เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน => คุยได้ทุกเรื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: masapaer ที่ 17 เมษายน, 2559, 11:08:22 PM



หัวข้อ: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 17 เมษายน, 2559, 11:08:22 PM
@  กลอนที่เขียนไม่ได้  @


บรรจงเขียนเพียรลิขิตทิศอักษร
กลั่นบทกลอนอ่อนไหวให้อ่อนหวาน
กำหนดบทจดความตามแนวกานท์
หวังสืบสานงานกวีศรีของไทย

บรรจงร้อยเรื่องราวเฝ้านิมิต
*(ในทุกทิศ)ล้วนประดิษฐ์คิดเขียนเวียนแต่งได้
ด้วยศรัทธาธรรมรัตน์ปรัชญาใด
สอดแทรกไปให้คุณหนุนวิชา

อันความเหงาเรามีมากอยากจะเขียน
ด้อยความเพียรเขียนคำที่ล้ำค่า
เขียนพอไหวใคร่ต่อขอเวลา
จึงมีบ้างบางครามาให้ยล

กลอนบทโศกโรครักถูกหักทิ้ง
เขียนเก่งจริงนิ่งคอยหน่อยเห็นผล
ความรู้สึกเก่าก่อนย้อนกมล
เหมือนเล่นกลดลใจใส่ในกลอน

อันเรื่องรักพอมีที่ได้แอบ
ในหัวใจคับแคบแทบผุกร่อน
แอบรักเขาเราล้าอุรารอน
ย่อมได้บ้างบางตอนกลอนเบาเบา

เขียนกลอนรักมักกลุ้มรุมเสมอ
เป็นเรื่องเพ้อ..เธอ - ฉัน..กลั่นความเหงา
ความวาบหวามซึ้งใจได้แค่เงา
ไม่มีกลอน "ของเรา" เหงาก็ทน

คงเขียนกลอนรอรักมักแอบแอบ
รอเธอแนบแอบใจให้สักหน
ก่อบทรักปักไว้ในสองคน
อาจเลิกหม่นเขียน "กลอนรัก" ได้สักที

(เขียนนานแล้วค่ะ กลอนนี้ถูกครูชำแหละมาแล้ว ต้องการวางไว้เพื่อเป็นกรณีศึกษา)


สำนวนนี้ครูค่อนข้างชมว่ากลอนเขียนได้มีจังหวะ มีสัมผัสนอกในดี มีความหวาน (คือการลงเสียงของคำในแต่ละวรรค) การเขียนกลอนของพิณนรีจะเน้นที่แปดคำ ในส่วนตัวคือต้องลงแปดคำให้ได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ค่ะ อยู่ที่เราต้องการสื่ออารมณ์ความคิดออกไป

แต่มีจุดอ่อนคือ (เอาสองบทนี้ก่อน)

บรรจงเขียนเพียรลิขิตทิศอักษร
กลั่นบทกลอนอ่อนไหวให้อ่อนหวาน
กำหนดบทจดความตามแนวกานท์
หวังสืบสานงานกวีศรีของไทย

บรรจงร้อยเรื่องราวเฝ้านิมิต
ในทุกทิศคิดเขียนเวียนแต่งได้
ด้วยศรัทธาธรรมรัตน์ปรัชญาใด
สอดแทรกไปให้คุณหนุนวิชา

คำว่า "ใน" ชิงสัมผัส มาก่อนคำว่า "ได้" ท้ายวรรค  แต่ครูบอกว่า กรณีคำที่ชิงสัมผัสเป็นคำแรกของวรรค พออนุโลมไปได้ แต่ถ้าเขียนประกวด คงโดนหักคะแนน เพราะต้องคัดเพียงหนึ่งที่สมบูรณ์ที่สุด แต่อาจจะหักน้อยกว่าตำแหน่งอื่นในวรรคนั้น)
ตอนนั้นยังหาคำมาแก้ให้สวยขึ้นไม่ได้ ตอนนี้คิดว่ามีแล้วแต่ขอไม่แก้นะคะ ส่วนหนึ่งก็เอาไว้ดู

วรรคที่ขีดเส้นใต้ ก่อนนั้นคือ สัมผัสเลือน คือมันเลือนจนน่าเกลียด แต่จำไม่ได้ว่าคำอะไร รู้แต่ว่าน่าเกลียดขัดอารมณ์ เลยแก้ไขใหม่ค่ะ

* คำว่า "ใน" ชิงสัมผัส จึงเปลี่ยนคำใหม่ดู และคงอันเดิมไว้อ้างอิง


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 17 เมษายน, 2559, 11:48:03 PM
ส่วนคำที่ทำสีแดงเอาไว้นั้น เป็นกลุ่มคำใน สระโอะ ลดรูปหมดเลย

 กล = ก + โ-ะ + ล       (คำประสมสระโอะ เมื่อมีตัวสะกด สระโอะจะหายไป เรียกว่า สระลดรูป)

แถมตัวสะกดอยู่ในมาตรา กน เหมือนกันหมดเลย ถ้าพยัญชนะเป็นตัวเดียวกันหมด ก็ถือว่าเป็นคำซ้ำ สัมผัสซ้ำแน่ๆ ที่เดียวเทียวนะเออ  แต่ในที่นี้คงเป็น ซ้ำสระ และตัวสกด อาจจะมองได้ถึงความสามารถในการใช้คำซึ่งยังประสบการณ์ไม่มาก คลังคำในสมองก็น้อย เลยมีคำที่นำมาใช้น้อย

