หัวข้อ: เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 04:14:41 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน บทเกริ่นนำ ** ขอนอบน้อมบูชาพระไตรรัตน์ น้อมมนัสตั้งจิตมั่นไม่หวั่นไหว กราบบูชาระลึกคุณเทิดทูนไว้ เหนือสิ่งใดเป็นสำคัญอย่างมั่นคง
** กราบพระพุทธสุดประเสริฐเลิศล้ำโลก ไม่มีทุกข์ ไม่มีโศก โลภ โกรธ หลง พระผู้ตื่นผู้รู้แจ้งด้วยพระองค์ เป็นผู้ทรงปัญญาเหนือกว่าใคร
** กราบพระธรรมคำสอนพระศาสดา น้อมนำมาปฏิบัติด้วยเลื่อมใส ชำระกายวาจาและจิตใจ ขอจงได้นำส่งสู่นิพพาน
** กราบพระสงฆ์องค์สืบต่อพระศาสนา ทรงคุณค่ายิ่งใหญ่ในสงสาร ประพฤติดีประพฤติชอบตลอดกาล เป็นวงศ์วานพุทธองค์พระทรงธรรม์
** กราบพระคุณแม่พ่อผู้ก่อเกิด ให้กำเนิดชีวิตคิดรังสรรค์ เป็นพรหมและอาจารย์พร้อมพร้อมกัน พระอรหันต์สอนลูกเป็นคนดี
** เฝ้าถนอมดูแลและกล่อมเกลี้ยง แม้ทุกข์ยากเต็มใจเลี้ยงไม่หน่ายหนี เสียสละทุกอย่างแม้ชีวี เพื่อลูกมีความสุขปลอดทุกข์ภัย
** กราบแทบเท้าคุณครูและอาจารย์ ผู้ให้การอบรมบ่มนิสัย และสั่งสอนวิชาการให้ตามวัย งานวิจัยสืบค้นพร่ำบ่นเพียร
** ในวันนี้จะทำงานอย่าสับสน จงช่วยดลเกิดปัญญาขณะเขียน ท่านผู้อ่านประทับใจไม่ติเตียน หากผิดเพี้ยนก็ว่าดีมีเมตตา |
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 05:35:58 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน กษัตริย์ ๒ สหาย ** จะขอกล่าวเล่าเรื่องแต่เบื้องหลัง เมื่อคราวครั้งพุทธกาลนานหนักหนา องค์สมเด็จพระบรมศาสดา ทรงประทับ ณ พาราโกสัมพี
** ทรงปรารภการตายของหญิงสาว เป็นเรื่องราวในอดีตของโฉมศรี มาคันทิยา และ สามาวดี จึงทรงมีพระธรรมเทศนา
** ในครานั้นยังมีสองกษัตริย์ ครองสมบัติเริงรื่นชื่นหรรษา เป็นสหายรักกันเนิ่นนานมา ตั้งแต่เรียนวิชาครั้งยังเยาว์
** องค์หนึ่งชื่อว่า "อัลลกัปปะ" สถานะยิ่งใหญ่ไม่อับเฉา ตั้งมั่นอยู่ในธรรมไม่มัวเมา ทรงแนบเนาเป็นที่รักของทุกคน
** อีกองค์หนึ่ง "เวฏฐทีปกะ" ทรงยึดมั่นธรรมะไม่หมองหม่น ทรงปกครองไพร่ฟ้ามหาชน ไร้กังวลเกิดสุขทุกข์ห่างไกล
** ครั้นเวลาผ่านไปจึงได้คิด แสนอนาถชีวิตเสียไฉน มาปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป มัจจุราชเป็นใหญ่เฝ้ารังควาญ
** ทุกคนที่เกิดมาในหล้าโลก วิปโยคชีวิตไร้แก่นสาร ขาดที่พึ่งใดใดไม่เบิกบาน มีแต่ทุกข์อันธกาลสุดเศร้าใจ ** จึงชวนกันออกบวชเป็นฤๅษี ด้วยความหวังจะมีธรรมบทใหม่ มาชำระสะสางกายข้างใน จะเกิดความสดใสที่แท้จริง
** เพื่อเป็นการปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่ จึงตั้งใจแยกกันไม่สุงสิง อยู่ห่างกันคนละทิศจิตประวิง บำเพ็ญเพียรอย่างยิ่งเข้าใจกัน
** ตกลงกันไว้ว่าจะจุดไฟ ถ้าเมื่อใดไฟดับต้องคับขัน หากไม่ป่วยก็ตายลงไปพลัน เป็นสัญญาณผูกพันเพียงสองคน
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:27:43 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน เรียนมนต์และพิณ ** ครั้นเวลาผ่านไปไม่นานนัก ฤๅษีที่พำนักในไพรสณฑ์ "เวฎฐทีปกะ"บำเพ็ญตน ถึงเวลาต้องพ้นละโลกไป
** ครบครึ่งเดือนเพื่อนรู้ว่าตายแน่ เป็นกรรมแท้ของมนุษย์สุดแก้ไข อัน เกิด แก่ เจ็บ ตาย มิเว้นใคร ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
** บังเกิดเป็นเทพเจ้ามีศักดิ์ใหญ่ สถิตในวิมานสโมสร คิดไปเยี่ยมเพื่อนรักด้วยอาวรณ์ จึงรีบจรอำพรางอย่างหลงทาง
** ถึงสำนักอัลละท่านดาบส ตามกำหนดยืนไหว้อยู่ห่างห่าง ท่านอัลละมองเห็นจึงละวาง ภารกิจทุกอย่างในทันที
** ท่านเป็นใครจากไหนโปรดแถลง จงชี้แจงการเข้ามาที่นี่ เราหลงทางกลางป่าพนาลี ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าฟัน
** จึงถามว่าท่านอยู่ผู้เดียวหรือ อัลละจึงร้องฮือใช่แล้วนั่น แต่ก่อนนี้มีเพื่อนที่รักกัน ต้องจาบัลย์เศร้าโศกละโลกแล้ว
** เทพเจ้าบอกว่าคือข้านี้ ครั้นเมื่อสิ้นชีวีใจผ่องแผ้ว อุบัติในวิมานอันเพริศแพรว ปราสาทแก้วที่พักในวิมาน
** ท่านเดือดเนื้อร้อนใจอะไรบ้าง อย่าอำพรางบอกไปรีบไขขาน มีศัตรูหมู่สัตว์มาแผ้วพาน ให้รำคาญเดือดร้อนจะผ่อนปรน
** ท่านอัลละบอกว่าข้าเดือดร้อน มีช้างจรมากมายทำลายป่น มาถ่ายมูลทิ้งไว้สุดจะทน แสนอับจนแก้ไขไม่ได้เลย
** เทพบุตรบอกว่าต่อไปนี้ ขอท่านพี่จงนั่งอยู่เฉยเฉย จะไม่มีช้างป่านะท่านเอย มารบกวนอย่างเคยอย่าห่วงใย
** จึงมอบพิณและมนต์กำกับช้าง เป็นแนวทางดูแลและแก้ไข เมื่อดีดพิณสายหนึ่งขึ้นคราใด ช้างหนีไปไม่หันมาเหลียวมอง
** ถ้าต้องการให้หันแต่วิ่งหนี กำกับมนต์พร้อมทีดีดสายสอง สายที่สามทำให้เกิดปรองดอง ช้างจะหมอบประคองอัญชุลี
** นับแต่นั้นดาบสได้ไล่ช้าง ไม่ให้มากีดขวางในพื้นที่ ความสุขและสบายจึงเกิดมี เพราะมนต์ดีมีพิณจึงสุขใจ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:30:27 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนกับนกหัสดีลิงค์ ** ในกาลนี้ยังมีจอมกษัตริย์ "ปรันตปะ" ครองรัฐที่กว้างใหญ่ โกสัมพีนครขจรไกล สุขสดใสพร้อมด้วยชาวพารา
** ณ วันหนึ่งปรารภกับอัคราช อนงค์นาฏจอมนางเสน่หา ถึงเรื่องราวของครรภ์จอมขวัญตา ทรงไต่ถามชายาถึงลูกน้อย
** ขณะนั้นพญานกออกล่าเหยื่อ หัสดีลิงค์คิดว่าเนื้อคงอร่อย รีบถาโถมโจมตีไม่รอคอย จึงโผลงเสียงพลอยดังอื้ออึง
** พระราชาทรงหนีเอาตัวรอด มเหสียอดมิตรคิดไม่ถึง กรงเล็บนกขยุ้มไม่คำนึง มุ่งเพียงเหยื่อซึ่งเห็นอยู่ไกลไกล
** มเหสีตั้งสติเอาไว้มั่น มีโอกาสจะสู้มันไม่หวั่นไหว เมื่อนกนำมาวางคาคบไม้ จึงตะโกนหวังไล่ในทันที
** หัสดีตกใจไม่รอช้า รีบถลาบินไปเพื่อหลีกหนี ถึงเวลาพลบค่ำเข้าพอดี ยอดนารีปั่นป่วนในพระครรภ์
** ฟ้าคำรามดังก้องทั่วท้องฟ้า จะข่มตาให้หลับยังไหวหวั่น ตลอดคืนที่นางต้องจาบัลย์ และป่วนปั่นในอุทรพาร้อนรน
** ถึงเวลาสว่างกระจ่างใส ทรงประสูติทันใดไม่หมองหม่น มารดาทรงตั้งชื่อเป็นมงคล ว่า "อุเทน" สุขล้นเป็นเพศชาย
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:37:40 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน อัลลกัปปะดาบสเสียพิธี ** ส่วนอัลละฤๅษีมีกิจวัตร หาอาหารบำบัดหิวกระหาย ถึงต้นไทรใบหนาผลมากมาย เสียงเด็กชายร้องจ้าอยู่ข้างบน
** แหนหน้าดูรู้ว่ามีผู้หญิง พร้อมกับเด็กจริงจริงใช่สับสน ร้องถามว่าเป็นใครใยซุกซน ขึ้นไปอยู่ข้างบนกิ่งต้นไทร
** พระนางจึงเล่าเรื่องแต่หนหลัง ตั้งแต่เริ่มมายังต้นไม้ใหญ่ ทรงประสูติโอรสในทันใด จึงพบฤๅษีไพรพูดคุยกัน
** ต่างก็รู้อยู่ในวรรณะกษัตริย์ เคยครองเศวตฉัตรใหญ่มหันต์ ได้พึ่งพาอาศัยในปัจจุบัน อยู่กลางพนาวันแต่นั้นมา
** อันโลกีย์วิสัยใครห้ามได้ เกิดขึ้นแล้วทำให้ใจโหยหา จะติดในอารมณ์จมกามา ลืมดินฟ้าถูกผิดคิดไม่ดี
** พระดาบสศีลขาดพินาศแล้ว ร่วมสังวาสนางแก้วมเหสี รับอุเทนเป็นบุตรสุดปรานี เฝ้ากล่อมเกลี้ยงเลี้ยงชีวีตลอดมา
** มาวันหนึ่งดาบสมองดูดาว จึงรู้ข่าว "ปะรันตปะ" แทบผวา สวรรคตลับแล้วจอมพารา พากันหลั่งน้ำตาทุกคนไป
** มเหสีฟังข่าวพาเศร้าโศก วิปโยคโสกาน้ำตาไหล พระดาบสถามว่าร้องทำไม จึงเปิดใจบอกเรื่องสวามี
** พระดาบสปลอบว่าอย่าโศกเศร้า เป็นธรรมชาตินะเจ้าแม่โฉมศรี เกิดมาแล้วต้องตายวายชีวี จะไม่มีใครหนีไปได้เลย
** มเหสีทูลว่าเข้าใจจ้า ที่ร้องไห้เพราะว่าเกินทนเฉย ราชบุตรชวดสมบัติมาชมเชย เพราะอยู่ไกลสุดเอ่ยทวงเอาคืน
** ฝ่ายดาบสรับปากจะจัดให้ ราชบุตรต้องได้ไม่อาจฝืน เริ่มสอนมนต์และพิณอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะทวงคืนพระพารา
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:41:02 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน กุมารอุเทนยกทัพช้าง ** ครั้นถึงวันเดินทางเยื้องย่างจาก แม่เอ่ยปากเรียกเจ้าเข้ามาหา จึงเล่าความตามจริงที่เป็นมา พร้อมสิ่งของของมารดาเพื่อยืนยัน
** ผ้ากำพลเป็นพระภูษาห่ม องค์บรมทรงประทานเป็นของขวัญ ธำมรงค์เครื่องประดับก็สำคัญ เพื่อยืนยันว่าโอรสหมดเคลือบแคลง
** พระกุมารระดมช้างด้วยเวทย์มนต์ มากมายล้นหลายพันอันเข้มแข็ง มุ่งสู่โกสัมพีเพื่อแสดง สิทธิแห่งสมบัติขัตติยวงศ์
** ถึงชายแดนเกลี้ยกล่อมพวกชาวบ้าน มาเป็นบริวารช่วยเสริมส่ง เป็นพลังมากล้นที่มั่นคง เพื่อต่อรองตกลงมอบบ้านเมือง
** ร้องประกาศไปว่าจะให้รบ หรือว่ายอมสยบเลิกคุยเขื่อง มอบสมบัติโดยดีมิขุ่นเคือง พวกชาวเมืองบอกว่าข้าไม่ยอม
** เราจะรอข่าวคราวมเหสี มิ่งโมลีดวงใจใคร่ถนอม พระโอรสประกาศว่าอย่าตรมตรอม เราคือจอมบดินทร์ปิ่นนัครา
** เป็นโอรสของท้าวปรันตปะ ผู้ดำรงซึ่งธรรมะดีนักหนา มเหสีที่จากไปเป็นมารดา จึงนำผ้ากัมพลมาให้ดู
** พร้อมทั้งธำมรงค์วงสำคัญ พวกชาวเมืองร้องลั่นกันทั้งหมู่ พวกทหารพร้อมใจเปิดประตู เชิญโอรสเข้าสู่พระราชวัง
** อภิเษกราชกุมารพระองค์ใหม่ ดอกไม้ไฟสวยดีมีมนต์ขลัง ประชาชนต่างสนุกสุขใจจัง พระราชวังดังวิมานตระการตา
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:43:17 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน สองผัวเมียเดินทางไปหาอาชีพ ** แคว้นอัลละกัปปะในครานั้น เกิดวิโยคโศกศัลย์เป็นนักหนา แสนประหลาดขาดแคลนทั้งข้าวปลา อหิวาต์ระบาดอนาถใจ
** สองสามีภรรยาพาลูกอ่อน เพื่อเร่ร่อนไปหาที่อยู่ใหม่ มุ่งหน้าโกสัมพีโดยเร็วไว ตัดสินใจจรลีหนีความตาย
** เวลาผ่านอาหารก็หมดสิ้น หมดเรี่ยวแรงจะดิ้นพาใจหาย คิดทิ้งลูกที่เคยโอบแนบกาย ภรรยาว่าแม้ตายก็ไม่ยอม
** สามีจึงบอกว่าถ้าไม่ตาย เราคงมีลูกหญิงชายไว้ถนอม ประดุจดังแก้วใจไม่ตรมตรอม เมื่อเราพร้อมเพียงผ่านไปไม่นานวัน
** สรุปว่าสามีทอดทิ้งลูก พ่อบุญปลูกลูกน้อยต้องอาสัญ สองสามีภรรยาเดินทางพลัน ถึงตระกูลโคบาลอันใหญ่โต
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:46:33 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน สามีตายไปเกิดเป็นสุนัข ** ในวันนั้นมีการทำบุญบ้าน นายโคบาลสร้างบุญอย่างสุโข นิมนต์องค์ปัจเจกพุทโธ สวดนโมถวายทานเบิกบานใจ
