง ผมก็รักด้านดนตรีกวีศิลป์ แต่งเพลงมาเป็นอาจินต์แม้มิเก่ง มิคิดไกลให้โด่งดังฟังกันเอง รู้กระเตงเร่ขายใครก็ไม่เอา (http://upic.me/i/sc/dscf6699.jpg) (http://upic.me/show/50749195) ว่ากันว่าถนนเส้นนี้มีโค้งมากกว่าเก้าพันโค้ง หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 เมษายน, 2557, 10:24:09 AM (http://upic.me/i/kf/dscf6695.jpg) (http://upic.me/show/50749327)
(http://upic.me/i/vm/dscf6703.jpg) (http://upic.me/show/50749340) ทางเดินชมวิวชายผา เดินสะพานริมผาชวนขาสั่น ผาสูงชันยังดันสร้างข้างไหล่เขา จำต้องกล้ามาตั้งไกลมิใจเบา แต่ถ้าเมาตกเขาตายได้ดังครัน มองภาพวิวทิวทัศอัศจรรย์เขา จากนานเนาธรรมชาติวาดรังสรรค์ ที่บ้านเราก็มีเขาสวยเหมือนกัน แต่ปิดกั้น-ติดขัดด้านการลงทุน จากเชี่ยวหลาน-อุทยานแห่งชาติเขาสก อยากหยิบยกถ้าหากรัฐจัดเกื้อหนุน ความสวยงามไม่ด้อยน้อยเลยคุณ น้อยคนที่มีบุญได้ไปเจอ จีนเขากล้าลงทุนในทุกที่ แล้วก็มีกำไรได้เสมอ ที่บ้านเราคิดอะไรให้เลิศเลอ คนออเออกับคนค้านต้านพอกัน (http://upic.me/i/eu/dscf6687.jpg) (http://upic.me/show/50749404) (http://upic.me/i/wv/dscf6711.jpg) (http://upic.me/show/50749414) ภาพถ่ายจากทางเดินชมวิว หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 เมษายน, 2557, 10:45:20 AM (http://upic.me/i/dp/dscf6725.jpg) (http://upic.me/show/50749602)
(http://upic.me/i/go/dscf6727.jpg) (http://upic.me/show/50749603) รถบัสทัวร์มารับต่อไปส่งหน้า "ประตูสวรรค์" ไปต่อที่เขาทะลุ “เทียนเหมินซาน” ที่เรียกขานว่า “ประตูสวรรค์” เขาว่ามีนักบินที่ชอบ “เสียว+มัน” บินผ่านพลันตั้งนามตามนักบิน ใกล้กันมี “สวนสาธารณะจอมพลเฮ่อหลง” เขาเจาะจงสร้างไว้อยู่ในถิ่น มีรูปปั้นสร้างสรรค์ไว้ให้ยลยิน มิสูญสิ้นความคิด “คอมมิวนิสต์แดง” นึกถึงพี่ “ยุรี คุณกิติ” อ โหสิ เถอะนะขอแถลง แรกพบปะตระกูลพี่เด่นดีแรง อยากแสดงไมตรีต้องหนีไกล การเป็นอยู่เพิ่งรู้พี่นี้เรียบง่าย มิวุ่นวายคล้ายตนเป็นคน “ใหญ่” ที่ผ่านมาคารวะขออภัย ผมคิดไกลไปว่าท่านเล่นการเมือง หน้าทางขึ้นประตูสวรรค์ (http://upic.me/i/36/dscf6743.jpg) (http://upic.me/show/50749697) อ่านว่า "เทียนเหมินซาน" หรือเปล่าไม่ทราบ ใครอ่านออกลองอ่านดูครับ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 เมษายน, 2557, 12:04:04 PM (http://upic.me/i/8y/dscf6679.jpg) (http://upic.me/show/50797963)
