เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

อารมณ์กลอน => ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: share ที่ 06 มกราคม, 2558, 09:32:04 PM



หัวข้อ: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 06 มกราคม, 2558, 09:32:04 PM
* ผองเพื่อน มารวมกัน...........มาร่วมฝัน อันยิ่งใหญ่
สืบสาน กานท์กลอนไทย.......ระบือไกล ยั่งยืนนาน

* แนะบอก ออกคิดเห็น..........มุมประเด็น ก่อแก่นสาร
บบ่น บรำคาญ......................มุสอบทาน ฐานความจริง


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 06 มกราคม, 2558, 10:38:26 PM
:27: :27:
แนะนำย้ำชัดชัด           คอยฝึกหัดจัดทุกสิ่ง
ขยันฉันคนจริง             จะไม่ทิ้งทอดกลางทาง

หัดท่องมองรอบด้าน       อันกลอนกานท์อย่าพานห่าง
อ่านเขียนเพียรอย่าจาง     ผิดพลาดบ้างจงอภัย

อยากเก่งเร่งฝึกเข้า           ตั้งแต่เช้าเราฝันใฝ่
หลายปีมิเป็นไร               เพียงเข้าใจได้เล่าเรียน
วิริน
๖/๐๑/๕๘
 :12: :12:


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: วรรณดี ที่ 07 มกราคม, 2558, 09:45:35 AM

ฉันเองเรียนเช้าค่ำ   แต่ไม่จำทำปวดเศียร
ทุกวันก็หมั่นเพียร    เข้าห้องเขียนแต่บทกลอน

อยากเก่งเร่งฝึกปรือ  เพราะฉันถือคือคำสอน
มิได้ไปวิงวอน      หรือขอพรเทพองค์ใด

ดูจากพ้องน้องพี่   ที่เขียนดีที่ยิ่งใหญ่
จับแบบมาวางไว้   แล้วใส่ใจให้เต็มดวง

วรรณดี






หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 07 มกราคม, 2558, 03:45:12 PM
:34: :34:
ฝึกยากลำบากหนอ         หาแบบต่อพอห่วงหวง
คืนวันหวั่นพุ่มพวง           น้ำตาร่วงทุกช่วงเลย

หาคำมานำร่อง              อกกลัดหนองมองเมินเฉย
กี่ครั้งนั่งงมเอย              แต่ไม่ย่อต่อชะตา

สักวันตามฝันใฝ่            มุ่งมั่นไปในภาษา
กลมกล่อมหลอมรวมมา    ยากนักหนาแต่ไม่กลัว
วิริน
๗/๐๑/๕๘
 :26: :26:


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 10 กุมภาพันธ์, 2558, 01:00:39 PM
...ผู้นำพึงสุภาพ...............ต้องกำราบทระนง
จองหองลำพองจง.............ระงับลงด้วยธรรมา

...ผู้นำพึงสดับ.................ใช่จ้องจับโต้วาจา
ติชมหรือคือยา..................จงตรวจตราสอบประเด็น


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 24 มิถุนายน, 2558, 01:13:48 PM
...๘๓ ปีลุแล้ว.............จิตพึงแผ้วสามัคคี
เคารพสิทธิ์เสรี.............เที่ยงธรรมคดีทุกกาลสถาน

...ประชาธิปไตยมั่น........มิฝากฝันเผด็จการ
ผองเพื่อนมุมุ่งหาญ........เมตตาสานรักแบ่งปัน

...สวรรค์ ณ แดนดิน......น้ำใจรินประเจิดพลัน
ผู้ทุกข์ระทมนั้น.............สหายฉันพี่น้องเอง


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 11 กันยายน, 2558, 09:43:18 AM
ศัพท์บัญญัติ

...enzymology.................ศัพท์คำนี้บัญญัติไว้
เรียก"วิทยาเอนไซม์".........ควรชื่อใช้ให้ถูกนา

...Enzymologist...............จึงเขียนขีดไป่กังขา
"นักเอนไซม์วิทยา"...........พึงนำพาช่วยใช้กัน

Enzymology (en·zy·mol·o·gy/ˌenzəˈmäləjē/)
is the study of enzymes, their kinetics, structure, and function,
as well as their relation to each other.
https://en.wikiversity.org/wiki/Enzymology

"วิทยาเอนไซม์" http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php

ขอบคุณ Partita ครับ http://pantip.com/topic/34158180


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 23 พฤษภาคม, 2559, 01:04:31 PM
...สังคมเริ่มอ่อนแอ.........ขาดเผื่อแผ่แพ้ตัณหา
ตัวตนอหังการ์................เพื่อตัวข้าเท่านั้นพอ

...สังคมฅนก้มหน้า..........ชอบบ่นว่าใฝ่ป้อยอ
ยลยินไป่รีรอ..................ขอส่งต่อเพียงเอามัน


