เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนเศร้า => ข้อความที่เริ่มโดย: พิณจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 01:11:25 PM



หัวข้อ: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 01:11:25 PM
(https://scontent.fbkk5-2.fna.fbcdn.net/hphotos-xlt1/v/t1.0-9/12729276_1002741183129708_7998268567225110041_n.jpg?oh=7bc3697c08a4bd59cf43f2eb208e417d&oe=5726828A)

...พอทีเถอะ!..

คำโดดเดี่ยวเดียวดายของชายพี่
เถอะ พอทีอย่าเห็นเป็นสนาน
น้องทนฟังก่อนนั้นในวันวาน
มิต้องการให้พี่หมดที่ยืน

มิสงสารตนตัวครอบครัวหรือ
ลูกเมียคือสายไยมิได้ฝืน
เขาเป็นห่วงพี่นั้นทุกวันคืน
พี่กลับชื่นชมแอบอย่างแนบเนียน

มิสงสารพวกเขาเป็นเงาบ้าง
มิเอ่ยอ้างถือสิทธิ์ยามขีดเขียน
เขาอดทนแค่ไหนบาดใจเจียน
แต่พี่เพียรหาน้องเพื่อคล้องใจ

เพียงลำพังทั้งสิ้นถวิลบ้าง
คนแนบข้างชีวิตสถิตย์ไหน
คนที่เคยหยอกเอิญยามเดินไป
พี่ทำไมไม่คิดมอบสิทธิ์เธอ

คำเดียวดายชายพี่มากมีบอก
พี่แกล้งหยอกหรือไรให้เสนอ
คำพูดย้ำซ้ำซากบอกอยากเจอ
พี่ละเมอเสแสร้งหรือแกล้งอำ

วาเลนไทน์ประเพณีพี่ฝรั่ง
พี่ก็ยังเยือนหาช่างน่าขำ
มิเคยกลัวว่าเป็นบาปเวรกรรม
"เมียพี่นำข่าวน้องขอร้องมา"

พิณจันทร์
๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

* เรียนคุณอา เฒ่าธุลี และ นักกลอนท่านอื่นๆพี่วิริน หรือใครๆ มาต่อกลอน ๖บทกันค่ะ คือกลอนยาว ๖บท จะได้ฝึกหาคำฝึกการเล่าเรื่องค่ะ(พิณจันทร์นี่ล่ะ ฮ่าๆ) ซึ่งกลอน ๖บทนั้นให้โอกาสเราในการเล่าเรื่อง ต่างจากการเขียนกลอนสั้นๆ ๒บทที่ผู้เขียนจะต้องเก่งในการจัดรวบรัดใจความให้สั้นลงและเป็นความสามารถเฉพาะตัวของท่านนั้นๆ และที่มองเห็นนั้นมีน้อยมาก อาจารย์ธนุ  อาจารย์เวทิน อาจารย์รามสูรและอีกไม่กี่ท่านเองค่ะ(เขียนยากค่ะ)

เรามาเขียนกลอน ๖บทน้ำไหลไฟดับดีกว่านะคะ ฮ่าๆ ด้วยความเคารพค่ะ ต่ายค่ะ


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 04:28:06 PM

● อันความรักนักกลอน ผู้อ่อนไหว
ใช่เผลอไผลในคำ นำกังขา
ฤาเพียงร้อยสร้อยพจน์ รจนา
ฤาแค่หาเศษเลย เอ่ยคะนอง

● หากคำรักนักกลอน อันอ่อนหวาน
ที่ซาบซ่านซึ้งให้ ใจสนอง
มิใช่จ้องมองตา หาคู่ครอง
ขอนวลน้องละอององค์ จงเห็นใจ

● ที่เอื้อนเอ่ยวาจา บูชารัก
ด้วยประจักษ์รักแจ้ง ฤแห่งไหน
ชีวิตจริงยิ่งแล้ง แห้งอกใน
จึ่งฝันใฝ่ในรัก เฉกนักกลอน

● ให้หลงใหลในรัก นักกวี
ร่ายดนตรีมีมนต์ ดลอักษร
ได้ดั่งเช่นครูกวี ศรีสุนทร
มิถ่ายถอนอารมณ์ ในคมคำ

● ยามนารีสตรีโฉม โสมสะคราญ
มาเกี่ยวพานพลันให้ ฤทัยถลำ
เกิดนิยมชมชื่น รื่นเริงรำ
ให้ชุ่มฉ่ำในทรวง ดวงฤดี

● จึ่งร่ายร่ำคำหวาน สะท้านก้อง
ใช่คำร้องเกี้ยวกล้า พาราสี
แค่ลำนำคำขาน พานพาที
หวังเพียงนี้มิจงเจตน์ ก่อเภทภัย...
..............................