** มองเห็นสองสามีภรรยา เดินเข้ามาให้สงเคราะห์ยิ่งเหมาะใหญ่ จึงให้ข้าวปายาสกับเนยไป ทั้งสองคนขอบใจอย่างมากมาย
** ภรรยาเห็นว่าสามีหิว จึงยกนิ้วเปิดทางอย่างมุ่งหมาย ให้สามีกินอิ่มได้สบาย ตัวเองแค่กันตายก็เพียงพอ
** ส่วนสามีหิวมากไม่ยั้งคิด กินจนเกินไปนิดน้ำลายสอ ชอบสุนัขตัวเมียที่เคลียคลอ ตกกลางคืนผู้พ่อก็ขาดใจ
** จึงไปเกิดในท้องของสุนัข ด้วยปัจจัยเกิดรักและฝักใฝ่ ภรรยาจะขออยู่ต่อไป กับโคบาลยิ่งใหญ่ผู้ใจบุญ
** ถึงเวลาสุนัขก็ออกลูก จึงพันผูกโคบาลต้องอุดหนุน คอยให้น้ำให้ข้าวเฝ้าเจือจุน จนโตใหญ่เป็นวัยรุ่นคึกคะนอง
** องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ได้สงเคราะห์ก้อนข้าวไม่หม่นหมอง ให้สุนัขตัวดีที่เฝ้ามอง เพราะหวังปองอาหารเหมือนดังเคย
** ด้วยสาเหตุพระปัจเจกะต้องมาฉัน ทุกทุกวันตามเวลาไม่เมินเฉย นายโคบาลรับส่งไม่ละเลย จึงคุ้นเคยกับสุนัขประจักษ์จริง
** ในบางครั้งไปรับพระแทนโคบาล ดังคำขานเจ้าของบอกในทุกสิ่ง ความสัมพันธ์ใกล้ชิดจิตประวิง รักจริงจริงในพระสุดจะทน
** ครั้นถึงวันที่พระกลับภูเขา สุดบรรเทาโศกเศร้าเฝ้าหมองหม่น พระลับตาหายไปใจร้อนรน เกิดกังวลหัวใจวายตายฉับพลัน
** ด้วยเดชะกุศลตนทำไว้ จึงทำให้บังเกิดในสวรรค์ ชื่อโฆสกเทพบุตรสุดจำนรรจ์ มีเสียงดังก้องลั่นสนั่นไกล
** โฆสกะหลงใหลในเมถุน ด้วยจิตใจว้าวุ่นไม่สดใส ถึงเวลาจุติตัดเยื่อใย จากสวรรค์ลงไปเมืองมนุษย์
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:49:55 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน กำเนิดโฆสกเศรษฐี ** ปฏิสนธิ์ในท้องหญิงงามเมือง ที่ลือเลื่องว่างามเป็นที่สุด แห่งกรุงโกสัมพีที่สมมติ ว่างดงามประดุจเมืองเทวา
** พอรู้ว่าเป็นชายเสียดายนัก จึงให้นำลูกรักเอาไปฆ่า ประเพณีหญิงงามเมืองแต่ก่อนมา จะไม่ไว้ชีวาของลูกชาย
** มีชาวบ้านเป็นหญิงไปพบเข้า บุญของเจ้าเด็กน้อยไม่เสียหาย ยังไม่ถึงวาระจะต้องตาย รับเด็กชายเป็นลูกรักผูกพัน
** ในครั้งนั้นเศรษฐีผู้มีทรัพย์ น้อมคำนับปุโรหิตตั้งจิตมั่น อยากจะรู้เหตุการณ์ในปัจจุบัน แต่ละวันเกิดอะไรในโลกา
** ปุโรหิตจึงเล่ากล่าวชี้แจง ในวันนี้ร้อนแรงเป็นหนักหนา มีเด็กชายคนหนึ่งได้เกิดมา วาสนาร่ำรวยด้วยเงินทอง
** เศรษฐีจึงส่งคนไปถามข่าว ถึงเรื่องราวภรรยาที่ตั้งท้อง เมื่อแน่ใจไม่คลอดตามทำนอง ให้กาลีไปขอร้องซื้อเด็กมา
** นางกาลีสืบดูจึงรู้เรื่อง มีเด็กเกิดนอกเมืองรีบไปหา เมื่อได้พบขอซื้อด้วยเงินตรา แล้วรับตัวเด็กมาโดยเร็วไว
** ท่านเศรษฐีวางแผนอย่างซับซ้อน ต้องได้ผลแน่นอนดีไฉน ถ้าลูกเราเป็นหญิงไม่เป็นไร ให้แต่งงานกันไปก็ได้ดี
** ถ้าลูกเราเกิดมาเป็นผู้ชาย ก็ฆ่ามันให้ตายไปเป็นผี แล้วยกย่องลูกเราโดยทันที จะได้เป็นเศรษฐีไม่อาทร
** กัมมุนา วัตตะตี โลโก องค์พุทโธ ทรงตรัสเป็นคำสอน สร้างกรรมใดได้ผลอย่างแน่นอน ตัวกรรมนั้นจะย้อนมาหาตน
** ในที่สุดภรรยาท่านเศรษฐี ได้คลอดบุตรตามที่ปฏิสนธิ์ เป็นผู้ชายไม่คาดฝันวันมงคล ท่านเศรษฐีเริ่มคิดค้นฆ่าเด็กชาย
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:53:13 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน เศรษฐีคิดฆ่าโฆสกะ ** จึงรีบบอกให้กาลีนำไปฆ่า วางขวางทางไปมาโคทั้งหลาย หวังให้โคเหยียบเด็กจนวอดวาย ตายไม่ตายรีบกลับมารายงาน
** อุสภะโคใหญ่เป็นหัวหน้า ใช้กายายืนคร่อมไม่ให้ผ่าน โคไม่เหยียบร่างกายของกุมาร เด็กชายไม่วายปราณเพราะมีบุญ
** ครั้งที่สองหวังให้ล้อเกวียนทับ พวกโคไม่ขยับให้ล้อหมุน รอดตายเพราะกรรมดีที่เจือจุน เด็กมีบุญคุ้มครองไม่หมองมัว
** ครั้งที่สามไปทิ้งที่ป่าช้า ด้วยหวังว่าให้สัตว์ขบกัดหัว หรือผีดิบกัดกินสิ้นทั้งตัว ช่างน่ากลัวจริงจริงทิ้งได้ลง
** ด้วยกุศลผลบุญที่เคยสร้าง สุนัขบ้างกาบ้างเหมือนลืมหลง แม้จะเห็นเด็กชายก็เกิดงง ไม่กล้าจะมุ่งตรงเข้ากัดกิน
** ชายเลี้ยงแพะพาแพะกินอาหาร เป็นทางผ่านชั่วชีวิตนิจสิน แพะเข้าไปคุกเข่าให้นมกิน เด็กไม่สิ้นชีวาน่าแปลกจัง
** ท่านเศรษฐีไม่ละพยายาม เพื่อทำตามปณิธานที่มุ่งหวัง ฆ่าเด็กน้อยทิ้งไปไม่อินัง ติดตามฟังบั้นปลายเป็นอย่างไร
** ในครั้งนี้ให้กาลีไปทิ้งเหว หวังจะให้แหลกเหลวดังฝันใฝ่ ด้วยบุญของเด็กน้อยที่สร้างไว้ รอดพ้นอันตรายได้อีกครา
** กาลเวลาผ่านไปไม่เคยนิ่ง ทุกทุกสิ่งเปลี่ยนไปไม่มุสา เด็กชายเจริญวัยใหญ่ขึ้นมา ได้ชื่อว่า “โฆสกะ” เฝ้าพะนอ
** ท่านเศรษฐีวางแผนจะฆ่าใหม่ โดยส่งไปยังบ้านนายช่างหม้อ ให้สับเป็นท่อนท่อนอย่ารีรอ แล้วใส่ไฟเผาต่อให้แหลกลาญ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 06:56:30 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ** อันกรรมใดใครทำกรรมสนอง ผู้ทำต้องรับกรรมที่เผาผลาญ ทุกข์อะไรใครก่อให้รำคาญ อีกไม่นานทุกข์นั้นจะถึงตน
** ท่านเศรษฐีมอบหมายให้โฆสกะ ทำธุระตามแผนอย่าตกหล่น ด้วยคิดว่าอย่างไรก็ไม่พ้น ต้องอับจนถึงตายได้แน่นอน
** บอกให้ไปหานายช่างหม้อ เพื่อดำเนินการต่อเรื่องหลอกหลอน โฆสกะรับคำไม่อาทร มุ่งหน้าจรหมู่บ้านไม่ห่างไกล
** แต่พอดีลูกชายท่านเศรษฐี ร้องเอ่ยถามว่าพี่จะไปไหน มาเปลี่ยนกันตัวพี่ไม่ต้องไป ไม่เป็นไรธุระจะทำแทน
** ขอเพียงแต่พี่ชายช่วยเล่นคลี ทำคะแนนดีดีให้มากแสน เอาชนะให้ได้ด้วยคะแนน ส่วนธุระทำแทนอย่ากังวล
** เนื่องด้วยเหตุให้ทุกข์ผู้อื่นก่อน ทุกข์นั้นจึงกลับย้อนให้สับสน จะฆ่าเขาคนถูกฆ่าคือลูกตน ท่านเศรษฐีหมองหม่นในอุรา
** ธรรมชาติอสรพิษที่คิดร้าย ก็ไม่วายแผลงฤทธิ์คิดจะฆ่า ท่านเศรษฐีครุ่นคิดพิจารณา หาวิธีดูว่าฆ่าอย่างไร
** จึงส่งไปหมู่บ้านคนเก็บส่วย ยืมมือให้ช่วยฆ่าอย่าเหลวไหล ถึงกลางวันฆ่ากลางวันโดยทันใด ถึงเมื่อไรฆ่าเมื่อนั้นในทันที
** โฆสกะถือสารผ่านมาถึง หมู่บ้านซึ่งเป็นที่พักเพื่อนเศรษฐี รีบเข้าไปคารวะไม่รอรี รายงานตัวตามที่เขาบอกมา
** ภรรยาท่านเศรษฐีดีใจนัก ใจนึกรักโฆสกะเมื่อเห็นหน้า อยากจะยกลูกสาวให้เป็นภรรยา จึงต้อนรับเข้ามาด้วยใจจริง
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:01:12 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ลูกสาวท่านเศรษฐีแปลงสาร ** พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ว่า ความรักจักเกิดมาด้วยสองสิ่ง เคยอยู่ร่วมกันมาอย่าประวิง อีกหนึ่งสิ่งเกื้อกูลกันหมั่นดูแล
** ในอดีตธิดาท่านเศรษฐี เป็นผู้มีบุรพกรรมตามกระแส อยู่ร่วมกันในกาลก่อนไม่อ่อนแอ คอยดูแลโฆสกะมาจนตาย
** ครั้นมีสารสั่งฆ่าโฆสกะ เกรงเกิดความหายนะดังมั่นหมาย โฆสกะนอนหลับอย่างสบาย แม่โฉมฉายแปลงสารกาลนั้นเอง
** ถึงเมื่อใดจงจัดการจากบ้านส่วย จัดบรรณาการไปด้วยอย่าข่มเหง ทำมงคลวิวาห์ให้ครื้นเครง มีดนตรีบรรเลงให้รื่นรมย์
** ปลูกเรือนหอสองชั้นให้สวยหรู ลูกเศรษฐีเป็นคู่ดูเหมาะสม ทำสำเร็จมีของขวัญยอดนิยม ให้ทุกคนได้ชื่นชมอย่างแน่นอน
** โฆสกะตื่นมาลาเศรษฐี รีบเดินทางทันทีมิหยุดหย่อน เพื่อทำงานให้เสร็จได้รีบจร กลับคืนย้อนสู่เรือนเหมือนดังเดิม
** พวกนายส่วยรู้เรื่องจากจดหมาย รีบกระจายบอกกล่าวเป็นข่าวเสริม แสนยินดีช่วยกันหมั่นเพิ่มเติม จากริเริ่มจนสุดท้ายสำเร็จพลัน
** เป็นอันว่าโฆสกะเข้าพิธี วิวาห์ลูกเศรษฐีดังหมายมั่น ได้ครองเรือนเคียงคู่อยู่ด้วยกัน ทุกคืนวันมีสุขสนุกสบาย
** ฝ่ายเศรษฐีมีทุกข์เข้าโถมทับ กินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ทำไมหนอจึงฆ่ามันไม่ตาย จึงทุรนทุรายจนลงแดง
** ภรรยาโฆสกะได้สั่งการ ให้พวกบริวารช่วยกันแจ้ง ถ้าข่าวคราวของเศรษฐีอย่าแสดง ให้โฆสกะได้เคลือบแคลงรับรู้เลย
** จงบอกนางคนเดียวเท่านั้นพอ ใคร่ร้องขอจงอย่าได้เปิดเผย จะเป็นคนสั่งการเหมือนที่เคย ใครละเลยต้องโทษโปรดเข้าใจ
** ท่านเศรษฐีโกรธแค้นโฆสกะ พูดจริงนะสมบัติเราไม่ให้ อยากจะพบโฆสกะโดยเร็วไว สั่งการไปรีบมาหาโดยพลัน
** ภรรยาโฆสกะจึงถามดู เพื่อให้รู้อาการอย่างไรนั่น ครั้นรูว่าไม่หนักจักป้องกัน ไม่ให้โฆสกะหันกลับไปมอง
** ท่านเศรษฐีส่งข่าวครบสามครั้ง แต่ก็ยังไม่เห็นหน้าพาเศร้าหมอง อาการป่วยกำเริบเข้าครอบครอง ใกล้จะต้องอาสัญอย่างมั่นคง
** จนสุดท้ายรู้ว่าอาการหนัก บอกผัวรักให้เข้าใจดังประสงค์ ถึงวาระท่านเศรษฐีคงปลดปลง วายชีพลงสิ้นใจอีกไม่นาน
** นางจึงบอกโฆสกะให้รู้ว่า เราจะไปเยี่ยมคารวะบิดาท่าน พร้อมทั้งบอกเรื่องราวและอาการ ขืนชักช้าเนิ่นนานคงสายไป
** เมื่อถึงแล้ววางอุบายให้โฆสกะ นางจะยืนด้านศรีษะเศรษฐีใหญ่ โฆสกะยืนปลายเท้าโดยเร็วไว แล้วบอกเศรษฐีใหญ่ว่าลูกมา
** ท่านเศรษฐีอยากบอกให้รับรู้ สมบัติที่มีอยู่อย่ากังขา จะไม่ให้เจ้าเลยเอ่ยวาจา กลับพูดว่า มอบให้เจ้าครอบครอง
** เมื่อกล่าวจบเศรษฐีก็สิ้นใจ ละจากโลกนี้ไปใจเศร้าหมอง ทุคติเป็นที่หวังดังใจปอง ต้องร่ำร้องรับกรรมที่ทำมา
** เมื่อปลูกข้าวได้ข้าวดังหมายมั่น เมื่อปลูกมันได้มันดังปรารถนา เมื่อทำดีมีสุขทุกเวลา เมื่อทำชั่วทุกข์พาให้ร้อนรน
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:04:23 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน โฆสกะรับตำแหน่งเศรษฐี ** อุเทนราชทราบข่าวท่านเศรษฐี จึงรีบมีบัญชาอุราหม่น ให้จัดการเรื่องศพในบัดดล เพื่อเป็นเกียรติแก่คนที่จากไป
** ครั้นงานศพผ่านไปดังใจหมาย จึงคิดให้ลูกชายเศรษฐีใหญ่ เป็นเศรษฐีสืบต่อโดยเร็วไว ทรงรับสั่งออกไปไม่รอรี
** ทรงโปรดให้โฆสกะได้เข้าเฝ้า เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งสมศักดิ์ศรี แต่บังเอิญฝนตกมาพอดี ที่ลานหลวงจึงมีน้ำเจิ่งนอง
** โฆสกะกระโดดข้ามน้ำไป เพื่อเข้าเฝ้าเร็วไวรับสนอง ครั้นแต่งตั้งสำเร็จไม่คะนอง เดินสำรวมท่องน้ำออกจากวัง
** พระราชาตรัสสั่งให้เรียกหา รีบตามตัวกลับมาตามรับสั่ง โฆสกะบังคมหน้าบัลลังก์ จึงทรงมีรับสั่งร้องถามไป
** ตอนเข้าวังกระโดดและโลดเต้น เรามองเห็นยังขำจำได้ไหม แต่ตอนกลับสำรวมอย่างจริงใจ เพราะเหตุใดจงเฉลยเอ่ยวาจา
** โฆสกะกราบทูลเฉลยถ้อย ตอนเข้ามาข้าน้อยไร้เดียงสา รับตำแหน่งเศรษฐีประทานมา ตัวของข้าเป็นผู้ใหญ่จึงต้องเจียม
** อุเทนราชพอใจในคำตอบ คนผู้นี้ดำริชอบสงบเสงี่ยม วางตัวดีไม่มีใครทัดเทียม รู้จักเจียมเจรจาพาเจริญ
** เศรษฐีโฆสกะขมันขมี ตั้งโรงทานทันทีน่าสรรเสริญ สละทรัพย์วันละพันพร้อมชวนเชิญ คนกำพร้าคนเดินทางมาไกล
** รับประทานอาหารให้อิ่มหนำ ก่อนจะทำกิจกรรมหรือไปไหน ให้อิ่มท้องไว้ก่อนสิ่งอื่นใด เมื่อสงเคราะห์แล้วใจแสนสบาย
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:11:02 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน เพื่อนที่ไม่เคยพบเห็นกัน ** จะขอกล่าวถึงเศรษฐีอีกท่านหนึ่ง ผู้ที่พึงนับว่าเป็นสหาย ของท่านโฆสกะพ่อยอดชาย ทั้งสองนายไม่เคยพบหน้ากัน