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 24 พฤษภาคม, 2559, 03:43:33 PM
สังคมคือวิชา         ร่ำเรียนมาสารพัน
ประสบโลกจริงนั้น    เนิ่นเนานานกาลไฉน

สังคมคือสุดยอด     เรียนตลอดต่อเติมไว
หวังเอครูจะให้        หอบวิชาเร่งหาครู

สิริวตี
 :14:

หากระทู้ ปริศนากล้วยไม้ไม่เจอเลยค่ะ อาจารย์


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 25 พฤษภาคม, 2559, 09:28:47 AM
:30:

เรียนไรก็ไม่เก่ง     โง่เป็นเข่งเจ้งอดสู
เกือบตกแล้วไหมตู  เพราะคุณครูนั้นบอกมา

สังคมมิสมใจ        ร่ำเรียนไปใจผวา
สอบตกทุกวิชา     แม่บอกว่าโง่เหมือนควาย

วิริน

๒๕/๕/๕๙

 :30:




หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 25 พฤษภาคม, 2559, 09:47:17 AM
เอาจริงก็ทำงาน   วิชาการมิใช้หลาย
เก็บจำพรรณราย   เริ่มรู้ใหม่เหมือนได้เรียน

บางครั้งนั่งอ่านคำ   เคยฝึกจำจึงนำเขียน
หลังแข็งแบ่งพากเพียร  เพราะที่เรียนมิใช้เลย

สิริวตี
 :20:


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 25 พฤษภาคม, 2559, 11:19:46 AM

เรียนรู้ดูตำรา                เรียนคบค้าคร่าเชือนเชย
เรียนรักประจักษ์เปรย   ถ้อยถนอมจึ่งหอมนาน    

รักเรียนเพียรขยัน         รักค้าหมั่นบริการ             
หากรักสิหักราน            หาญรวบรัดขัดกมล        

ผ่อนสั้นฤผ่อนยาว         คราครั้งคราวคลายร้าวรน
หนักเบาเนาอดทน        ดลดื่มด่ำพร่ำดวงแด        

Soul Searcher
Inspired to write 25/5/2016

 :14:


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 27 พฤษภาคม, 2559, 02:23:27 PM
:30:

เรียนรักอกหักบ่อย   ใจสำออยชะหนอยแน่
น้ำตามาปรวนแปร   ต้องกลืนกลับให้ลับลา

เรียนรักมิหักเห     ซวนโซเซเดินเย้หน้า
กลุ้มจริงยิ่งชีวา    อย่ารอช้ามาต่อกลอน

วิริน

๒๗/๕/๕๙

 :30:


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 18 มกราคม, 2561, 05:46:24 PM


ข้าแต่พระบิดา
ฟ. ฮีแลร์

@ ข้าแต่ พระบิดา
ผู้ผ่านฟ้า ทิพาลัย
พระนาม ระบือไกล
คนกราบไหว้ ทั่วหน้ากัน

@ ต่างคน ปรนนิบัติ
ตามดำรัส พระทรงธรรม์
เหมือนอย่าง ชาวสวรรค์
สนองสรรพ (พะ)บัญชา

@ ข้าวปลา กระยาหาร
ขอประทาน เลี้ยงชีวา
บาปกรรม ที่ทำมา
กรุณา ให้อภัย

@ ผู้ใด ได้ล่วงสิทธิ์
ลูกยกผิด ไม่ว่าใคร
ขอทรง เอื้ออวยชัย
ให้พ้นภัย ผจญเทอญ

* อาจไม่ตรงต้นฉบับ
ด้วย
จากความทรงจำครับ


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 22 มกราคม, 2561, 02:34:11 PM

@ สองคน ยลตามช่อง
คนหนึ่งมอง เห็นโคลนตม
คนหนึ่ง ตาแหลมคม
มองเห็นดาว อยู่พราวพราย

...ฟ.ฮีแลร์...

เจษฎาจารย์ ฟ.ฮีแลร์ เป็นผู้ถอดความเป็นภาษาไทย
ผ่านกาพย์ยานี 11 จาก สุภาษิตจากภาษาอังกฤษของ
  
Frederick Langbridge

"Two men look out the same prison bars;
one sees mud and the other stars."

18 มกราคม วัน ฟ.ฮีแลร์ รำลึก

ขอบคุณครับ
ผองเพื่อน อัสสัมชัญ


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 14 พฤษภาคม, 2561, 11:38:44 PM

....เชิญชวน ผองเพื่อนกานท์........กลอนไทยสาน สืบภาษา
โคลงกาพย์ ร่ายนานา................ร่วมกันหวา แต่งฉับไว

....ร่วมฝันร่วมสรรค์สร้าง.............มิตรมิห่าง สุขสดใส
ข้ามห้วย "ทุกข์ยาก"ไป...............ด้วยน้ำใจ รักเมตตา


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 19 กรกฎาคม, 2561, 10:39:38 AM

*  ทุกวัน ฉันสวดขอ       มิรั้งรอ ขอมั่นคง
มั่นธรรม มั่นจำนง           ปฏิบัติ มิรั้งรอ

*  แม้โศก แม้ตกยาก      ทุกข์ลำบาก จักมิท้อ
ใช่รวย ใช่เพียงพอ          แล้วค่อยขอ รักแบ่งปัน

*  ฉันจัก รักตนเอง         มิคร้ามเกรง รักรังสรรค์
ช่วยเหลือ รวย-จนพลัน    ไป่ไหวหวั่น พรั่นติชม


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 02 พฤศจิกายน, 2561, 05:33:03 AM

บทไหว้ครู ปฐม ก กา

• นะโมข้าจะไหว้ วระไตรระตะนา
ใส่ไว้ในเกษา วระบาทะมุนี

• คุณะวระไตร ข้าใส่ไว้ในเกษี
เดชะพระมุนี ขออย่ามีที่โทษา

• ข้าขอยอชุลี ใส่เกษีไหว้บาทา
พระเจ้าผู้กรุณา อยู่เกษาอย่ามีไภย

• ข้าไหว้พระสะธรรม ที่ลึกล้ำคำภีร์ใน
ได้ดูรู้เข้าใจ ขออย่าได้มีโรคา

• ข้าไหว้พระภิกษุ ที่ได้ลุแก่โสดา
ไหว้พระสกิทาคา อะระหาธิบดี

• ข้าไหว้พระบิดา ไหว้บาทาพระชะนะนี
ไหว้พระอาจารีย์ ใส่เกษีไหว้บาทา

• ข้าไหว้พระครูเจ้า ครูผู้เฒ่าใส่เกษา
ให้รู้ที่วิชา ไหว้บาทาที่พระครู

• จะใคร่รู้ที่วิชา ขอเทวามาค้ำชู
ที่ใดข้าไม่รู้ เล่าว่าดูรู้แลนา

• ไชยโยขอเดชะ ชัยชะนะแก่มารา
ระบือให้ลือชา เดชะสามาไชยโย

• ไชยโยขอเดชะ ชัยชนะแก่โลโภ
โทโสแลโมโห อย่าโลเลโจ้เจ้ใจ

• กุมาระกุมารี ตะรุณีย์ที่เยาว์ไว
จะฬ่อพอเข้าใจ ให้รู้จำคำวาที

• ว่าไว้ใน ก กา ก ข ขา อา อิ อี
ว่าไว้ในเท่านี้ ที่พอได้ใน ก กา

• แต่พอให้รู้เล่า ที่ผู้เขลาเยาวะพา
ได้ดูรู้แลนา กุมาราตะรุณี

• จะใคร่ได้รู้ธำม์ ที่ลึกล้ำจำไว้ดี
ได้แน่แต่เท่านี้ ดีจำเอาเบาใจครู

• จะว่าแต่ฬ่อๆ ว่าแต่พอฬ่อใจดู
ว่าไว้ได้พอรู้ ดูว่าเล่าเอาใจใส่

จาก
http://krupayao.blogspot.com/2007/08/blog-post_8629.html
http://www.baanmaha.com/community/thread39650.html


Web ส่วนใหญ่จะ ตก ๒ วรรค ที่ เน้นเอียง ครับ


หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 22 มีนาคม, 2567, 11:15:11 PM

ไม้ม้วน กาพย์ยานี ๑๑


ใฝ่ใจแลให้ทาน  ทังนอกในและใหม่ใส
ใครใคร่แลยองใย  อันใดใช้แลใหลหลง

ใส่กลสใพ้ใบ้  ทังใต้เหนือแลใหญ่ยง
ใกล้ใบแลใช่จง  ญี่สิบม้วนคือวาจา

จินดามณี


* สังเกต : เดิม ในแต่ละบท
มีสัมผัสบังคับเพียง 1 แห่ง
ใส - ใย
ยง - จง



หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 06 เมษายน, 2567, 01:39:49 AM



@ รักธรรม กรรมดีเกิด
กระทำเถิด ใช่ชี้หน้า
อย่าลืม หลายนิ้วหนา
พุ่งเป้ามา ชี้ตนเอง

@ รักธรรม ย้ำ"ตัดตู"
ลำพองกู ก่อข่มเหง
ธรรมะ ละยำเกรง
อลเวง วนทุกข์กรรม





หัวข้อ: Re: กาพย์ยานี ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 23 กรกฎาคม, 2567, 11:58:54 AM


@ พระธรรม คำสอนไสว
ด้วยมั่นใน "ปฏิบัติ"คง
จริงใจ สิสลักลง
เมตตาจง ทุกการกระทำ

@ เสมอภาค ต่อทุกผู้
ขี้เหร่,หรู รวย,ระกำ
ปลอดภัย พาลขยำ
ชูธงธรรม มิท้อถอย