(http://upic.me/i/d1/dscf6749.jpg) (http://upic.me/show/50798018) ทิวทัศน์ขาลง ลงกระเช้าเข้าภัตตาคารหรู สังเกตดูการขายค้าน่าฟูเฟื่อง (http://upic.me/i/uk/dscf6754.jpg) (http://upic.me/show/50798182)แต่คนจีนเขาใช้จ่ายมิใคร่เปลือง คุยกับไก๊ด์ได้เรื่องว่าจีนรวย ฐานะคนทั่วไปไม่เหมือนก่อน แต่เดือดร้อนของกินมันดันแพงด้วย ผมเพียงนั่งฟังเธอมิเอออวย เพราะมิรู้จะช่วยเขาอย่างไร ไก๊ด์สาวจีนช่างเจรจาหน้าตาสวย ผมคุยด้วยสองวันชวนหวั่นไหว เลยนึกถึงเพื่อนกวีที่เมืองไทย หากคุยด้วยหมวยคงได้ “ขนมจีบ” บานฯ เอ่ยเพื่อนผมคือ..”สมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูล” มิสิ้นสูญอารมณ์รักสมัครสมาน กลั่นความรักจากกมลเป็นผลงาน ใครได้อ่านชื่นชมสมฤดี การศึกษามายารักมักมิจบ คงค้นพบสิ่งใหม่ไปทุกที่ กลอนรักหวานซ่านฤทัยในบางที อาจจะมีความเศร้าเคล้าระคน (http://upic.me/i/v2/dscf6756.jpg) (http://upic.me/show/50797978) ไร่นา บ้านเมือง ถ่ายจากกระเช้า หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 เมษายน, 2557, 12:43:48 PM (http://upic.me/i/c3/dscf6862.jpg) (http://upic.me/show/50798540)
ร้านอาหาร จางเจียเจี้ยอุทยานนั้นใหญ่ยิ่ง ทั้งเดือนไปไม่ครบจบทุกหน (http://upic.me/i/g8/dscf6829.jpg) (http://upic.me/show/50798554)เขา น้ำตก ถ้ำ ธาร บ้านเผ่าชน มีมากล้นสุดจะนับคณา อัศจรรย์พรรณไม้กลางไพรพฤกษ์ แลล้ำลึกรูปกลิ่นถวิลหา ไม้ดอกสวยกลิ่นรวยรื่นชื่นชีวา อยากจะคว้ามาดมดอมย้อมฤทัย “พี่เสมอ- พี่สงวน กลิ่นหอม” ส่งกลิ่นพร้อมเพรียงกันนั้นไฉน อาจลืมหลงเชื่อมวงศ์วานกันฉันใด หรืออยู่ไกลคนละภาคจึงยากนับ ทั้งสองสะ(เหมอ-หงวน)ระบือฝีมือกลอน อยู่นครฯนักกลอนดีมีระดับ “ขุนรำยอง” ของพี่เหมอเลิศเลอครับ ชื่อเป็นที่ยอมรับกันมานาน เรื่องขายค้าหาเงินทองนักท่องเที่ยว มีชาติเดียวคือจีนที่รัฐบริหาร คณะทัวร์ทุกชาติมิอาจค้าน เขาขอร้องแกมการบังคับเลย พวกยาจีน บัวหิมะ หยก ผ้าไหม แวะเข้าไปอย่าหวังนั่งเฉยเฉย โดนลูกตื๊อหลอกล่อเอาเราไม่เคย ผลเฉลยสุดท้ายเสียดาย”ตังค์” เจอหลายครามารู้ทันให้มันตื้อ ใจอ่อนซื้องมงายอย่าได้หวัง ไก๊ด์เขาได้เปอร์เซ็นต์จึงเน้นจัง เพียงเตือนไว้ให้ระวังอย่ากังวล โรงแรมที่พัก หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 เมษายน, 2557, 01:16:16 PM (http://upic.me/i/4u/dscf6831.jpg) (http://upic.me/show/50799076)
