หัวข้อ: ที่มาของ...รพีกาญจน์ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 22 กุมภาพันธ์, 2558, 10:59:40 AM (http://image.ohozaa.com/i/954/frwMun.JPG)
ตัดสินใจเกษียณก่อนกำหนด เพื่อหมายทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ทั้งพ่อตาแม่ยายกายชแร และป้าแก่กล่อมเกลาเมื่อเยาวัย อายุสี่สิบเจ็ดเฮ็ดงานว่อง พอประคองครอบครัวเลี้ยงตัวได้ ลูกสามคนจนจบมหาลัย ห้าผู้ใหญ่อยู่ด้วยม้วยจากลา รู้อีกทีก็ชราห้าสิบเก้า คลายเงียบเหงาเปิดบ้านทำร้านค้า เบ็ดเตล็ดแห้งสดลดราคา บางเวลาทำขนมนมน้ำตาล สลับเช้าเข้าสวนขุดพรวนไถ ปลูกลำไยมะม่วงข้าวโพดหวาน พ่นฮอร์โมนปุ๋ยคอกเร่งดอกบาน สุขกับงานกายใจพ้นไปวัน ประเพณีเทศกาลงานบุญวัด ช่วยพระจัดแต่งดาดอกไม้ขัน รับโฆษกพิธีกรตอนสำคัญ ถูกเลือกสรรเป็นประธานงานชุมชน ที่สิบแปดธันวาลูกมาพร้อม นำเคสคอมพ์จอเม้าส์เอาฝึกฝน หลายสิบปีละอ่านแต่งกานท์กน ลองสักหนมือจิ้มหัดพิมพ์กลอน :aab15: รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ที่มาของ...รพีกาญจน์ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 22 กุมภาพันธ์, 2558, 04:35:05 PM จับดินสอจ่อสมุดจุดลากจด
เดินหน้าถดถอยอ่านทานกระท่อน ลบเลอะเลือนเปื้อนขาดกระดาษปอน หนึ่งบทตอนแต่งยากลำบากจัง เฝ้านั่งนึกตรึกตรองลองเรียงจัด คำสัมผัสพยางค์กลางวรรคหลัง สัมผัสซ้ำสัมผัสเลือนเตือนระวัง หัวแทบพังไม่จำเปิดคำแปล ตัวอักขระกะจิดริดรีบแล่น ควานหาแว่นลุกลนหนอคนแก่ มองหาขวดปวดหนีบจิบกาแฟ เกือบจะแย่บทหนึ่งครึ่งชั่วโมง มือเก้งก้างกดกอหาขอไข่ สระไอ ไม้โท โอ โอง โอ่ง พิมพ์ติดกันเว้นวรรคชักเชื่อมโยง หายใจโล่งนี่ไงเริ่มใช้เป็น เพียรมานะพยายามถามลูกหลาน เพิ่มชำนาญทุกวันทันตาเห็น หกมกราวางกลอนแรกตอนเย็น หัวอกเต้นเร็วถี่ด้วยดีใจ ห้วงรู้สึกลึกล้ำชื่นฉ่ำหวาน มีหลายท่านนิยมกดชมให้ เมตตามอบคะแนนแทนมาลัย แด่น้องใหม่คนนี้รพีกาญจน์ :aab15: รพีกาญจน์ 18 ธันวาคม 2010 สมัครเป็นสมาชิกบ้านกลอนไทย 06 มกราคม 2011 วางกลอนกระทู้แรก ตื่นเต้นจริง หัวข้อ: Re: ที่มาของ...รพีกาญจน์ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 พฤษภาคม, 2558, 02:15:15 PM สุขจะมี ที่ใจ ใช่ปฏิบัติ ตามถนัด ขบวน ทุกถ้วนถี่ หลงวนกรอบ ขอบขีด ทฤษฎี ขาดเสรี ศิลปะ อิสรา แค่แต้มความ งามนอก บอกเปลือกแผ่น แท้ในแก่น วาดหวัง ตั้งไว้ว่า จะเรียงถ้อย ร้อยรส พจนา สืบสานภาษาไทย ให้เด็กเรา ถ่ายทอดครู รู้สึก จากนึกคิด ประสบการณ์ นานติด ชีวิตเก่า ตลกกลบ ขบขัน เพื่อบรรเทา คลายโศกเศร้า เหงาใจ ให้จืดจาง อยู่บ้านนอก คอกนา นั่งคาคบ พอได้พบ กานท์กลอน ค่อนสิ้นสาง ปลากระดี่ มีน้ำ ดำว่ายวาง กำหนดทาง แค่เขียน เรียนอ่านกลอน มิประกวด อวดแกร่ง ลงแข่งขัน สร้างงานฝัน สุโข สโมสร จากอรรถะ กวี ศรีสุนทร มิอาวรณ์ สิ่งสรรพ์ บรรณาการ ใช้เวลา นาที มีเหลือน้อย จะทยอย ทอถัก อักษรสาร มิยึดติด คิดสน เก็บผลงาน หากต้องการ ชิ้นใด เอาไปเลย รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ที่มาของ...รพีกาญจน์ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17 พฤษภาคม, 2558, 08:04:54 PM อยู่ที่ไหนใจรักมักที่นั่น นานผูกพันมั่นมากยากสลาย เคยร่วมกินชินอยู่คู่สบาย ยิ่งร่วมตายร่วมเป็นเช้าเย็นยัง อยากให้เหย้าเนานานบ้านคงที่ ร้อยพันปีสุดสวยด้วยความหวัง ศูนย์สถิตย์วิชชานานาคลัง รวมแผนผังกำหนดบทประพันธ์ ทุกชั่วลมหายใจไม่เคยห่าง จับปากกาเคาะคางสร้างสานฝัน จดสมุดจุดถ้อยเท่าที่ทัน บนฝากั้นก้นกล่องห้องทำงาน แล้วรวบรัดขัดเกลากรองกระทู้ จิ้มพิมพ์คำนำสู่ตาผู้อ่าน หากวันใดดัชนีชี้กระดาน ว่างกลอนกานท์จัดแจงรีบแต่งลง อุปสรรคหนักใหญ่เข้าใจผิด บางท่านว่าบ้าบิดพิศวง ไม่โป้ปดโกรธใครใฝ่จำนง ขอบ้านกลอนยืนยงจงเจริญ น้ำลายหนืดยืดยาวแจ้งข่าวนิด สักอาทิตย์พักยกระหกเหิน เก็บลำไยใส่ตะกร้าบ่าแบกเดิน เสาะหาเงินให้หลานเรียนเปิดเทอม :28pr: รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ...ชาร์จแบต... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 พฤษภาคม, 2558, 07:54:33 AM ชาร์จเอ๋ยชาร์แบต หกเจ็ดแปดวันเต็มคงเค็มข้น ครั้นรถเก่าเมาขับสัปดน แฉลบเลี้ยวเฉี่ยวชนคนร่ำไป ครั้งสุดท้ายหงายพลั่กชักกระตุก อ้วนปุ๊กลุ๊กยางแบนแล่นไม่ไหว จึงจำเป็นเข็นเข้าอู่หน่วยกู้ภัย หยอดน้ำมันพันสายไฟยิ้มได้เอย :18: รพีกาญจน์ ช่างบอกว่า รถเก่าแล้วอย่าแล่นเร็ว อิอิ หัวข้อ: Re: ...หน้าฝน... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 พฤษภาคม, 2558, 08:47:50 AM สักวาหน้าฝนถนนแห้ง ล้าอ่อนแรงเป็นลมเหงื่อโซมไหล เมืองกรุงกกตกท่วมอ่วมทั่วไป แต่บ้านอกคอกไกลฝนไม่มี หนีนอนเถียงเคียงทุ่งยุงตามกัด เอามือปัดแปะหน่อยไม่ถอยหนี แคะขี้ดังชั่งจิตคิดอีกที แมงพวกนี้ไม่กี่วันมันก็ตาย ครบเก้าพยางค์พอดี ไม่มีเอย :coffee: รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ...มาแล้วครับ... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 พฤษภาคม, 2558, 09:14:38 AM มาแล้วครับ มาแล้ว มาแล้วครับ ขอคำนับ อภิวาท ญาติผู้ใหญ่ แหละพี่น้อง ผองมิตร สนิทใน บ้านกลอนไทย เราอยู่ ทุกผู้คน จำห่างหาย กายลา หนึ่งอาทิตย์ ธุรกิจ (รับจ้าง ร่างแบกขน) อิอิ หาเงินซื้อ ข้าวของ ใส่ท้องตน เพื่อผ่านพ้น วิบัติ ซัดเซโซ หกสิบสาม นามเลข เมกกะเฮิร์ต เชิญท่านเปิด ชมได้ ตั้งไก่โห่ กระจายเสียง เที่ยงวัน ยันเพล้โพล้ หลังนะโม เสร็จสวด รวดทั้งคืน มาแล้วครับ มาแล้ว มาแล้วครับ เมตตารับ กระผม คลายขมขื่น จะตอบต่อ กลอนกานท์ หวานกลมกลืน สุข สดชื่น รพี เรดีโอ (ซ้ำ) :34: ขออนุญาตเปิดสี่ช่องเลยนะครับ รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ...ฮัลโหล ทดสอบ... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 พฤษภาคม, 2558, 10:24:53 AM อยากทดสอบชั่งรักเพียงสักนิด ยังครุ่นคิดถึงเขาเบาบางไหม หรือลืมแล้วมิเหลือสิ้นเยื่อใย ด้วยการใช้เช็คผ่านกาลเวลา ตื่นเช้าดื่มกาแฟแก่ขมหวาน อยู่นอกชานสูดลมชมแดดจ้า เหลือบแลดูวัวควายที่ปลายนา ยินนกการ่ำร้องก้องดงดาน แคร่วงลิ่วปลิวหล่นบนพื้นแห้ง เฟื่องฟ้าแดงชูชื่นยืนตระหง่าน พุ่มโพลนขาวมะลิผลิดอกบาน เรียงริมลานซอมพอชูช่องาม จับตะกร้อตาคอยสอยมะม่วง มีดตัดพวงมะไฟใสสุกห่าม เก็บลำไยใส่ตะกร้าบ่าแบกตาม เหลืองอร่ามกระท้อนน่าค้อนคลึง ผ่านละเมาะเลาะคันคลองส่งน้ำ เขียวเตาผำเขียดกบกระโดดผลึง นกกระยางย่างเดินเพลินบัวบึง หลงซาบซึ้งธรรมชาตินิราศแรม อยากทดสอบเรื่องรักอีกสักครั้ง ว่าใจฝังยังฝันถึงจันทร์แจ่ม หากตัดกลอนรอนกานท์ขาดหวานแกม หมดยิ้มแย้มบ้าใส่ใบ้กัดกิน รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ...สัมผัสมา หยิบมาเขียน... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 พฤษภาคม, 2558, 03:13:32 PM วัยละมุนกรุ่นสาวราวยี่สิบ
เอ่ยกระซิบเบาเบาลุงเจ้าขา ลุงเดินทางข้ามฟากจากไหนมา มอเตอร์คาร์หรือล้อมอเตอร์ไซค์ ฟ้ามืดดำกรำฝนทนเย็นนะ ดูซิจ๊ะเปียกปอนผ้าผ่อนใส่ หน้าซีดจางคางสั่นขากรรไกร คงจับไข้ฟันกบกระทบดัง กระเป๋าหนูในมียาซีมอล ลุงกินก่อนดื่มน้ำกลืนตามหลัง เอนอิงพักสักครู่อยู่ลำพัง สองหูฟังดนตรีที่กังวาน ดีขึ้นบ้างอย่างไรเบาไข้ปวด หรือลุงรวดไหว้สารำหน้าฐาน เป็นร่างทรงองค์ราชอวตาร เทพยักษ์มารกุมภัณฑ์บรรพชน ไม่รบกวนจวนถึงเที่ยงวันแล้ว เสียงปี่แก้วสะล้อซอซึงด้น จังหวะเร่งเร้าใจใดฤาทน องค์เบื้องบนเบื้องล่างเยื้องย่างกราย ขอบคุณลุงลุงอยู่เป็นคู่หนู หนูเฝ้าดูโทรศัพท์ชาร์จแบตสาย ผู้คนผ่านร้อยพันอันตราย นั่งเคียงชายสักคนช่วยพ้นภัย ราว 11.00 น. ควบมอเตอร์ไซค์พาแฟนไปร่วมงานร่างองค์ทรงเจ้า ฝนตกตลอดทาง เข้าไปถึงร่มอาคาร มีหญิงชวนคุยด้วย ทีแท้เอาเป็นเพื่อน เธอชาร์จแบตโทรศัพท์ เออ...