หัวข้อ: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 31 กรกฎาคม, 2557, 05:21:28 PM กำไลมาศชาตินพคุณแท้ ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมยืนสี เหมือนใจจงตรงคำร่ำพาที จะร้ายดีขอให้เห็นเป็นเสี่ยงทาย ตาปูทองสองดอกตอกสลัก ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย แม้นรักร่วมสวมไว้ให้ติดกาย เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย ...พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ ร. ๕... (http://www.picdee.com/images/2014/07/31/1926990828956197131339196619012nHbze.jpg) กำไลมาศชาตินี้พี่มอบเจ้า วอนนงเยาว์อย่าถอดกอดความหมาย แม้รักร่วมสวมชิดไว้ติดกาย เมื่อรักคลายสวาทวอดจึงถอดวาง ---------------- ตำนานรักเจ้าจอมหม่อมสดับ ผู้อาภัพรักสั้นถูกคั่นขวาง เมื่อราชันสวรรคตหมดหนทาง ปล่อยหม่อมนางเดียวดายสลายจินต์ กับองค์พ่อปิยะมหาราช บรมนาถลือนามสยามถิ่น ทรงสลักอักษรท่อนกวินท์ ประทับผินบนกำไลให้เจ้าจอม ผู้เลอโฉมที่สุดในยุคนั้น นามว่า"สั้น"นงนุชสุดถนอม อายุเพียงสิบเจ็ดพระเด็ดดอม ดุจแรกหอมโกสุมกุมพระทัย หลังเปลี่ยนนามเป็น"สดับ"รับตำแหน่ง คอยจัดแจงจาริกาเวลาไหน แทบยุคลบาทเคียงอยู่เวียงใน "นางร้องไห้"คนสุดท้ายผู้วายชนม์ เป็นเจ้าจอมรองสุดท้ายปลายสมัย ขวัญพระทัยจักรีนารีผล รองจากราชินีศรีปพน นันธมนโสภากว่านางใด ...จบตอนที่ ๑ (มี ๓ ตอน) หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 31 กรกฎาคม, 2557, 09:52:47 PM (http://www.picdee.com/images/2014/07/31/เจ้าจอมสดับ2lKa03.jpg) (ขอบคุณภาพประกอบจากเนต..) ผู้คิดสูตร"พริกลงเรือ"เมื่อครานั้น ตราบทุกวันนิยมสมสมัย จากตำรับชาววังโด่งดังไกล น้ำพริกไทยเลิศรสคนจดจำ ก่อนประพาสยุโรปครั้งที่สอง ประทานทองวลัยให้งามขำ สลักกลอนอ่อนหวานขานลำนำ ดุจจะย้ำคำรักปักใจนาง มิอาจตามเสด็จไปเตร็ดเตร่ โอ้ละเห่ใจน้องต้องหม่นหมาง พระลิขิตจดหมายส่งปลายทาง ยามแรมร้างห่างจอมตรอมพระทัย หลังนิวัติเขตคามสยามถิ่น ประทานสิ้นจินดาค่าสมัย เป็นทุนทรัพย์เลี้ยงตนตราบพ้นภัย ดุจบอกใบ้ภูมินทร์จะสิ้นชนม์ อีกสามปีให้หลังดังวิโยค สยามโศกทั้งชาติอนาถผล เมื่อปิยะราชานิราตน ทิ้งสกนธ์ครรไลสู่ไตรตรึงษ์ ปล่อยเจ้าจอมหม่อมน้องต้องร่ำหา หลั่งน้ำตาเป็นโลหิตเพราะคิดถึง ด้วยความรักภักดีที่สุดซึ้ง หม่อมนางจึงครองโสดมิโปรดใคร ถวายคืนเครื่องเพชรมิเด็ดหวง กันทั้งปวงครหาว่าเหตุไหน เหลือสิ่งเดียวที่หวงดั่งดวงใจ คือกำไลมาศทองคล้องใจนวล ..จบตอนที่ ๒.. หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 04 สิงหาคม, 2557, 09:45:34 PM (http://www.picdee.com/images/2014/08/04/220px-มรวสดับ2NuniB.jpg) (ขอบคุณภาพประกอบจากเนต) มิลาออกจากตำแหน่งแต่งงานใหม่ ด้วยหัวใจคงมั่นกระสันหวน เพื่อรักษาพระเกียรติละเมียดควร มิเรรวนป่วนใจให้สงกา ด้วยรักแท้คงมั่นมิหวั่นไหว มอบกายใจในศาสน์ปรารถนา ถือศีลแปดดำรงคงกายา น้อมบูชากุศลส่งองค์บดินทร์ ทั้งในหลวงราชินีมีพระเมตต์ ให้เนาเขตวังหลวงห่วงโฉมฉิน เมื่อชราภาพลงประสงค์ยิน ทรงรับสิ้นอุปการ์ดุจย่าน้อย ปีสองห้าสองหกตกวิโยค นางลาโลกโศกตรมระทมหงอย ทิ้งตำนานรักแท้ไว้แค่รอย หวังเจ้ากลอยพบภูมินทร์สิ้นเดียวดาย เจ้าจอมสวมกำไลจนใจขาด ดังโอวาทสวามีฤดีหมาย "แม้นรักร่วมสวมไว้ให้ติดกาย" ตราบสุดท้ายลมปราณมานพลี ตำนานรักเจ้าจอมหม่อมสดับ แสนประทับใจยิ่งมิ่งอิตถี หากใจหญิงซื่อตรงคงโสภี แต่ชาตินี้คงไม่เห็นผู้เช่นนาง ...พรานไพร... :14: หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 มกราคม, 2560, 06:12:04 AM กำไลมาศ
