หัวข้อ: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 17 สิงหาคม, 2559, 06:40:51 PM ชีวิตฉันนั้นพะวงแต่เรื่องสอบ
จนเหนื่อยหอบไม่เว้นว่างต้องอ่านเขียน พอเถอะพอชีวิตของนักเรียน ไยต้องเพียรมากมายให้กายพัง ตั้งแต่เด็กแม่สอนให้หาความรู้ เชื่อฟังครู บาอาจารย์ท่านสอนสั่ง ไปโรงเรียนเพียรวิชาอย่าไม่ฟัง โตขึ้นมาได้หาตังค์ให้สบาย ได้ค่ะแม่คือคำที่พูดบ่อยบ่อย อยากให้ปล่อยหนูไปทางอย่างที่ฝัน ขอทำสิ่งที่ต้องการเถอะสักวัน ให้ใจนั้นฉ่ำชื่นรื่นอุรา มิใช่ว่าการเรียนนั้นไม่ดี แต่บางทีมันมากเกินต้องหา อันชีวิตต่างหากคือวิชา ได้นำพาตัวตนพ้นสบาย ค่านิยมโบราณนั้นตีกรอบ คิดว่าชอบคิดว่าดีต้องสรรหา ให้เป็นเจ้าเป็นนายได้พึ่งพา แต่ทว่าชีวิตใช่จะโบยบิน หากคนเราได้ทำตามอย่างที่ฝัน จิตใจนั้นคงสุขสานต์สำราญรื่น มีความสุขทุกเมื่อทุกชั่วคืน ได้นอนตื่นอย่างสบายมิวายวัน หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 17 สิงหาคม, 2559, 07:54:40 PM ถ้าจะถามว่า ความรักของคุณพ่อคุณแม่ เริ่มมีให้ลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมคิดว่า เริ่มมีตั้งแต่ คิดฝันจะมีบุตรน่ะ ถ้าอย่างนั้น แสดงว่า ลูกต้องก่อกำเนิดมาจาก ความรัก เป็นสิ่งตั้งต้น ฉะนั้น ไม่ว่าอะไร สิ่งใด ที่คุณพ่อคุณแม่ ปรารถนาจะให้ลูกมี ให้ลูกเป็น ให้ลูกได้ดี ล้วนมาจากจุดเล็กๆที่เรียกว่า รักอย่างแน่แท้ ในดวงใจของพ่อแม่ ถ้ารักแล้ว ผลติดต่อของรักก็คือ ไม่อยากให้คนที่รัก คือ ลูกนั้น ต้องประสพความยากลำบากในชีวิต ฉะนั้น หนทางใด ที่จะทำให้ลูกไม่ยากจน ไม่ขัดสน ไม่ลำบาก หนทางนั้น พ่อแม่จะส่งเสริมให้ลูกได้กระทำ ดังนั้น จึงเป็นเสมือนการส่งเสริมกึ่งบังคับ ว่าลูกควรทำอย่างนี้ ลูกควรเรียนอย่างนั้น แต่สิ่งหนึ่ง ที่คนทั้งสอง คือ แม่กับลูก มีเหมือนกันคือ หัวใจที่อยากมีอิสระปราศจากพันธนาการใดใด สำหรับแม่นั้น ลูกก็เสมือนเป็นโซ่ผูกคล้องแม่ไว้ แม่กลัวลูกจะลำบากลำบนในอนาคต แม่ก็ต้องคอยประคองโซ่ตรวนเส้นนี้ไปให้ตลอดรอดฝั่ง มิเห็นแม่เคยบ่นเลยว่า เบื่อ หรือ เหนื่อย แม่พูดอย่างเดียว คือ ต้องสู้ สู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น ที่จะบ่อนทำลายครอบครัว ทั้งความยากจน การขัดสนเงินทอง สู้กับความพยายามปกป้องดวงใจแม่ ให้ดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร สู้กับปัญหาสารพันที่รุมเร้าให้แม่ต้องแก้ไข ในทางตรงข้าม ตัวลูกเองนั้น ก็มีแม่เป็นพันธนาการ ที่คอยฉุดรั้ง ไม่ตามใจในสิ่งที่ลูกอยากจะทำ แต่แปลกตรงที่ว่า ลูกจะพยายามสลัดโซ่ตรวนแม่ออกเพื่อความเป็นอิสระในชีวิต แต่ แม่มิเคยทำอย่างนั้นเลย มิหนำซ้ำ ยังพยายามถือจับโซ่ตรวนดวงใจแม่ ให้แน่นที่สุด ประดุจจะไม่ยอมให้หลุดลอย หรือ หล่นหายไปจากชีวิตแม่เลย