ปากทางเข้าต้องซื้อตั๋ว (http://upic.me/i/x1/dscf6834.jpg) (http://upic.me/show/50799122) ทางเดินเริ่มขึ้นเขา เช้าอีกวันเตรียมตัวกันอย่างคึกคัก วันนี้จักหนักหนากว่าตอนต้น (http://upic.me/i/6r/dscf6838.jpg) (http://upic.me/show/50799135)ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปไร้รถยนต์ จะผ่านพ้นหรือไม่ใจครุ่นคิด จะคาดเดาเอาว่าง่ายมิใช่แน่ ใครยอมรับว่าแก่...ก็หมดสิทธิ์ หรือเสีย”ตังค์”นั่งเกี้ยวเสียวกว่านิด เขาก้าวผิดขั้นบันไดเราไหลลง ผมมิใช้บริการหรอกงานนี้ แรงช่วยดัน “บรั่นดี” ยังมีส่ง ต้องย้อมใจให้กล้าฝ่า “เขาวงฯ” พากายทรงด้วยสติมิรวนเร ทางขึ้นเนินแสนชันดันยังลื่น ยันขาขืนก้าวย่างท่าทางเป๋ เมื่อถึงขั้นบันไดให้ซวนเซ ที่ลังเลเรียกเกี้ยวเลี้ยวกลับกัน ผมมิหน่ายป่ายปีนไปด้วยใจสู้ หนักหนาอยู่แต่มานะที่ละขั้น ถึงขาแกว่งแรงล้ายังฝ่าฟัน ขาใช้ดันมือข้างหนึ่งดึงราวไว้ ครั้นปีนป่ายสุดปลายโค้งยังลงต่อ อยากจะขอหยุดพักกายมิใคร่ไหว พอมาถึงท่าเรือเหงื่อตกใน เตรียมอาศัยเรือล่องท่องธารา ขึ้นสุดแล้วลง (http://upic.me/i/6r/dscf6840.jpg) (http://upic.me/show/50799143) ท่าเรือ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 เมษายน, 2557, 03:58:04 PM (http://upic.me/i/r5/dscf6847.jpg) (http://upic.me/show/50802097)
ท่าเรือ ถ่ายจากในเรือ (http://upic.me/i/dv/dscf6843.jpg) (http://upic.me/show/50802106) เมื่อเรือผ่านสาวชาวพื้นเมืองออกมาร้องเพลงสด ๆ ให้ฟัง “เป่าเฟิงหู” เชิดชูว่าทะเลสาบ เท่าที่ทราบเขื่อนเขาสร้างขวางหุบผา สู้เชี่ยวหลานบ้านผมไม่ได้จริงนา มองซ้ายขวาเขาสูงโปร่งเหมือนทรงเดียว ตอนกลับมาพาลงเกือบตรงดิ่ง สูงเสียยิ่งมองลงล่างทุกอย่างเสียว ทางลงเล็กซิกแซ็กวนจนเป็นเกลียว กระไรเชียวลงยากลำบากจัง ชีวิตคนดิ้นรนไปได้สูงส่ง แล้วต้องลงค้างฟ้าอย่าไปหวัง โชคชะตาฟ้าลิขิตอนิจจัง นึกแล้วดังนายกฯเราเฝ้าอาลัย (http://upic.me/i/9n/dscf6841.jpg) (http://upic.me/show/50802188) (http://upic.me/i/u0/dscf6844.jpg) (http://upic.me/show/50802193) ภายในทะเลสาบ ดร. จุไรรัตน์ วรรณยิ่ง นายกหญิง “กวีร่วมสมัย” พัฒนาสมาคมฯให้ก้าวไกล มิทันไรวันวารผ่านสี่ปี สองสมัยได้เวลาวาระเปลี่ยน อาจหมุนเวียนมาใหม่อย่าหน่ายหนี ทุกถ้อยคำจำไว้ในสิ่งดี สิ่งใดที่ขุ่นเคืองบ้างขอวางทิ้ง ส่วนเลขาฯดูท่าทางลาร้างแล้ว ต้องคลาดแคล้วกันไปอาลัยยิ่ง แม้หม่นหมองต้องยอมรับกับความจริง สมทุกสิ่งก็ไม่...ใช่ชีวิต... คุณ “วรรณา กำลูนเวสารัช” ข้อจำกัดการเข้ามาเฉพาะกิจ แต่วันวารผ่านสี่ปีมีสักนิด...? บ้างที่คิดว่ากวีนี้จริงใจ หากใจดำ ทำได้ลง ก็คงจาก คำพรฝากให้สิ้นทุกข์พบสุขใส มิอาจอ้อนวอนว่าประการใด ต่อนี้ไปเพลงคู่อด...หมดคนร้อง ลงจากบันไดวนที่ชันและสูงลิบ (http://upic.me/i/5a/dscf6856.jpg) (http://upic.me/show/50812257) หน้าน้ำตกที่ไหลทะลุมาจากทะเลสาบ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 เมษายน, 2557, 04:12:33 PM (http://upic.me/i/91/dscf6858.jpg) (http://upic.me/show/50802433)
ถนนหนทางสะอาดดี แต่สายไฟระโยงระยางไม่ต่างเมืองไทย ลงเขามาพาเข้าเหลาเกาหลี อาหารมีหลายหลากมากเต็มห้อง จีน+เกาหลีรสเกลียวกลมสมปรองดอง เมืองไทยต้องเน้นรสแท้แลจริงจัง ร้านญี่ปุ่น-เกาหลีเรามีขาย บางเมนูกินแล้วส่ายหน้าผิดหวัง รสเดิมแท้แต่ไม่คุ้นขาดทุน “ตังค์” ได้แต่นั่งเต๊ะท่าข้า “อินเตอร์” ไวน์ เบียร์ เหล้าเอามารินกินไม่ทัน ถ้าพวกฉันพร้อมเพรียงมา “โอ้ละเหนอ...” เจอะ “กวีสุวรรณภูมิ” กลุ่มเพื่อนเกลอ บ๋อยอาจเบลอเหนื่อยหน่ายร่ายรินวน “อ.ณรงค์ อิ่มเย็น” ถือเป็นมิตร ที่ใกล้ชิดให้วิชามาแต่ต้น เข้าจังหวะจะเที่ยวท่องกันสองคน เหตุและผลนั้นหนอ “คอเดียวกัน” กินเหล้าเก่งร้องเพลงก็พอไปได้ คืนหนึ่งให้ต่อกี่ที่มิมีพรั่น นี่หากว่าได้มาด้วยหมวยงงงัน เพราะเมามัน...ขั้นเจรจาภาษาจีน ลงจากเหลาเข้า “โรงเตี๊ยม” เตรียมพักผ่อน หลายคนนอนแต่หัวค่ำคร่ำเคร่งศีล แต่กลุ่มหนุ่มโสดใหญ่ “วัยหลายทีน” ยังอยากปีน “เขาคู่” อยู่ครามครัน หนีไม่พ้นคนกลุ่มนี้มีผมด้วย พอเห็นหมวยหุ่นดาราพาใจสั่น ตอนต่อไป...ใจอยากเล่ายาวกว่านั้น “เซ็นเซอร์” หั่นฉับ...ฉับ..กลับที่พัก (http://upic.me/i/y2/dscf6859.jpg) (http://upic.me/show/50802458) รูปประธานเหมาขนาดใหญ่ในห้องโถงโรงแรม หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 พฤษภาคม, 2557, 02:26:13 PM (http://upic.me/i/py/dscf6764.jpg) (http://upic.me/show/50846462)
หน้าประตูทางเข้าต้องซื้อตั๋ว (http://upic.me/i/v1/dscf6772.jpg) (http://upic.me/show/50846521) รุ่งเช้าเตรียมขึ้นเขา “เทียนจื่อซาน” ไก๊ด์กล่าวซ้ำย้ำทุกท่านเจองานหนัก ตรงวันหยุดจุดนี้คนล้นคึกคัก จริงดั่งว่ามาติดหงักหน้าประตู คณะทัวร์ถือธงนำประจำชาติ มิได้ขาดธงไทยไสวอยู่ จีนมากมายหลายเผ่าเท่าที่ดู เขาเรียนรู้ประเทศตนอย่างสนใจ ซื้อบัตรได้เดินไกลไหลตามช่อง แถมยังต้องแสกนลายนิ้วมือไฉน คิดอีกที “นี่มันชักจะเกินไป” ตูเอา “ตังค์” มาให้ไยเรื่องมาก แต่เที่ยวท่องต้องตามเขาเราเป็นแขก จะไปแหกกฎเมืองเรื่องลำบาก นึกถึง “ทัวร์กวีร่วมสมัย” ไปทุกภาค คงหลังจากมี “นายกใหม่” ไม่นานวัน พี่ “ปราโมทย์ สัชฌุกร” นักกลอนเด่น เคยร้องเล่นดนตรีมีชื่อลั่น พิธีกรพิธีการงานสำคัญ นักประชาสัมพันธ์หนึ่งเมืองไทย ถ้ามิมีเหตุการณ์อันผันผก ท่านก็คือ “นายกกวีร่วมสมัย” ได้นำพา “นาวากวี” นี้ก้าวไกล ให้ใครใครชื่นชมนิยมยืน (http://upic.me/i/85/dscf6776.jpg) (http://upic.me/show/50846540) (http://upic.me/i/1t/dscf6778.jpg) (http://upic.me/show/50846580) มีแต่ภูเขารูปทรงแปลก ๆ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 พฤษภาคม, 2557, 02:52:23 PM (http://upic.me/i/qw/dscf6795.jpg) (http://upic.me/show/50846729)
