หัวข้อ: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 08:49:12 AM หลังจากแต่ง "พระสุธน มโนราห์ คำกลอน" จบลง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจปรู๊ฟ จะพิมพ์ต้นปีหน้า จึงได้เริ่มงานที่ได้วางพล็อดเรื่องไว้แล้วต่อทันที เป็น"แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ภาคจบ ชื่อตอน "ธานีศรีวิชัย" เชิญชมตัวอย่างครับ ๏ ขอต่อความตามนิยายฉายภาพฝัน จาก “แม่ศรีวรรณทอง”-“แดนคนธรรพ์” ต่อเนื่องกันเป็นไตรภาคฝากมิตรกลอน ๏ เมื่อ “ธนุ เสนสิงห์” เร่งศึกษา จากตำราและครูผู้สั่งสอน กานท์กวีพลีใจให้ไม่ขาดตอน เล่มนี้ย้อนจาก “ตำนานย่านดินแดง” ๏ “เทพนที” “เทพวนา” ในครานั้น สองเปิดศึกสวรรค์การยื้อแย่ง ชิง“อัปสรสุวรรณ” กันรุนแรง ถึงกับแผลงศาตราเข้าฆ่าฟัน ๏ องค์อินทราธิราชทรงตัดสิน ทั้งสามทำมลทินแก่สวรรค์ ถึงวาระพระองค์สั่งลงทัณฑ์ ต่างกรรมกันตามคดีอันมีมา ๏ “เทพนที” ความดีสร้างไว้ทางหนึ่ง เพราะรักจึงแย่งชิงด้วยหิงสา ความดีตนเกิดเป็นคนชายคงคา ความชั่วพาเป็นตะเข้เร่ในคลอง หัวข้อ: Re: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 08:50:04 AM ๏ ช่วงข้างขึ้นเป็นคนบุญดลส่ง ข้างแรมลงน้ำว่ายได้เที่ยวท่อง เป็น “พญาท่าข้าม” ผู้ลำพอง จระเข้ทั้งผองรักบูชา ๏ เทพวนาครานั้นเช่นกันแล้ ความดีแท้ช่วยดลเป็นคนป่า ส่วนความชั่วที่ทำนั้นนำพา เป็นพญาแห่งงูอยู่ไพรวัลย์ ๏ นาม “พญายอดน้ำ” ตามถิ่นที่ บารมีชนนับถือเลื่องลือลั่น ทุกคนที่เดินทางกลางอรัญ เอ่ยชื่อกันขอพรให้ปลอดภัย ๏ ทั้งสองคนกรรมดลช่วงเดือนแรม ยามเดือนแจ่มข้างขึ้นชื่นสดใส เป็นหนุ่มน้อยหน้ามนคนงามไซร้ สลับร่างเรื่อยไปจนปลดปลง ๏ อัปสรสุวรรณนั้นผิดหามากไม่ เพียงเหตุให้สองเทวามาลุ่มหลง มิเลือกใครให้แน่ในจำนง ฟ้าจึงส่งมาเกิดใหม่พิไลพรรณ หัวข้อ: Re: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 08:53:18 AM ๏ เป็น “แม่ศรีวรรณทอง” ผิวผ่องศรี อยู่ลุ่มแม่ตาปีหว่างไพรสัณฑ์ ปากน้ำจุดบรรจบของคลองอิปัน จิตคงมั่นในธรรมพระสัมพุทธ ๏ เพื่อแก้ปมรักสามเส้าให้เข้าที่ กระทำบุญความดีในที่สุด ได้คืนสู่สวรรค์พานประมุท กลับเปิดการประยุทธ์กันอีกครั้ง ๏ คราวนี้พาพงศาตะเข้-งู ร่วมต่อสู้ตายก่ายกองทั้งสองฝั่ง ข้างตะเข้พญามาพลาดพลั้ง จึงหยุดยั้งยอมพรากจากลาไป ๏ งูพญายอดน้ำสำนึกบาป ว่าชั่วหยาบพลาดพลั้งครั้งยิ่งใหญ่ ที่นำงูร่วมพันธุ์พงศ์จากดงไพร มาชิงชัยเสียชีวันกันมากมาย ๏ ส่วนแม่ศรีวรรณทองเศร้าหมองล้น รู้ว่าตนเป็นเหตุความเสียหาย สองพงศ์พันธุ์พากันมาล้มตาย ขอบวชใจบวชกายชั่วชีวัน หัวข้อ: Re: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 08:54:39 AM ๏ ฝ่ายพญายอดน้ำกระทำด้วย หวังบุญช่วยชำระบาปมหันต์ แลทั้งสองครองศีลจนจบชีวัน กาลผ่านผันหลายชาติเพิ่มเติมความดี ๏ ชาติสุดท้ายก่อนได้คืนสวรรค์ เป็นเจ้าแดนคนธรรพ์พิสิฐศรี ยังนำหนุนบุญญาบารมี ล้างราคีหมดสิ้นดั่งจินดา ๏ แรกขึ้นสู่สวรรค์กันทั้งสอง เข้าสู้ห้องสุราลัยในเวหา ความประเดให้เทวะสภา เผยที่ไปที่มาสาธยาย ๏ ซึ่งทวยเทพทั่วฟ้ามาซักถาม ทุกเค้าความเบื้องหลังสิ้นทั้งหลาย มาถึงตอนย้อนย้ำทำสิ่งร้าย ที่รบรากันมากมายถูกลงทัณฑ์ ๏ คำปุจฉาพาย้อนก่อนจากนี้ สร้างกรรมดีใดนำพามาสวรรค์ จึงวิสัชนาคำจำนรรจ์ ที่มาอันเป็นปฐมตามสมควร หัวข้อ: Re: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 08:56:14 AM ๏ ว่าเหตุแห่งความดีที่นำหนุน สรรค์สร้างบุญมากมายอยู่หลายส่วน จึงเริ่มทบทวนความตามกระบวน อย่างครบถ้วนสาระได้แสดง ๏ “ทุ่งไชยา” หน้าแล้งแสงแดดกล้า เห็นผืนนาดินแยกแตกระแหง ตอซังข้าวเรี่ยรายชายกระแชง เสียงลมแรงสะบัดไกวโบกใบตาล ๏ ริมธารใหญ่ปลายนาหญ้าเขียวอยู่ มากมีหมู่วัวควายชายละหาร เด็กวิ่งเล่นเผ่นโผนโจนลงธาร วังท้ายย่านหนุ่มสาวว่ายเย้ายวน ๏ จนเย็นย่ำสนธยาพากันย้าย ต้อนวัวควายคืนบ้านผ่านนาสวน เดินคันนามาเห็นเป็นกระบวน เล่นสำนวนกลอนร้องท่องต่อกัน ๏ มีหัวโจกของกลุ่มเป็นหนุ่มใหญ่ ชื่อ “นายไท” ขึ้นชื่อเลื่องลือลั่น เป็นนักเลงเก่งมวยหมัดซัดตะบัน ทั้งเชิงดาบทะลวงฟันคนครั่นคร้าม หัวข้อ: Re: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 08:56:56 AM ๏ เป็นลูกชายนายทหารแต่กาลก่อน จากมหานครแห่งสยาม คนทั้งหลายเรียก “นายบุญ” จนคุ้นนาม ท่านมีความเมตตาเอื้ออารี ๏ ไม่ถนัดทำนามาแต่ต้น จึงเป็นคนสร้างรากฐานด้านโรงสี ใช้แรงงานวัวควายทำได้ดี อาชีพมีเสริมมาค้าน้ำตาล ๏ ในหมู่สาวรุ่นราวนี้ที่สวยเด่น ถือว่าเป็นสาวงามประจำย่าน เป็นธิดา “มหาสิน” ปิ่นดวงมาน นามเรียกขานเต็มว่า “ผกากรอง” ๏ เพื่อนเรียกเพียง “ผกา”ผู้น่ารัก คนทั่วย่านรู้จักและยกย่อง เป็นผู้มีน้ำใจใฝ่ปรองดอง ชายหมายปองมากแต่คงมิปลงใจ ๏ คืนนี้กลุ่มหนุ่มสาวเขาทั้งหลาย มีนัดหมายร่วมกันเที่ยวงานใหญ่ ตลอดจนคนเฒ่าแก่แลเยาว์วัย ล้วนหมายใจไปกราบพระ “วัดตะเคียน” หัวข้อ: Re: เริ่มแล้ว...แม่ศรีวรรณทอง ภาค ๓ ธานีศรีวิชัย เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ตุลาคม, 2558, 09:00:48 AM ๏ ณ บ้านลาดวัดนี้มีชื่อลั่น งานเนื่องกันประจำปีมิมีเปลี่ยน ความศักดิ์สิทธิ์อิทธิล้ำนานจำเนียร การเปรียญยิ่งวัดใดทั้งไชยา ๏ ทุกหนทางคนหลั่งไหลไปสู่วัด สารพัดมหรสพครบสาขา คณะดังหนังตะลุง มโนราห์ ลิเกป่า ลิเกบ้าน ลานรำร้อง ๏ การละเล่นเช่นสะบ้า กาฟักไข่ ชักกะเย่อชิงชัยพลังสอง มีมวยลานการต่อยตีกระบี่กระบอง ควงไม้พลองลองพละประดาบกัน ๏ คู่หมากขุมมีมากทั้งหมากรุก ได้สนุกทั้งคนดูคู่แข่งขัน มีของขายจากไกลมาสารพัน มากสีสันชมเพลินจำเริญใจ ๏ ขนมมีมากมายในถิ่นนี้ อร่อยดีลือเลื่องยอดเมืองใต้ “ข้าวเหนียวกวนไชยา” เลิศกว่าใคร “ขนมจั่ง”เนื้อใสเลื่องลือชา |