อันนี้ครูช่างสังเกตมากว่า เราใช้แบบคำ และเสียงซ้ำกันเยอะ แต่ยังสามารถหลีกเลี่ยงสัมผัสซ้ำได้


อันความเหงาเรามีมากอยากจะเขียน
ด้อยความเพียรเขียนคำที่ล้ำค่า
เขียนพอไหวใคร่ต่อขอเวลา
จึงมีบ้างบางครามาให้ยล

กลอนบทโศกโรครักถูกหักทิ้ง
เขียนเก่งจริงนิ่งคอยหน่อยเห็นผล
ความรู้สึกเก่าก่อนย้อนกมล
เหมือนเล่นกลดลใจใส่ในกลอน

ครูสังเกตว่า สะกดด้วย ล ลิง หมดเลย ทั้งชุด

กลดล

อันนี้สัมผัสใน มี คำว่า ดล เข้ามา ก็ ล ลิง สะกด และก็ยังไม่ซ้ำกับคำใดที่เน้นสีแดงไว้

เขียนกลอนรักมักกลุ้มรุมเสมอ
เป็นเรื่องเพ้อ..เธอ - ฉัน..กลั่นความเหงา
ความวาบหวามซึ้งใจได้แค่เงา
ไม่มีกลอน "ของเรา" เหงาก็ทน

คงเขียนกลอนรอรักมักแอบแอบ
รอเธอแนบแอบใจให้สักหน
ก่อบทรักปักไว้ในสองคน
อาจเลิกหม่นเขียน "กลอนรัก" ได้สักที


ส่วนบทนี้ สะกด  ด้วย น หนู หมดเลยทั้งชุด

เราเขียนเองไม่สังเกตค่ะ จากคำที่ครูแนะนำคือมันค่อนข้างล่อแหล่มต่อการพลาด
แต่ก็ชมในเรื่องของการหาคำมาใช้ไม่ซ้ำกันในชุดนี้ได้

เท่าที่พอจำได้ค่ะ

ถ้าหากว่าบอกเกล่าเล่าต่อผิดเพี้ยนจากที่ครูเคยแนะนำไว้ก็กราบขอความอนุเคราะห์ ตักเตือน ย้ำทวนบทเรียนด้วยนคะ

กราบขอบพระคุณครูเป็นอย่างสูงค่ะ

ท้ายนี้ก็เชิญ เราๆ ท่านวิจารณ์ต่อได้ค่ะ หรือจะต่อกลอนเพลิน ๆ ก็ได้ค่ะ ตามสบายนะคะ  :14:

ดาว


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 18 เมษายน, 2559, 12:31:42 AM

...เอ้าทั้งหมดยืนตรง...สวัสดีครับคุณครู...

...ขอเข้ามานั่งเรียนอยู่แถวหน้าเลยครับ คุณครู
ก่อนนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียน (มัวแต่ไปโต้คารมกับกลุ่มเด็กแว้นซ์
...ขอกระทบชิ่ง..อิอิ) เลยขอกลับเข้ามาเรียนใหม่นะครับผม...

Soul นักเรียนโข่ง

 :12:



หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 18 เมษายน, 2559, 07:41:29 AM
บรรจงเขียนเพียรลิขิตทิศอักษร
กลั่นบทกลอนอ่อนไหวให้อ่อนหวาน
กำหนดบทจดความตามแนวกานท์
หวังสืบสานงานกวีศรีของไทย

บรรจงร้อยเรื่องราวเฝ้านิมิต
ในทุกทิศคิดเขียนเวียนแต่งได้
ด้วยศรัทธาธรรมรัตน์ปรัชญาใด
สอดแทรกไปให้คุณหนุนวิชา

...................................

วรรคที่คุณดาวขีดเส้นใต้ไว้นั้นไม่เรียกว่าสัมผัสเลือนนะ

สัมผัสเลือนหมายถึง มีคำที่มารับสัมผัส สองตำแหน่ง
ซึ่งมักจะเกิดในวรรคที่สอง(วรรครับ) หรือ สี่(วรรคส่ง)อ่ะนะ
มีแต่คำว่าได้ กับ ใด ใช้พยัญชนะตัวเดียวกัน
ถ้าเป็นกลอนประกวดกรรมการจะตัดคะแนน นีส ส ส นึง...อิอิ

 :aab15:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 18 เมษายน, 2559, 10:01:48 AM
หวังสืบสานงานกวีศรีของไทย
................................
ในทุกทิศคิดเขียนเวียนแต่งได้

ตอนนั้นยังหาคำมาแก้ให้สวยขึ้นไม่ได้ ตอนนี้คิดว่ามีแล้วแต่ขอไม่แก้นะคะ

ขออนุญาตครับ
เห็นว่า ควรนำเสนอคำแก้ไขที่เหมาะสม
ส่วนของเดิม ใส่วงเล็บกำกับไว้ จักเป็นประโยชน์กว่าครับ



ด้วยศรัทธาธรรมรัตน์ปรัชญาใด

วรรคที่คุณดาวขีดเส้นใต้ไว้นั้นไม่เรียกว่าสัมผัสเลือนนะ
ละอองดิน

ผมคิดว่า ที่คุณ pinnaree นำเสนอ คงแก้ไขแล้วครับ

วรรคที่ขีดเส้นใต้ ก่อนนั้นคือ สัมผัสเลือน คือมันเลือนจนน่าเกลียด
แต่จำไม่ได้ว่าคำอะไร รู้แต่ว่าน่าเกลียดขัดอารมณ์ เลยแก้ไขใหม่ค่ะ



หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 18 เมษายน, 2559, 12:19:43 PM
:30:

อันความเหงาเรามีมากอยากจะบอก
มิกลับกลอกหลอกลวงด้วยห่วงหา
หยิบกระดาษแหว่งเว้ารีบเอามา
เขียนมีบ้างบางคราพาวกวน

กลอนบทโศกโรครักปักทรวงลึก
ให้รู้สึกระห้อยคอยนั่งบ่น
แสนคิดถึงความหลังฝังกมล
เพ้อพร่ำจนหมดวันกลั่นกานท์กลอน

วิริน

๑๘/๔/๕๙

 :30:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 18 เมษายน, 2559, 08:42:34 PM
ขอบคุณ ละอองดิน และอาจารย์ share ค่ะ

ตามที่ อ. share อธิบายวรรคที่ขีดเส้นใต้ไว้ค่ะ คุณละอองดิน ขนาดเปลี่ยนแล้วยังได้วรรคที่เยิ่นเย้อ แต่ชอบที่คำมันแล้วค่ะ อันนี้ไม่เปลี่ยนนะคะ อ.share  แต่เห็นด้วยที่จะปรับคำว่า "ใน" ใหม่ ดาวลองวงเล็บไว้ในกระทู้เปิดแล้วค่ะ 

อีกเรื่องคือ จุดที่คุณละอองดิน ชี้แนะ คำว่า "ได้" กับ "ใด"  ว่าจะเล่าอยู่เหมือนกันค่ะ เมื่อคืน โพสสะดุดหลายครั้งเลยลืม ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

เรื่องนี้คุณเพรางาย ก็เคยชี้แนะดาวเอง เอาไว้ครั้งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นเสียงเดียวกันค่ะ แต่ท่วงทำนองเปลี่ยนจังหวะ ตามวรรณยุกต์ (อันทำนองนี้ดาวต่อเอง)

มีเยอะมากทีเดียว ล่า -ลา ,  ที่-ที เป็นต้น

ดาวเองก็เขียนๆไป แต่อยากเน้นย้ำเรื่องการส่งเข้าประกวด จุดนี้กรรมการก็ตัดได้ อย่างที่ละอองดินบอก   
ยากจะโพสกลอนที่เน่าๆกว่านี้ของดาว แต่ไม่สะดวกเลยค่ะ ขออภัย รอบหน้านะคะ

ปูลม : ขอบคุณสาวน้อยวิรินที่มาต่อกลอน คนอะไรต่อได้เสมอ เหมือนดั่งโลกนี้เป็นของเธอคนเดียว น่ารักเสมอสาวคนนี้

 :jub jub:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 18 เมษายน, 2559, 09:20:23 PM
ขอบพระคุณความรู้ที่ครูให้
ฉันตั้งใจจดจำนำมาเขียน
หากผิดพลั้งเผลอไผลให้แวะเวียน
ฉันจะเพียรแก้ตามจนงามคำ

ช่วงนี้งานหนักมากอยากจะบอก
อาจเข้า-ออกน้อยลงส่งกลอนขำ
ตกดึกเข้าอ่านกลอนนอนจดจำ
โปรดช่วยนำวางกานท์ให้อ่านเอย

สิริวตี
 :14:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 19 เมษายน, 2559, 10:02:13 AM


อยาก...ส่งสารการใดให้โลกรู้                
อยาก...ร้องกู่ก้องเสียงจำเรียงสรรค์      
อยาก...เพ้อพร่ำรำพันศิลป์จินตบรรณ    
อยาก...ใฝ่ฝันเฟื่องร้อยสร้อยสังวาลย์    

สื่อ...สกาวดาวเดือนมิเบือนบิด              
สื่อ...ลิขิตจิตตรงจำนงหาญ                    
สื่อ...แย้มยลหยาดหยดพจมาน              
สื่อ...สะท้านเสียดขั้วครั่นหัวใจ              

ออกมาเป็น...กานท์กลอนอันอ่อนหวาน  
ออกมาเป็น...คำขานกังวานใส                
ออกมาเป็น...รื่นรสพจน์ดนัย                  
ออกมาเป็น...คำใคร่ใครจดจำ                

บทกลอน...ที่มีค่าน่าหนุนเนื่อง                
บทกลอน...เรื่องเปรื่องปราชญ์ฉลาดขำ  
บทกลอน...ซ้อนซ่อนคมคารมคำ            
บทกลอน...น้อมนบนำค้ำชีวี                  

...ขอร่วม"เขียนไม่ได้" ด้วยคนนะครับ
ขอขอบพระคุณอาจารย์ทั้งหลายที่มาช่วย
ให้เคล็ดวิชาครับ ได้อ่านกลอนที่มีคุณภาพ
ทำให้รู้ว่าตนเองยังแต่งกลอนเป็น
มะม่วง มังคุด ละมุด ลำไย อยู่เลย...เฮ้อ
(ไม่เป็นสับปะรด...555)
จะพยายามตั้งใจฝึกให้มากขึ้นครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 19/4/2016

 :14:



หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 19 เมษายน, 2559, 03:46:50 PM
 :30:

ปูลม : ขอบคุณสาวน้อยวิรินที่มาต่อกลอน คนอะไรต่อได้เสมอ เหมือนดั่งโลกนี้เป็นของเธอคนเดียว น่ารักเสมอสาวคนนี้

 :30:


แหมได้ยินคำชมแทบลมจับ
รีบมารับเร็ววันพลันด่วนจี๋
ใจพองโตโธ่ถังปังสิ้นดี
ในร้อยปีมีเพียงหนึ่งซึ้งกมล

เรามันคนโลกสวยรวยน้ำจิต
อยากผูกมิตรเอาไว้คงได้ผล
รักกานท์กลอนวอนหนอขอสักคน
ติดลมบนเพราะล้ำคำเยินยอ

วิริน

๑๙/๔/๕๙

 :30:



หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 19 เมษายน, 2559, 10:45:40 PM
เขียนกลอนกานท์วานสักคนมาดลรัก
จึงทึกทักคือฉันที่ท่านขอ
ประกายรักถักไว้ไม่รีรอ
นี่แหละหนอความรักมาปักใน

ขอแอบมาระรานทั้งมานจิต
ด้วยจริตน้องลิงวิ่งเข้าใส่
โปรดเอ็นดูหนูด้วยช่วยเอาใจ
รักกันไว้แก้เหงาลบเศร้าเอย

สิริวตี

 :30:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 เมษายน, 2559, 09:54:48 AM

...เอ้าทั้งหมดยืนตรง...สวัสดีครับคุณครู...

...ขอเข้ามานั่งเรียนอยู่แถวหน้าเลยครับ คุณครู
ก่อนนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียน (มัวแต่ไปโต้คารมกับกลุ่มเด็กแว้นซ์
...ขอกระทบชิ่ง..อิอิ) เลยขอกลับเข้ามาเรียนใหม่นะครับผม...

Soul นักเรียนโข่ง

 :12:



ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย

โรงเรียนเข้าแล้วคร้าาา.... คุณครูมาสอนต่อเลยหนูขอนั่งหน้าเหมือนกัน  นักเรียนอย่ามาสายสิ...

รบกวนพี่ดาวให้ความรู้ต่อด้วยนะคะ พวกเราจะได้นำไปพัฒนาตนเอง^^

ขอบพระคุณค่ะ


สิริวตี
 :14:
(http://upic.me/i/23/qdmmm.gif) (http://upic.me/show/740483)


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 22 เมษายน, 2559, 09:25:54 PM
แหม  ๆ ๆ ๆ อย่าว่าสอนเลยค่ะ ใครมีอะไรก็เอามาแบ่งปันกันดีกว่า

ต้องอยากรู้เสียก่อนว่าใครต้องการรู้อะไรจึงจะค้นคำตอบมาให้ได้ หรือเอามาแชร์กันนะ..จ๊ะ  ลิงน้อย :28:

กลอนนางไวปานลิงจริงนะแม่
อย่าได้แหย่แม่นางจงวางเฉย
สิริวตีเจ้าเราคุ้นเคย
ที่นางเปรยแค่อ่อนข้อต้องขอเตือน

 :21:









หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 เมษายน, 2559, 09:55:32 PM
ลิงน้อยมีอาจารย์หลายท่าน กว่าจะมีวันนี้ได้ ทั้งพี่ระนาด พี่ศิ พี่ศิลา พี่พิณจันทร์ อ.ธนุ อ.แชร์.อ.สุวัฒน์ และตอนนี้ต้องการพี่พิณนรีอีกคนด้วยค่ะ ไม่งั้นกลอนต้องปีนต้นไม่ไปมาตามอาการเพี้ยนแน่ๆเลยค่ะ..อ๋อที่ลืมไม่ได้คือ ท่านคอนพูธน ที่แนะนำกลบท และพี่เปรื่องที่สอนฉันท์เมื่อเดือนที่แล้ว...

วตีอยากมีกลอนสวยๆแบบพี่ดาว แนะนำด้วยนะคะ^^

สิริวตี


หัวข้อ: เพียงความอ่อนไหว (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 22 เมษายน, 2559, 09:57:44 PM
เอามาให้ดูอีกสำนวน  จริง ๆ แล้วสำนวนนี้ยังไม่เน่านะคะ  มีเน่ากว่านี้เน่าจนพอครูชี้แนะมาไม่โพสเลย  :28:
อายมาก  :21:  สำนวนนี้มีคนชี้แนะมาก็เรื่องผิดฉันทลักษณ์ แต่พี่ดาวชอบสำนวนนี้มากไม่สามารถหาคำมาเปลี่ยนให้ตรงกับใจและอารมณ์ของตัวเองได้ คือมันลงตัวที่อารมณ์ของตัวเองแล้ว ถ้าเปลี่ยนมันจะฝืนมาก เจ็บปวดใจตัวเองเปล่า ๆ
ขอนะจ๊ะ ขอทุกท่านแบบจงใจ แต่ระวังตอนเขียนประกวดกันนะคะ กรรมการตัดแน่นอน


~เพียงความอ่อนไหว~


อาจเป็นเพราะใจฉันนั้นบางเบา*  (แม้อ้างว่า ใช้ได้ แต่บางตำราก็ว่า ไม่มีน้ำหนัก บ้างก็ว่า เสียงไม่เพราะ)
มิต่างเมฆสีเทาเฝ้าผืนฟ้า**
จึงหวั่นไหวคล้ายเมฆเสกมายา
เกิดเป็นภาพลวงตาหลอกอารมณ์