** มีชื่อว่าท่านภัททวดีย์ เป็นเศรษฐียิ่งใหญ่ในเขตขันธ์ นครภัททวดีมีสัมพันธ์ เป็นเพื่อนที่รักกันแม้อยู่ไกล
** เนื่องจากการบอกกล่าวของพ่อค้า ต่างส่งบรรณาการมาอย่างยิ่งใหญ่ ผูกสัมพันธ์เป็นเพื่อนด้วยจริงใจ วันเวลาผ่านไปใจมั่นปอง
** ในกาลนั้นอหิวาตกโรค ได้ระบาดแสนโศกและเศร้าหมอง หลายหลายคนโศกาน้ำตานอง หลายหลายคนถึงต้องวายชีวา
** ภัททวดีย์เห็นว่าไม่ดีแน่ ขืนเชือนแชต้องดิ้นสิ้นสังขา พาลูกเมียหนีไปจากพารา ต่างมุ่งหน้าสู่กรุงโกสัมพี
** โฆสกะเศรษฐีเป็นที่หมาย เป็นที่พึ่งสุดท้ายในกรุงศรี เดินทางมาเสบียงหมดพอดี เข้าพักที่ศาลาประตูเมือง
** หวังบำรุงร่างกายให้ดีก่อน แล้วจึงจรพบเพื่อนเพื่อบอกเรื่อง และขอความช่วยเหลือยามฝืดเคือง เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อนพอผ่อนปรน
** ครั้นรุ่งเช้าลูกสาวไปโรงทาน เพื่อขอรับอาหารยามขัดสน พอประทังชีวิตคิดดิ้นรน เมื่อถึงคราวอับจนต้องทนไป
** มิตตกุฎุมพีผู้ดูแล ได้ร้องถามว่าแม่รับเท่าไหร่ แม่สาวน้อยรีบตอบโดยเร็วไว ขอรับไปสามส่วนควรแก่การ
** เจ้าหน้าที่จัดให้ตามที่ขอ เมื่อรับแล้วไม่รีรอเอ่ยคำขาน ขอขอบคุณที่การุณด้วยดวงมาน มอบอาหารให้ประทังยังชีพตน
** แล้วรีบกลับไปที่พักโดยทันที นำอาหารที่มีไม่หมองหม่น ไปให้พ่อและแม่ทั้งสองคน รับประทานยามจนพอพ้นตาย
** แม่และลูกผูกรักในตัวพ่อ ได้ร้องขอรีบทานก่อนจะสาย เป็นผู้นำต้องทานให้มากมาย ด้วยมุ่งหมายจะได้พึ่งไปนานนาน
** พ่อหิวมากทานมากจนหมดสิ้น ตกกลางคืนจึงดิ้นละสังขาร ทิ้งลูกเมียผจญภัยใจร้าวราน เมื่อเศรษฐีถึงกาลกิริยา
** ทั้งแม่ลูกครวญคร่ำน้ำตาไหล พ่อจากไปหวนไห้อาลัยหา เห็นหลัดหลัดต้องพลัดไปไกลตา อนิจจาเวรกรรมเฝ้าคร่ำครวญ
** วันรุ่งขึ้นจึงไปรับอาหาร เหมือนวันวารแต่รับเพียงสองส่วน รีบกลับมาที่พักไม่เรรวน จึงรีบชวนแม่ทานทันทีเลย
** แม่อดมาหลายวันคงหิวมาก ลูกจึงอยากให้อิ่มอย่านิ่งเฉย เพราะรักแม่อยากให้แม่ได้เสบย ลูกรักแม่จังเลยต้องดูแล
** เป็นเวรกรรมทำมาแต่ปางก่อน กรรมจึงย้อนมาสนองตามกระแส แสนเจ็บปวดรวดร้าวในดวงแด เพราะว่าแม่มาตายไปอีกคน
** ด้วยอาหารไม่ย่อยจึงเกิดเหตุ เป็นอาเพศมาทำลายให้ฉงน พ่อและแม่ถึงกาลต้องวายชนม์ คงอับจนหนอชีวิตเมื่อคิดไป
** ครั้นรุ่งเช้าเดินไปรับอาหาร ที่โรงทานของท่านเศรษฐีใหญ่ เมื่อถูกถามจะรับไปเท่าใด ตอบจากใจขอรับเพียงส่วนเดียว
** มิตตกุฎุมพีจึงต่อว่า จงฉิบหายเถิดหนาพาใจเสียว ทำไมจึงหยาบคายเสียจริงเจียว เพียงอาหารนิดเดียวต้องด่ากัน
** มิตตกุฎุมพีจึงชี้แจง เพื่อแสดงความจริงทุกสิ่งสรรพ์ ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาสารพัน วันก่อนนั้นรับอาหารไปมากมาย
** ในวันแรกแม่รับไปสามส่วน วันที่สองเนื้อนวลมารับสาย รับเพียงแค่สองส่วนดูน่าอาย วันสุดท้ายจึงรู้ประมาณตน
** รับไปเพียงหนึ่งส่วนคงพอดี ไม่โลภมากอยากมีจนสับสน นางจึงเล่าเรื่องราวว่าสามคน พ่อแม่ลูกอับจนขอพึ่งพา
** อันที่จริงพวกเราเป็นเศรษฐี ในตระกูลภัททวดีย์มีปัญหา หนีโรคร้ายที่ชื่ออหิวาต์ หวังเข้ามาพึ่งบุญพออุ่นใจ
** มิตตกุฎุมพีเมื่อรู้เรื่อง เป็นเศรษฐีรุ่งเรืองในเมืองใหญ่ เอ่ยวาจาบอกนางในทันใด ไม่เป็นไรมาเป็นลูกสาวเรา
** จึงตั้งนางในตำแหน่งของลูกสาว พร้อมเอ่ยกล่าวจะดูแลไม่ให้เหงา มอบความรักความจริงใจไม่ดูเบา ครอบครัวเราจะมีสุขอย่างยั่งยืน
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:15:36 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน เพราะทำรั้วจึงชื่อสามาวดี ** ธิดาน้อยอาศัยกุฎุมพี ชีวิตก็เริ่มมีความราบรื่น มีความสุขมากขึ้นทุกวันคืน ได้รับการหยิบยื่นสิ่งที่ดี
** มาวันหนึ่งจึงถามท่านมิตตะ ลูกเห็นว่าโรงทานเสียงอึงมี่ เราควรจะแก้ไขไม่ให้มี เสียงเหล่านี้อื้ออึงจึงจะควร
** ท่านมิตตะตอบว่าทำไม่ได้ จึงปล่อยไปไม่ใช่จะสงวน นางตอบว่าทำได้ใช่ลามลวน จึงบอกไปตามกระบวนที่คิดมา
** ท่านจงสร้างประตูเป็นสองด้าน พอประมาณไม่กว้างมากนักหนา เข้าออกได้คนเดียวเท่ากายา แล้วสั่งว่าเข้าออกคนละทาง
** กุฎุมพี่เห็นดีเห็นงามด้วย เราจะช่วยให้สำเร็จไม่ขัดขวาง รีบบอกไพร่ทำตามความคิดนาง ที่ได้วางเอาไว้ทุกประการ
** เสียงที่ดังอื้ออึงในตอนเช้า กลายเป็นความเงียบเหงาทั่วสถาน เหมือนกับไม่มีคนมาโรงทาน ผิดกับเมื่อวันวานเสียงอื้ออึง
** ธิดาน้อยได้ชื่อ "สามาวดี” เพราะธิดาคนนี้คิดไปถึง การทำรั้วแก้ไขเสียงอึงคนึง ในที่สุดเสียงจึงเงียบหายไป
** วันหนึ่งโฆสกะจึงเอ่ยถาม เมื่อต้องการรู้ความเป็นไฉน เลิกโรงทานไปแล้วหรืออย่างไร ด้วยเหตุใดเสียงเงียบไปโดยพลัน
** กุฎุมพีมิตตะจึงเฉลย ไม่เลิกโรงทานเลยดังหมายมั่น มีคนรับอาหารเหมือนทุกวัน คนเหล่านั้นเป็นอยู่อย่างสบาย
** จึงได้เล่าเรื่องราวที่ผ่านมา ถึงบิดาของนางผู้สหาย ของโฆสกะที่ดิ้นรนเพื่อหนีตาย แต่ต้องถึงชีพวายทั้งผัวเมีย
** โฆสกะรู้ความจึงถามว่า บัดนี้เจ้าสามาไปไหนเสีย นางคงเดือดร้อนใจดังไฟเลีย อยากปลอบให้คลายละเหี่ยเลิกเสียใจ
** เมื่อได้พบสามาวดีที่น่ารัก จึงแจ้งให้ประจักษ์แถลงไข ลูกของเพื่อนเหมือนลูกพ่อก่อสายใย ต่อนี้ไปคือพ่อลูกผูกสัมพันธ์
** จุมพิตนางที่ศีรษะสื่อความหมาย พ่อจะรักไม่เสื่อมคลายนะจอมขวัญ มอบบริวารห้าร้อยให้เร็วพลัน ตั้งนางนั้นในตำแหน่งลูกคนโต
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:20:00 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนได้อัครมเหสี ** ครั้นถึงกาลวันหนึ่งพึงประจักษ์ มีงานนักษัตรฤกษ์เอิกเกริกโข กุลธิดาทั้งหลายต่างหมายโชว์ แต่งตัวโก้อวดกันในวันงาน
** สามาพร้อมบริวารในกาลนั้น ได้พากันไปอาบน้ำสนุกสนาน ท้าวอุเทนทอดพระเนตรที่พระลาน เห็นนงคราญพอพระทัยในพธู
**ทรงตรัสถามอำมาตย์ราชบริพาร มีถิ่นฐานนอกในวังช่างงามหรู เมื่อรับทราบเรื่องราวของโฉมตรู จึงรับสั่งราชครูให้จัดการ
** รีบส่งข่าวไปให้ท่านเศรษฐี ราชครูจึงมีราชสาส์น ไปบอกท่านทันทีมิช้านาน มอบสามาจากบ้านเข้าสู่วัง
** ท่านเศรษฐีปฏิเสธไม่ยอมให้ ตามที่ได้ทรงมีความมุ่งหวัง ท้าวอุเทนทรงกริ้วเหลือกำลัง จึงรับสั่งให้พันธนาการ
** ปิดบ้านเรือนไม่ให้เข้าออกได้ มัดเศรษฐีปล่อยไว้ภายนอกบ้าน บังเกิดทุกข์สุดแสนทรมาน เพราะขัดคำสั่งการพระราชา
** สามาวดีกลับมาพาใจหาย นางจึงร้องโวยวายคร่ำครวญหา ใครทำร้ายท่านพ่อจงบอกมา ฉันจะได้ต่อว่าให้สาใจ
** ท่านเศรษฐีรีบบอกแก่บุตรี พระราชาทรงมีรับสั่งให้ ส่งลูกเป็นชายาที่วังใน ปฏิเสธท่านไปจึงลงทัณฑ์
** ฝ่ายสามาบอกว่าพ่อพลาดนัก ที่ไม่มอบลูกรักตามหมายมั่น ขัดพระประสงค์ได้อย่างไรกัน องค์ราชันมีอำนาจเหนือแผ่นดิน
** ท่านพ่อต้องกราบทูลให้ทรงทราบ ว่าไม่ได้หยามหยาบหรือดูหมิ่น มิบังอาจขัดคำสั่งจอมบุรินทร์ จะขอมอบยุพินตามต้องการ
** ท่านเศรษฐีทำตามที่นางบอก เพื่อต้องการแสดงออกอย่างกล้าหาญ ได้ส่งข่าวไปทูลพระภูบาล จะขอมอบเยาวมาลย์ด้วยยินดี
** ท้าวอุเทนโสมนัสเป็นยิ่งนัก ทรงแต่งตั้งเป็นอัครมเหสี ส่วนบริวารของนางสามาวดี เป็นบริวารเหมือนที่เคยเป็นมา
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:25:11 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนถูกจับ ** จะขอกล่าวถึงเมืองอุชเชนี จันฑปัชโชตจอมบดีมีสง่า มีธิดานางหนึ่งงามโสภา ชื่อ “วาสุลทัตตา” ยอดนารี
** ณ วันหนึ่งจึงตรัสกับอำมาตย์ บรรดาผู้ครองราชย์ในโลกนี้ มีสมบัติมหาศาลล้นปฐพี ใครที่ไหนจักมีเท่าเทียมเรา
** ฝ่ายอำมาตย์กราบทูลแถลงไข ไม่มีใครเทียบได้สมบัติเขา กับอุเทนราชาอย่าดูเบา สมบัติเราเปรียบได้ดังหนวดแมว
** พระราชาตรัสว่าถ้าอย่างนั้น ต้องรีบจับตัวมันอย่างแน่แน่ว รีบจัดการเร็วไวไปตามแนว เรียบร้อยแล้วรายงานอย่าช้าพลัน
** หมู่อำมาตย์กราบทูลน่าจะยาก คงลำบากเพราะอุเทนเก่งมหันต์ บังคับช้างด้วยพิณหัสดีกันต์ คู่ต่อสู้ไม่มีวันชนะเลย
** พระราชาตรัสว่าถ้าอย่างนั้น ใครสามารถจับมันจงเปิดเผย มีวิธีอย่างไรจงเอื้อนเอ่ย จับมันเป็นเชลยอย่าช้าที
** อำมาตย์จึงเปิดเผยวิธีการ ทำช้างไม้ตระการอย่างถ้วนถี่ เห็นแล้วเหมือนช้างจริงอย่ารอรี เอาไปล่อภูมีให้ออกมา
** เผลอเมื่อใดเข้าไปจับมัดไว้ เป็นวิธีจับได้แน่หนักหนา จอมบดินทร์สั่งการไม่รอรา ตามอุบายที่กล่าวมาอย่าแชเชือน
** แล้วแผนการพิชิตอุเทนราช องค์จอมปราชญ์เกิดขึ้นอย่างเชือดเฉือน นำจุดเด่นมาใช้ไม่ลืมเลือน เป็นเสมือนดาบสองคมล้มราชันย์
** นำช้างไม้วางไว้ใกล้นคร ใช้หลอกหลอนให้หลงผิดคิดใฝฝัน สะกดช้างด้วยมนต์ของเทวัญ เพื่อได้มันเป็นบริวารสำราญใจ
** ฝ่ายพรานป่าแห่งเมืองโกสัมพี กราบทูลจอมบดีผู้เป็นใหญ่ ให้เสด็จไปจับช้างโดยเร็วไว องค์ท้าวไทจงเสด็จอย่าช้าพลัน
** อุเทนราชทราบข่าวไม่รอช้า รีบไปหาช้างไม้ในไพรสัณฑ์ บริวารติดตามมากมายครัน มุ่งหน้ากันไปจับช้างที่กลางดง
** จันฑปัชโชตทราบข่าวท้าวอุเทน จึงได้เกณฑ์ทหารนำมาส่ง ให้ซุ่มอยู่ข้างทางกลางไพรพง คอยจังหวะจับองค์พระราชา
** ท้าวอุเทนไม่รู้กลอุบาย จึงมุ่งหมายจับช้างไม่กังขา ล่วงเข้าสู่วังวนแห่งอัปรา เกณฑ์ชะตาเป็นไปตามผลกรรม
** พบช้างไม้จึงเริ่มบรรเลงพิณ กล่อมช้างไม่ให้ดิ้นวิ่งถลำ จะจับได้ง่ายดายเหมือนเคยทำ ช้างระยำวิ่งหนีไม่สนใจ
** ด้วยอุบายสร้างสรรค์อันฉลาด ท้าวอุเทนไม่สามารถจับช้างได้ เพราะมีคนเข้าไปอยู่ข้างใน คอยดันช้างหนีไปเหมือนช้างจริง
** ท้าวอุเทนไม่รอช้าขึ้นม้าทรง ด้วยประสงค์จับช้างไม่อ้อยอิ่ง ควบม้าตามเร็วรี่มิประวิง ทุกทุกสิ่งเป็นไปตามอุบาย
** จัณฑปัชโชตให้สัญญาณทหารจับ จอมบดินทร์ตกอับตามเป้าหมาย เหล่าทหารได้พันธนากาย นำถวายเหนือหัวอย่างใจเย็น
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:30:02 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าจัณฑปัชโชตให้ลูกสาวเรียนมนต์ ** จันฑปัชโชตโปรดสั่งให้ขังไว้ ทรงสำราญในใจไม่ฆ่าเข่น ครบสามวันอุเทนสุดลำเค็ญ ทำอย่างไรก็ไม่เห็นลงมือทำ
** จึงตรัสถามเสนาพฤฒามาตย์ ว่าจอมราชเสือร้ายหมายขย้ำ ปล่อยเฉยไว้ทำไมให้ระกำ ควรจะทำสิ่งใดไยเฉยเมย
** จงสั่งการให้ทหารรีบเข่นฆ่า ขอจงโปรดเถิดหนาอย่าทำเฉย อันวิสัยกษัตริย์ย่อมคุ้นเคย ไม่พึงปล่อยเชลยโดยเปล่าการ
** รีบสั่งฆ่าอย่าช้าให้หงุดหงิด ไม่เสียดายชีวิตจงประหาร เป็นกษัตริย์แพ้พ่ายให้ร้าวราน ขืนอยู่ไปไม่สำราญต้องอับอาย
** จัณฑปัชโชตรู้ข่าวได้กล่าวว่า จะปล่อยท่านไม่ฆ่าให้สูญหาย แต่ท่านต้องมอบมนต์ประจำกาย ให้แก่เรานะสหายได้ไหมเอย
** อุเทนราชกล่าวว่าข้าไม่ขัด จะรีบจัดมอบให้ใคร่เฉลย ต้องไหว้เราก่อนเรียนอย่าละเลย เคารพกฎไม่เฉยเมยยอมให้มนต์
** จัณฑปัชโชตได้ฟังจึงนั่งนิ่ง ทำไม่ได้จริงจริงใจสับสน ถ้าอย่างนั้นเราจะฆ่าให้วายชนม์ เมื่อมอบมนต์ให้เราจักปล่อยไป
** อุเทนฟังนั่งคิดพิจารณา ยอมถูกฆ่าดีกว่าเป็นไหนไหน ชาติกษัตริย์ไม่ยอมก้มให้ใคร รักษาไว้เกียรติยศปรากฏนาม
** จัณฑปัชโชตหาวิธีที่จะเรียน จึงคิดเพียรออกอุบายมาไต่ถาม ถ้าคนอื่นยอมไหว้ใคร่รู้ความ ท่านจะยอมทำตามที่กล่าวมา
** หรืออย่างไรจงเฉลยเอ่ยให้รู้ รอฟังอยู่โปรดบอกด้วยเถิดหนา ใครก็ตามที่ไหว้ด้วยศรัทธา สอนมนตราให้ได้ดังใจปอง
** จัณฑปัชทรงดำริที่จะให้ ธิดายอดยาใจนั่งในห้อง เรียนรู้มนต์จากอุเทนมาครอบครอง แล้วเรียนต่อเป็นทอดสองจากธิดา
** ท้าวเธอจึงได้บอกลูกที่รัก ว่าพ่อจักให้เรียนมนต์และคาถา จากชายเป็นโรคเรื้อนทั่วกายา เจ้าจงอย่าใกล้ชิดจะติดมัน
** แล้วทรงหลอกจอมราชชาติกษัตริย์ เราได้จัดหญิงค่อมแม่จอมขวัญ มาเรียนรู้มนตราสารพัน เป็นประจำทุกวันจนเชี่ยวชาญ
** จึงจำเป็นกั้นม่านไม่ให้เห็น กลัวจะเป็นอุปสรรคมาล้างผลาญ ทำให้เรื่องเรียนมนต์ต้องเสียการ ใช้เวลาเนิ่นนานเกินจำเป็น
** การเรียนมนต์เป็นไปตามครรลอง พระธิดาเนื้อทองมองไม่เห็น ครูผู้สอนมาดแมนแสนลำเค็ญ เพราะเนื้อเย็นนั่งอยู่ในม่านบัง
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:31:41 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าจัณฑปัชโชตให้ลูกสาวเรียนมนต์ ** จันฑปัชโชตโปรดสั่งให้ขังไว้ ทรงสำราญในใจไม่ฆ่าเข่น ครบสามวันอุเทนสุดลำเค็ญ ทำอย่างไรก็ไม่เห็นลงมือทำ
** จึงตรัสถามเสนาพฤฒามาตย์ ว่าจอมราชเสือร้ายหมายขย้ำ ปล่อยเฉยไว้ทำไมให้ระกำ ควรจะทำสิ่งใดไยเฉยเมย
** จงสั่งการให้ทหารรีบเข่นฆ่า ขอจงโปรดเถิดหนาอย่าทำเฉย อันวิสัยกษัตริย์ย่อมคุ้นเคย ไม่พึงปล่อยเชลยโดยเปล่าการ
** รีบสั่งฆ่าอย่าช้าให้หงุดหงิด ไม่เสียดายชีวิตจงประหาร เป็นกษัตริย์แพ้พ่ายให้ร้าวราน ขืนอยู่ไปไม่สำราญต้องอับอาย
** จัณฑปัชโชตรู้ข่าวได้กล่าวว่า จะปล่อยท่านไม่ฆ่าให้สูญหาย แต่ท่านต้องมอบมนต์ประจำกาย ให้แก่เรานะสหายได้ไหมเอย
** อุเทนราชกล่าวว่าข้าไม่ขัด จะรีบจัดมอบให้ใคร่เฉลย ต้องไหว้เราก่อนเรียนอย่าละเลย เคารพกฎไม่เฉยเมยยอมให้มนต์
** จัณฑปัชโชตได้ฟังจึงนั่งนิ่ง ทำไม่ได้จริงจริงใจสับสน ถ้าอย่างนั้นเราจะฆ่าให้วายชนม์ เมื่อมอบมนต์ให้เราจักปล่อยไป
** อุเทนฟังนั่งคิดพิจารณา ยอมถูกฆ่าดีกว่าเป็นไหนไหน ชาติกษัตริย์ไม่ยอมก้มให้ใคร รักษาไว้เกียรติยศปรากฏนาม
** จัณฑปัชโชตหาวิธีที่จะเรียน จึงคิดเพียรออกอุบายมาไต่ถาม ถ้าคนอื่นยอมไหว้ใคร่รู้ความ ท่านจะยอมทำตามที่กล่าวมา
** หรืออย่างไรจงเฉลยเอ่ยให้รู้ รอฟังอยู่โปรดบอกด้วยเถิดหนา ใครก็ตามที่ไหว้ด้วยศรัทธา สอนมนตราให้ได้ดังใจปอง
** จัณฑปัชทรงดำริที่จะให้ ธิดายอดยาใจนั่งในห้อง เรียนรู้มนต์จากอุเทนมาครอบครอง แล้วเรียนต่อเป็นทอดสองจากธิดา
** ท้าวเธอจึงได้บอกลูกที่รัก ว่าพ่อจักให้เรียนมนต์และคาถา จากชายเป็นโรคเรื้อนทั่วกายา เจ้าจงอย่าใกล้ชิดจะติดมัน
** แล้วทรงหลอกจอมราชชาติกษัตริย์ เราได้จัดหญิงค่อมแม่จอมขวัญ มาเรียนรู้มนตราสารพัน เป็นประจำทุกวันจนเชี่ยวชาญ
** จึงจำเป็นกั้นม่านไม่ให้เห็น กลัวจะเป็นอุปสรรคมาล้างผลาญ ทำให้เรื่องเรียนมนต์ต้องเสียการ ใช้เวลาเนิ่นนานเกินจำเป็น
** การเรียนมนต์เป็นไปตามครรลอง พระธิดาเนื้อทองมองไม่เห็น ครูผู้สอนมาดแมนแสนลำเค็ญ เพราะเนื้อเย็นนั่งอยู่ในม่านบัง
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:40:31 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระอัครมเหสีองค์ที่ ๒ ของพระเจ้าอุเทน ** วันหนึ่งจอมราชบริภาษว่า ผู้หญิงค่อมชั่วช้าอย่าพึงหวัง จะได้มนต์เราไปไม่มีทาง ความจำเจ้าเลือนลางเสียสิ้นดี
** พระธิดาพิโรธครูผู้สอน จึงตรัสย้อนคนขี้เรื้อนเหมือนเช่นผี ปากเจ้าร้ายมาว่าข้าไม่ดี ตัวเองซิเป็นโรคเรื้อนเหมือนผีไพร
** โต้กันไปโต้กันน่าบัดสี ทั้งทั้งที่ต่างมียศยิ่งใหญ่ จึงอยากเห็นหน้าตาเป็นอย่างไร เปิดม่านออกทันใดพบความจริง
** หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีที่ด่ากัน ตกตะลึงงงงันต่างนั่งนิ่ง รู้ตัวว่าถูกหลอกดังเป็นลิง ทุกทุกสิ่งปรากฏชัดถนัดตา
** ต่างแนะนำตัวเองให้รู้จัก ถึงพื้นเพที่พำนักและภาษา รู้ว่าจอมกษัตริย์และธิดา จึงเข้าใจและศรัทธากันและกัน
** พระพุทธองค์ทรงตรัสพุทธพจน์ ว่าความรักจะปรากฏอย่างแม่นมั่น ด้วยสาเหตุสองประการเป็นสำคัญ ความรักพลันพัฒนาก้าวหน้าไกล
** สาเหตุหนึ่งร่วมทำบุญในกาลก่อน ทำให้ย้อนกลับมาพบกันใหม่ สาเหตุสองเอื้อเฟื้อมีเยื่อใย ต่างช่วยเหลือกันไปในชาตินี้
** วาสุลทัตตาชื่อธิดาจัณฑปัช จอมกษัตริย์ท้าวอุเทนไม่เบนหนี ต่างปลงใจรักกันมั่นฤดี จะครองคู่ชั่วชีวีนิจนิรันดร์
** จัณฑปัชตรัสถามพระธิดา การเรียนมนต์ก้าวหน้าอย่างไรนั่น จึงเอ่ยตอบพระบิดามิช้าพลัน การเรียนนั้นไม่สำเร็จตามต้องการ
** จะต้องใช้เวลาอีกระยะ ลูกนี้จะพยายามสร้างมาตรฐาน ให้การเรียนสำเร็จมิช้านาน ตอบแทนคุณพ่อท่านด้วยจริงใจ
** เมื่อความรักสุกงอมย่อมเกิดเหตุ ตามวิสัยกิเลสตัวเป็นใหญ่ อันราคะไม่ปรานีต่อผู้ใด เกิดร้อนรนดังถูกไหม้ด้วยไฟกัลป์ ** จึงเชิญชวนนวลน้องตระกองคู่ เดินประคองเข้าสู่ประตูสวรรค์ ท่องวิมานตระการตาวิลาวัณย์ ชมช่อชั้นลวดลายใต้แสงดาว
** ห้องที่หนึ่งพึงประสงค์จงประจักษ์ ว่าพี่รักพี่ห่วงใยในน้องสาว มอบวิญญาณมอบดวงใจใสแวววาว ให้แก่เจ้าด้วยภักดีมิจืดจาง
** ห้องที่สองมองทางไหนวิไลหรู ให้โฉมตรูพักนอนก่อนฟ้าสาง ประคองกอดนวลน้องหอมสองปราง ไม่ยอมห่างแนบชิดจนนิทรา
** ห้องที่สามงามวิจิตรพิสดาร ฟ้าประทานเป็นของขวัญชื่นหรรษา ให้นวลน้องประคองคู่กับพี่ยา ท่องสวรรค์ในชั้นฟ้ายามราตรี
** ห้องที่สี่มีสีสันอันหลากหลาย ส่องประกายงามยิ่งนักสมศักดิ์ศรี เป็นที่พักของครอบครัวชั่วชีวี น้องกับพี่สมใจฝันเกินบรรยาย
** ทั้งสี่ห้องหัวใจมอบให้น้อง เป็นเจ้าของครองไปจนสลาย มอบให้น้องเป็นของน้องจนวันตาย ทั้งใจกายให้โฉมตรูเพื่อนคู่ใจ
** บันดาลดลฝนฟ้าคะนองลั่น ดังสนั่นครึกโครมโหมเข้าใส่ ละลอกคลื่นถาโถมอย่างฉับไว เรือลำน้อยลอยไปสั่นไหวโคลง
** พายุโหมกระหน่ำซ้ำที่เก่า คลื่นซัดสาดน้ำเข้ายังส่วนโถง ฝนกระหน่ำซ้ำมาไม่ลาโรง น้ำเอ่อท่วมเรือโคลงอยู่ไปมา
** เสียงคลื่นลมกระหึ่มดังกึกก้อง ฟ้าคะนองร้องลั่นสั่นผวา สะเทือนทั่วบนพื้นพสุธา ฝนหลั่งมาน้ำนองพ้องเสียงลม
** ลมสงบฟ้าสดใสชื่นใจนัก หนุ่มและสาวชื่นรักดังอุ้มสม เป็นบุพเพเสกสรรค์อันรื่นรมย์ เฝ้าชื่นชมสมมโนโผกอดกัน
** โอ้.....น้องจ๋าพี่สัญญาจะรักเจ้า ทุกค่ำเช้าดูแลไม่แปรผัน จะรักน้องถนอมน้องทุกคืนวัน ชั่วนิรันดร์มอบใจไม่จืดจาง
** คุณพี่ขาน้องสัญญาจะรักพี่ ในชาตินี้มอบใจไม่ไกลห่าง อุทิศกายถวายใจไม่เลือนลาง อยู่แนบข้างพี่ยากว่าจะตาย
** ทั้งสองคนวางแผนจะหนีหน้า กลับไปยังพาราสวยเฉิดฉาย โกสัมพีงามเลิศเพริดพรรณราย เป็นที่หมายมุ่งสู่ที่อยู่ตน
** คิดวิธีที่หลอกจัณฑปัช ขอรวบรัดคิดได้ไม่หมองหม่น ดำเนินงานตามวิธีมิร้อนรน เพื่อบรรลุผลสำเร็จดังเจตนา
** ณ วันหนึ่งหญิงสาวเฝ้าบิตุเรศ เพื่อทูลเหตุให้ทราบถึงปัญหา ลูกจำเป็นต้องได้ซึ่งตัวยา เพื่อเอามาประกอบการเรียนมนต์
** จึงกราบทูลพระบิดาว่าอยากได้ คือเครื่องใช้เหล่านี้จะมีผล มีประตูเข้าออกนอกมณฑล พิธีที่เรียนมนต์เป็นประจำ
** พาหนะสำหรับการเดินทาง เมื่อยามว่างได้ไปในไพรสัณฑ์ เพื่อจะได้ตัวยาที่สำคัญ มาเรียนมนต์สำเร็จพลันดังตั้งใจ
** จัณฑปัชโชตทรงโปรดให้ประทาน สิ่งที่นางต้องการรีบจัดให้ พาหนะและกุญแจโดยเร็วไว เพื่อออกไปหาตัวยามาใช้งาน
** อันท้าวเธอมีพาหนะห้าชนิด เป็นของคู่ชีวิตขอกล่าวขาน ช้างภัททวดีวิ่งได้นาน ห้าสิบโยชน์โดยประมาณต่อหนึ่งวัน
** กากะเป็นทาสเดินทางได้ หกสิบโยชน์ทำไว้ใช่เสกสรร ม้าสองตัววิ่งได้โดยเร็วพลัน หนึ่งร้อยโยชน์ต่อวันโปรดเข้าใจ
** อีกช้างนาฬาคีรีเป็นที่ห้า วิ่งได้เร็วมากกว่าเป็นไหนไหน หนึ่งร้อยยี่สิบโยชน์โดดเด่นไกล นางมั่นใจนาฬาคีรีที่เลือกเอา
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:46:34 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ประวัติพาหนะ ๕ ชนิด ** ได้ฟังมาจอมราชันจัณฑปัช เมื่ออดีตได้อุบัติรับใช้เขา ที่บ้านอิสระชนไม่ซบเซา ตามทำเนาของเวรกรรมที่ทำมา
** วันหนึ่งมีปัจเจกะพุทธะ ตั้งมั่นในธุระเป็นหนักหนา ได้ออกบิณฑบาตรอย่างเคยมา ประชาชนต่างพาไม่สนใจ
** เหตุเกิดเพราะมีมารเข้าสิงร่าง ชาวเมืองต่างวิปริตผิดไปใหญ่ ไม่ได้คิดจะใส่บาตรแต่อย่างใด ทุกทุกคนอยู่ในอำนาจมาร
** ปัจเจกะพุทธะจึงเดินกลับ ตัดสินใจเลิกรับภัตตาหาร เมื่อถึงประตูเมืองเรืองโอฬาร ได้พบมารแปลงร่างอย่างคนเมือง
** ตัวมารร้ายจำแลงแกล้งเอ่ยถาม อยากทราบความเป็นไปในทุกเรื่อง ท่านได้รับอาหารอย่างนองเนือง หรือฝืดเคืองไม่ได้อะไรมา
** พระปัจเจกะพุทธะจึงได้กล่าว จะมาถามทำไมเล่าเจ้าบาปหนา เจ้าเป็นคนดลใจชาวพารา ให้เมินหน้าไม่สนใจในการบุญ
** ท่านจงรีบกลับไปในเมืองเถิด เพื่อให้เกิดศรัทธาอย่าเคืองขุ่น ให้ชาวเมืองใส่บาตรจักขอบคุณ ช่วยเจือจุนชาวพาราอย่าดูดาย
** อาตมาไม่กลับไปหรอกมารเอ๋ย อย่าหวังเลยจะหลอกเพื่อมุ่งหมาย เข้าสิงชาวพารากระทั่งตาย เราจะไม่งมงายเชื่อคำมาร
** เมื่อใดที่พระปัจเจกเข้าในเมือง ตัวมารจะฟูเฟื่องเพื่อล้างผลาญ เข้าสิงสู่กายาตลอดกาล พวกหมู่มารจะแย่งชาวเมืองไป
** ในบาตรจึงว่างเปล่าไร้อาหาร เพราะตัวมารกลั่นแกล้งให้หวั่นไหว เหล่าฝูงชนไม่คิดจะสนใจ พระปัจเจกจึงเดินไปข้าวไม่มี
** ขณะนั้นอิสระชนคนมีทรัพย์ ซึ่งเดินกลับเคหาขมันขมี พบปัจเจกะพุทธเจ้าเข้าพอดี เอ่ยวจีเรียนถามตามศรัทธา
** ครั้นรู้ว่าบาตรพระนั่นว่างเปล่า จึงคิดเอาที่บ้านแก้ปัญหา มาใส่บาตรพระปัจเจกะพุทธา ไม่รู้ว่าอาหารเสร็จหรือยัง
** จึงนิมนต์ให้พระจงรอก่อน จะรีบจรไปที่บ้านสานความหวัง เมื่อไปถึงจึงถามอย่างจริงจัง อาหารเสร็จหรือยังแจ้งเร็วไว
** หญิงรับใช้รีบตอบไม่รอช้า สำเร็จแล้วเจ้าข้าจะเอาไหม จึงรีบสั่งคนรับใช้ในทันใด ความเร็วเจ้ามากกว่าใครรีบไปเลย
** รีบรับบาตรจากพระกลับมาเรือน อย่าชักช้าแชเชือนนะท่านเอ๋ย คนรับใช้รีบไปไม่เฉยเมย แล้วจึงเอ่ยขอบาตรวิ่งกลับมา
** ฝ่ายอิสระชนคนมีทรัพย์ จึงรีบรับบาตรมิเนิ่นนานสั่งการว่า ใส่อาหารถวายพระดังวาจา จงรีบพาไปถวายให้ทันกาล
** หันมาบอกคนรับใช้ให้รับรู้ อย่าชักช้าเฉยอยู่รีบประสาน ผลบุญที่เกิดขึ้นจากผลทาน แม้มากมายให้ท่านจงรับไป
** ชายรับใช้รีบวิ่งอย่างด่วนจี๋ ไปยังที่พระปัจเจกผู้ยิ่งใหญ่ รีบบอกกล่าวขอพรในทันใด ด้วยหวังได้กุศลผลแห่งบุญ
** ท่านเจ้าขาโปรดเมตตาอวยพรให้ ข้าพึงได้พรอันเลิศประเสริฐหนุน ด้วยอานุภาพที่วิ่งจงเจือจุน ได้พาหนะดังลมหมุนเร็วทันใด
** ข้าพเจ้าเดินทางกลางแดดจ้า อย่างรีบเร่งไปมาไม่หวั่นไหว ถูกแสงแดดแผดเผาดังเปลวไฟ ขอจงได้บารมีที่ยืนยง
** ส่วนผลบุญที่นายมอบให้นั้น ขอจงพลันสำเร็จและหนุนส่ง ให้มีส่วนรู้ธรรมดังจำนง ด้วยประสงค์ตัดกิเลสเหตุแห่งภัย
** พระปัจเจกะพุทธะจึงกล่าวว่า สมมโนปรารถนาอย่าสงสัย พาหนะมีความเร็วสมฤทัย ลุสมัยรู้แจ้งธรรมองค์สัมมา
** ของสิ่งใดที่ท่านต้องการแล้ว ด้วยจิตใจผ่องแผ้วปรารถนา ขอสำเร็จโดยพลันดังเจตนา ดังพระจันทร์บนฟากฟ้ายามราตรี
** ด้วยผลบุญที่ได้อธิษฐาน จากผลทานสำเร็จสมศักดิ์ศรี ได้เกิดเป็นจัณฑปัชครองบุรี พาหนะเกิดมีตามต้องการ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:49:41 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนหนี ** ฝ่ายจอมราชอุเทนดำริว่า ถึงเวลาต้องหนีกลับถิ่นฐาน จึงรวบรวมเงินทองกองตระการ ใส่กระสอบเป็นทะนานติดตัวไป
** พาวาสุลทัตตาขึ้นช้างหนี พร้อมทรัพย์สินที่มีกระสอบใหญ่ ออกจากเมืองอุชเชนีโดยเร็วไว มุ่งหน้าไปโกสัมพีธานีตน
** พวกทหารรักษาวังครั้นมองเห็น อุเทนเผ่นรีบหนีเริ่มสับสน จึงกราบทูลจัณฑปัชในบัดดล ให้ทราบผลทันทีมิเฉยเมย
** จัณฑปัชโชตตรัสสั่งให้ทหาร จงจัดการเอาตัวมาอย่านิ่งเฉย รีบตามไปให้ทันอ้ายเชลย เจ็บเหลือเอ่ยเจ็บใจไปจับมัน
** อุเทนราชรู้ว่าถูกล่าไล่ เปิดกระสอบที่เตรียมไว้ตามคาดฝัน กหาปนณะหล่นลงโดยเร็วพลัน พวกติดตามพัลวันเก็บกันเพลิน
** ครั้นถูกไล่ใกล้มาอีกคราหนึ่ง จึงรีบดึงกระสอบทองยามฉุกเฉิน พอทองหล่นคนติดตามสุดจักเมิน เหลือจักเกินห้ามใจไม่เก็บทอง
** เพลินเก็บทองอุเทนก็รีบหนี อย่างเร็วรี่ถึงค่ายไม่หม่นหมอง พวกทหารที่ตั้งรออยู่ก่ายกอง ต่างโห่ร้องต้อนรับด้วยดีใจ
** ครั้นถึงพาราโกสัมพี อภิเษกยอดนารีให้เป็นใหญ่ เป็นอัครมเหสีมิอายใคร วาสุลทัตตาดีใจกราบขอบคุณ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 07:56:22 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ประวัตินางมาคันทิยา ** จะกล่าวถึงนางหนึ่งอัครราช เป็นจอมนาถโกสัมพีมีบุญหนุน ท้าวอุเทนยกย่องและเจือจุน ให้เป็นใหญ่เกื้อการุญตลอดมา
** มาคันทิยาคือนามอนงค์นาถ มเหสีจอมราชสวยสง่า เป็นธิดามาคันทิยะพราหมณา มีมารดาชื่อเดียวกับพระนาง
** ถือกำเนิดในแคว้นชื่อกุรุ แต่อาภัพเรื่องคู่ร่วมเคียงข้าง เพราะบิดาเลือกคนไม่ปล่อยวาง ไม่ถูกใจไม่ให้นางร่วมวิวาห์
** วันหนึ่งพุทธองค์ทรงเข้าญาณ เพื่อตรวจดูสันดานมนุสสา จึงรู้ว่ามาคันทิยะและภรรยา ถึงเวลาบรรลุธรรมนำส่องทาง
** จึงเสด็จไปยังที่เรือนไฟ ที่ท่านพราหมณ์น้อมไปอยู่เคียงข้าง เป็นที่พึ่งทางใจไม่ปล่อยวาง เพื่อนำทางให้เดินเจริญธรรม
** พราหมณ์มองเห็นคิดว่าช่างงามเลิศ หนุ่มคนนี้ประเสริฐดูงามขำ เทวดาคงอุ้มสมและน้อมนำ เพื่อธิดาได้ทำการวิวาห์
** จึงเอ่ยบอกสมณะพระโคดม ว่าเป็นผู้เหมาะสมกันหนักหนา กับธิดาของเรามาคันทิยา ยอมให้ท่านเป็นภัสดาลูกสาวเรา
** ท่านจงรอเราอยู่ที่แห่งนี้ จะกลับมาอีกทีพร้อมกับเขา คือลูกสาวสุดที่รักเนิ่นนานเนา เพื่อให้ท่านรับเอาเป็นภรรยา
** พุทธองค์ทรงฟังแล้วนิ่งเฉย ไม่เอื้อนเอ่ยตอบคำตามปรารถนา พราหมณ์รีบกลับไปบ้านไม่รอรา เพื่อพูดจากับลูกสาวเรื่องแต่งงาน
** เมื่อไปถึงรีบบอกพราหมณี ว่าได้พบคนดีมีมาตรฐาน รีบแต่งตัวลูกเราอย่ารอนาน เพื่อรีบไปพบพานคนมีบุญ
** เมื่อกลับไปถึงที่โรงเรือนไฟ ไม่เห็นมีผู้ใดชักเคืองขุ่น แต่กลับเห็นรอยเท้าเจ้าประคุณ ยังเป็นรอยอุ่นอุ่นไว้แทนกาย
** พระพุทธองค์ทรงประทับ ณ ที่อื่น ก่อนจากไปประทับยืนใช่หนีหาย ทรงประทับรอยเท้าบนพื้นทราย ด้วยทรงหมายให้พราหมณ์เห็นเป็นสำคัญ
** ตามตำนานกล่าวไว้เพื่อให้รู้ บรมครูประทับบาทเป็นของขวัญ แก่ผู้ใดเขาจะมองเห็นโดยพลัน นอกจากนั้นมองไม่เห็นเป็นอัศจรรย์
** ไม่มีใครสามารถจะลบได้ ปรากฏไว้ให้เห็นเป็นแม่นมั่น แม้ช้างม้าวัวควายนับเป็นพัน ก็ไม่ทำให้รอยนั้นอันตรธาน
** ลำดับนั้นพราหมณีได้เอ่ยถาม ว่าพราหมณ์ไหนเล่าที่กล่าวขาน คนที่เหมาะสมกับเยาวมาลย์ มาคันทิยานงคราญลูกสาวเรา
** พราหมณ์บอกว่าให้เขารอที่นี่ ไม่เห็นมีไปไหนใจอับเฉา แต่ทิ้งเอาไว้เพียงรอยเท้า เพื่อให้เราดูต่างหน้าใช่ว่าลวง
** พราหมณีผู้เชี่ยวชาญการดูลักษณา ตรวจดูว่ารอยนี้ดีหรือหมอง รู้ทันทีคนผู้นี้มิใฝ่ปอง กามคุณทั้งผองหมดจากใจ
** จึงกล่าวถึงลักษณะของรอยเท้า มีรูปเว้าตรงกลางย่างเยื้องไซร้ เป็นคนใฝ่ราคะมากกว่าใคร กามคุณฝังในใจของตน
** อันรอยเท้าหนักที่ส้นเจ้าโทสะ ไม่ลดละโกรธแค้นแสนหมองหม่น ส่วนปลายเท้าจิกลงหลงเวียนวน เจ้าโมหะมากล้นล้วนไม่ดี
** รอยเท้านี้ที่ปรากฏกำหนดได้ ไม่ติดในกามคุณบุญราศี นางจึงบอกแก่พราหมณ์ตามที่มี ปรากฏในคัมภีร์คำทำนาย
** ท่านพราหมณ์จึงกล่าวว่าอย่าช้าเลย ช่วยตามหาว่าที่เขยเดียวจะสาย มองไปเห็นพุทธองค์ดำรงกาย เด่นสง่าท้าทายชวนให้ชม
** เข้าไปใกล้แล้วกล่าวท่านเจ้าขา เราขอมอบธิดาผู้เหมาะสม เป็นคู่ครองของท่านได้รื่นรมย์ เป็นคู่ชิดเชยชมตลอดกาล
** พระพุทธองค์ทรงนิ่งไม่ตรัสตอบ ว่าทรงชอบไม่ชอบที่กล่าวขาน กลับตรัสว่ามีเรื่องจากเหตุการณ์ ตถาคตได้ผ่านมารผจญ
** เราไม่มีความพอใจในเมถุน เรื่องของกามคุณได้ข้ามพ้น ธิดามารสาวสวยทั้งสามคน ยังผ่านพ้นมาได้ไม่เป็นไร
** นางตัณหา อรดี และราคา ช่างสวยงามโสภาจักหาไหน ยังหลีกเลี่ยงไม่แยแสไม่สนใจ นับประสาอะไรกับนงคราญ
** ผู้เต็มไปด้วยมูตรและคูถเน่า มีแต่ความว่างเปล่าไร้แก่นสาร เราไม่มีความปรารถนาและต้องการ จะถูกต้องเยาวมาลย์แม้เท้าเรา
** ครั้นเมื่อจบคาถาว่าด้วยกาม ทั้งสองพราหมณ์บรรลุธรรมพ้นความเขลา ตาสว่างใจสว่างกายบางเบา เลิกมัวเมาในตัณหาละโลกีย์
** มาคันทิยาผูกอาฆาตในศาสดา ที่ทรงกล่าววาจาหมิ่นศักดิ์ศรี เปรียบดังมูตรคูถเน่าไม่มีดี โอกาสมีจะยีย่ำทำให้อาย
** ฝ่ายสองพราหมณ์เมื่อได้บรรลุธรรม ใจน้อมนำตั้งมั่นดังมุ่งหมาย ด้วยศรัทธาเลื่อมใสไม่เสื่อมคลาย หวังสืบสายศาสนาให้มั่นคง
** คิดออกบวชกายาหาความสุข ละความทุกข์อกุศลโลภโกรธหลง ก็ยังมีธิดายอดอนงค์ จึงตกลงไปฝากอาไม่ช้าที
** ทั้งสองก้าวเข้าสู่เพศบรรชิต มอบชีวิตเพื่อศาสนาพาสุขี ประพฤติธรรมองค์สัมมาไร้ราคี บรรลุที่อรหันต์อนันตกาล
** ไม่มีการเกิดแก่และเจ็บตาย พ้นจากการเวียนว่ายในสงสาร ก้าวล่วงพ้นกิเลสมาระราน ใจเบิกบานไร้กังวลพ้นทุกข์ไป
** ฝ่ายจูฬะมาคันทิยะพราหมณ์ ต้องการให้หลานคนงามได้เป็นใหญ่ เมื่อคิดแล้วพาหลานรีบคลาไคล มุ่งหน้าไปโกสัมพีมิช้านาน
** ครั้นถึงจึงกราบทูลมูลเหตุว่า ขอมอบหลานให้ราชาเป็นหลักฐาน อุเทนราชรับไว้แล้วพระราชทาน ให้นงคราญดำรงศักดิ์อัครชน
** เป็นมเหสีคนที่สามมอบความรัก ด้วยใจภักดิ์จริงใจไม่หมองหม่น มอบหญิงสาวเป็นบริวารห้าร้อยคน มีสุขล้นรมย์รื่นชื่นอุรา
** สรุปว่าราชาอุเทนราช มีมเหสีจอมนาถคู่วาสนา รวมสามนางช่างงามอร่ามตา เป็นคู่ขวัญชีวายอดนารี
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:28:50 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน สามเศรษฐีกับดาบส ** สมัยนั้นโกสัมพีมีสามสหาย มีทรัพย์สินหลากหลายเป็นเศรษฐี โฆสกะ กุกกุฏะ เป็นคนดี ปวาริกะ ล้วนมีเงินและทอง
** ณ วันหนึ่งเมื่อใกล้ฤดูฝน ดาบสห้าร้อยคนหวังฉลอง ศรัทธาของชาวบ้านที่มั่นปอง เดินทางท่องจากหิมพานต์สถานไพร
** ทั้งสามคนได้เห็นพระดาบส กิริยางามงดก็เลื่อมใส จึงนิมนต์ให้นั่งฉันทุกวันไป ตลอดในฤดูฝนจนหนาวมา
** ครั้นฝนหมดดาบสจะหวนกลับ น้อมคำนับนิมนต์เพื่อปีหน้า ถึงหน้าฝนย้อนกลับมาอีกครา เพื่อฉลองศรัทธาของสามเรา
** นับแต่นั้นเมื่อใกล้วันฤดูฝน พระดาบสทุกคนลงจากเขา มาสู่กรุงโกสัมพีเพื่อรับเอา บิณฑบาตรจากเหล่าผู้ศรัทธา
** มีครั้งหนึ่งเมื่อถึงกลางป่าใหญ่ จึงแวะพักใต้ต้นไทรใบแน่นหนา เพื่อขจัดความเหน็ดเหนื่อยของกายา และบรรเทาความเมื่อยล้าให้ผ่อนคลาย
** ขณะนั้นดาบสผู้หัวหน้า นั่งคิดว่าตัวเราแสนกระหาย เทวดาผู้ศักดิ์ใหญ่รอบรอบกาย ใจไม่ร้ายนำน้ำมาอย่าช้าที
** เทวดาที่ต้นไทรใหญ่ต้นนั้น ขมีขมันนำน้ำมาอย่างเร็วรี่ แจกจ่ายพวกดาบสไม่รอรี สมดังที่ต้องการเบิกบานใจ
** เมื่อดาบสอยากได้น้ำไปอาบ เทวดาก็ทราบจึงจัดให้ ทุกคนต่างซาบซึ้งเสียกระไร ต่างก็คิดกันไปอยากพบตัว
** เทวดาใจดีอารีรอบ จึงรีบตอบสนองอย่างถ้วนทั่ว เนรมิตท้องฟ้าให้มืดมัว ปรากฏตัวแก่ดาบสหมดทุกคน
** ท่านหัวหน้าดาบสจึงไต่ถาม อยากทราบความเป็นไปใจฉงน ท่านมีทรัพย์มหาศาลบันดาลดล ทำอย่างไรจึงมากล้นเกินพรรณนา
** เทวดาเขินอายไม่กล้าเอ่ย กรรมน้อยนิดไม่อยากเผยเลยท่านหนา จงได้โปรดเห็นใจและเมตตา เทวดาร้องขอพอเถิดคุณ
** ฝ่ายดาบสไม่ลดละอยากจะรู้ จงอย่าได้อดสูเชิดชูหนุน ขอจงได้เมตตาและเจือจุน เปิดเผยคุณความดีที่น้อมนำ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:35:05 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ประวัติเทวดา ** ได้ยินว่าเทวราชในชาติก่อน เป็นคนจรเข็ญใจไม่คมขำ เดินเที่ยวไปเพื่อแสวงหางานทำ ตั้งแต่เช้ายันค่ำทุกวันวาร
** ในที่สุดได้งานบ้านเศรษฐี เจ้าของบ้านใจดีมีหลักฐาน รับเขาไว้ให้งานทำประจำการ ขายแรงงานเลี้ยงชีวิตอุทิศกาย
** ครั้นวันหนึ่งเศรษฐีกลับจากวัด หลังปฏิบัติข้อธรรมตามมุ่งหมาย เป็นวันพระถือศีลแปดไม่งมงาย เพื่อหวังได้สุคติเป็นที่ไป
** ครั้นถึงบ้านจึงถามพวกในบ้าน คนทำงานคนใหม่รู้หรือไม่ ถึงวันธัมมัสสวนะคราครั้งใด พวกเราไม่กินอาหารในตอนเย็น
** เมื่อได้รับคำตอบว่าไม่รู้ จึงสั่งหมู่คนครัวจงงดเว้น รีบประกอบอาหารเท่าจำเป็น เพื่อให้ชายยากเข็ญรับประทาน
** คนที่บ้านอนาถปิณฑิกะ ทุกวันพระงดมื้อค่ำทั้งคาวหวาน ถือศีลแปดเคร่งครัดตลอดกาล เหมือนท่านเจ้าของบ้านเป็นประจำ
** อธิบายถึงคำ “ธัมมัสสวนะ” คือวันพระแปดค่ำสิบห้าค่ำ คนชาวพุทธสนใจและน้อมนำ สมาทานศีลฟังธรรมภาวนา
** คนงานใหม่กลับมานึกแปลกใจ ว่าทำไมเงียบจังคิดกังขา ไม่มีคนพลุกพล่านเดินไปมา เมื่อสอบถามจึงรู้ว่าเขาเข้านอน
** พวกคนครัวอธิบายขยายผล เล่าไปตามที่ตนถูกสั่งสอน ให้รู้เรื่องศีลแปดตามขั้นตอน เพื่อสร้างบุญอันสุนทรเป็นมงคล
** ศีลข้อหนึ่งพึงรู้ว่าห้ามฆ่าสัตว์ สารพัดบาปกรรมนำส่งผล เบียดเบียนสัตว์ต้องปวดร้าวเศร้ากมล จะพาตนสู่นรกหมกไหม้กาย
** ศีลข้อสองต้องห้ามใจความว่า ขโมยของของเขามาพาเสียหาย ทั้งฉ้อโกงทรัพย์สินด้วยอุบาย อย่าพึงหมายจะมีสุขหนีทุกข์ไกล
** ศีลข้อสามห้ามผิดพรหมจรรย์ ใจต้องมั่นละตัณหาอย่าหวั่นไหว เว้นการเสพเมถุนวุ่นวายใจ เว้นไม่ได้หวังโลกันต์อันเลวทราม
** ศีลข้อสี่มีว่าห้ามพูดปด เว้นทั้งหมดพูดส่อเสียดหรือเหยียดหยาม พูดคำหยาบพูดเพ้อเจ้าพูดลวนลาม คงไม่งามตกนรกหมกไฟเปลว
** ศีลข้อห้าสุราและเมรัย หลีกให้ไกลอย่าเกลือกกลั้วชั่วแหลกเหลว เป็นสาเหตุขาดสติริทำเลว ก้าวลงเหวคือนรกหมกไหม้ตน
** ศีลข้อหกยกเว้นกินอาหาร ในเวลาวิกาลจะหมองหม่น เพื่อขจัดความยินดีของผู้คน เพื่อหลีกพ้นจากตัณหาพาเบิกบาน
** ศีลข้อเจ็ดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับลำนำเพลงร้องก้องประสาน อีกเครื่องหอมนำมามัณฑนาการ เกิดกิเลสระรานผลาญความดี
** ศีลข้อแปดไม่นอนบนฟูกนุ่ม จะตกหลุมของตัณพาพาเสียศรี เนื่องจากเกิดหลงใหลใฝ่ราคี ความสบายมากมีจึงร้อนรน
** ถึงแปดค่ำสิบห้าค่ำในบ้านนี้ ทุกทุกคนล้วนมีใจกุศล เวลาเย็นอดอาหารกันทุกคน แม้เด็กเล็กก็เริ่มต้นกระทำตาม
** มีสิ่งของสี่อย่างที่ทานได้ ยามป่วยไข้อนุญาตอย่าเกรงขาม มีเนยใสเนยข้นชนทุกนาม ดื่มได้ยามป่วยไข้ให้ทุเลา
** อีกน้ำอ้อยน้ำผึ้งพึงประจักษ์ ยามหิวหนักช่วยได้คลายอับเฉา ไม่ผิดศีลแปดหนอพอทำเนา ช่วยแบ่งเบาแก้กระหายได้เร็วไว
** คนงานใหม่สนใจจึงถามว่า หากตัวข้าถือศีลบ้างจะได้ไหม เพียงครึ่งหนึ่งตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะศรัทธาอยากได้บุญมาจุนเจือ
** ๓๔๘. ตัดสินใจปรึกษาท่านเศรษฐี เพราะคิดว่าคงมีทางช่วยเหลือ ท่านเศรษฐีมีเมตตาอย่างเหลือเฟือ จึงเอื้อเฟื้อแนะนำเพื่อทำดี
** จึงบอกว่าทำได้อย่างแน่แน่ เสียดายแต่ได้บุญไม่เต็มที่ จะได้เพียงครึ่งหนึ่งจึงพาที รีบทำซิดีกว่านะพ่อคุณ
** คนงานใหม่เริ่มอดงดอาหาร เพื่อสร้างฐานความดีมิวายวุ่น บุญกุศลสร้างไว้ได้เจือจุน เพราะเป็นทุนเป็นเสบียงไว้เลี้ยงกาย
** ด้วยเหตุที่ทำงานมาแสนหนัก ยังต้องจักอดอาหารไม่คาดหมาย ความอ่อนล้าหิวโหยเปล่งประกาย เข้าโจมตีทำลายความอดทน
** ลมกำเริบทำร้ายอยู่ภายใน อวัยวะน้อยใหญ่เริ่มสับสน จึงเอาเชือกมารัดที่ท้องตน นอนดิ้นรนเกลือกกลิ้งยิ่งทรมาน
** ท่านเศรษฐีรู้เรื่องเยื้องย่างย่อง มายืนมองด้วยเมตตาน่าสงสาร นำอาหารที่ทานได้สี่ประการ มามอบให้ชายคนงานเพื่อบรรเทา
** คนงานใหม่ใจถึงจึงไม่รับ น้อมคำนับใช่ยโสหรือโง่เขลา แต่ไม่อยากให้บุญต้องแบ่งเบา ขอรับเอาความตายแต่ได้บุญ
** ครั้นเวลาใกล้สว่างถึงวาระ ทำกาละจากไปไม่หมกมุ่น มาเกิดเป็นเทวดานับเป็นคุณ เนื่องจากผลแห่งบุญบันดาลเป็น
** หลังจากจบคำเล่าจึงกล่าวว่า เศรษฐีท่านศรัทธาเมื่อได้เห็น องค์สมเด็จพระศาสดาผู้บำเพ็ญ จนสำเร็จบรรลุเป็นพระโพธิญาณ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:42:43 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ดาบสเลื่อมใสออกบวช ** พวกดาบสได้ยินว่าพระพุทธเจ้า อยากเข้าเฝ้าถวายบังคมก้มประสาน เป็นสาวกน้อมใจไปกราบกราน พระภูวนาถอวตาลสู่โลกา
** จึงกล่าวถามเทวดาผู้ศักดิ์ใหญ่ เป็นความจริงใช่ไหมไม่มุสา เทวดายืนยันที่กล่าวมา เป็นสัจจะวาจาอย่าข้องใจ
** พวกดาบสจึงกล่าวพร้อมกันว่า รีบไปเฝ้าศาสดากันดีไหม ท่านหัวหน้าบอกว่าเราจะไป แต่เกรงใจเศรษฐีดีกับเรา
** จำต้องแจ้งให้ท่านทราบเสียก่อน แล้วค่อยจรเพื่อตอบแทนบุญคุณเขา มิฉะนั้นจะถูกหาว่าดูเบา ไม่รู้คุณก้อนข้าวเขาให้มา
** จึงรีบพากันไปลาเศรษฐี บอกว่ามีภาระอยู่ข้างหน้า จะต้องรีบไปเฝ้าพระศาสดา ขออำลาเศรษฐีผู้มีคุณ
** สามเศรษฐีผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ได้ฟังข่าวดีใจไม่เคืองขุ่น จึงกล่าวอนุโมทนาว่าเป็นบุญ แต่จงโปรดเจือจุนรอคอยกัน
** เราจะไปเฝ้าด้วยช่วยเถิดหนา ไปพร้อมกันดีกว่าเป็นแม่นมั่น เราจะได้ดูแลกันทุกวัน แต่ต้องรอเรานั้นหลายเพลา
** พวกดาบสบอกว่าช้าไปหน่อย เราคงคอยไม่ไหวใจโหยหา อยากฟังธรรมของสมเด็จพระสัมมา ค่อยตามไปดีกว่านะท่านเอย
** ท่านเศรษฐีสุดที่จะห้ามได้ ต้องยอมให้เดินทางอย่างเปิดเผย เมื่อภาระเสร็จแล้วไม่เฉยเมย จะรีบตามไปเลยในทันที
** พวกดาบสรีบไปเฝ้าพระศาสดา ไม่ชักช้าออกเดินทางอย่างเร็วรี่ เมื่อไปถึงเฝ้าบังคมจอมโมลี พระภูมีแสดงพระธรรมเทศนา
** พระพุทธองค์ผู้ทรงปรมัตถ์ ได้ทรงตรัสอนุปุพพีกถา ประกอบด้วยทานศีลภาวนา พวกดาบสมีดวงตามองเห็นธรรม
** จึงพร้อมใจกันอุปสมบท เพื่อกำหนดวิปัสสนาพาชื่นฉ่ำ มอบใจกายต่อศาสนาจะน้อมนำ จึงตั้งใจบริกรรมกันทุกองค์
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:46:10 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน สามเศรษฐีสร้างวิหาร ** ฝ่ายเศรษฐีทั้งสามไม่ลดละ รีบจัดแจงภาระตามประสงค์ ครั้นเสร็จสรรพตามเป้าหมายเจตจำนง ได้ตกลงเดินทางเฝ้าพุทธา
** จัดเสบียงเพื่อถวายเหล่าพระสงฆ์ ทุกทุกองค์โดยทั่วกันชื่นหรรษา ได้สดับพระสัทธรรมเทศนา ของสมเด็จพระสัมมามองเห็นธรรม
** ได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นอุดมมงคลที่คมขำ ถวายทานแด่พระสงฆ์เป็นประจำ เพื่อน้อมนำจิตใจให้ไพบูลย์
** จึงนิมนต์สมเด็จพระศาสดา หวังเสริมสร้างศรัทธาไม่เสื่อมสูญ เสด็จเมืองโกสัมพีที่จำรูญ จะเกื้อกูลบำเพ็ญบุญสร้างสุนทาน
** พระพุทธองค์ทรงรับนิมนต์แล้ว ใจผ่องแผ้วบริสุทธิ์เกินกล่าวขาน รีบกลับไปโกสัมพีมิช้านาน ได้เตรียมการสร้างวิหารรับพระองค์
** สามเศรษฐีล้วนมีศรัทธามั่น ร่วมมือกันสร้างวิหารดังประสงค์ คนละหลังรวมสามหลังดังจำนง เพื่อต้อนรับพุทธองค์เสด็จมา
** โฆสกะเศรษฐีมีใจงาม สร้างโฆสิตารามดีนักหนา กุกกุฏะเศรษฐีมีศรัทธา สร้างวิหารชื่อว่า กุกกุฏาราม
** ปาวาริกะเศรษฐีดีใจนัก สร้างวิหารพำนักแห่งที่สาม มีชื่อว่า ปาวาริการาม ดูงดงามทั้งสามหลังดังวิมาน
** เมื่อสมเด็จพระศาสดาทรงมาถึง ทั้งสามจึงกราบบังคมก้มประสาน น้อมถวายวิหารเป็นสังฆทาน ขอพระองค์ทรงสำราญพักผ่อนกาย
** พระพุทองค์ทรงรับพระวิหาร เพื่อกิจการของสงฆ์ทรงมุ่งหมาย ประทับที่วิหารไหนเป็นอุบาย ให้เจ้าของถวายสังฆทาน
** เพื่อจะได้ไม่แย่งกันนิมนต์ จะสับสนวุ่นวายหลายสถาน เกิดทะเลาะวิวาทอาจเสียการ เป็นเหตุให้ร้าวฉานความสัมพันธ์
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:52:28 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน นายสุมนะมาลาการเลี้ยงภิกษุสงฆ์ ** ในกาลนั้นเศรษฐีสามสหาย มีมาลาการคู่กายใช่เสกสรร ชื่อว่า “สุมนะ” คนเดียวกัน จัดดอกไม้ให้ทุกวันร่วมกันมา
** สุมนะขอโอกาสสามเศรษฐี นิมนต์พระชินศรีทรงสิกขา ไปรับบิณฑบาตรเยื้องยาตรา ณ ที่บ้านของข้าเพื่อสร้างบุญ
** สามเศรษฐีฟังคำที่พร่ำกล่าว รู้เรื่องราวเข้าใจไม่เคืองขุ่น อนุญาตวันพรุ่งนี้เลยพ่อคุณ จงสมใจได้บุญตามศรัทธา
** สุมนะนิมนต์พระพุทธองค์ พร้อมพระสงฆ์บริวารทั่วถ้วนหน้า มารับภัตตาหารตามเวลา พร้อมอนุโมทนาน้อมรับพร
** จะขอกล่าวถึงสตรีมีชื่อว่า นางขุชชุตตราศรีสมร คนรับใช้สามาวดีโฉมบังอร แม่งามงอนรับดอกไม้ให้พระนาง
** สืบเนื่องมาจากท้าวอุเทนราช มอบเงินให้นงนาฏไม่เหินห่าง วันละแปดกหาปณะเพื่อนวลปราง ค่าดอกไม้ให้แม่นางทุกทุกวัน
** นางทาสีมีหน้าที่รับดอกไม้ จากสุมนะมามอบให้แม่จอมขวัญ วันนี้ได้เวลามารับพลัน สุมนะจำนรรจ์ให้ช่วยงาน
** ในวันนี้องค์สมเด็จพระศาสดา พร้อมพระสงฆ์จะมาฉันอาหาร อย่าเพิ่งกลับเลยหนาแม่นงคราญ อยู่ทำบุญช่วยงานค่อยกลับไป
** นางขุชชุตตราตอบตกลง ถึงเวลาพุทธองค์ผู้เป็นใหญ่ พร้อมพระสงฆ์สาวกก็คลาไคล เสด็จไปยังบ้านมาลาการ
** พระพุทธองค์ทรงทำภัตตกิจ ต่างพากันตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้บุญสำเร็จจากผลทาน ใจเบิกบานสดใสไร้ราคิน
** พระพุทธองค์ทรงแสดงเทศนา ตรัสคาถาตามลำดับจนจบสิ้น นางขุชชุตตราโฉมยุพิน เกิดดวงจินต์เลื่อมใสในพระธรรม
** ในที่สุดแห่งเทศนานั้น ได้บรรลุโสดาบันอันชื่นฉ่ำ เสร็จงานบุญก็นึกถึงงานประจำ คือการนำดอกไม้ให้เจ้านาย
** รับดอกไม้จากนายสุมนะ รีบมุ่งหน้ากลับวังดังใจหมาย มอบดอกไม้ให้แล้วจึงอธิบาย ที่ชักช้าเพราะช่วยนายมาลาการ
** พระนางสามาวดีเห็นดอกไม้ มีจำนวนมากมายเกินมาตรฐาน จึงถามว่าราชาทรงประทาน ให้เพิ่มงบประมาณหรืออย่างไร
** มีดอกไม้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ขอให้เจ้าชี้แจงแถลงไข เราอยากรู้จงเล่าให้เข้าใจ ว่าทำไมดอกไม้เพิ่มจำนวน
** นางขุชชุตตราจึงกล่าวถ้อย ว่าข้าน้อยแบ่งออกเป็นสองส่วน เก็บไว้เองครึ่งหนึ่งพึงคำนวณ อีกหนึ่งส่วนซื้อดอกไม้ตามโองการ
** แต่วันนี้โชคดีได้ฟังธรรม อันเลิศล้ำยิ่งใหญ่แสนไพศาล จึงน้อมใจสู่ธรรมะละจิตพาล ซื้อดอกไม้ตูมบานเต็มจำนวน
** สามาวดีฟังคำพร่ำเฉลย ไม่เอื้อนเอ่ยคำใดให้กำสรวล ไม่ตำหนิติเตียนนางเนื้อนวล แต่เชิญชวนสอนธรรมนั้นแก่เรา
** ธรรมใดที่พระองค์ทรงตรัสแล้ว ย่อมทำใจให้ผ่องแผ้วไม่อับเฉา เราอยากรู้ธรรมนั้นและรับเอา มาขัดเกลากิเลสให้เบาบาง
** นางขุชชุตตราจึงรับคำ จะน้อมนำธรรมมาอย่าหมองหมาง จึงให้นางอาบน้ำหอมทั่วสรรพางค์ มอบผ้าสาฎกให้นางห่อหุ้มกาย
** พร้อมจัดอาสนะให้เธอนั่ง เรียกบริวารมาฟังดังมุ่งหมาย ขุชชุตตราเริ่มต้นสาธยาย ข้อธรรมะทั้งหลายที่ฟังมา
** ในที่สุดแห่งการฟังธรรมนั้น ต่างบรรลุโสดาบันกันถ้วนหน้า ได้ยกมือประณมก้มวันทา เรียกขุชชุตตราว่าอาจารย์
** ต่างขอให้หยุดงานในบ้านนี้ ไปฟังธรรมพระชินศรีที่วิหาร แล้วกลับมาสาธยายทุกประการ จักขอบคุณอาจารย์ที่เมตตา
** นางขุชชุตตราก็รับคำ ได้น้อมนำซึ่งธรรมดีหนักหนา มาถ่ายทอดพวกนางทุกทุกครา จนขึ้นชื่อลือชายอดนารี
** สมเด็จพระบรมศาสดา ทรงแต่งตั้งขุชชุตตรามารศรี ให้เป็นเลิศด้านธรรมวาที ในบรรดาสตรีอุบาสิกา
** เนื่องด้วยนางฉลาดในการกล่าว ได้แสดงเรืองราวธรรมกถา ให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยลีลา ตั้งแต่ต้นจนกว่าสิ้นสุดลง
** บริวารห้าร้อยสามาวดี ได้เอื้อนเอ่ยพาทีจุดประสงค์ บอกขุชชุตตราด้วยจำนง ให้พาไปเฝ้าองค์พระสัมมา
** ขุชชุตตราบอกว่าไม่ได้แน่ เพราะพวกแม่มีจำนวนมากนักหนา ประกอบกับเป็นคนของราชา เราไม่อาจจะพาพวกนางไป
** เหล่างามงอนอ้อนวอนขอร้องว่า เพียงแค่เห็นพระศาสดาได้หรือไม่ นางจึงได้บอกกล่าวในทันใด เราจะออกอุบายเป็นสำคัญ
** อันดับแรกเจาะช่องตามต้องการ ที่ฝาห้องของท่านดังแม่นมั่น พระศาสดาเสด็จทุกทุกวัน จงถวายบังคมคัลอัญชุลี
** มีข้าวตอกดอกไม้ที่จัดหา เพื่อบูชาสมเด็จพระชินศรี ตอนพระองค์เสด็จมาอย่าช้าที จงน้อมใจภักดีถึงพระองค์
** หญิงเหล่านั้นได้ทำอย่างนั้นแล้ว ใจผ่องแผ้วสดใสสมประสงค์ ได้น้อมจิตนำใจใฝ่จำนง เพื่อมุ่งตรงศรัทธาอย่างถาวร
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:56:21 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน ประวัติหน้าต่าง ** พระนางมาคันทิยามารศรี จอมขวัญเจ้าธานีมิ่งสมร ไปสู่ที่อาศัยของงามงอน โฉมบังอรบาทบริกาสามาวดี