...ขออนุญาตทดลองร่วมฝึกแต่งด้วยคนนะครับ
หากผิดพลาดประการใด
รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะครับ...

ด้วยความเคารพ
Soul Searcher
Inspired to write 15/2/2015
 :14:




หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 04:51:13 PM

บทที่หนึ่งซึ้งจิตลิขิตขาน
บทสองผ่านมานเพ้อละเมอหา
พอรันทดบทสามตามบีฑา
บทสี่หนาบ้าแล้วโดนแห้วกิน

ถึงบทห้าลาลับมิกลับหลัง
บทหกยังยอมภักดิ์รักโฉมฉิน
ด้วยคิดถึงแก้วตาเป็นอาจิณ
ก็ครบสิ้นหกบทมิปดเธอ

ตะวัน

(โดนคุณ soul ปาดหน้าเค้ก เลยไม่รับสัมผัส พิณจันทร์ 55 เดี๋ยว 6 บทจริงๆจะตามมาจ้า)


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 05:00:19 PM

... ต้องขออภัยคุณตะวันด้วยครับ
มิได้เจตนา สงสัยอาจต้องหาระบบคิวแล้วมั้งครับ
เพื่อป้องกันความผิดพลาด...

ขออภัยด้วยครับ
Soul Searcher

 :23:




หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 05:43:25 PM

อ้อๆ ไม่เป็นไรครับ แค่แซวเล่น แบบนี้เป็นเรื่องปกติไม่มีใครว่ากัน...สบายใจได้ ลุยกลอนต่อไปโลด
 :12:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 06:06:21 PM
บทที่หนึ่งบึ่งมาผวาหนัก
ใครหนอชักใส่ความตามเสนอ
บอกว่าชายมีเมียเพลียจริงเออ
รู้กันเกร่อพี่โสดโปรดเข้าใจ

บทที่สองตรองดูจะรู้แจ้ง
พี่มิแกล้งโดดเดี่ยวเปลี่ยวไฉน
ทุกวาจาท่าทีที่เผยไป
ความจริงได้ประจักษ์ว่าภักดิ์นวล

บทที่สามตามต่ออย่าห่อเหี่ยว
เธอคนเดียวเกี่ยวย้ำอย่ากำสรวล
ผูกสนิทติดแน่นแสนรัญจวน
มิเรรวนป่วนใจไปจากพิณ

บทที่สี่พี่หากลำบากจิต
เพราะมอบสิทธิ์เพียงเจ้าเฝ้าถวิล
มิมอบให้ใครอื่นเพื่อฝืนจินต์
เธอได้ยินจากใครโปรดไตร่ตรอง

บทที่ห้ามาถึงคะนึงนุช
จะโทรมทรุดเพราะเหงาจนเศร้าหมอง
อย่าอดสูหูเบาตามข่าวกรอง
สติครองรองรับประทับตน

บทที่หกตกถึงอย่าพึงหน่าย
ข่าวว่าชายหลายใจให้สับสน
เธอเพียงหลอกหยอกย้ำอำหน้ามน
แค่กิ๊กคนที่ห้าอย่าเชื่อนาง

ตะวัน

 :12:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 06:45:35 PM
พอทีเถอะ!คำคมตรอมตรมนัก
สุดจะหักฤทัยทิ้งจริงเสมอ
คำรักหวานรสหูมิรู้เจอ
พาละเมอหลับเคลิ้มเพิ่มในจินต์

เขาแห่เอาความรักมาแจกจ่าย
เพิ่มเรียงรายชวนชมสมถวิล
ความรักคือยาใจในชีวิน
ดูดดื่มกินรสรู้คู่หทัย

แล้วซึมแทรกเข้าสู่สายเลือดหลัก
เริ่มพำนักพักเลี้ยงเคียงหวั่นไหว
และมอบค่านิรันดร์ผูกพันไป
อยู่แห่งใดขอประชิดติดและตาม