คล้ายดวงมานนั้นซ่อนความอ่อนไหว
เพียงลมพัดหัวใจแทบไหวล่ม
เธอเองใจไม่ต่างอย่างสายลม
ที่คอยพรมความเย็นและเร้นลวง

ถวิลยามลมพัดสะบัดอ่อน
หวังความร้อนผ่อนพักความหนักหน่วง
เธอกลับกลายพายุประทุทรวง
กระหน่ำดวงใจแยกแทบแหลกลาญ

เธอมีสิทธิ์เลือกเป็นเช่นเธอฝัน
แปรลมผันพายุลุประหาร
อานุภาพทำลายในต้องการ
ทุกสถานพระพายไม่ปรานี

เมฆเคลื่อนลาล้าท้อเพราะเกินแบก
พร้อมจะแยกลาจากซากป่นปี้
แปรไปตามลมพาทุกนาที
ตามวิถีลมพรากยากลบเลือน

เมื่อเมฆขาวราวฝ้ายกลายผันรูป
ด้วยหลงจูบรูปฟ้าพายุเฉือน
เอนอ่อนไหวตามเธอเพ้อบิดเบือน
ก็คลายเคลื่อนเบือนหายมลายไกล

อาจคือความอ่อนไหวของใจฉัน
สร้างภาพฝันมั่นคงหรือหลงใหล
เป็นทุกสิ่ง..วิ่งตามเธอร่ำไป
เพียงเพราะเราอ่อนไหว..มิใช่จริง!

*,**เสียงคำ จะกำหนดเสียงคำท้ายวรรคเป็นสำคัญ  กำหนดได้ ดังนี้

          คำท้ายวรรคสดับ   กำหนดให้ใช้ได้ทุกเสียง
          คำท้ายวรรครับ   กำหนดห้ามใช้เสียงสามัญกับตรี
          คำท้ายวรรครอง   กำหนดให้ใช้เฉพาะเสียงสามัญกับตรี
          คำท้ายวรรคส่ง   กำหนดให้ใช้เฉพาะเสียงสามัญกับตรี

เสียงในภาษาไทย มี 4 รูป  5  เสียง นะคะ
รูป มี มี 4 รูป  ดังนี้  ่             ้                ๊             ๋
เสียง มี 5  เสียง ดังนี้   สามัญ    เอก   โท   ตรี   จัตวา

จากตัวอย่าง พิจารณดูนะคะ จุดไหนบ้าง

พี่ดาวค่ะ


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 22 เมษายน, 2559, 10:04:48 PM
ลิงน้อยมีอาจารย์หลายท่าน กว่าจะมีวันนี้ได้ ทั้งพี่ระนาด พี่ศิ พี่ศิลา พี่พิณจันทร์ อ.ธนุ อ.แชร์.อ.สุวัฒน์ และตอนนี้ต้องการพี่พิณนรีอีกคนด้วยค่ะ ไม่งั้นกลอนต้องปีนต้นไม่ไปมาตามอาการเพี้ยนแน่ๆเลยค่ะ..อ๋อที่ลืมไม่ได้คือ ท่านคอนพูธน ที่แนะนำกลบท และพี่เปรื่องที่สอนฉันท์เมื่อเดือนที่แล้ว...

วตีอยากมีกลอนสวยๆแบบพี่ดาว แนะนำด้วยนะคะ^^

สิริวตี

พอดูได้ ๆ :ca1:  ชมเกิน พี่ไม่ได้มีแต่กลอนสวย ๆ นะ หน้าก็สวย สนป่ะหล่ะ :7611:

(http://www.thai-funny.com/wp-content/uploads/2014/08/148203_1456417941237948_1105544205_n-225x300.jpg)

 :28:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 เมษายน, 2559, 10:06:43 PM
อยากได้รูปแบบนี้ หายังไงอ่าคะ...อยากเอาไปแกล้งคนแก่แถวๆนี้ (ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร555)
 :30:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 23 เมษายน, 2559, 07:09:11 AM
:29:

อาจเป็นเพราะใจฉันนั้นบางเบา
มิต่างเมฆสีเทาเฝ้าผืนฟ้า
....
....

บทแรกของคุณพิณนรี อ่านเป็นร้อยแก้ว ก็ไพเราะดีนะครับ
แต่ถ้าเป็นทำนองเสนาะ ก็ต้องมีเทคนิคนิดหนึ่ง (แห่ ๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง)

ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ

1. เสียงสามัญที่ท้ายวรรคแรก หากจะให้ออกมาฟังแล้วเนียน ต้องดูการวางเสียงทั้งวรรค ไม่ใช่แค่ที่คำท้าย
ตัวอย่างการวางเสียงท้ายวรรค 1 ด้วยสามัญ ที่ผมพอคิดได้ จะประมาณนี้ครับ

           กา กา กา / กา ก๋า / ก่า กา กา

       แล้วถ้าต่อด้วยวรรค 2 แบบนี้อีก

           กา กา กา/ กา ก่า/ ก่า กา ก๋า

       ยิ่งแจ่มเลยครับ

(จริง ๆ คิดว่าน่าจะมีอีกหลายสูตร ต้องแต่งไปฮัมไปครับจึงจะเห็น)