** เมื่อเห็นช่องจึงร้องถามไปว่า ช่วยบอกหน่อยเถิดหนาอะไรนี่ นั่นช่องโหว่มากมายหลากหลายมี คืออะไรบอกชี้ที่เป็นมา
** บรรดานางห้าร้อยเอ่ยถ้อยเฉลย พระคุณเอ๋ยช่องนี้ดีนักหนา เราทั้งหลายใช้กราบไหว้พระศาสดา น้อมบูชาด้วยใจในพระองค์
** ครั้นรู้ว่าพระศาสดามาที่นี่ วางแผนการทันทีดังประสงค์ จะกำจัดศัตรูด้วยจำนง พุทธองค์สามาวดีที่หมายปอง
** รีบกราบทูลพระภัสดาว่าบัดนี้ สามาวดีปันใจไปเป็นสอง พร้อมด้วยหญิงห้าร้อยในครอบครอง พระองค์ต้องจัดการอย่านานวัน
** หากช้าไปพระองค์คงตายแน่ คนผันแปรคงทำร้ายอย่างแม่นมั่น รีบกำจัดเสียก่อนอย่าช้าพลัน ก่อนจะถูกฆ่าฟันให้บรรลัย
** พระราชาทรงคิดพินิจดู ก็ทรงรู้ว่ามันสุดวิสัย สามาวดีเป็นคนดีไม่มีภัย ไม่สงสัยในตัวนางอย่างกล่าวกัน
** มาคันทิยาทูลราชาถึงสามครั้ง แต่ก็ยังเฉยอยู่ดูเป็นหมัน จึงกราบทูลเชื้อเชิญองค์ราชัน จงไปดูที่พักมันจะเข้าใจ
** อุเทนราชยุรยาตรทอดพระเนตร เพื่อทรงทราบสาเหตุเป็นไฉน ตรัสถามทุกทุกคนเป็นอย่างไร จงเล่าแจ้งแถลงไขมาอ้างอิง
** เหล่าบาทบริกาสามาวดี เอ่ยวจีกราบทูลมูลทุกสิ่ง ได้เจาะช่องตามที่เห็นเป็นความจริง เพื่อกราบไหว้องค์มิ่งจอมโมลี
** องค์ศาสดาเสด็จมาเพื่อโปรดสัตว์ เป็นกิจวัตรขององค์พระทรงศรี เพราะศรัทธาเลื่อมใสในภูมี ใช้ช่องนี้บูชาพระพุทธองค์
** ท้าวอุเทนทรงทราบเรื่องไม่เคืองขุ่น ทรงรับสั่งให้ทำบุญตามประสงค์ ให้ปิดช่องของเหล่านวลอนงค์ แล้วจึงทรงอนุมัติให้จัดการ
** ทรงโปรดให้สร้างหน้าต่างน้อย ไว้ใช้สอยทุกห้องเป็นมาตรฐาน นับตั้งแต่นั้นมาทุกอาคาร สวยตระการด้วยหน้าต่างอย่างเท่ากัน
** ได้ยินว่าหน้าต่างเกิดขึ้นแล้ว เป็นครั้งแรกในวังแก้วใช่เสกสรร ถือว่าเป็นตำนานมานานครัน จึงยกมาให้ท่านได้พิจารณา
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif)[/ur] (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 08:59:33 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระศาสดาผจญกับการแก้แค้น ** พระนางมาคันทิยามารศรี แสนเจ็บปวดฤดีแทบผวา ทำอะไรไม่สำเร็จเลยสักครา จึงหันมาทางด้านพุทธองค์
** ได้กะเกณฑ์ชาวเมืองนอกศาสนา ให้ช่วยกันก่นด่าเพราะความหลง มุ่งพระศาสดาโดยเจาะจง ให้หนีไปสู่ดงกลางพงไพร
** อันถ้อยคำที่ด่ามีปรากฏ รวมทั้งหมดสิบข้อขอขานไข เจ้าเป็นโจร เป็นพาล เป็นบ้าไป เป็นอูฐ เป็นวัวไง และเป็นลา
** เป็นสัตว์นรก เป็นสัตว์เดรัจฉาน สุคติไม่ประสานอย่าใฝ่หา ทุคติเป็นที่หมายได้พึ่งพา อย่าอยู่เลยรีบเข้าป่าไปโดยพลัน
** พระอานนท์กราบทูลพระศาสดา ถูกเขาด่าเขาว่าอย่างมหันต์ จะทนอยู่ต่อไปทำไมกัน ให้พวกมันจ้วงจาบแสนหยาบคาย
** พระพุทธองค์ทรงถามจะไปไหน ตอบว่าไปให้ไกลจากเป้าหมาย ที่แห่งอื่นยังมีอีกมากมาย ซึ่งเราจะพักกายให้สุขใจ
** พระพุทธองค์ทรงถามถ้าถูกด่า เป็นอย่างนี้อีกคราทำไฉน พระอานนท์รีบตอบโดยเร็วไว เราก็จะหลีกหนีไปให้ไกลตา
** พระศาสดาตรัสว่าถ้าเช่นนั้น เราจะต้องหนีกันถึงไหนหนา เรื่องราวเกิดก็หนีกันทุกครา เป็นอันว่าชาตินี้หนีร่ำไป
** พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าอานนท์เอ๋ย ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยเข้าใจไหม เมื่อเรื่องราวเกิดขึ้น ณ ที่ใด ก็จงให้ระงับในที่เดียวกัน
** เมื่อใดที่พญาคชสาร ออกทำศึกห้าวหาญไม่ไหวหวั่น ต้องอดทนต่อลูกศรนับอนันต์ ที่ข้าศึกพากันยิงทุกทาง
** เปรียบตัวเราผู้เป็นศาสดา ย่อมอดทนต่อคำด่าและถากถาง ของพวกคนทุศีลจิตเลือนลาง เฉกเช่นพญาช้างในสงคราม
** พระพุทธองค์ทรงตรัสต่อไปว่า เรื่องจะเงียบในไม่ช้าอย่าเหยีดหยาม อีกเจ็ดวันข้างหน้าจะจบความ ของพวกที่พยายามทำลายเรา
** อธิกรณ์เกิดแก่พระพุทธเจ้า ไม่ยืดยาวเหมือนกับคนอื่นเขา ครบเจ็ดวันเรื่องราวจะบางเบา หยุดนิ่งไปไม่นำเอามาพูดจา
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:28:43 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระนางมาคันทิยาหาความด้วยเรื่องไก่ ** พระนางมาคันทิยาโกรธแค้นจัด แสนเคืองขัดไม่สมปรารถนา ไม่สามารถขับไล่พระศาสดา ให้พ้นจากพาราโกสัมพี
** จึงคิดว่าน่าจะทำความฉิบหาย ให้เกิดกับนางทั้งหลายเหล่าทาสี พร้อมเจ้านายชื่อว่าสามาวดี เป็นพวกที่อุปถัมภ์พระศาสดา
** มาคันทิยาหาทางคิดวางแผน เพื่อชำระความแค้นอัดแน่นหนา อยู่ในใจของนางตลอดมา ถึงเวลาจะแก้แค้นแสนยินดี
** จึงสั่งให้นำไก่ไปมอบให้ แก่จอมราชเป็นใหญ่ในกรุงศรี กลอุบายจะทำลายเริ่มทันที เพื่อแก้แค้นที่มีให้สะใจ
** มาคันทิยาเข้าเฝ้าเจ้าเหนือหัว รายงานตัวทูลแจ้งแถลงไข ว่าบัดนี้ปุโรหิตผู้ชิดใกล้ ได้นำไก่มาถวายให้พระองค์
** อุเทนราชทราบความทรงถามไถ่ จะให้ใครสนองความประสงค์ จัดการทำอาหารดังจำนง แล้วนำส่งเข้ามาอย่าช้าเลย
** มาคันทิยากราบทูลขึ้นทันที สาวใช้สามาวดีอยู่เฉยเฉย ให้พวกนางรับผิดชอบดังภิเปรย พวกนางเคยทำอาหารทั้งหวานคาว
** พระราชาอนุมัติพร้อมตรัสสั่ง จงแจ้งการไปยังพวกสาวสาว ของสามาวดีทราบเรื่องราว และบอกกล่าวให้เข้าใจไม่รีรอ
** มาคันทิยาดำเนินการทำตามแผน หวังแก้แค้นให้สิ้นไปไม่เหลือหลอ ส่งไก่เป็นไปให้อย่างเพียงพอ แล้วร้องขอจงฆ่าไก่ไปต้มแกง
** นางห้าร้อยไม่ยอมทำกรรมที่ชั่ว กลัวหมองมัวเพราะถือศีลอย่างเข้มแข็ง การฆ่าสัตว์ผิดศีลอย่างร้ายแรง ใช่จะแกล้งให้เสียงานวานเข้าใจ
** มาคันทิยาดีใจได้โอกาส จะใส่ร้ายด้วยอาฆาตอย่างยิ่งใหญ่ รีบกราบทูลนำมากล่าวเล่าเรื่องไป พวกนางไม่ยอมทำกรรมจริงจริง
** เพราะเอาใจฝักใฝ่ในผู้อื่น ไม่สนใจหยิบยื่นทำเป็นหยิ่ง ยกเอาศีลเอาธรรมมาอ้างอิง หวังประวิงเอาตัวรอดอย่างปลอดภัย
** ขอพระองค์ทรงรับสั่งทำอาหาร ไปถวายเป็นทานในสมัย แห่งการฉันอาหารภูวนัย บรมศาสดาทรงชัยทดลองดู
** เมื่อตรัสสั่งจึงนำไก่ที่ตายแล้ว ไปตามแนวของอุบายที่สวยหรู มอบให้ห้าร้อยนางแม่โฉมตรู ทำอาหารนำสู่พระศาสดา
** ห้าร้อยนางรีบจัดการอย่างเร็วไว ด้วยตั้งใจเพราะสมปรารถนา ด้วยไม่ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวา ถ้าผิดศีลข้อปาณาไม่กล้าทำ
** มาคันทิยาทูลว่าทรงเห็นไหม เหล่าพวกนางปล่อยใจให้ถลำ ไปฝักใฝ่คนนอกเหมือนดังคำ ที่กราบทูลเตือนย้ำตลอดมา
** ท้าวอุเทนได้ฟังทรงนั่งเฉย ไม่เอื้อนเอ่ยดังที่ปรารถนา ความคับแค้นแน่นในใจโฉมสุดา ต้องรีบหาอุบายให้มั่นคง
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:32:58 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระนางมาคันทิยาหาความด้วยเรื่องงู ** ธรรมดาของท้าวอุเทนราช มีสามนาฏโฉมตรูผู้สูงส่ง ท้าวเธอแบ่งเวลาสามอนงค์ แต่ละองค์เจ็ดวันเท่ากันเลย
** ครั้นถึงเวลาสามาวดี มาคันทิยายอดนารีสุดนิ่งเฉย รีบส่งข่าวไปยังอาดังที่เคย ท่านอาเอ๋ยรีบจัดการส่งงูไป
** ฝ่ายท่านอาจัดการงานที่สั่ง รีบส่งงูไปยังในวังใหญ่ ถอดเขี้ยวทิ้งเสียก่อนในทันใด เพื่อจะได้ไม่กัดนางให้วางวาย
** ท้าวอุเทนเมื่อเสด็จ ณ ที่ไหน นำเอาพิณท้าวเธอไปไม่ห่างหาย มาคันทิยารู้ดีในอุบาย จึงวางแผนใส่ร้ายในทันที
** นำงูไปใส่ไว้ในช่องพิณ ยอดนารินนำดอกไม้หลากหลายสี มาปิดช่องเอาไว้ให้ดูดี รอวันที่พระองค์ทรงคลาไคล
** และแล้ววันเวลาก็มาถึง พระองค์จึงเสด็จหาคนใหม่ คือสามาวดียอดยาใจ องค์ท้าวไทไม่ลืมพิณคู่กายา
** มาคันทิยาทูลว่าขอไปด้วย จะได้ช่วยถ้าเกิดภัยใฝ่อาสา องค์ท้าวเธอปฏิเสธเจตนา ตรัสบอกว่าไม่ต้องไปให้วุ่นวาย
** นวลอนงค์ไม่ลดละพยายาม ขอติดตามให้ได้ดังใจหมาย นางออดอ้อนพูดจาหาอุบาย จนสุดท้ายองค์ราชายอมพาไป
** ครั้นถึงปราสาทสามาวดี พระภูมีจอมราชาผู้เป็นใหญ่ ทรงวางพิณของรักไว้ไม่ไกล หากจะใช้ก็ทรงใช้ได้ทันที
** มาคันทิยาจัดการไปตามแผน หวังแก้แค้นให้สมใจไม่ถอยหนี ทำมองหาสิ่งต่างต่างบรรดามี เดินมาที่วางพิณจินตนา
** จึงแกล้งทำดอกไม้ให้ตกไป งูข้างในเลื้อยออกดังปรารถนา จึงโวยวายใส่ใคร้นางสามา ว่าวางแผนจะฆ่าองค์ราชัน
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:35:21 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนลงโทษพระนางสามาวดี ** พระราชาหลงกลคนชั่วช้า ตะโกนก้องจะฆ่าให้อาสัญ สามาวดีต้องตายวายชีวัน บริวารของมันตายทุกคน
** สามาวดีชี้แจงนางห้าร้อย อย่าได้คิดน้อยใจใฝ่กุศล จงช่วยกันแผ่เมตตาอย่าร้อนรน ขอทุกคนจงอยู่ดีมีสุขใจ
** ด้วยเดชะกุศลผลบุญนี้ จงอย่ามีเวรกรรมทำหมองไหม้ ขอให้พบศาสดาอย่าห่างไกล ชาติไหนไหนบุญส่งจงได้ดี
** องค์ราชันทรงน้าวพระแสงศร หวังจะให้งามงอนตายเป็นผี ด้วยความเขลาเข้าใจผิดยอดนารี จะฆ่าฟันบั่นชีวีให้วอดวาย
** อัศจรรย์บันดาลบังเกิดขึ้น ทุกคนยืนตะลึงขวัญหนีหาย ลูกศรเปลี่ยนทิศทางอย่างง่ายดาย ย้อนกลับหมายอุระพระราชา
** ท้าวอุเทนได้คิดจิตสะท้อน แม้ลูกศรยังเข้าใจรู้คุณค่า แม่โฉมงามผู้ถวายใจกายา เปี่ยมศรัทธาสร้างความดีมิเสื่อมคลาย
** ส่วนพระองค์เป็นมนุษย์สุดประเสริฐ อวิชชาพาเตลิดให้เสียหาย ไม่รู้ซึ้งถึงความดีมีมากมาย ใจหนอใจแสนร้ายทำได้ลง
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:39:16 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนทรงประทานพรพระนางสามาวดี ** สำนึกได้ก้มลงกราบขอขมา แล้วตรัสว่าเราฟั่นเฟือนและเลือนหลง ทิศทั้งปวงมืดมิดจิตพะวง สามาเอ๋ยเจ้าจงช่วยต้านเรา