(http://upic.me/i/0s/dscf6797.jpg) (http://upic.me/show/50846733) มองเห็นลิฟต์ที่จะพาขึ้นยอดเขา วันนี้เราจะขึ้นเขา“เทียนจื่อซาน” กำหนดการลงข้างล่างเป็นทางอื่น (http://upic.me/i/7n/0dscf6800.jpg) (http://upic.me/show/50846866)เหมือนชีวิตคิดไปไม่หวนคืน จึงควรชื่นชมกันในวันนี้ ทำการใดไม่รอท่าหาวันพรุ่ง มิแน่ว่าฟ้าใหม่รุ่ง... ฤๅอับสี เมื่อมีความมั่นใจใคร่ครวญดี มิรอรีเริ่มเดินทางสร้างสรรค์ไป ขาขึ้นให้ใช้ลิฟต์แก้วมองแล้งทึ่ง ถือเป็นหนึ่งในโลกนี้ที่แปลกใหม่ หลายสิบช่องมองแลเห็นแต่ไกล แม้กว้างใหญ่ตัวลิฟต์สร้างตั้งสองชั้น รอบหนึ่งขนคนไปได้เกือบร้อย หูอื้อเหมือนกับลอยเครื่องบินนั่น ที่ไหนไหนทำลิฟต์ให้ขึ้นตึกกัน แต่นี่ดันขึ้นภูผาน่าแปลกซี ขากลับจะลงกระเช้าเขาอีกด้าน บนเขาใช้รถเป็นยานเที่ยวโน่นนี่ จุดชมวิวสูงลิ่วหลายปลายคีรี แม้ยืนที่ชะง่อนหินเหมือนบินฟ้า.... ที่บ้านเราเขาแบบนี้มีไหมหนอ เพชรบูรณ์เขาค้อขอถามหา แม้สถานที่ได้ไร้ศรัทธา กระเช้าพาขึ้นภูกระดึงนานดึงไว้ (http://upic.me/i/nk/dscf6809.jpg) (http://upic.me/show/50846888) ที่ไหน ๆ ก็มีแต่ภูเขา หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 11:08:45 AM (http://upic.me/i/4l/dscf6810.jpg) (http://upic.me/show/50872535)
พี่ “ประเสริฐ ขวัญเผือก” รับเลือกตั้ง คนเด่นดังโคกสะอาดมาดสดใส เป็นตัวแทนเกษตรกรไทย ศรีเทพและหนองไผ่เพชรบูรณ์ ท่านยึดถือแนวทางที่สร้างสรรค์ คนขยันผลงานใหญ่ไม่เสื่อมสูญ ขอความดีมีมอบมาทวีคูณ และเพิ่มพูนชื่อดังทั้งเงินตรา อีกท่านหนึ่งซึ้งซ่านด้านกลกลอน ตั้งแต่ก่อนผมไม่ได้ศึกษา รู้สึกยากเย็นนักจักรจนา แต่มนตราอักษรมิผ่อนคลาย “สุขเกษม นรสิงห์” สิงห์กลบท มีปรากฏผลงานท่านหลากหลาย ผมรุ่นน้องต้องฝึกฝนตนมากมาย เพื่อสืบสายกลกลอนกระฉ่อนไกล พบกันบ่อยมิค่อยจะสนทนา ผมหันหาเหล้าเบียร์เสียเป็นใหญ่ ท่านดื่มน้ำผมร่ำสุราหากว่าไป มิต่างใจมนต์รักกลอนชักพา ถึงสะพานชื่อหลายคำจำไม่ไหว แปลเป็นไทย “สะพานหนึ่งในใต้หล้า” คู่รักเขาเอากุญแจติดมือมา ล็อคที่ราวเอาดอกปาทิ้งลงไป หวังให้อยู่เป็นชู้ชิดติดมิห่าง ยามเบื่อหน้าอยากราร้างจ้างช่างไข ช่างก็คงต้องบินตรงจากเมืองไทย หาเจอไหม..หลายหมื่นคงงงกุญแจ หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 11:25:48 AM (http://upic.me/i/uf/dscf6778.jpg) (http://upic.me/show/50872648)
(http://upic.me/i/i3/dscf6780.jpg) (http://upic.me/show/50872661) ขอบใจทีมสามสาวปูนอินทรีย์ ดูแลดีทุกปัญหามาร่วมแก้ นึกถึงสาวสมาคมกวีก็ดีแท้ ล็อคกุญแจหัวใจรอใครแทง* “เกศรา เกษมสุขสถาพร”ทั้ง “เกษร ปานน้อย” “วรวรรณ เอี่ยมแสง” พบหน้ากันนานเท่าใดไม่เปลี่ยนแปลง ยากสำแดงน้ำจิตมิตรไมตรี ผมส่วนใหญ่อยู่ในวงก๊งเบียร์ เหล้า จะเจรจากะใครเขาคิดถ้วนถี่ ยิ่งสาวสาวเขาจะหาว่า “ชอกี” สัมพันธ์มีน้อยก็หมายให้ยืนนาน อีกอาจารย์ “สุรินทร์ หอศิลป์” ท่านคือปิ่นสตรีที่อ่อนหวาน เคยต้อนรับขับสู้ดูแลงาน เรื่องเนิ่นนานผมยังจะประทับใจ วันประชุม+เปิดหนังสือ “แม่ศรีวรรณทอง” ผมเป็นน้องรุ่นเยาว์เข้ามาใหม่ แรกคิดว่าพี่พงษ์คงสั่งไว้ ว่าขอให้ดูแลน้องดีดี คนอื่นกลับกันไปท่านไม่กลับ ผมอยู่กับกลุ่มเพลง-เหล้าก็เข้าที่ เพิ่งรับรู้ท่านผู้ซึ้งถึงดนตรี ความจริงพี่มิเกรงใจได้ร่วมวง ถึง“ภาพเขียนสิบลี้”อันนี้แปลก เมื่อครั้งแรกยินว่าพาให้หลง จินตนาภาษาไทยไปตรงตรง ที่แท้คงเป็นภูเขาเหมือนเก่านั้น แต่เรียงรายไล่ไปชายลำธาร สูงตระหง่านดั่งทะลวงสรวงสวรรค์ เมฆคลุมล่าง กลาง ปลายต่างสายกัน ขึ้นทางชันตรงนี้ขี่รถราง แลไล่ไปได้สิบลี้ตามที่ว่า หรือรวมนับตอนกลับมาถึงข้างล่าง มิแน่ใจในมาตราระยะทาง แต่การสร้างความพร้อมนี่ยอมรับ (http://upic.me/i/v6/dscf6772.jpg) (http://upic.me/show/50872711) (http://upic.me/i/t4/dscf6773.jpg) (http://upic.me/show/50872728) ภาพเขียนสิบลี้ คือทิวเขารูปทรงศิลปะ ที่สามารถเข้าไปชมได้ถึงตูนเขา หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 11:37:51 AM (http://upic.me/i/t4/dscf6773.jpg) (http://upic.me/show/50872728)
(http://upic.me/i/a2/dscf6774.jpg) (http://upic.me/show/50872822) ธรรมชาติรู้จักใช้ได้คุณค่า อยู่ยืนนานสรรค์ชีวาชื่นเย็นกลับ บ้านเรานั้นจันทบุรีก็ดีครับ รักษ์สัตว์กับป่าไม้ไว้ดีนา สาวเมืองจันท์สัมพันธ์ใกล้ได้กลอนฝาก ส่งมาจากชมรมจันท์ฯดั่งฝันหา รอพบปะประชุมใหญ่ก็ไม่มา รูปต่างหน้าหนึ่งใบพอได้เค้า ที่ว่าหรือคือ “อิงอร ถนอมวัฒน์” เคยสัมผัสผลงานกลอนแต่ก่อนเก่า อีกท่านหนึ่งซึ้งสัมพันธ์กันนานเนา นามสาวเจ้า “หิ่งห้อย หฤทัย” อากาศเมืองจันท์ดีมิมีหมอง แต่ระยองบ้านใกล้มิใคร่ไหว อาจารย์ผมตรอมตรมนักยากหักใจ ต่อเมื่อไหร่สิ่งแวดล้อมจะพร้อมเน้น ดั่งที่ว่าอาจารย์ “วิรุฬห์ แสงทอง” อยู่ระยองนักกลอนที่ได้ดีเด่น คนสัจซื่อถือกำหนดรักกำเกณฑ์ มิโอนเอนคัดค้านด้านอธรรม แม้สูงวัยใจสู้เป็นอยู่สุข ผ่านกี่ยุคกลอนกานท์ยังหวานฉ่ำ มินานนี้มีเพลงด้วยช่วยร้องรำ ร่วมลำนำกับสี่หนุ่ม(เหลือ)น้อยกลุ่มเดิม (http://upic.me/i/uw/dscf6793.jpg) (http://upic.me/show/50872950) ร้านขายของที่ระลึก-ร้านอาหาร หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 12:08:40 PM (http://upic.me/i/ad/dscf6865.jpg) (http://upic.me/show/50873373)
สถานีรถไฟฉางซา ถึงเวลาล่าถอยหลังยัง “กวางเจา” หลังตีเข้า “ฉางซา” ดั่งมาเริ่ม (http://upic.me/i/2t/dscf6869.jpg) (http://upic.me/show/50873382)ในเมืองนี้ที่อยากกล่าวเล่าเพิ่มเติม และ “คอนเฟิร์ม” เขาได้เรื่องใช้ดิน แผ่นดินจีนกว้างใหญ่สุดไพศาล แต่ริมทางข้างบ้านทุกร้านถิ่น เศษพื้นที่มีต้องปลูกของกิน ตามซอกหินเชิงภูเขามิเปล่าจริง ย้อนกลับยังกวางเจาอย่างเหงาจิต คณะเราเขาฮิตเรื่อง “ช้อบปิ้ง” ผมดูได้แต่ไม่ซื้อไปทิ้ง มิได้หยิ่งแต่เบื่อขอต่อราคา เขาขายค้าแบบตาใครดีได้ ถ้าแถวใต้อย่างนี้สิโดนด่า “ความจริงใจ” ควรให้กลับกับ “ลูกค้า” แต่อย่างว่าเขามุ่งหมายขาย “คนจร” ถ้าคล่องภาษาจีนมั่งหรืออังกฤษ พอได้คิดเจราว่าลดหย่อน... ในงานนี้ถ้าพี่ใหญ่ไปแน่นอน ออดอ้อน “เจรจา ต้าอ่วย” กัน พี่ “เวทิน ศันสนียเวทย์” ผู้มีเจตจำนงอันคงมั่น เขียนผลงานกานท์กวีทุกวี่ทุกวัน ล้วนสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้ความคิด ในหลายเล่มหนังสือถือเป็นหนึ่ง ความและคำนำซึ้งถึงดวงจิต อัชฌาสัยไมตรีมากมีมิตร แม้คำนิดมิข่มใครให้อับอาย รถไฟพาเราจากฉางซากลับกวางเจา หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 12:25:51 PM (http://upic.me/i/8v/dscf6879.jpg) (http://upic.me/show/50873591)
พิพิธภัณฑ์ใต้พื้นถนนกวางเจา ถึงเวลาล่าถอยหลังยัง “กวางเจา” หลังตีเข้า “ฉางซา” ดั่งมาเริ่ม (http://upic.me/i/7w/0dscf6877.jpg) (http://upic.me/show/50873641)ในเมืองนี้ที่อยากกล่าวเล่าเพิ่มเติม และ “คอนเฟิร์ม” เขาได้เรื่องใช้ดิน แผ่นดินจีนกว้างใหญ่สุดไพศาล แต่ริมทางข้างบ้านทุกร้านถิ่น เศษพื้นที่มีต้องปลูกของกิน ตามซอกหินเชิงภูเขามิเปล่าจริง ย้อนกลับยังกวางเจาอย่างเหงาจิต คณะเราเขาฮิตเรื่อง “ช้อบปิ้ง” ผมดูได้แต่ไม่ซื้อไปทิ้ง มิได้หยิ่งแต่เบื่อขอต่อราคา เขาขายค้าแบบตาใครดีได้ ถ้าแถวใต้อย่างนี้สิโดนด่า “ความจริงใจ” ควรให้กลับกับ “ลูกค้า” แต่อย่างว่าเขามุ่งหมายขาย “คนจร” ถ้าคล่องภาษาจีนมั่งหรืออังกฤษ พอได้คิดเจราว่าลดหย่อน... ในงานนี้ถ้าพี่ใหญ่ไปแน่นอน ออดอ้อน “เจรจา ต้าอ่วย” กัน พี่ “เวทิน ศันสนียเวทย์” ผู้มีเจตจำนงอันคงมั่น เขียนผลงานกานท์กวีทุกวี่ทุกวัน ล้วนสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้ความคิด ในหลายเล่มหนังสือถือเป็นหนึ่ง ความและคำนำซึ้งถึงดวงจิต อัชฌาสัยไมตรีมากมีมิตร แม้คำนิดมิข่มใครให้อับอาย ร้านค้าขายสินค้าประเภทคล้ายตลาดคลองถมบ้านเรา หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 12:37:22 PM (http://upic.me/i/7j/dscf6881.jpg) (http://upic.me/show/50873735)
ณ กลางเมืองกวางเจาเขายิ่งใหญ่ สินค้าใหม่ ไอ. ที. มีมากหลาย [/color][/size][/font]ของเกรดบี. “ก๊อบปี้แบรนด์” แสนมากมาย การซื้อ-ขายต้องตาดีรู้ดีครบ นึกถึงน้อง “ธนเดช รักษ์ชูชีพ” ผมตัวลีบเลยนะแรกประสบ คนดังเด่น ด้อยเช่นเรา เขารึคบ ยากปรารภเรืองพระ “จตุคาม” ด้วยผมนี้มิถนัดแม้สักหน่อย จึงมักถอยไปนั่งฝั่งตรงข้าม มินานนักชักสนิทเลิกคิดคร้าม จึงรู้ความว่าคนซื่อมิถือตน นับเป็นนักกลอนดังฝั่ง ไอ.ที. มิตรมากมีกว้างไกลไปทุกหน ผมเพิ่งได้ร่วมเล่นเป็นกังวล ด้วยเป็นคนมิเก่งกล้าวิชาคอมฯ อีกท่านหนึ่งที่ขึงขังครั้งแรกปะ บางจังหวะเข้าใกล้ใจตุ้มต่อม อยากคุยด้วยป่วยใจมิใคร่พร้อม มักจะอ้อมห่างไกลไม่นั่งชิด พี่ “ประสิทธิ์-นนทวรรณ บุญวงษ์” บอกตามตรงเคยเกรงขามนามประสิทธิ์ ท่านพูดตรงส่งเสียงดังตั้งข้อคิด เมื่อพินิจคือผู้ใหญ่น้ำใจงาม พี่นนทวรรณท่านเรียบร้อยพูดน้อยนัก เพียงถามทักมิเหมือนเราเมาแล้วพล่าม ชื่นชมท่านด้านร้อยกรองทั้งสองนาม คอยติดตามด้วยใจพร้อมน้อมประณต (http://upic.me/i/j2/dscf6880.jpg) (http://upic.me/show/50873791) หัวข้อ: Re: นิราศจางเจี่ยเจี้ย (ฉบับปรับปรุง) เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 พฤษภาคม, 2557, 12:42:52 PM (http://upic.me/i/at/dscf6872.jpg) (http://upic.me/show/50873832)
หน้าอนุสาวรีย์แพะ สัญลักษณ์เมืองกวางเจา (http://upic.me/i/oo/dscf6894.jpg) (http://upic.me/show/50873889) ตรวจพาสปอร์ต แล้วขึ้นเครื่องอำลา กลับมายังกวางเจาเข้าใจถิ่น ผมได้ยินความเป็นมาน่าจำจด อดีตกาล ปัจจุบัน อนาคต ล้วนสัมพันธ์กันหมดกฎโลกา กวางเจานี้เขามีฉายามาก “เมืองแพะ” จากอนุสาวรีย์มีคุณค่า ฝรั่งเรียก “แคนตั้น” อีกฉายา “ก๋องเจ๊า” “หนานต้าเหมิน” พาที แล้วเวลาห้าวันก็ผันผ่าน ขอคืนบ้านแดนดินถิ่นสุขี รอประชุมสมาคมกวีฯ พบน้องพี่มากมายจากใกล้ไกล ท่านที่มิมีนามตามนิราศฯ ก็ล้วนญาติมิตร “กวีร่วมสมัย” มิได้ลืมเลือนนะขออภัย เรื่องมันไม่ยาวหนาฟ้าใหม่มี ต้องขอขอบพระคุณทุกทุกท่าน ที่ทนอ่านแต่หน้าหนึ่งมาถึงนี่... พบกันใหม่ในปีหน้าถ้าจรลี มิรอรีแต่งนิราศแห่งชาตินั้น ขอความสุขสวัสดีมีทั่วหน้า พลั้งผิดไปอภัยหนาอย่าเดียดฉันท์ ถือความรัก สามัคคีมีสัมพันธ์ ร่วมสร้างสรรค์ศักดิ์ศรีกวีเอย .............................................๑................................................. |