หัวข้อ: ห้วงแห่งความเหงา เริ่มหัวข้อโดย: ซี ที่ 15 ธันวาคม, 2558, 08:05:54 AM มองผ่านกาลเวลาที่บ่าไหล
ลึกเข้าไปในนั้นพลันใจหาย สารพัดเรื่องจริงของหญิงชาย ที่เวียนว่ายผ่านไปในเวลา บ้างก็จำบ้างก็ลืมบ้างซึมลึก บางคนนึกแล้วอิ่มยิ้มเต็มหน้า บางคนมีแต่ช้ำและน้ำตา หันกลับมามองเราเหงาทุกวัน ซี/15/12/58 หัวข้อ: Re: ห้วงแห่งความเหงา เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 15 ธันวาคม, 2558, 08:33:18 AM อันชีวิตเกิดมาเพื่อรู้ทุกข์
มีเพียงสุขพอได้ไว้สร้างสรรค์ หากจากภพจบชีวินก็สิ้นกัน แล้วเปลี่ยนผันตามวิถีแห่งชะตา อาจจุติเป็นหมู่สัตว์อันสังเวช อาจเป็นเปรตเทวัญกรรมสรรหา อาจเป็นพรหมดื่มด่ำล้ำวิญญา อาจจะได้พบพาทางนิพพาน เมื่อครองรักอย่าคิดว่าหาทุกข์ไม่ ครองทั้งใจก็ไร้สุขทุกสถาน พบรักแล้วพึงพรากจักยากนาน ตามคำขานของธรรมจำได้ดี ท่านอย่าได้เสียใจใคร่ครวญเถิด หากจะเกิดมีรักประภัสร์ศรี ก็ต้องกรรมเกื้อหนุนบุญปรานี จะเจอที่จริงแท้ก่อแก่ใจ สิริวตี หัวข้อ: Re: ห้วงแห่งความเหงา เริ่มหัวข้อโดย: ซี ที่ 15 ธันวาคม, 2558, 08:58:28 AM ด้วยบุญกรรมทำไว้คงไม่มาก
จึงลำบากชาตินี้ที่หมองไหม้ มีรักแท้พลันพรากจะจากไกล ทุกข์ท้อใจซึมหงอยเกินปล่อยวาง.. ซี/15/12/58 หัวข้อ: Re: ห้วงแห่งความเหงา เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 15 ธันวาคม, 2558, 01:08:57 PM ด้วยแรงบุญพาให้พบรักแท้
แต่กรรมแหย่แน่ไซร้ให้เหินห่าง จึงต้องชักชวนนำธรรมหว่างทาง เป็นคู่สร้างคู่สมชมกันไป สิริวตี หัวข้อ: Re: ห้วงแห่งความเหงา เริ่มหัวข้อโดย: ซี ที่ 15 ธันวาคม, 2558, 10:48:08 PM บุญนำแต่กรรมพรากให้จากเขา
สุดแสนเศร้าหม่นหมองแอบร้องไห้ เพิ่งพบกันไม่นานพาลจากไกล เกินจะหักห้ามใจอาลัยครวญ หัวข้อ: Re: ห้วงแห่งความเหงา เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 16 ธันวาคม, 2558, 06:59:16 AM ถึงเวลาก็พบบรรจบใหม่
ท่านอย่าได้พึงร่ำรำพันหวน แม้รักจริงแก่ใจใคร่เชิญชวน อุ่นอบอวลมนตร์รักด้วยกันเทอญ :28: :28: สิริวตี |