แม่ไม่ขออะไรจากลูก เพราะ แม่ไม่ปรารถนา ทรัพย์สินเงินทอง ใดใด สิ่งที่มีจะขอ ถ้าให้ขอ ก็คือ ขอให้ลูกเป็นคนดี และมีสัมมาอาชีพที่สุจริต เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ต่อไป วันนี้ ในวัยเรียน เราอาจรู้สึก ถึงความยากลำบาก ทั้งในการเรียน และ การใช้ชีวิต เพราะ เรามองจากมุมของเรา แต่ถ้าเปรียบเทียบกลับกัน ถ้าเรากระโดดมาเป็นแม่ ในอีกมุม เราคงต้องรู้ว่า แม่นั้นลำบากมากมายก่ายกองกว่าเราหลายร้อยเท่าหลายพันเท่านัก เพียงแต่เรา ไม่ค่อยรู้เรื่องของท่านมากนัก อาจเป็นเพราะ แม่มักไม่ชอบที่จะปริปากบ่น บอกคนอื่นให้เห็นใจตนเอง และ จริงแล้ว แม่ก็ไม่รู้จะบ่นไปทำไม สิ่งที่แม่ ส่วนใหญ่มี คือ หัวใจยอดนักสู้ พวกลูกๆจึงไม่ค่อยได้รับทราบมุมมองความลำบากของแม่ หรืออาจเป็นเพราะ เราไม่ค่อยสังเกตแม่ ก็ได้นะ เพราะ เรามีโลกที่จะคอยสอดส่อง และ จดจ่อกับสิ่งอื่นน่ะ หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 18 สิงหาคม, 2559, 06:47:49 PM ขอบคุณมากค่ะที่แสดงความคิดเห็นในมุมมองของคุณจั่นเจา พ่อแม่หวังดีกับเราอยู่แล้วและอยากให้เราสุขสบาย ในสิ่งนี้เข้าใจค่ะ แต่เพียงแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเราอยากเรียนคณะที่อยากเรียนเขาก็ไม่ให้เรียน อยากทำสิ่งสิ่งที่อยากทำมากกว่านี้ก็ไม่ให้ทำ ต้องเรียนพิเศษมากมายก่ายกอง อย่างพวกฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แต่ทั้งที่ตัวเราก็ชอบวิชาพวกประวัติศาสตร์ สังคม ภาษาต่างๆมากกว่า แต่เขามองว่าไม่จำเป็น ก็เลยคิดว่าถ้าเราได้ทำ ได้เรียน ในสิ่งที่ต้องการคงโอเคกว่านี้ค่ะ
ปล. ขอบคุณมากนะคะที่ให้คำแนะนำ แต่อาจใส่อารมณ์มากไปหน่อยในกลอน ฮ่าๆ :smiley18: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 18 สิงหาคม, 2559, 09:41:26 PM ลองลิงค์ข้อความที่เขียนนี้ ให้คุณพ่อคุณแม่อ่านสิจ๊ะ และ ถามท่านเลยนะว่าทำไม
พี่ว่า เราคงได้คำตอบที่ดีกว่า จากปากของท่าน และ ถึงแม้คำตอบนั้น จะไม่ถูกใจเรา อย่างน้อย เราก็ได้แสดงเจตนารมย์ และ ความรู้สึกที่ซ่อนในใจเราให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้น่ะจ๊ะ บางที อย่างที่พี่บอก การยืนละคนมุม มันอาจมองไม่เห็นความคิดของอีกฝ่ายน่ะจ๊ะ 5555 พี่ และ ทุกคนที่บ้านอารมณ์กลอนนี้ เอาใจใส่ และ เอาใจช่วยนะจ๊ะ มีอะไร หน้าไมค์ หลังไมค์ ถามมาได้ทุกอย่างนะจ๊ะ จั่นเจา หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 19 สิงหาคม, 2559, 07:24:10 AM ขอบคุณพี่จั่นเจามากค่ะ หนูจะติดตามผลงานพี่บ่อยๆนะคะ
หนูจะดูเปาบุ้นจิ้นทุกวัน ฮ่าๆ :12: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 19 สิงหาคม, 2559, 07:04:30 PM น้องเดินมาปลดปล่อยอารมณ์ขุ่น
