หัวข้อ: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 พฤษภาคม, 2557, 03:29:16 PM กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ ๑ พักกันบ้างหนา เครียดหลายวันมา สรวลเสเฮฮา สนุกสุขสันต์ มีนิทานเล่า เรื่องราวแลกกัน พอได้ขำขัน กาพย์กลอนตามที ๒ แนวใดก็ได้ ขอให้มันมัน คือเรื่องขำขัน มาเร็วมาซี ทะเล้นทะลึ่ง หน่อยหนึ่งก็ดี อารมณ์ตอนนี้ ว้าวุ่นขุ่นเคือง ๓ มีสาวชาวดอย อายุยังน้อย มิใช่สำออย เจ็บป่วยเนืองเนือง ลงมาหาหมอ ถึงที่ในเมือง จนกลายเป็นเรื่อง เจ็บใจไม่เบา ๔ เพราะพูดไม่ชัด หมอฟังถนัด หมอจึงได้จัด ยาแก้ตกเขา ยาหม่องไปทา นวดถูเบาเบา ทาแล้วทาเล่า ไม่นานก็หาย ธนุ เสนสิงห์ (ตอนจบให้คิดเอาเองนะแค่เฉลยว่า......... สาวเจ้าเป็นตกขาว พูดไม่ชัดออกเสียงเป็น ตกเขา) :28: หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: เปลวเพลิง ที่ 26 พฤษภาคม, 2557, 07:41:41 PM ผมไม่อยากคิดถึงตอนใช้ยาหม่องที่หมอให้เลยครับ คุณลุงธนุ :35: หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 27 พฤษภาคม, 2557, 03:42:46 PM ...เด็กน้อยหนึ่ง ขึงขัง ตั้งท่าดื้อ
"เรื่องราวคือ กระไร" พ่อไถ่ถาม เจ้าตัวเล็ก เก็กท่า ว่าถ้อยความ "หนูทำตาม พ่อสอน วอนเข้าใจ ...'คนชั่วนั้น พลันพบ จงหลบลี้' หนูเลยทำ ดั่งที่ พ่อขานไข" "เอ๊ะโรงเรียน มีคนชั่ว ด้วยหรือไร แล้วคือใคร บอกพ่อ อย่ารอเลย" ..."อ๋อก็ครู หนูเอง จะบอกให้ สัปดาห์ก่อน สอนไว้ หนูขอเผย 5+5 เท่ากับ10 แล้วยังเปรย 6+4 อย่าเฉย ตอบเช่นกัน ...สามวันก่อน สอนอีก 7+3 ให้ตอบตาม คือ10 อย่าบิดผัน เมื่อวานว่า 8+2 ก็10พลัน โอ้สวรรค์ 9+1 10แน่นอน ...ช่างโกหก เก่งกาจ ครูหนูนี่ คือคนชั่ว ดังที่ พ่อชี้สอน หนูจึงไม่ ไปเรียน ใช่แง่งอน พ่อจงจร วอนครู ให้กลับใจ" พ่อ !!!!! "เก็ก" ไม่มีในพจนานุกรม แต่ขออนุญาตใช้ครับ ------- แต่คำว่า เก๊ก (ไม้ตรี) มีในพจนานุกรมนะครับ ถ้า จขกท. ใช้คำนี้ก็สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตใครครับ เก๊ก (ปาก) ก. วางท่า; ขับไล่. (จ.). (ที่มา: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2542) ทำเพราะเธอที่รักก็พอ http://pantip.com/topic/32410968 คห๔ ------- ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: ปรางค์ สามยอด ที่ 28 พฤษภาคม, 2557, 08:32:10 PM :13: ตายายถึงวันนัด หมอจะวัดการป่วยไข้ ถึงรพ.ทันใด หมอจึงให้โกนเกลี้ยงเกลา เป็นโรคอย่างเดียวกัน จึงแบ่งปันจ่ายเงินเขา แต่ตานั้นใจเบา ทำไมเราแพงกว่ายาย? จึงไปถามแคชเชียร์ ยังไงเนี่ย?เสียใจหลาย แคชเชียร์มิดูดาย ก็แสนอายคิดผิดพลัน แต่ถ้าบอกให้รู้ แสนอดสูอยู่ไม่หาย จึงบอกเรื่องค่ายา มีมูลค่าเท่าเทียมกัน แต่ที่คิดตามาก เพราะลำบากตอนโกนนั่น ต้องจับโกนทั้งอัน ส่วนยายนั้นมันไม่มี ปรางค์ สามยอด :31: จะหายอีกไหมหนอ? :sobbing: หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 29 พฤษภาคม, 2557, 08:03:55 PM :26: :26: ยายเจ็บป่วย ด้วยโรค ที่โศกเศร้า จึงคิดเข้า ปรึกษา หาหมอถี่ ตั้งแต่เช้า นั่งรอ หมอคนดี หิวข้าวที แทบเป็นลม ล้มพับไป พอถึงคิว หมอหนุ่ม กุมมือจับ ยายนั่งหลับ ช่วงง่วง ทรวงหวั่นไหว หมอแจ้งบอก ยายว่า ยานี้ไง กินก่อนนอน เรื่อยไป ให้หมดเลย แล้วจึงมา หาหมอ ต่อจากนั้น แค่สามวัน ยายมา อย่างผ่าเผย หมอตกใจ ยายจ๋า อย่าพึ่งเปรย ยาชดเชย จ่ายทั้งสิ้น กินสิบวัน ไหงสามวัน ถึงหมด สลดแท้ ไยหนอแม่ กินไป ไวเข้าขั้น ยายจึงตอบ หมอว่า ยาพวกนั้น หมดแต่สอง วันแรก ที่แจกไป ก็หมอบอก ย้ำย้ำ จำได้สิ้น เป็นยากิน ก่อนนอน พักผ่อนได้ เพราะหนึ่งวัน ยายนอน พักผ่อนใจ สามครั้งใน หนึ่งวัน ฉันจึงกิน วิริน ๒๙/๕/๕๗ :26: :26: หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 30 พฤษภาคม, 2557, 10:45:17 AM ใครอาสาทำข้อสอบฮาเฮ (เพื่อความเฮฮา) ข้อนี้บ้าง
