หัวข้อ: ..แดเดียวดาย.. เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 30 มิถุนายน, 2558, 01:17:46 PM :30:
แดเดียวดายกายฝืนแสนกลืนกล้ำ ทุกคืนค่ำร่ำร้องต้องเหหัน เงียบสงัดทัดทานทุกวารวัน รักนิรันดร์นั้นเล่าเขาลืมแล้ว อยู่ลำพังรำพึงคะนึงหา ดวงดาราฟ้ากว้างสุดหางแถว ท่ามราตรีฤดีหนอช่างส่อแวว ชายว่าแจ๋วจำจากฝากรักลวง ซึมเซาซบกลบเกลื่อนวันเดือนผ่าน เกินดวงมานทานไหวใจห่วงหวง สิ่งที่ทำให้เฉาเหงาในทรวง คือคำลวงล่อหลอกช้ำชอกใจ ราตรีกาลนานเนิ่นเผชิญเศร้า มองดูเงาเราจางช่างหมองไหม้ ดาวล้านดวงดาษดื่นขื่นฤทัย ไม่มีใครเคียงคู่อดสูจัง เที่ยงคืนเข้าเงาโศกวิโยคซ้อน แสงจันทรลดลงตรงข้างหลัง สายลมโบยโชยชื่นตื่นภวังค์ น้ำตาพรั่งพรูอาบทาบสองปราง มองแพดาวร้าวยิ่งนิ่งนานนัก สุดจะหักห้ามได้ใกล้รุ่งสาง รอวันพรุ่งช้าชักรักจืดจาง นภาพร่างร้างเปลี่ยวแดเดียวดาย วิริน ๓๐/๖/๕๘ :30: หัวข้อ: Re: ..แดเดียวดาย.. เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 30 มิถุนายน, 2558, 01:37:13 PM :30:
อันเสน่ห์เล่ห์กลดลดาลให้ ดวงหทัยไหวหวามยาม้เช้าสาย ระรินร่ำรำพันฝันเดียวดาย รักเรรวนล้วนร้ายหน่ายเลิกลา จักมนต์ใดไหนเล่าเท่ามนต์รัก สิงสลักปักป้ายฟูมฟายกว่า กมลหมองหม่นไหม้ไร้เยียวยา จนอุราหนาวเหน็บเจ็บปวดทรวง ถ้อยวาจาจำนรรจ์ฝันถึงยิ่ง นอนแนบอิงแอบอุ่นละมุนสรวง หว่านคารมพรมพ่นคล้ายกลลวง ลับลอยล่วงห่วงหายสลายลง จึงเขียนกลอนกานท์ถักมาภักดิ์พร้อม เติมความหอมเหยาะเย้าเคล้าประสงค์ ขอฝากฝังดวงใจให้ดำรง เป็นมาลัยร้อยส่งตรงกลางใจ วิริน ๓๐/๖/๕๘ :30: หัวข้อ: Re: ..แดเดียวดาย.. เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 30 มิถุนายน, 2558, 01:41:46 PM :30:
เพียงหนึ่งวันใจนั้นไม่เป็นอื่น ยังระรื่นรวยรักประจักษ์ได้ ยังหวานแหววแผ่วพริ้วสยิวใจ ยังหวั่นไหวแบบนี้ทุกวี่วัน สองคืนหวนครวญคร่ำเพ้อร่ำเรียก น้ำตาเปียกหมอนชุ่มกลุ้มใจฉัน พลิกขวาซ้ายยากนักรักจากกัน เศร้าทรวงนั้นหวั่นกลายสลายไป สามเดือนเคลื่อนคืบเข้าเราห่างหาย คิดมิวายหลายเรื่องเคืองหวั่นไหว แรมรอนร้างทางรักหักพังใจ แผลพุพองหนองไหลในวันนี้ สี่ปีผ่านมานหมองมองแล้วเศร้า ซุ้มรักเราเก่าเกินเธอเดินหนี สนิมเขรอะเกรอะกรังดั่งชีวี จะไร้ที่พึ่งพิงอิงแอบกาย กาลเวลาพาใจให้เหินห่าง ระยะทางกางกั้นขั้นน่าหน่าย ระยะรักท้อเหลือเมื่อเดียวดาย ระยะท้ายง่ายสุดหยุดสองเรา วิริน ๓๐/๖/๕๘ :30: หัวข้อ: Re: ..แดเดียวดาย.. เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 10 สิงหาคม, 2558, 12:53:38 PM :30:
อยู่ห่างไกลเกินกาลมานสั่นไหว จักทำใจยังท้อหนออับเฉา เสียงครางครวญครืนครืนยืนซึมเซา ดวงแดเศร้าเหงาหงอยพลอยระทม ไม่เริงรื่นชื่นฉ่ำช้ำชอกจิต คนไร้สิทธิ์เอ่ยอ้างต่างขื่นขม ฟ้าไร้ดาวสาวไร้คู่สู้อกตรม น้ำตาพรมพร่างพรายหน่ายกล้ำกลืน เงียบงันหนอรอรุ่งแสงฟุ้งเฟ้อ คงรอเก้อม่านหมอกยอกสุดฝืน เปลี่ยวชีวังรังรักหักลงคลืน ได้แต่ยืนชะแง้แดเดียวดาย วิริน ๑๐/๘/๕๘ :30: |