หัวข้อ: ๐ เพื่อน 1 ๐ เรื่องสมมุติ ไม่มีนยะอันใด เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 ธันวาคม, 2557, 09:19:29 PM (http://palungjit.org/feature/data/513/dankwian_past.jpg)
เจดีย์สร้าง ปรางค์ก่อ รอชำรุด แล้วมนุษย์ จะแน่ สักแค่ไหน หนังหุ้มน้ำ เนื้อแดง ดูกแข็งใน อายุได้ ครบร้อย มีน้อยราย อวดทะนง หลงตน คนกล้าเก่ง ทำนักเลง ให้ผิด มิตรสหาย ประมาณเฟื่อง เรื่องจ้อย เริงลอยชาย ผลกลับกลาย สาหัส เกินทัดทาน มาจากจิต คิดเลว เปลวประมาท พอพลั้งพลาด ก้าวหนึ่ง ถึงอวสานต์ ใครหนออยู่ รู้ยอด ตลอดกาล เพราะสังขาร พ่ายแพ้ แท้ไม่มี อันเทียนธูป รูปนาม นิยามเพาะ วางกฎเหมาะ ลายเส้น เกณฑ์วิถี เลิกละโมภ โลภมาก อยากทวี เพียรขัดสี ตัณหา บ้าทุรน อย่ายึดมั่น นั่นเรา ของเขานี่ ยกมือชี้ ยื้อแย่ง แบ่งทุกหน ชมตัวเลข เสกเงิน เพลินมืดมน จะยากจน ร่ำรวย ม้วยแน่นอน เจดีย์สร้าง ปรางค์ก่อ หล่อปูนอิฐ สูงสถิต ล้ำลึก ยังสึกกร่อน แค่เนื้อหนัง มังสา ชราทอน ฤาพ้นนอน โลงเปล่า เจ้าจงจำ! รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 2 ๐ เหตุการณ์ ผ่านภพฝัน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 ธันวาคม, 2557, 10:09:05 PM หยิบข้าวแห้ง แบ่งปัน อมกันอยาก สองมือสาก เกร็งจับ กระชับมั่น แลซ้ายขวา ตากวาด ก่อนฟาดฟัน หลังชนกัน รบสาย ถึงบ่ายเย็น เหลือกล้วยใบ บิกึ่ง หนึ่งแทนข้าว สองเท้าก้าว รีบร่น กลัวคนเห็น ท่ามแสงส่อง ของจันทร์ คืนวันเพ็ญ เหงื่อไคลเหม็น ปนเลือด เหือดติดกาย ชีวิตรอด ปลอดภัย ได้ซ่องสุม รวบรวมหนุ่ม เพื่อนจิต มิตรสหาย เหนือกลางใต้ วัยฉกรรจ์ หมื่นพันนาย โจมตีค่าย ค่ำมืด เข้ายึดเมือง งามสง่า อ่าองค์ จอมทรงทัพ คนสนับ สนุน บุญฟูเฟื่อง จากนายด่าน ผ่านเกล้า.เจ้าขุนเจือง นามลือเลื่อง ปรากฎ จดแดนดอย ถืออาชญา ปกาศิต ปลงปลิดโทษ เอาแต่โกรธ ทับถม อารมณ์ถ่อย หลงเชื่อง่าย นายว่า ขี้ข้าพลอย เรื่องเล็กน้อย เพิ่มมาก พอกลากยาว ไอ้เกลอเอ๋ย เคยคู่ สู้ข้าศึก ไยแกนึก ปลุกปล้ำ ทำแฟนสาว แล้วละทิ้ง หญิงมี ราคีคาว เรานายบ่าว กูมึง จึงจบกัน รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 3 ๐ แดนพิไล ในฝัน ตะวันเดือน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม, 2557, 05:20:01 AM อำมหิต คิดฆ่า ฝ่ามือพลิก ซ้ายจับจิก ขวาวาด ฟาดสนั่น ดาบร่วงไป ไม้ตาย ย้ายโลกันตร์ ชักมีดสั้น ราวฉก เสียบอกตุง ท่าเยี่ยมยุทธ สุดท้าย ครูงายสอน ออกใช้ตอน สุ่มเสี่ยง เพลี่ยงพล้ำพุ่ง ใกล้ประชิด ติดพัน กันนังนุง หนีลงทุ่ง หยุดปับ ขวับสวนแทง แล้วชนะ สะใจ ได้ไรเล่า พอย่ำเช้า แดดฉาน ดานระแหง ชุลมุน วุ่นวาย ตายฆ่าแกง เลือดไหลแดง เปื้อนเปอะ เลอะลงดิน เคยหวานอม ขมกลืน ชื่นมื่นสุข ยามตกทุกข์ แบ่งเบา ปัดเป่าสิ้น เคยร่วมใจ ไล่ล่า เป็นอาจิณ กู้ธานินทร์ คืนกลับ ขับไพรี เคยหนีตาย พ่ายแพ้ แก่การศึก เข้าป่าลึก ถ้ำหิน กินกล้วยจี่ เกือบครึ่งขัย ไม่ยั้ง รบทั้งปี ได้ดิบดี มีอัน จิตฟั่นเฟือน ขอลาหลีก ปลีกตัว ชั่วชีวิต นางตามติด เคียงคู่ อยู่เป็นเพื่อน แดนพิไล ในฝัน ตะวันเดือน มิลืมเลือน เราสอง ครองรักเอย รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 4 ๐ มิพ้นกรรม เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม, 2557, 06:33:32 AM ณ ดินแดนแผ่นกว้างหว่างขุนเขา ยามรุ่งเช้ามือฟายสายหมอกหนา สูดพะยอมหอมชื่นรื่นอุรา ยินนกกากู่ร้องทอดก้องไกล แนวยางยูงสูงต้านทานแรงฝน คลุมบังบนกันร้อนกระท้อนใหญ่ บ้านอิงดอยซอยฟากมุงจากใบ ธารน้ำใสไหลเย็นเห็นดินทราย หยาดน้ำค้่างพร่างพรมชโลมหล้า ลมพัดพากายสั่นมองจันทร์หงาย ลอยเลื่อนลับพับหาวดาวแพรวพราย หยุดประกายมัวหม่นพ้นราตรี แสกสัญจรซอนถิ่นบินหวนกลับ ไก่ป่าขับขานขันกระชั้นถี่ ตื่นจากฝันบรรทมสมประดี ม่านรพีจางเจือระเรื่องาม เริ่มเพลงพำดำเนินเพลินชีวิต รอยลิขิตชะตาหลังฟ้าฮ่าม หว่านพืชผักปักชำรดน้ำตาม ทั่วเขตคามต่างปรองดองรักกัน กาลหมุนเวียนเปลี่ยนไปได้ห้าหนาว เกิดเรื่องราวข่าวศึกระทึกขวัญ ทหารขับจับชายหมายฟาดฟัน ขู่คาดคั้นถามหา...ไอ้ฟ้าก๊อม! รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 5 ๐ กู...ฟ้าก๊อม เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม, 2557, 08:41:25 AM กูคิดดีหนีแกมาแต่แรก จำต้องแบกทุกข์ทนจนผ่ายผอม สิ้นยศฐาบรรดาศักดิ์ก็จักยอม เพื่อถนอมมวลมิตรชีวิตคน ละจากเวียงเลี่ยงวังอยู่ยังป่า ใช้ชีวาระมัดอย่างขัดสน คู่เคียงนางกลางถ้ำแสนลำบน กว่าผ่านพ้นเข้าแคว้นแดนพิไล ข้อหาชุมนุมจัดหัดทหาร อาจตีฐานต่อเนื่องโจมเมืองได้ ออกดั้นด้นค้นเสาะลัดเลาะไป จับคนไต่ตะคอกขู่บอกความ ตอบอย่างไรไม่เว้นต้องเป็นโทษ บางครั้งโหดเหี้ยมม้วยด้วยเหิมห่าม ต้องการกูผู้คนป่นปี้ตาม เที่ยวคุกคามเข่นฆ่าไร้ปราณี คงเป็นกรรมทำเขาภพเก่าก่อน คืนมาย้อนยื้อยุดสุดยากหนี ขอคำนับรับชดใช้โดยดี หากบุญมีคงรอดปลอดภัยมา เอาเชือกรัดทะมัดทะแมงแต่งเตี่ยวเสื้อ ยกมือเหนือหัวนึกระลึกหา คุณพระพุทธพ่อแม่แลครูบา ยืนจังก้า ดาบคู่ กู...ฟ้าก๊อม รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 6 ๐ สู้ตาย เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม, 2557, 01:45:17 PM สิ้นว่ากู ผู้คน ต่างอลอึ้ง ปานประหนึ่ง เปรี้ยงเปรี้ยง เสียงฟ้าผ่า ทหารหลาย ชายหญิง วิ่งออกมา ยืนตั้งท่า รอคอย ฟังถ้อยเกิน อดีตข้า เคียงบาท ราชภพ เคยร่วมรบ เหนือลาก จดตากเถิน เจอศึกกลาง ล่างใต้ ได้เผชิญ ตียับเยิน ย่อยยับ ถอยกลับเวียง หากหมายมั่น พันธนา เข้ามาใกล้ เอ้าต่อให้ ทั้งกอง จะลองเสี่ยง ชักดาบไว ไยช้า ตามองเมียง เดินหน้าเรียง ปะทะ ฉะกับกู มิสะทก ตกใจ ในวงล้อม สิบนายห้อม วาดเวียน เปลี่ยนต่อสู้ ท่ามหินใหญ่ ไม้หลาก ยากกรากกรู เชิงเหลี่ยมคู เคลื่อนกาย ย้ายค่ายกล จังหวะขาด ฟาดฟัน ด้วยสันดาบ ซ้ายขนาบ ถอยนิ่ง พิงต้นสน ปาดทแยง แทงลวง ขึ้นช่วงบน ก้าวมิพ้น ต้องทวน พุ่งสวนทาง ทะลุเสื้อ เถือถัน คันยิบยิบ ยกเท้าถีบ ยอดอก ตกดังผาง ที่ถลำ กำหมัด ซัดปลายคาง เตะพับล่าง ตัวก่ง ลงคลุกดิน... รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 7 ๐ จบนิมิตฝัน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม, 2557, 05:31:51 PM โอกาสเหมาะ เหาะเหิน ลงเนินผา แกว่งศัตรา วูบวาบ ดังฉาบผิน ยืนกระด้าง พร่างตา อ้าปากยิน เพล้งเพล้งบิน อาวุธ หักหลุดมือ ดาบเคาะดาบ ดาบชู กู่สำทับ บ้างหันขวับ ผงะ จะร่นถอย สรรพสิ่ง นิ่งเงียบเชียบดงดอย ตะวันคล้อย จวนแลง แสงมืดมัว มึงเช่นกู ก่อนนี้ เป็นขี้ข้า รับบัญชา ลำบาก จากเหนือหัว ยกมือชี้ อีไอ้ ใจระรัว ด้วยเกรงกลัว อำนาจ คาดโทษทัณฑ์ กูบรรเลง เพลงยั้ง แค่สั่งสอน มิรานรอน เข่นฆ่า ถึงอาสัญ เราหน่อเนื้อ เชื้อไข ไทยด้วยกัน ผูกสัมพันธ์ สมาน สานไมตรี หัวหมู่ขัน พันชื่น หมื่นพหล แลไพร่พล ขุนเจือง ป้องเมืองศรี ถนอมองค์ คงรัก จิตภักดี หมั่นฝึกฝีมือห้าว จะก้าวไกล ออกบ้านละ ลูกเมีย เสียนานนับ จงคืนกลับ สู่เหย้า ทูลเจ้าใหญ่ รุมสังหาร ดานกลบ ศพนอนใน นี่เอาไป ให้ดู ดาบคู่ของ...ฟ้าก๊อม ...................................... เจดีย์สร้าง ปรางค์พราย ด้วยทรายอ่อน ประนมกร เงยหน้า สบตาจ้อง พยักยิ้ม พริ้มเปรย เอ่ยทำนอง ขอเราสอง สุขสันต์ นิรันดร์ เทอญ รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ เพื่อน 8 ๐ บันทึกท้าย เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม, 2557, 07:05:29 PM สังขารวน วัฎฎะ เทพประสิทธิ์
ก่อชีวิต เพียรกอบ ชอบเหยียบย่ำ สบอารมณ์ ซมร่าง สร้างระกำ ด้วยมืดดำ อำมหิต จิตสัตตา มิเลือกเคลีย เมียมูก ลูกสาวไผ เอาแต่ได้ ดื้อดัน มากตัณหา เกิดโกรธะ ปะทุ ร่ำสุรา ผิดกามา ฆ่าคน ปล้นแย่งยิง ขาดธัมมะ ปริยัติ วิบัติกิจ ครองจริต บ้าคลั่ง ดั่งผีสิง คำทัดทาน พาลใส่ ไม่ประวิง โดดดำดิ่ง หุบเหว ลุยเปลวเพลิง ความว้าวุ่น ขุนเขา ราบเร่าร้อน ฝั่งสาคร กลางกรุง ยากยุ่งเหยิง บ้างยังอยู่ บ้างเตลิด บ้างเปิดเปิง เหตุการณ์เถิง คลี่คลาย เมื่อวายวาง กัมมุนา ปรากฏ ต้องชดใช้ สู่ภพใหม่ เทียบเจ้า หล่อเหลาร่าง คณานับ ทรัพย์อนันต์ สรรพางค์ แวดล้อมนาง ไร้หน่อ ต่อตระกูล พยายาม ตามใคร เช่นในฝัน มีสักวัน พานพบ ก่อนจบสูญ รอยแผลเป็น เซ่นดาบ กาบแก้มคูณ เขาอาดูร เดียวดาย กายชรา ขอได้รับความขอบคุณจาก... รพีกาญจน์ |