หัวข้อ: รำพันกลางป่าช้า เริ่มหัวข้อโดย: มนต์ เมืองชัยภูมิ ที่ 18 ธันวาคม, 2558, 01:49:38 PM รำพันกลางป่าช้า ความทรงจำครั้งหนึ่ง ปฏิบัติธรรมที่ป่าช้านวลแสงอร่ามหล้า จันทร์แรม สง่าเข้าเสียบแซม เกี่ยวฟ้า เรียงรายหมู่ดาวแกม โดดเด่น อกเปลี่ยวหทัยล้า บีบให้ อาวรณ์ พฤกษาล่ากระหยับ ดาษดื่นรับจับพระพาย เอนเอียงเหวี่ยงเข้ากราย ก้านกิ่งใบไสวปลิว สว่างจ่างนาคา เงาจันทราผ่าลอกลิว สยายรายแถวทิว สะดีดดิ้นกสิณธาร ดูไม้ใบแก่ไหม้ ประหนึ่งไร้ในวิญญาณ ล่วงลับอัตรธาณ ไม่อยู่ยั่งยงคงยืน วิเวกแว่ววังเวง ขับบรรเลงเพลงขมขื่น เรไรดูเริงรื่น กระสวนเสร่าเฮฮา นกแสกร้องแหกขวัญ สลับกันผันไปมา ลมโลยโชยพัดพา ปลุกขวัญตื่นสะอื้นครวญ อยู่เดียวเปลี่ยวอุรา กลางป่าช้าน่ารันจวน โอ้จิตคิดนึกหวน ถึงดำรัสสัจธรรม ใต้พระธรณี ล้วนมากมีที่จองจำ ฝังศพดินกลบกล้ำ สังขารอันขันไม่งาม เฝ้าพิจารณา สังขาราอันเสื่อมทราม กำหนดจิตคิดตาม ยึดหลักธรรมนำบรรยาย ใครไหนคิดหลบลี้ จรรีหนีความตาย ยากนักจักสมหมาย เมื่อมีเกิดย่อมมีสูญ ยามลับดับชีวา ดวงวิญญาอย่าอาดูร บุญกรรมนำเกื้อกูล สนองนำเจตจำนงค์ สวรรค์ภพสบศรี หากทำดีมีบุญส่ง โลกันต์จักดันลง หากทำชั่วมั่วบาปหนา อนึ่งซึ่งกายนี้ ใช่ว่าดีมีราคา รูปสวยรวยสง่า ย่อมมลายสลายไป หมู่หนอนชอนกัดกิน เป็นปุ๋ยดินใส่ต้นไม้ ไฟคบกลบเผาไหม้ ประโยชน์ใดไม่มีเหลือ จงเร่งภาวนา สร้างบุญญามาจุนเจือ พระธรรมนำแผร่เผื่อ ให้เฝ้าละอนัตตา ตายจากพรากทุกสิ่ง ล้วนเป็นสิ่งธรรมดา คือกิจอนิจจา ไม่เที่ยงแท้ไม่แน่นอน บทประพันธ์ มนต์ เมืองชัยภูมิ |