2. เสียงตรีที่ท้ายวรรคสอง เวลาอ่านทำนองเสนาะถ้าจะให้ยังฟังเป็นเสียงตรี ต้องเอื้อนสั้น ไม่งั้นเสียงจะเพี้ยนไปเป็นจัตวา ดังนั้น ถ้าอยากจะใช้ก็น่าจะใช้กับกลอนบทดุดุ จะได้เอื้อนสั้นได้ตามอารมณ์ของกลอน

ที่เสนอไปเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
ผิดพลาดประการใด..ขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียวครับ

ศรีเปรื่อง




หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 23 เมษายน, 2559, 07:49:01 AM
ลิงน้อยมีอาจารย์หลายท่าน กว่าจะมีวันนี้ได้ ทั้งพี่ระนาด พี่ศิ พี่ศิลา พี่พิณจันทร์ อ.ธนุ อ.แชร์.อ.สุวัฒน์ และตอนนี้ต้องการพี่พิณนรีอีกคนด้วยค่ะ ไม่งั้นกลอนต้องปีนต้นไม่ไปมาตามอาการเพี้ยนแน่ๆเลยค่ะ..อ๋อที่ลืมไม่ได้คือ ท่านคอนพูธน ที่แนะนำกลบท และพี่เปรื่องที่สอนฉันท์เมื่อเดือนที่แล้ว...

วตีอยากมีกลอนสวยๆแบบพี่ดาว แนะนำด้วยนะคะ^^

สิริวตี

พอดูได้ ๆ :ca1:  ชมเกิน พี่ไม่ได้มีแต่กลอนสวย ๆ นะ หน้าก็สวย สนป่ะหล่ะ :7611:

(http://www.thai-funny.com/wp-content/uploads/2014/08/148203_1456417941237948_1105544205_n-225x300.jpg)

 :28:

...อ้าว...พี่ดาวเองหรอกเหรอครับ ที่นอนอยู่ปากซอยบ้านผม...
คราวหน้าเดินผ่านผมจะได้ยกมือไหว้ เข้าไปคุยด้วย...อิอิ

Soul ไอ้ผมมันเชื่อคนง่ายใครบอกอะไรก้อเชื่อไปโม้ด

ป.ล. พี่ต้องการหวี ไหมครับจะซื้อไปฝาก...555


 :12:



หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 23 เมษายน, 2559, 07:52:38 AM

...ถ้าท่านเปรื่อง ฝากเสียงหล่อๆ มาประกอบคำอธิบายด้วย
คงแหล่มเลย...

เห็นแต่รูป...ไม่มีเสียง...เออ..แต่กลิ่นไม่ต้องฝากมาก็ได้นะคร้าาบ..555

  :12:



หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 28 เมษายน, 2559, 11:12:42 AM
อยากได้รูปแบบนี้ หายังไงอ่าคะ...อยากเอาไปแกล้งคนแก่แถวๆนี้ (ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร555)
 :30:


เข้าไปถามอากู๋เกิ้ลได้เสมอจ้า เลือกตรงค้นรูป คีย์เวิร์ด รูปตลก รูปสวย รูปน่ารัก อีโม ไอคอน ฯลฯ  :34:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 28 เมษายน, 2559, 11:14:41 AM
:29:

อาจเป็นเพราะใจฉันนั้นบางเบา
มิต่างเมฆสีเทาเฝ้าผืนฟ้า
....
....

บทแรกของคุณพิณนรี อ่านเป็นร้อยแก้ว ก็ไพเราะดีนะครับ
แต่ถ้าเป็นทำนองเสนาะ ก็ต้องมีเทคนิคนิดหนึ่ง (แห่ ๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง)

ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ

1. เสียงสามัญที่ท้ายวรรคแรก หากจะให้ออกมาฟังแล้วเนียน ต้องดูการวางเสียงทั้งวรรค ไม่ใช่แค่ที่คำท้าย
ตัวอย่างการวางเสียงท้ายวรรค 1 ด้วยสามัญ ที่ผมพอคิดได้ จะประมาณนี้ครับ

           กา กา กา / กา ก๋า / ก่า กา กา

       แล้วถ้าต่อด้วยวรรค 2 แบบนี้อีก

           กา กา กา/ กา ก่า/ ก่า กา ก๋า

       ยิ่งแจ่มเลยครับ

(จริง ๆ คิดว่าน่าจะมีอีกหลายสูตร ต้องแต่งไปฮัมไปครับจึงจะเห็น)

2. เสียงตรีที่ท้ายวรรคสอง เวลาอ่านทำนองเสนาะถ้าจะให้ยังฟังเป็นเสียงตรี ต้องเอื้อนสั้น ไม่งั้นเสียงจะเพี้ยนไปเป็นจัตวา ดังนั้น ถ้าอยากจะใช้ก็น่าจะใช้กับกลอนบทดุดุ จะได้เอื้อนสั้นได้ตามอารมณ์ของกลอน

ที่เสนอไปเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
ผิดพลาดประการใด..ขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียวครับ

ศรีเปรื่อง


ขอบพระคุณท่านศรีเปื่อง เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ จะเก็บไว้ใช้ลองดูแน่นอนค่ะ
 :smiley29:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 28 เมษายน, 2559, 11:17:56 AM


พอดูได้ ๆ :ca1:  ชมเกิน พี่ไม่ได้มีแต่กลอนสวย ๆ นะ หน้าก็สวย สนป่ะหล่ะ :7611:

(http://www.thai-funny.com/wp-content/uploads/2014/08/148203_1456417941237948_1105544205_n-225x300.jpg)

 :28:

...อ้าว...พี่ดาวเองหรอกเหรอครับ ที่นอนอยู่ปากซอยบ้านผม...
คราวหน้าเดินผ่านผมจะได้ยกมือไหว้ เข้าไปคุยด้วย...อิอิ

Soul ไอ้ผมมันเชื่อคนง่ายใครบอกอะไรก้อเชื่อไปโม้ด

ป.ล. พี่ต้องการหวี ไหมครับจะซื้อไปฝาก...555


 :12:





อืมม จ้ะ อย่าสาดน้ำพี่นะ สงกรานต์ผ่านไปแล้ว หวีไม่ต้องค่ะ พี่มีคราดแล้ว

(http://www.3sc.co.th/images/catalog_images/1265337311.jpg)
 :28:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 28 เมษายน, 2559, 12:39:38 PM
ขอยกคำประพันธ์ที่สอนเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนกลอน ของพี่ระนาดเอกมาไว้ตรงนี้อีกครั้ง ท่านศิลาได้รวมไว้ให้ จะได้ค้นได้ง่าย และเรียนรู้ให้เข้าใจยิ่งขึ้นนะคะ เปิดอ่านเทียบกันไปนะคะจะได้รู้ชัดรู้แจ้ง


 ห้องเรียนรู้คำประพันธ์    (http://aromklon.com/index.php?board=87.0)
 "เทคนิคการเขียนกลอน ๖ บทครับ?" (http://aromklon.com/index.php?topic=1399.0)
 "~"ระวัง.."เสียงท้ายวรรคสอง กันให้ดีนะครับ?"~ (http://aromklon.com/index.php?topic=1402.0)
 ~"เคล็ดลับการเขียนกลอนสุภาพ?"~  (http://aromklon.com/index.php?topic=1401.0)
 ~"ระวัง.."คำสัมผัสเลือน" และ "คำชิงสัมผัส"นะจ๊ะ..น้องรัก?"~ (http://aromklon.com/index.php?topic=1422.0)
 ~"ระวัง..คำรับสัมผัสที่.."ต่างรูป"..กันนะจ๊ะ..น้องรัก?"~ (http://aromklon.com/index.php?topic=1405.0)
 ~ระวังคำ"สัมผัสซ้ำ"กันนะจ๊ะ..น้องรัก?~  (http://aromklon.com/index.php?topic=1492.0)
 ~"ไม้ไต่คู้..ตัวจู้จี้(จุกจิก)?"~   (http://aromklon.com/index.php?topic=1502.0)

(http://upic.me/i/7e/geopu.jpg) (http://upic.me/show/52569686)

(http://dl4.glitter-graphics.net/pub/2545/2545844fprecoq3uq.gif)

อีกสำนวนนี้ ก็เขียนนานแล้วค่ะ อ่านผาดๆดูค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ก็มีคนให้คำแนะนำมาเรื่องชิงสัมผัส
ตรงนี้เป็นจุดเล็ก ๆ และอนุโลมค่อนข้างมาก แต่ก็นะ เพื่อความแม่นยำ และมีกลอนที่หนักแน่นทางฉันทลักษณ์ ก็มาดูกัน

~เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์~


ปรารถนาของใจยิ่งใหญ่นัก
จึงทึกทักเก็บไว้ให้ค้นหา
รับความรักพักใจไว้เยียวยา
หรือกระชากลากคว้าพาหลงทาง

ลมคือลมพรมไหวไปตามทิศ
แต่ดวงจิตเอนไหวไปอีกอย่าง
ตามกระแสหัวใจไหลนอกราง
ใจอ่อนบางช่างไหวละม้ายลม

หลงคารมชมใครใจเผยอ
คนอย่างฉันฝันเพ้อเผลอติดหล่ม
หลงกลางดงห้วงใจให้ระทม
คล้ายใกล้จมความคิดหลงทิศใจ

ตามแรงหวังของใจในส่วนลึก
เก็บผนึกความฝันอันยิ่งใหญ่
เปิดตำนานรักร้าวที่ยาวไกล
หรือสุขดั่งวาดไว้ใครประกัน

สิ่งสมมติจากฝันอันบรรเจิด
จินต์เตลิดหลงไปในความฝัน
เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์
ไม่มีวันเป็นจริงสิ่งต้องการ

ดั่งก้อนเมฆชิดฟ้าพายุใกล้
อาจเป็นได้เพียงอยู่คู่ขนาน
รับรู้ภาพกลิ่นเสียงเพียงพบพาน
จะสมมานฉันใด...ไกลความจริง


ชิงสัมผัส ในแบบแผน ส่วนมากจะปรากฏในวรรครับ และวรรครอง (วรรคที่สองและสาม)ถ้าเขียนบ่อยอ่านบ่อยจะมองเห็นง่ายมาก

 กลอนสำนวนนี้มีคนแนะนำว่า มันมีการชิงสัมผัสดังนี้

มันคือการชิงสัมผัสก่อนวรรคที่สอง คือ ชิงมาแต่วรรคแรกเลย ( เยอะมาก) แต่ก็ได้คำกระจ่างจากครูแล้วว่าอาจจะไม่ถือเป็นคำชิงสัมผัสก็ได้ หรืออาจจะถือก็ได้ ไม่ค่อยเอามาเป็นประเด็น แต่การหลีกเลี่ยงคำได้ ก็ถือเป็นความสามารถการใช้ภาษาที่มีมาก บ่งบอกถึงประสบการณ์ ความตั้งใจ หรือความเก๋าของคนเขียนประมาณนั้น


~เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์~


สดับ  : ปรารถนาของใจยิ่งใหญ่นัก
รับ    : จึงทึกทักเก็บไว้ให้ค้นหา
รอง   : รับความรักพักใจไว้เยียวยา
ส่ง    : หรือกระชากลากคว้าพาหลงทาง

ลมคือลมพรมไหวไปตามทิศ
แต่ดวงจิตเอนไหวไปอีกอย่าง
ตามกระแสหัวใจไหลนอกราง
ใจอ่อนบางช่างไหวละม้ายลม

หลงคารมชมใครใจเผยอ         ( มีคนให้คำแนะนำดาวมาว่า มันคือการชิงสัมผัส มาก่อนคำว่า "หล่ม" ท้าย
                                                  วรรคสองค่ะ  แต่ได้มีครู อธิบายแล้วว่า ไม่ถือเป็นประเด็น )
คนอย่างฉันฝันเพ้อเผลอติดหล่ม               (ถ้า มาอยู่วรรคสองหรือสามนี่ ตัดคะแนนทันทีไม่
                                                                     พิจารณามากเพราะข้อห้ามบอกไว้ชัดเจน)
หลงกลางดงห้วงใจให้ระทม
คล้ายใกล้จมความคิดหลงทิศใจ

ตามแรงหวังของใจในส่วนลึก         (วรรคส่งข้างบนลงท้าย "ใจ" ยังไม่วรรคสอง "ใจ" ก็มาซ้ำแถมมาชิง
                                                      เบา คำว่า "ใหญ่" ท้ายวรรคสอง อีก)
เก็บผนึกความฝันอันยิ่ง  ใหญ่
เปิดตำนานรักร้าวที่ยาวไกล
หรือสุขดั่งวาดไว้ใครประกัน

สิ่งสมมติจากฝันอันบรรเจิด
จินต์เตลิดหลงไปในความ  ฝัน
เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์
ไม่มีวันเป็นจริงสิ่งต้องการ

ดั่งก้อนเมฆชิดฟ้าพายุใกล้
อาจเป็นได้เพียงอยู่คู่ขนาน
รับรู้ภาพกลิ่นเสียงเพียงพบพาน
จะสมมานฉันใด...ไกลความจริง



หลายจุดใช่ไหมหล่ะ กลอนสำนวนนี้ไม่เรียกว่ากลอนเสียหายนะคะ (อันนี้ครูบอก) แต่ถ้ามีคนแนะนำมาแบบนี้คือมันก็น่าคิด  ถึงบางท่านอาจไม่มองเป็นประเด็น   แต่บางท่านอาจมอง อันนี้ก็แล้วแต่ ถึงอย่างไรก็ดี ถึงในการส่งเข้าประกวดกรรมการบางท่านอาจจะไม่เอามาลบคะแนน แต่เมื่อเรารู้แล้วหลีกเลี่ยงไปเถอะถ้าทำได้เมื่อส่งประกวด

แต่เขียนบำบัดอารมณ์เอาผ่อนคลายก็อย่าซีเรียสมากนักนะคะ  ดาวเองก็มีหลุด ๆ และความสามารถก็ได้เท่านี้จริง สิ่งที่อยู่ในใจเรามันมากกว่าคำที่ใช้ มันก็จำเป็นต้องมีคำเดิม ๆ ซ้ำไปมาบ้างหล่ะ :21:

คงเป็นประโยชน์บ้าง ผิดพลาดประการใด ช่วยหลังไมค์บอกด้วบ ขอบพระคุณค่ะ
 :smiley29:


หัวข้อ: Re: กลอนที่เขียนไม่ได้ (ชำแหละกลอน)
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 03 พฤษภาคม, 2559, 02:03:22 PM
"จำเป็นต้องมีคำเดิม ๆ "

ขออนุญาตคิดเห็นครับ

การมี คำเดิม ใช้ซ้ำ ๆ
ปกติ ถ้าแต่งประกวด จะถูกหักคะแนน
อย่างไรก็ตาม หากกรรมการท่านที่ "ใจกว้างและรอบรู้"
กรณีที่จำเป็น จะยอมรับกันได้
ด้วยว่า ฉันทลักษณ์ สำคัญ
แต่ ความถูกต้อง ด้านวิชาการ น่าต้องถือสำคัญกว่า


....สิ่ง-สองกลุ่มเกี่ยวข้อง..................สัมพันธ์ (relation)
พันธะ เกิดต่างกัน............................บ่งได้
สามแบบ ใช่หลากอนันต์...................แจ่มกระจ่าง
พึงเร่งเรียนรู้ไว้................................ปรับพื้นศึกษา

....กลุ่มแรกหนาชื่อใช้......................."โดเมน (domain)"
ยึด "เริ่ม" ประเด็นเกณฑ์.....................ตระหนักรู้
กลุ่มหลังระบุ"โคโดเมน(codomain)....."นามเฉพาะ
สุดเลี่ยงจำต้องสู้..............................เรียกใช้-ขออภัย

ขอบคุณครับ