"กำไลมาศชาตินพคุณแท้ ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมยืนสี เหมือนใจตรงคงคำร่ำพาที จะร้ายดีขอให้เห็นเช่นเสี่ยงทาย ตาปูทองสองดอกตอกสลัก ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย" "...กำไลมาศ เป็นกำไลทองคำแท้จากบางสะพาน หนักสี่บาท ทำเป็นรูปตาปูโบราณสองดอกไขว้กัน ปลายตาปูเป็นดอกเดียวกัน ถ้ามองตรงๆ เป็นอักษร S (มาจากชื่อย่อของเจ้าจอมสดับ) หากพลิกข้อมือเพียงเล็กน้อยมองอีกด้านหนึ่ง จะกลับเป็นอักษร C (จุฬาลงกรณ์) สิ่งที่ทำให้กำไลทองวงนี้มีชื่อมากที่สุด ในบรรดาเครื่องประดับสูงค่าของรัตนโกสินทร์ไม่ใช่ราคา หรือการออกแบบ แต่เป็นตัวอักษรซึ่งเป็นบทกลอนพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สลักไว้บริเวณด้านบนของกำไล..." (เป็นตัวแทนความรักที่พระองค์มีให้ ต่อเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์) IFAac_RiPXQ ...กำไลมาศเนื้อทองผ่องพิสุทธิ์ เปรียบประดุจรักนี้มิมีหมอง จากใจจริงยิ่งค่ามากกว่าทอง มอบเป็นของรับขวัญกัลยา ตะปูทองคล้องเกี่ยวกลมเกลียวรัก ตอกสลักรัดตรึงคะนึงหา คำผูกพันมั่นรักอักษรา ตราบชีวาวายจากมิพรากเอย... Soul Searcher Inspired to write 27/1/2017 หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 27 มกราคม, 2560, 04:28:42 PM กำไลต่างคำมั่นผูกพันคล้อง
ตาปูทองสลักถ้อยคำคอยเอ่ย แม้ชีวาวอดวายมิคลายเลย ค่าคะนึงคุ้นเคยยังเคียงรัก สิ่งที่มอบมาให้ได้รักษา หทัยซึ้งศรัทธาพาตระหนัก มากกว่าสิ่งมีค่านานานัก คือความภักดีมั่นนิรันดร สิริวตี หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2560, 01:55:47 PM ...กำไลมาศงดงามความรู้สึก ครารำลึกธ ทรงลงอักษร ยังปลาบปลื้มดื่มด่ำล้ำบวร สดับกลอนอ้อนออดพลอดอนงค์ ตาปูทองเสี่ยงทายหมายเสี่ยงรัก แจ้งประจักษ์ดลใดในประสงค์ หากว่ารักเข้าแล้วมิแคล้วคง จนปลิดปลงมิพรากลาจากกัน... Soul Searcher Inspired to write 2/2/2017 หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 18 กุมภาพันธ์, 2560, 05:02:37 PM ...กำไลทองคล้องใส่สายใยรัก ตรึงสลักกอดเกี่ยวเป็นเกลียวขวัญ ดุจสัญญาสองรักถักทอวัลย์ ร้อยรำพันอ่อนไหวในวลี หากว่าแม้นรักนั้นมั่นคงแท้ จักมิแปรผันอื่นยั่งยืนศรี จวบสิ้นภพรองบาทราชพลี มอบชีวีเพื่อรักภักดีเอย... Soul Searcher Inspired to write 18/2/2017 หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 16 มีนาคม, 2560, 07:03:23 AM ...กำไลมาศ มาดแม้นแทนความรัก ที่แน่นหนักมั่นคงซื่อตรงเผย ตาปูทองพันเกี่ยวเกลียวกอดเกย เฉกชิดเชยเรานั้นมิผันแปร แม้เนิ่นนานผ่านกรรมซ้ำวิบาก ให้พลัดพรากเหินห่างต่างกระแส หากวิญญาณสองรักปักดวงแด ยังถ่องแท้ดุจทองแม้ต้องไฟ... Soul Searcher Inspired to write 15/3/2017 หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 29 เมษายน, 2560, 10:57:05 AM จารอักษรตอกลงตรงเนื้อมาศ
หทัยพาดผูกคล้องขอน้องใส่ หากว่าแม้นสิ้นปราณล่วงวารใด ก็ขอให้สิ้นสวาทชาติรักเอย สิริวตี หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 01 พฤษภาคม, 2560, 10:22:21 PM หากสิ้นปราณวารใดให้ลับล่วง คงคลายบ่วงผูกมัดรัดรึงเอ่ย กำไลมาศชาตินพคุณเอย เหลือเพียงคำปลอบเปรยเคยตรึงตรา Soul หัวข้อ: Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~ เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 13 พฤษภาคม, 2560, 04:51:19 AM
|