อย่างนี้ก็มีด้วย...เนาะ รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ช่วงพักยกหกเจ็ดวัน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 พฤษภาคม, 2558, 10:16:28 PM น้ำลายหนืดยืดยาวแจ้งข่าวนิด
สักอาทิตย์พักยกระหกเหิน เก็บลำไยใส่ตะกร้าบ่าแบกเดิน เสาะหาเงินให้หลานเรียนเปิดเทอม เชือกผูกหูทั้งสองของตะกร้า ตวัดพาดไหล่บ่าท่าฮึกเหิม หายใจเข้าเอาลมเพิ่มปอดเติม ปาดเหงื่อเยิ้มกาบแก้มแย้มยิงฟัน ไหว้สาจบนบเกล้าเป่าขึ้นหาว สองมือสาวขยับจับซี่มั่น ยกเท้าซ้ายป่ายปีนบันไดพลัน เห็นแกว่งไกวบนนั้นมัน ลำไย ถึงที่หมายถนัดขวาคว้าก้านหัก พอสักพักจุเต็มตะกร้าใส่ หยุดหย่อนเชือกค่อยค่อยปล่อยลงไป ล่างรับไว้ปลดออกเทถอกกอง ผู้หญิงลิดปลิดใบไซ้ขนาด ตามตลาดต้องการขายยกกล่อง เบอร์จัมโบ้เบอร์หนึ่งถึงเบอร์รอง เล็กกว่าสองสามรูดร่วงอบเตา เทินกระบะบรรทุกส่งล้งรับซื้อ ฤากล้าหืองอแงแล้วแต่เขา ยากขัดคอต่อคำจำเป็นเรา แพงย่อมเยาราคาสุดปรานี แกะเชือกผูกหูทั้งสองของตะกร้า ให้ระโหยโรยราแสงริบหรี่ เหลืออีกวันจะจบงบบัญชี ชดใช้หนี้เก่าใหม่คงไม่พอ รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ช่วงพักยกหกเจ็ดวัน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 พฤษภาคม, 2558, 03:06:45 PM ไล่เลือดลมตรมเศร้าขับเหงาออก ยกขวดถอกจอกจิบ ส.ร.ถ. มันพะอืดพะอมขมในคอ กัดมะขามฝักงองอล่อน้ำลาย ลูกจ้างตื่นแต่เช้าเมาเบียร์ช้าง ส่วนนายจ้างเมาเหล้าป่าจึงมาสาย ลูกจ้างรับนับเงินเพลินสบาย ผู้เป็นนายคอพับนับขาดทุน นายจ้างกินข้าวหักตักน้ำเมี่ยง ลูกจ้างเลี้ยงข้าวใหม่กับไก่ตุ๋น กาแฟขมดมดอมหอมละมุน นายดื่มน้ำขุ่นหมุนประปา ลูกจ้างสูบก้นกรองซองห้าสิบ นายจ้างหยิบบุหรี่ขี้โยฝา อิ่มข้าวอมเมี่ยงฝาดขาดใบชา ลูกจ้างซ่าฆ่าขมอมแฮ็คฮอล ลูกจ้างหลับยาวรวดไม่ปวดหมอง นายจ้างจ๋องหลับตื่นเลยคืนค่อน ลูกจ้างฮ่ำค่าวโคลงกะโลงกลอน นายจ้างเรียกไทลินอลวอนเร็วซี โลกวิวัฒน์สัจธรรมนำเกษตร บ้างล้มเหลวสำเร็จเป็นเศรษฐี ล้วนมากมายนายจ้างจนทุกที ลูกจ้างมีแต่ได้ไม่ขาดทุน รพีกาญจน์ ส.ร.ถ. - สุราเถื่อน |