หัวข้อ: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 มิถุนายน, 2559, 12:09:58 PM กลอนเจ็ด
...อ่อนแอ คือคน ปนดีชั่ว ผิดซ้ำ อย่ากลัว ลองมองเหลียว ตรวจสอบ สาเหตุ ให้รอบเชียว ละเลี้ยว พลาดผิด ติดรอยเดิม หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 13 มิถุนายน, 2559, 12:25:36 PM :30: อ่อนแอด้วยใจที่ไหวหวั่น หุนหันห่างหายหมายจะเเริ่ม หดหู่กู่ก้องต้องเผชิญ ทางเดินมืดมิดคิดวุ่นวาย วิริน :30: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 13 มิถุนายน, 2559, 04:50:40 PM อ่อนแอแค่กายมิใช่จิต
อ่อนโยนประดิษฐ์มิขาดสาย อ่อนล้าคราใดคงใกล้วาย อ่อนใจต่ออ้ายมานานแล้ว สิริวตี :30: ..ไงจบงี้ได้เนี่ย.. หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 08:52:20 AM :30: อ่อนแอแพ้ทางช่างมันเถอะ บานเบอะผู้ชายอย่างยายแหวว กี่คนกันเล่าเขาจำแจว สิ้นแล้วเริ่มใหม่ใช่จะตาย หายใจรวยรินกินน้ำแห้ว แจ่มแจ๋วเยี่ยมยอดพรอดรำร่าย เอาไงเอากันฉันไม่มาย วุ่นวายวอกแวกอย่าเว้าวอน วิริน ๑๔/๖/๕๙ :30: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 12:02:28 PM มอง นึก ลึก กว้าง
กลอนเจ็ด (แบบ ๓ ๒ ๒) ...มองเมฆขาว พราวฟ้า น่าคิด นึกประดิษฐ์ แต่งภาพ อาบฝัน ลึกล้ำเรื่อง เรืองค่า คุณอนันต์ กว้างแบ่งปัน เมฆฝน ฝากดิน ...มองธรรมชาติ ดาษเห็น หลายหลาก นึกหนามขวาก ดอกไม้ ให้ถวิล ลึกตื้นค้น ขบให้ กระจ่างจินต์ กว้างกล้าบิน เบิกฟ้า สากล หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 04:43:24 PM :30: มองนภาคราใด ให้คิด เหมือนหม่นจิต ผิดหรือ สับสน น้ำนองหน้า บ้าแล้ว ทุกทน เจ็บเสียจน หม่นไหม้ ไร้ทาง มองนภา ฟ้าใส ใจช้ำ จวนพลบค่ำ ร่ำไร ไกลห่าง เหมือนสิ้นหวัง นั่งเศร้า เหงาบาง เกือบสว่าง เสียแล้ว แก้วตา วิริน ๑๔/๖/๕๙ :30: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 04:53:10 PM มองกมลคนเศร้าเหงาจิต
ร่วมประดิษฐ์เรียงถ้อยคอยหา นวลฤดีมิลี้หนีหน้า เดินเข้ามาบอกเราเข้าใจ สิริวตี :14: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: ต้นตระกรานต์ ที่ 14 มิถุนายน, 2559, 07:15:27 PM ฟ้าสกาวพราวพรั่งดังวาด
เหมือนผงาดฉาดแสงแวมไหว บรรเทาทุกข์เคยเป็นเข็ญใจ สู่วันใหม่เข้มแข็งแรงมี ต้นตระกรานต์ :13: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 มิถุนายน, 2559, 01:17:39 PM "ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด หลังพูดคำพูดเป็นนายเรา" คำพูด สื่อความ งดงามสม คารม คมคำ นำสมัย คำสัจ วัดผล กมลใด คำไหน คำนั้น มั่นวาจา ก่อนพูด เราเป็น เช่นนาย-บ่าว หากกล่าว คำใด ไม่รักษา คำพูด ของตน หม่นราคา ขี้ข้า กลับกลาย เป็นนายตน Soul ป.ล. ขออภัย ที่กลอนไม่ต่อครับ :12: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 16 มิถุนายน, 2559, 07:56:08 PM คำพูดชี้เชิงเถกิงเหมาะ
ไพเราะเรียงไว้ไร้สับสน ยืดหยุ่นกันไปในผู้คน ตั้งต้นตีกรอบมิชอบเลย บางครั้งอาจเหมือนมิรักสัตย์ ตรองชัดเหตุไรขอให้เอ่ย สายกลางวางคุณจนคุ้นเคย แค่เปรยเปรียบปรายไขข้อจินต์ สิริวตี :30: สงสัย...งานคงหนัก...ลุงลองใช้ ติ้ง ฟิกซิบลี้ มันน่าจะช่วยได้นะ หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 16 มิถุนายน, 2559, 10:27:54 PM สายกลาง หว่างใจ ของใครเล่า ใจเรา กิเลส เลศถวิล ตึงหย่อน ผ่อนหนัก ตรรกะริน รู้สิ้น กมล ของตนฤา อะไรติ้งๆลี้ๆ พอดีลุงไม่ถนัดภาษาจีน รู้จักแต่ติงลี่...555 S.S. หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 26 มีนาคม, 2561, 10:52:07 PM ...“วิจารณ์”….ควรรู้….…....ลึกซึ้งยิ่ง ในประเด็น……ในสิ่ง…...….ถกถ้อยแถลง “หน้าที่”………ที่ตน…….....ต้องสำแดง ปราศจาก….เคลือบแคลง….พวกพ้องใคร …มั่นคง……เที่ยงตรง………อุเบกขา ธรรมา………ธงหลัก……….ปักสูงไสว เล่ห์ลิ้น…….พลิ้วพลิก……..หลีกห่างไกล ทุกฟาก…….ฝั่งใด…………ยินดีฟัง หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 30 มีนาคม, 2561, 09:09:04 PM
หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 30 มีนาคม, 2561, 11:25:11 PM
หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 มีนาคม, 2561, 08:57:49 AM ชี้เป็นชี้ตายวิ่นวายวอด มืดบอดมืดงำทำใจหวั่น กลับไปกลับมาสาระพัน คำมั่นคำหมายรายระดา กระจอกกระจิบยุบยิบแย่ง ประจบประแจงเลียแข้งขา สลดสลัวทั่วพารา น้ำตาน้ำตกหกรดดิน Soul Searcher Inspired to write 31/3/2018 หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 31 มีนาคม, 2561, 08:58:16 AM **** อันนี้กดผิด เลยขึ้นซ้ำ รบกวน Admin ช่วยลบด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ *** หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 03 เมษายน, 2561, 04:58:58 PM :30:
ชี้นกชี้ไม้ไปกันทั่ว ชี้ตงชี้ตัวจนหัววิ่น ชี้นิ้วสั่งการเป็นระวิน ชี้สิ้นบงชี้นี่กระไร ชี้นอกชี้ในกระไรหนอ ชี้หม้อชี้หวดขวดแลไห ชี้โป้ชี้เป๋หักเหไป ชี้ไวชี้ว่องจ้องจะชี้ วิริน ๔/๓/๖๑ :30: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 03 เมษายน, 2561, 08:31:54 PM ขี้นกขี้ฮกเพลียเรี่ยราด ขี้ขลาดขี้คร้านไขว่ค้นหา ขี้ลืมขี้ลักจำนำพา ขี้ว่าขี้สอน วอนดูตัว ...อ้าวใช้คำว่า ”ชี้” หรอกหรือ นึกว่า “ขี้” แต่งเพลินเลย...หึหึ Soul Searcher Inspired to write 3/4/2018 หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 04 เมษายน, 2561, 10:57:09 AM :30:
ชี้ช่องชี้ชัดถนัดชี้ ชี้หมูชี้หมีมีกันทั่ว ชี้นกเป็นไม้ใครว่ากลัว ชี้ผัวมีชู้ดูไม่ดี ชี้แนะชี้นำทำไปเรื่อย ชี้เปื่อยชี้ปดงดเลยนี่ ชี้ไก่ชี้กาหมาด้วยซี ชี้ชวนชวนชี้ดีไหมคุณ วิริน ๓/๔/๖๑ :30: หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 มิถุนายน, 2563, 11:24:52 PM @ กรรมดี พลีทำ นำหนุนส่ง สู่วง วนทะยาน ผลาญตัณหา กิเลส เหตุทุกข์ ยากรุกมา ยิ่งทำ ยิ่งข้า สันติครัน หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 14 มิถุนายน, 2563, 09:07:41 AM คิดดี พูดดี และทำดี ทุกข์มี คงหาย กลายสุขสันต์ สบแผ้ว พานมา สารพัน รู้ทัน จริต คิดบวกเอย โซ...เซอะเซอ 14 มิถุนายน 2563 หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: gintanagan ที่ 14 มิถุนายน, 2563, 09:45:35 PM ไม่มี อะไร ไหนเที่ยงแท้ เกิดแก่ เจ็บตาย เป็นนายเฉย ทุกคน มีกรรม เป็นจำเลย เราเลย พึ่งธรรม ให้นำพา ชีวิต ของเรา ก็เท่านี้ ไม่มี หอบไป ในชาติหน้า ทรัพย์สิน มากมา ขนขวายมา พอวาย ชีวา ค่าไม่มี หมั่นทำ ความดี มีให้มาก ยามจาก โลกไป กลายเป็นผี ร่ายกาย ถูกเผา เถ้าธุลี ชั่วดี เท่านั้น ได้กันไป gintanagan 14/6/63 หัวข้อ: Re: กลอนเจ็ด เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 14 มิถุนายน, 2563, 10:16:23 PM :19: :29: ชีวิต..สิทธิ์แท้ของแน่หรือ หมดชื่อ..สุดท้ายความตายไล่ ยังอยู่..คู่จิต..ควรคิดไกล หาไว้..ลำเลียง..เสบียงทาน กุศล..ผลกรรม..กระทำก่อ ดีพอ..แค่คืบ..เร่งสืบสาน สุขล้ำ..ดำเนิน..มิเนิ่นนาน กาลผ่าน..สะบัด...ช่างพัดไว Jannjao. :13: |