พอพ้นผ่านกาลเนาวันแห่งรัก
ได้ประจักษ์รักเริ่มเพิ่มคำถาม
เคยสุขสมอารมณ์ฝันทุกวันยาม
เปลี่ยนเป็นความห่างเหินเมินไม่มอง

พอทีเถอะความเพ้อละเมอฝัน
ลืมคืนวันมั่นคงภักดิ์รักเราสอง
ลืมวันทิ้งขว้างไว้ไม่เกี่ยวดอง
น้ำตานองแห้งแล้วอย่าแคล้วเจอ

พอเถอะพอรักสลายมิกลายกลับ
หากลาลับอย่าหวนชวนจิตเผลอ
ปล่อยฉันไว้ให้ตายคลายรักเธอ
มิพร่ำเพ้อครวญหาลากันที

สิริวตี



กลอนไม่ต่อเลยพิมพ์ค้างคอมไว้แล้วไปทำธุระ แงๆๆๆ


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ประกาศิต ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 08:58:18 PM
เพียงบทเดียวก็แย่แล้วแม่จ๋า
ขืนเล่นห้าต่อหกอกขวัญหนี
ให้ผมคั่นรายการนั้นคงดี
นะคร้าบพี่ผมอ่อนเขียนกลอนจัง

 :28:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 09:44:25 PM

บทที่เจ็ดคั่นกลางระหว่างฝัน
"ประกาศิต"ติดพันอย่าหันหลัง
ช่วย"ตะวัน"สรรค์ถ้อยร้อยประดัง
กลัวพลาดพลั้งเสียทีนารีรุม

ตะวัน

 :28:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 10:04:09 PM
ระวังหน้าหลังไว้ให้จงดี
นารี ณ ตรงนี้มีเป็นกลุ่ม
ศึกสำนวนหัวใจรักชักชุกชุม
เดี๋ยวจะกลุ้มกล้ำกลืนยืนเสียใจ
สิริวตี
 :28: :28:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 10:23:12 PM

หนึ่งต่อห้ามาเลยมิเคยขลาด
จะประกาศเพลงกานท์สะท้านไหว
ยุทธภพจบทั่วมิกลัวใคร
กลัวฤทัยเอวบางเพียงอย่างเดียว

ตะวัน

 :28:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2559, 11:20:31 PM
หนึ่งต่อหนึ่งย่อมได้ไม่กลัวหรอก
ฉันมิหยอกทำเขินเมินกลอนเกี่ยว
เอวสามคนโอบฉันแท้แน่จริงเชียว
หากกลัวเดี๋ยวจะส่งคนปลอบโยนใจ

สิริวตี
 :28:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันรอน ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2559, 10:52:54 PM

หนึ่งต่อหนึ่งแน่หรือคือคำตอบ
กลัวจะลอบนั่งกลุ้มซุ่มหวั่นไหว
ถึงพี่แบกน้ำหนักชักยังไง
แม่เอวหนาคิดใหม่ต่อให้เอย
 
ตะวัน

 :34:ุ



หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 17 กุมภาพันธ์, 2559, 01:42:43 PM
มี"ปัญญาประดุจดังอาวุธ"
ประเสริฐสุดจริงแท้แน่นอนเอ๋ย
หนึ่งต่อหนึ่งจึงมิมัวกลัวพี่เลย
จะแบกเอ่ยอย่างไรไม่พะวง

เพราะมีจิตคิดดำรงคงสติ
แหม!จะริทำกลมนตร์คำหลง
กลัวพี่แพ้แก่นางดักทางตรง
แม้ยืนยงคำหนูมาสู้กัน

ท่านจงเข้าขึ้นตั้งกระทู้ใหม่
กระทู้นี้เกรงใจเขาแล้วนั่น
เล่นจนเลอะเปรอะอยู่ดูไม่ทัน
ขออภัยพี่"พิณจันทร์"คนงามเอย

สิริวตี
 :14:


แก้ไขคร้าบบบบ

มี"ปัญญาเสมือนดังอาวุธ"
ประเสริฐสุดจริงแท้แน่นอนเอ๋ย
หนึ่งต่อหนึ่งจึงมิมัวกลัวพี่เลย
จะแบกเอ่ยอย่างไรไม่พะวง

เพราะมีจิตคิดตรองครองสติ
แหม!จะริทำกลมนตร์คำหลง
กลัวพี่แพ้แก่นางดักทางตรง
แม้ยืนยงคำหนูมาสู้กัน