** เราจะถึงซึ่งเจ้าเป็นที่พึ่ง เปรียบประหนึ่งลูกนกตกจากเขา มาพบเจ้าเหมือนเช่นรังให้บังเงา ช่วยแบ่งเบาให้ทุกข์คลายมลายพลัน
** สามาวดีทูลว่ามหาราช ผู้มีความฉลาดเป็นมิ่งขวัญ อย่าได้คิดไปว่าข้าสำคัญ ข้าถึงใครถึงคนนั้นเพื่อพึ่งพา
** องค์พุทธะคือที่พึ่งพึงทรงทราบ นับเป็นโชคเป็นลาภสุดจักหา ขอพระองค์จงถึงซึ่งพุทธา เป็นที่พึ่งวันข้างหน้าจะสบาย
** ประการหนึ่งข้าถึงซึ่งพระองค์ เป็นที่พึ่งสูงส่งดังใจหมาย พระองค์สุขข้าก็สุขไม่เว้นวาย พระองค์ทุกข์ข้ายอมตายแทนพระองค์
** พระราชาตรัสว่าขอบใจนัก เรานี้จักทำตามเจ้าประสงค์ เราจะขอถึงซึ่งพุทธองค์ เป็นที่พึ่งมั่นคงนานเท่านาน
** และเราจะขอถึงซึ่งตัวเจ้า ทุกค่ำเช้าเป็นที่พึ่งพึงประสาน เราจะประทานพรให้นงคราญ สามาวดีเยาวมาลย์ยอดดวงใจ
** พระราชานิมนต์พระพุทธองค์ พร้อมพระสงฆ์ห้าร้อยทั้งน้อยใหญ่ เพื่อทรงฉันภัตตาหารที่วังใน ตลอดไปเจ็ดวันหรรษารมย์
** พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนา เป็นกถาอวยพรให้สุขสม เกิดจากผลแห่งทานเอกอุดม ดุจดังพรมลาดปูสู่วิมาน
** ในที่สุดแห่งมงคลกุศลนี้ ท้าวอุเทนภูมีทรงกล่าวขาน ให้สามาวดีเยาวมาลย์ จงรับพรเราประทานให้แก่นาง
** สามาวดีทูลว่าตัวข้านี้ ไม่ปรารถนาพึงมีสิ่งต่างต่าง ทั้งทรัพย์สินเงินทองมากองวาง แต่อยากสร้างกุศลผลอนันต์
** ตัวข้านี้มั่นคงองค์ศาสดา จึงต้องการนิมนต์มาเพื่อทรงฉัน พร้อมพระสงฆ์ห้าร้อยมาด้วยกัน พวกเรานั้นอยากฟังธรรมองค์สัมมา
** ราชาทรงประทานพรแก่ยอดหญิง ให้เป็นจริงตามที่ปรารถนา ทรงนิมนต์สมเด็จพระศาสดา จงทรงเสด็จมาทุกทุกวัน
** พระศาสดาตรัสว่าย่อมไม่ได้ เพราะทุกคนอยากให้เราไปฉัน ซึ่งภัตตาหารเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนั้นเราจึงเฉลี่ยไป
** เราจะให้อานนท์รับภาระ ขอทุกท่านจงอย่าได้หวั่นไหว ตั้งศรัทธาให้มั่นอยู่กลางใจ ความเลื่อมใสเป็นบ่อเกิดแห่งผลบุญ
** สามาวดีได้พรตามต้องการ บริวารห้าร้อยคอยเกื้อหนุน ตั้งจิตประพฤติธรรมได้ค้ำจุน สนองคุณศาสนาสถาพร
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:42:26 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระนางสามาวดีถูกไฟคลอก ** มาคันทิยาคิดว่าเราทำพลาด ไม่สามารถทำร้ายสายสมร นางสามาวดีโฉมบังอร บริวารของหล่อนก็พ้นภัย
** จึงคิดวางอุบายหมายพิฆาต สังหารอนงค์นาฏให้ตักษัย แล้วบอกอาถึงแผนฆ่าทรามวัย หวังได้ชัยชนะอย่างแน่นอน
** พราหมณ์มาคันทิยะผู้เป็นอา ตอบสนองวาจาไม่ถ่ายถอน ผ้าชุบน้ำมันพันเสาวังบังอร แล้วจึงต้อนผู้คนให้เข้าไป
** โดยบอกว่าราชาทรงรับสั่ง เพื่อทำการบำรุงวังให้สดใส ได้โอกาสลั่นกลอนในทันใด ขังทุกคนข้างในรอความตาย
** แล้วจึงจุดไฟเผาให้เร่าร้อน เป็นกองฟอนชีวามาสลาย ก่อนที่แม่โฉมนางจะวางวาย บอกสาวสาวก่อนตายแผ่เมตตา
** นางทั้งหมดกำหนดกัมมัฏฐาน ว่าด้วยเวทนาการอันสูงค่า เป็นอารมณ์ดังคำสอนองค์สัมมา บรรลุผลเป็นที่น่าพอใจ
** บางคนสำเร็จสกทาคามี ช่างแสนนดีหนักหนาจะหาไหน บางคนได้อนาคามีเป็นที่ไป ไม่รุ่มร้อนเพราะไฟเผาไหม้กาย
** เหล่าภิกษุเข้าเฝ้าพระศาสดา ณ ธรรมสภาเวลาสาย เพื่อกราบทูลฟังคำอธิบาย เรื่องการตายและคติที่ควรเป็น
** พระพุทธองค์ทรงตรัสพระวัจนะ เป็นสัจจะจริงจังดังที่เห็น คนทำดีได้ดีมิลำเค็ญ ดังเฉกเช่นเหล่านางกลางกองฟอน
** อันวัฏฏะพาหมุนหนุนให้สัตว์ ได้อุบัติตามกรรมดังคำสอน ทำกรรมดีได้ดีอย่างแน่นอน ไม่ต้องคอยอ้อนวอนขอฟ้าดิน
** ทำกรรมชั่วสิ่งชั่วตอบสนอง แม้ไม่ได้หมายปองใฝ่ถวิล ทำความชั่วเดือดร้อนเป็นอาจิณ มีมลทินติดกายให้ร้อนรน
** อย่าระเริงอยู่ในวงเวียนทุกข์ อยากมีสุขต้องใฝ่สร้างกุศล ทำความดีมีคุณไม่มืดมน จะพาตนสุขใจไปนิรันดร์
** สามาวดีพร้อมนางทั้งห้าร้อย สร้างบุญมาใช่น้อยไม่โศกศัลย์ สุคติเป็นที่หวังดังใจพลัน นางเหล่านั้นสร้างกรรมดีหนีอบาย
** ความประมาทศัตรูคู่อาฆาต ทำความดีให้พินาศเสื่อมสูญหาย ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย หายนะตัวร้ายหมายมาเยือน
** นรชนคนใดไม่ประมาท ย่อมไม่พลาดความดีมีใครเหมือน จะสุขสันต์ในโลกนี้มิลางเลือน โลกหน้าไม่คลาดเคลื่อนพบสิ่งดี
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:46:00 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน พระเจ้าอุเทนลงโทษพระนางมาคันทิยากับพวก ** พระราชาทรงสดับรับฟังข่าว รู้เรื่องราวที่เกิดกับมเหสี เกิดไฟไหม้ตำหนักสามาวดี ยอดนารีอัคราชนาฏสุดา
** รีบเสด็จดับไฟที่ตำหนัก ของยอดหญิงที่รักช้ำหนักหนา ไม่สามารถช่วยได้....อนิจจา โอ้....กานดาคนดีหนีไปไกล
** สุดปัญญาป้องกันขวัญตาพี่ แสนอาลัยไม่มีน้องอยู่ใกล้ คงเงียบเหงาเศร้าตรมสุดข่มใจ จากนี้ไปอาวรณ์ไม่คลอนคลาย
** หากชาติหน้าถ้ามีพี่ขอร้อง ได้ครอบครองคู่กันดังมั่นหมาย ถนอมน้องรักน้องจนชีพวาย ฟ้าถล่มดินทลายก็รักกัน
** คลายวิโยคโศกเศร้าเฝ้าหวนคิด จำต้องนำคนผิดมาห้ำหั่น จับมาลงอาญาและฆ่าฟัน จะไม่ปล่อยให้มันหนักแผ่นดิน
** มั่นพระทัยคนผิดคิดทำร้าย จนพระนางชีพวายสมถวิล เป็นมาคันทิยายุพาพิน ผู้มีจินต์ริษยาอาฆาตนาง
** ครั้นจะขู่ให้กลัวแล้วซักถาม คงจะไม่ได้ความที่สะสาง ต้องวางกลอุบายตามแนวทาง เป็นหลุมพรางล่อให้หลงคงได้การ
** จึงแกล้งตรัสเป็นนัยว่าใครหนอ ที่ช่วยก่อสุขให้อย่างห้าวหาญ เราอึดอัดพระทัยมาแสนนาน สามาวดีเยาวมาลย์ไม่ซื่อตรง
** คิดเอาใจออกห่างช่างสิ้นคิด เพราะหลงผิดปล่อยให้เฝ้าใหลหลง ปรนนิบัติเอาใจใส่พุทธองค์ นวลอนงค์ตายไปใจสบาย
** มาคันทิยาหลงกลจอมกษัตริย์ ที่ทรงจัดวางแผนแบบง่ายง่าย รีบกราบทูลหม่อมฉันฆ่ามันตาย มอบถวายแก่องค์พระทรงชัย
** จอมกษัตริย์ได้ฟังทรงนั่งนิ่ง รู้สาเหตุแท้จริงดังสงสัย แกล้งบอกจะประทานพรอรทัย อีกทั้งญาติทรามวัยทุกทุกคน
** มาคันทิยาส่งข่าวให้ญาติรู้ ถ้วนทุกหมู่ไม่มีใครตกหล่น รับรางวัลที่ประทานให้แก่ตน อย่าชักช้าวกวนจะเสียการ
** พระราชารับสั่งให้ขุดหลุม จึงควบคุมทั้งหมดไว้ประหาร ฝังครึ่งตัวแล้วจุดไฟไม่ช้านาน พระเพลิงผลาญเผากายไหม้เกรียมดำ
** อันกรรมใดใครหนอได้ก่อไว้ ต้องชดใช้ทุกเวลาอย่าถลำ ทำกรรมดีมีผลดีคอยน้อมนำ ทำกรรมชั่วจะชอกช้ำระกำทรวง
** เช่นมาคันทิยากล้าทำชั่ว ต้องหมองมัวใช้กรรมอย่างใหญ่หลวง ทั้งชาตินี้ชาติหน้าใช่จะลวง กรรมตามทวงผลกรรมอยู่ร่ำไป
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:49:21 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ตอน บุรพกรรมของพระนางสามาวดีกับบริวาร ** ณ ธรรมสภาคราวันหนึ่ง เหล่าภิกษุรำพึงถึงเรื่องใหญ่ ได้พูดคุยเรื่องสามาถูกเผาไฟ ทั้งที่ใจเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา
** พระพุทธองค์ทรงมีพระดำรัส แล้วทรงตรัสพระธรรมกถา ถึงกรรมเก่าของสตรีมีสามา เป็นหัวหน้าถูกเผาไฟไม่อีนัง
** อดีตกาลผ่านมาคราครั้งก่อน จะขอย้อนเรื่องราวคราวหนหลัง พรหมทัตต์ครองเขตนิเวศน์วัง สถิตย์ยังพาราณสีบุรีรมย์
** พระปัจเจกพุทธะลงจากเขา มารับเอาภัตตาหารตามเหมาะสม เพื่อสงเคราะห์โปรดสัตว์ในสังคม ได้ชื่นชมบุญญาบารมี
** ถึงเวลาหวนกลับยังไพรสัณฑ์ ต่างพากันมุ่งไปยังไพรสี มีองค์หนึ่งหยุดเข้าฌานริมวารี โดยได้มีกอหญ้ามาปิดบัง
** พระราชาได้พาหญิงทั้งหลาย ไปแหวกว่ายน้ำเล่นที่ใกล้ฝั่ง เล่นน้ำนานเหนื่อยหนาวเกินกำลัง ขึ้นไปยังที่พระได้เข้าฌาน
** แล้วจุดไฟเพื่อผิงอิงไออุ่น ไฟเริ่มไหม้เป็นจุณเห็นหลักฐาน ว่าเป็นพระปัจเจกะพาร้าวราน กลัวจะถูกพระภูบาลลงอาญา
** จึงนำฟืนมาสุมไฟกองใหญ่มาก หวังเผาไม่เหลือซากสิ้นกังขา แล้วจึงรีบหลีกไปไม่รอรา ด้วยหวังว่าร่างกายต้องไหม้ไป
** ความเป็นจริงเวลาพระเข้าฌาน ไม่มีใครทำให้ร้าวฉานได้ ครบเจ็ดวันท่านกลับเข้าพงไพร โดยไม่มีส่วนใดเสียหายเลย
** ด้วยผลกรรมที่ทำยิ่งใหญ่นัก เป็นประจักษ์เจตนาอย่างเปิดเผย ผลกรรมชั่วไม่อาจจะเฉยเมย ในชาตินี้ต้องลงเอยถูกเผาไฟ
** วิบากกรรมที่ทำย่อมส่งผล ให้ร้อนรนปวดร้าวสุดทนไหว จงหันมาสร้างกุศลผลอำไพ พึงหลีกไกลความชั่วตัวกาลี
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
หัวข้อ: Re: พระนางสามาวดีคำกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 21 มีนาคม, 2559, 09:54:00 PM
(http://www.mx7.com/i/c59/6Lss7T.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yZuPty9HCfvxK2KC) เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน โดย สมพงศ์ ชูสุวรรณ *************************** ปัจฉิมบท ** ปัจฉิมบทยกพุทธพจน์มากล่าวอ้าง เป็นแนวทางส่งให้มีศักดิ์ศรี เว้นกรรมชั่วแล้วทำแต่กรรมดี ทั้งโลกนี้โลกหน้าสถาวร
** พุทธองค์ตรัสว่าอย่าประมาท สร้างกรรมดีทุกชาติอย่าถ่ายถอน แม้ชาตินี้ชาติไหนไม่ร้าวรอน จะนั่งนอนยืนเดินเพลิดเพลินใจ
** มีสติยั้งคิดจิตคงมั่น สัมปชัญญะเสริมกันแสนยิ่งใหญ่ ความรู้ตัวและความระลึกได้ จะทำให้ปลอดภัยจากมลทิน
** ความประมาทคือหนทางความฉิบหาย มีชีวิตหรือตายก็ตายสิ้น เพราะได้ตายจากความดีมีราคิน พระมุนินทร์ตรัสว่า “ปมาโท”
** เป็นอันตรายต่อกรรมดีที่ใหญ่ยิ่ง น่ากลัวจริงจะเกิดตัวโมโห จะติดตามมาด้วยเจ้าโลโภ อีกโทโสจะเรียกหาไม่ช้าที
** คุณธรรมทั้งหลายจะหายหมด ปัจจุบันอนาคตมืดเหลือที่ ความเศร้าหมองจะครอบงำชั่วชีวี ความประมาทตัวนี้อันตราย
** จงสั่งสมกรรมดีไว้ดีกว่า ทั้งชาตินี้ชาติหน้ามีที่หมาย สุคติดีล้นพ้นอบาย จะไม่ตายเมื่อมรรคผลนำหนทาง
** ขอจบกลอนวอนว่ามาเล่าเรื่อง ไม่ปราดเปรื่องผิดพลาดอย่าบาดหมาง เขียนไม่เก่งยังอ่อนหัดการจัดวาง ให้สัมผัสต่างต่างถูกกฎเกณฑ์
** ชิงสัมผัส สัมผัสเลือน สัมผัสซ้ำ มีมากล้ำทุกท่านคงได้เห็น โปรดจงให้อภัยไม่ลำเค็ญ ใช่อยากดังอยากเด่นจงเห็นใจ
** ขอบพระคุณทุกท่านอ่านเรื่องนี้ ถ้าไม่ดีโปรดได้ช่วยแก้ไข เพื่อต่อเติมส่วนที่ขาดหายไป จะไร้ส่วนบกพร่องของงานกลอน
** ท่านผู้รู้จงปรานีอารีด้วย โปรดได้ช่วยแนะนำมอบคำสอน เพื่อการพัฒนาอันสุนทร ขออ้อนวอนเมตตามาช่วยกัน
** ที่สุดนี้ขอให้มีแต่ความสุข นิราศทุกข์ห่างภัยไม่โศกศัลย์ สิ่งชั่วร้ายหายไปนิจนิรันดร์ ทุกคืนวันสร้างความดีมีโชคชัย
ขอได้รับความขอบคุณจาก สมพงศ์ ชูสุวรรณ
|
(http://www.mx7.com/i/368/nRhkG.gif) (http://www.mx7.com/view2/iYfm) สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา (http://www.mx7.com/i/c45/OiOraL.gif) (http://www.mx7.com/view2/ySULYD5rESrRA8tu)
|