๒๐. จงเขียนมุขตลกมา ๑ มุข (ถ้าครูขำ ถือว่าทำได้ถูกต้อง) ข้อสอบนี้อยู่ท้ายคำถามวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมต้น คุณครูผู้ออกข้อสอบคงไม่อยากให้นักเรียนเครียดกับการทำข้อสอบมากเกินไป จึงมีข้อ ๒๐ ส่งท้าย http://www.reurnthai.com/index.php?PHPSESSID=3a2e58055ac762a71e92d23a1fc12bb0&topic=5536.msg133330;topicseen#msg133330 555 มีข้อสอบแบบนี้ด้วย 55555 หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 31 พฤษภาคม, 2557, 10:51:12 AM คู่รักหนึ่งแคร่งประเพณีนัก ก่อนแต่งจักหอมแก้มกันก็มิได้ หลังจากวันแต่งงานชวนหวานใจ พากันไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ทั้งสองสู่ห้องหอสุขสดใส เริงอยู่ในรสชาติสวาทสวรรค์ สามราตรีมิออกนอกห้องนั้น เช้าที่สี่จึงชวนกันมาที่ร้าน มีอาหารมากมายตามใจสั่ง จึงลงนั่งตั้งท่าสั่งอาหาร หนุ่มนั่งดูเมนูอยู่เป็นนาน สาวเสียงหวานอิงไหล่ไม่ลืมตา "พี่รู้นะว่าน้องชอบแบบไหน...?" หนุ่มตอบ "พี่เข้าใจแหละเธอจ๋า แต่ต้องกินอาหารกันบ้างนา พี่ทั้งชาและหดหมดแรงแล้ว..." ธนุ เสนสิงห์ :28: หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 02 มิถุนายน, 2557, 08:41:56 AM ....เรื่องเก่า เล่ามา นานแล้ว
เป็นแนว คุณครู ผู้สอน สามสี่ สิบปี อาทร พร่ำวอน เคี่ยวเข็ญ ให้ดี ....เมื่อครั้ง รถยัง เปิดกระจก (อย่าขำว่า โบราณ ๆ) ใช่ตลก ครูก็สม ศักดิ์ศรี ขับคล่อง ถูกกฎ ชั่วตาปี แต่แล้ว เธอมี กรรมมา ....ถูกรถ คันหลัง ชนเฉี่ยว หวาดเสียว แต่ยัง หรรษา ก้าวลง มุ่งตรง เจรจา สัญญาณ ออกขวา มิเห็นฤๅ" ....หนุ่มหนึ่ง จึงลง ตอบโจทย์ "ขอโทษ เห็นใจ อย่าถือ ยอมรับ มิเข้าใจ อะไรคือ สัญญาณ แสดงมือ ข้าฯ สิงง" ....ครูเธอ อธิบาย โอ๊ะง่ายง่าย (ทำเสียง หน่อยนะครับ) เอ้าฉัน ขอขยาย ดั่งประสงค์ บอกซ้าย อ๊ะผิด จึงวงวง จำนง ลบมัน ทันควัน ....แล้วแสดง แจงบอก สัญญาณใหม่ ขอไป ทางขวา มิหุนหัน แต่เธอ โอ๊ะโอ๋ อะไรกัน ชนท้าย รถฉัน ได้อย่างไร" ....หนุ่ม! งงงงงงงง หัวข้อ: Re: ชวนผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขัน เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 06 มิถุนายน, 2557, 11:11:11 AM อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑ (04/06/14)
....ปราชญ์หนึ่งฉลาดยิ่ง...........ประดิษฐ์สิ่งประโยชน์ครัน ใจจิตมุมุ่งมั่น.........................ละสุขสันต์สบายตน ....วันวันพินิจตรอง.................และทดลองเสาะสืบหน ข้าวปลาสิยอมทน..................จะอดบ้างมิเป็นไร ....แต่สองวิฬาร์เธอ.................เสนอหน้าริร่ำไป ชวนเล่นระรื่นใจ.....................ประสานร้องประจำวัน ....วันใดประตูปิด...................ชะ! หงุดหงิดตะกายพลัน แกรกแกรกระดมกัน.................มิยอมยั้งมิหยุดซน ....เธอจึงเจาะสองรู................กะทั้งคู่จะมีหน "เจ้าใหญ่"สิช่องล้น.................สบายพ้นละกักกัน ...."เจ้าเล็ก"นะตัวจ้อย.............ก็ช่องน้อยลุลอดครัน ขอจบ ณ ฉับพลัน...................เอ๊ะขำขัน ฤ งงงง ขำไหมเอ่ย? ถ้าไม่ขำ กรุณาอ่านต่อครับ (ลงเสียง "อัน ๆ" มากไปหน่อยครับ) ....เธอคิดตริตรองสิ่ง..............ประเด็น"จริง"มิมีหลง หลักตรรก(ะ)ศาสตร์ตรง...........ก็มั่นคงกระทำตาม ....เจ้าใหญ่สิช่องใหญ่.............มิผิดไปมิข้องถาม เจ้าเล็กสิทุกยาม....................อ๊ะ! อวดกล้ามฉลอง"โต" 555 ถ้ายังไม่ขำอีก ข้าฯ ขออภัยหมดมุขเขียนแล้ว 555 |