ท่านจงเข้าขึ้นตั้งกระทู้ใหม่
กระทู้นี้เกรงใจเขาแล้วนั่น
เล่นจนเลอะเปรอะอยู่ดูไม่ทัน
ขออภัยพี่"พิณจันทร์"คนงามเอย

สิริวตี
 :14:

ขอบพระคุณพี่พิณจันทร์ค่ะ...บอกได้ตลอดเลยน้าาา เพราะบ้างครั้งพิมพ์บนช่วงว่างแล้วไม่ได้ตรวจทาน   แต่ถ้าไม่ให้เลอะเทอะหน้าบ้าน บอกในอินบ็อกก็ได้ค่ะ....

เพราะทุกท่านที่อยู่คือครูฉัน
จึงมิหวั่นแก้ไขวางไว้เฉย
โปรดแสดงแจ้งคำผิดอย่าปิดเลย
ช่วยเฉลยเอ่ยพลั้งพลาดมิคลาดคลา

ขอบพระคุณค่ะ
รักเลยๆ
 :9002: :smiley46: :0683:


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์, 2559, 07:11:04 PM
 :12:

ขออนุญาตคุณครูทุกผู้ท่าน
มาต่อขานกานท์บทปรากฏเผย
หากปล่อยไปให้ผ่านเนิ่นนานเคย
อาจละเลยบังคับเหมือนลับลง

 :34:

(มี"ปัญญาประดุจดังอาวุธ"........ประดุจ - อาวุธ / ดุจชิงสัมผัสวุธค่ะ )
 :13:

(จะแบกเอ่ยอย่างไรไม่พะวง

เพราะมีจิตคิดดำรงคงสติ
แหม!จะริทำกลมนตร์คำหลง)
(ดำรงคง ชิงสัมผัส หลง คือมาก่อน หลงนั่นเองค่ะ)

 :24:

เพราะมีจิตรักกลอนอักษรศิลป์
นบกวินครูงามเขียนตามบ่ง
มิเคยคิดล่วงใจอภัยนงค์
จุดประสงค์ถูกต้องครรลองมี

มาก"ปัญญาประดุจอาวุธ"มิ่ง
ประเสริฐยิ่งจริงแท้แน่นอนเอ๋ย
แม้นมิเป็นหนึ่งเขาแต่เราเคย
เขียนมาเกยถูกต้องก็ผ่องตน
.
ขอบคุณค่ะครูกุลขออนุญาตค่ะ
เคารพค่ะ
พิณจันทร์


หัวข้อ: Re: พอทีเถอะ!
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 17 กุมภาพันธ์, 2559, 08:01:32 PM
แก้ไขคร้าบบบ

มี"ปัญญาเสมือนดังอาวุธ"
ประเสริฐสุดจริงแท้แน่นอนเอ๋ย
หนึ่งต่อหนึ่งจึงมิมัวกลัวพี่เลย
จะแบกเอ่ยอย่างไรไม่พะวง

เพราะมีจิตคิดตรองครองสติ
แหม!จะริทำกลมนตร์คำหลง
กลัวพี่แพ้แก่นางดักทางตรง
แม้ยืนยงคำหนูมาสู้กัน

ท่านจงเข้าขึ้นตั้งกระทู้ใหม่
กระทู้นี้เกรงใจเขาแล้วนั่น
เล่นจนเลอะเปรอะอยู่ดูไม่ทัน
ขออภัยพี่"พิณจันทร์"คนงามเอย

สิริวตี
 :14:

ขอบพระคุณพี่พิณจันทร์ค่ะ...บอกได้ตลอดเลยน้าาา เพราะบ้างครั้งพิมพ์ตอนช่วงว่างแล้วไม่ได้ตรวจทาน   แต่ถ้าไม่ให้เลอะเทอะหน้าบ้าน บอกในอินบ็อกก็ได้ค่ะ....^^

เพราะทุกท่านที่อยู่คือครูฉัน
จึงมิหวั่นแก้ไขวางไว้เฉย
โปรดแสดงแจ้งคำผิดอย่าปิดเลย
ช่วยเฉลยเอ่ยพลั้งพลาดมิคลาดคลา

ขอบพระคุณค่ะ
รักเลยๆ จุ๊ฟๆๆ
 :9002: :smiley46: :0683: