หัวข้อ: O แด่ .. อริยะภาวะ .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 13 สิงหาคม, 2556, 10:34:05 PM (http://upic.me/i/jh/1372774456.jpg) (http://upic.me/show/46493890)
O แล้วดวงดาวอีกดวงก็ร่วงหล่น ร่วงลงบน .. อนิจจังแห่งสังขาร ให้ผู้คนจดจำเป็นตำนาน- ผู้ล่มลาญวงวัฏฏ์ .. ล้างอัตตา O อีกภาพการหล่นร่วง ..ใต้ดวงสูรย์ เพรียกโอดอื้นอาดูร .. เพียบพูนหน้า ละภาพผ่านเลื่อนลั่นในสัญญา ล้วนคุณค่าแนบในหัวใจชน O สิ้นภพชาติ .. บรรดาเคยปรากฎ เพียงกำสรดโศกปวง ..ค่อยร่วงหล่น- ลงทับถมอาลัย .. ของใจคน- ผู้ยังวนเวียนว่าย .. เมื่อปลายวัน O ภาพรูปองค์บรรทมกลางร่มไม้- พร้อมอาลัยอาดูรเพียบพูนขวัญ- ผู้แวดล้อมโหยไห้กลางไพรวัลย์- ก็ฉับพลัน .. วาบสู่ให้รู้คิด O ว่า .. ย่อมคืออนิจจังแห่งสังขาร ที่ล่มลาญดับล่วง .. พร้อมดวงจิต ตามกฎเกณฑ์ท่วงทีของชีวิต ด้วยเกินบิดเบือนเบี่ยง .. หรือเลี่ยงพ้น O จึง .. ภาพธรรมในกาลเมื่อผ่านช่วง คือภาพยามชีพปวง .. นั้นร่วงป่น ภาพ .. ใบไม้ร่วงตกพลิ้ว .. วก-วน ต่างฤๅภาพตัวตน .. เมื่อหล่นคว้าง ? O ใบไม้หล่นคว้างปลิว .. พลิก .. พลิ้วรูป ลมผ่านวูบ .. เรียวใบร่อนไปห่าง กลางแวดล้อมเปล่าเปลี่ยว .. ในเที่ยวทาง กลาดเกลื่อนใบไม้บาง .. ก็วางตน O กลางรูปธรรมเงียบเหงา .. ความเปล่าเปลี่ยว- ย่อมกรากเชี่ยวกำลัง .. ทุกครั้งหน ใบไม้ร่วงทับถม .. สายลมบน- ก็พาวนเวียนไหวอยู่ในยาม O นั่น .. หล่นพลิ้วพลิกคว้าง .. อีกบางใบ หล่นรูปให้น้อมนำสู่คำถาม ที่ .. รอบกาลโหมรุก .. เข้าคุกคาม ใครเล่าอาจหักห้าม .. ได้ตามใจ O อีกแล้ว-อีกบางใบ .. ร่วงในที่ ด้วยท่วงทีเฉกกัน .. เช่นนั้นได้ อีกหนึ่ง-รอบ .. หล่นคว้าง .. ของบางใบ ทุกหนึ่งนั้น .. เช่นในหัวใจเรา O หล่นรูปร่วงแผ่ราบ .. ระนาบดิน เพื่อยอกลิ่นสร้อยโศก .. สุมโลกเหงา สิ้นสุดปลายเส้นทาง .. เพียงร่างเงา- เหลืออยู่เฝ้าดินต่ำ .. เป็นธรรมดา O หล่นร่วงแห่งดวงแก้ว .. ครั้งแล้ว-เล่า จนความเปล่าเปลี่ยวห้อม .. เข้าล้อมหา นานแค่ไหน-หล่นคว้าง .. อาจร้างลา หรือ-กี่กาละจะพ้น .. การหล่นลง ? O ชั่วเพียงสิ้นโบกบ่ม .. จากลมร่ำ ก็ตอกย้ำ .. ลำดับ .. การรับส่ง มองเห็นไหม .. ช่องว่างที่กลาง-วง หรือมั่นคงก้านขั้ว .. ของตัว-ใบ ? O ฤๅจะยังหล่นคว้าง .. ณ กลางหน ที่ว่างจน .. ลับล่ม .. แรงลมไหว ที่อาจหล่นร่วมวิถี .. จะมีใด ก็เพียงใจ .. ว่าง-วนของตนเอง O พญาโศกคร่ำครวญ .. เสียงหวนไห้ แทนอาลัยเศร้าสร้อยที่ค่อยเบ่ง- บานภาวะสุมสั่ง .. กลางวังเวง เพื่อฉุดเร่งอารมณ์ .. สู่ตรมตรอม O ศัพท์เสียงความคร่ำครวญ .. ก็ล้วนแต่- ตอบรับความผันแปร .. ที่แห่ห้อม กลางสายลมโรยริน .. ผู้ยินยอม- เข้าแวดล้อมอาดูร .. เพียบพูนแล้ว ! O แล้วอีกดาวแสงช่วงกลางห้วงหน- ก็ร่วงหล่นลับล่มกลางลมแผ่ว ตรึงวาท, วัตรผ่องใสอยู่ในแวว- ตาคู่วามผ่องแผ้ว .. ทุกแววตา O ร้างสิ้นโบสถ์เจดีย์ .. ในที่นั้น- จักเสกสรรค์ปั้นแต่งสำแดงค่า ยินแต่ถ้อย .. แห่งธรรมผู้สัมมา- ประพฤติ .. ปฏิปทา .. ค้ำคาใจ O แทนเชิงชั้นงามลออ .. ของช่อฟ้า คือศรัทธาปวงชนค่อยล้นไหล- ลงแวดล้อมกาลลา .. ด้วยอาลัย- ครั้งสมัยรูปขันธ์ .. จักอันตรธาน O ล้วนคือหลักแห่งธรรม .. ชี้นำทาง ให้ยกย่างเหยียบก้าว .. อย่างห้าวหาญ คือองค์ธรรมรั้งฉุด .. แต่พุทธกาล- ฉุดวิญญาณตื่นรู้ .. น้อมสู่ธรรม ! (http://upic.me/i/7x/1372775190.jpg) (http://upic.me/show/46493901) (http://upic.me/i/o6/1372775206.jpg) (http://upic.me/show/46493920) (http://upic.me/i/cs/1372775223.jpg) (http://upic.me/show/46493929) |