พี่จะขอเกื้อหนุนอุ่นไอบ้าง อันชีวิตมีจังหวะอย่าละวาง ดำเนินอย่างเข้าใจให้สุขพลัน อันคุณครูพ่อแม่แค่ชี้แนะ ชีวิตแวะเวียนทุกข์ยังสุขสันต์ วันนี้แสงส่องทางยังร้างจันทร์ รอตะวันเช้าตรู่ก็รู้งาม สิริวตี :14: พี่วตี....ชอบเผือก คริๆ... กำลังจะเอ็นทรานซ์หรือคะ คุณแม่จะให้เรียนหมอเหรอ??? ..... รู้สึกเหนื่อยใช่ไหม สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ นะอย่าท้อ แล้วยังอยากรู้ไหมอยู่ไหมเอ่ยคะว่าทำไมพ่อแม่ต้องบังคับเราแบบนั้น :14: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 19 สิงหาคม, 2559, 07:36:33 PM :27:
หนูยังไม่บรรลุอายุสิบหก เรียนสอบตกประจำงงคำถาม สิ่งที่หนูอยากรู้ครูก็ปราม ตอบข้อความไม่ได้ทำไงดี ปรนัย,อัตนัยนั่งส่ายหัว ขีดกามั่วส่งไปไม่ทราบนี่ เพื่อนรุ่นเราเขาคว้าปริญญาตรี ตัวหนูนี้ หงุดหงิด ยังติดร. หนูเมษา (สาว16+) :21: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 20 สิงหาคม, 2559, 07:25:01 PM ขอบคุณพวกพี่พี่ที่เป็นห่วง
หนูแค่เครียดบางช่วงแต่ทนไหว ที่คิดว่าสอบหมอนั้นไม่ใช่ หนูแค่เรียนหนักไปเลยบ่นเอง พ่ออยากให้จบมารับราชการ ได้เชิดชูวงศ์วานเป็นราศี และทางญาติผู้ใหญ่ก็เห็นดี แต่งานนี้ไม่ใช่ทางที่อยากเดิน ความจริงหนูไม่ได้จะสอบหมอนะคะ แต่ที่บอกว่าต้องเรียนพิเศษฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อันนั้นหนูยกตัวอย่างเฉยๆค่ะ ว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ถ้าทำให้เข้าใจผิดต้องขอโทษนะคะ ตอนนี้หนูเรียนนิติศาสตร์ค่ะ ประมาณปีหน้าก็ใกล้จบแล้วค่ะ พยายามทำใจชอบค่ะเพราะคุณแม่บอกว่ากฎหมายเป็นสิ่งสำคัญและที่สำคัญคือใกล้จะจบแล้วด้วย แต่เรียนนิติก็หนักนะคะพี่ เห็นเลขรถเมล์ยังเผลอท่องตัวบทเลยค่ะ ตอนนอนนี่ก็นอนกอดประมวล ตอนเรียนแรกๆก็ไม่ได้อะไรมากค่ะ เพราะยังไม่รู้ว่าชอบอะไร แต่พอนานๆไปรู้เลยว่าคงไม่เหมาะกับเราหรอก หนูเลยเซ็งมาลงกลอนเฉยๆ ไม่คิดว่าจะมีคนใส่ใจขนาดนี้ ฮ่าๆ ปล.ขอบคุณพี่วตีนะคะที่ให้กำลังใจ หนูชอบกลอนของพี่มากเลยค่ะ ไว้ต่อกลอนหนูบ่อยๆนะคะ หนูกุมภา(อายุ 18+) :201pr: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 20 สิงหาคม, 2559, 08:22:37 PM นิติฯไทยให้เห็นสำคัญนะ
บ้านเมืองจะมี"กุมภา"น่าสรรเสริญ ประเทศชาติก้าวไกลได้จำเริญ มิกล่าวเกินน้องต้องดีมีฝีมือ ขอส่งกำลังใจให้ตรงนี้ ทุกบทบาทหน้าที่พี่นับถือ วันนี้ฝันยาวไกลใครแย่งยื้อ สักวันเราค่อยรื้อสานฝันงาม สิริวตี :14: เก่งจังเลยค่ะเรียนนิติศาสตร์ ปีหน้าประเทศเราจะมีนักกฎหมายเก่งๆเพิ่มอีกคนแล้ว .....ความฝันเราสามารถเก็บเอาไว้สานต่อตอนโตได้นะคะ หากหัวใจยังไม่หยุดที่จะฝัน แม้ว่าเราอาจยังไม่รู้ว่าชอบอะไรในตอนต้น หรืออาจคิดว่าไม่เหมาะกับเราในตอนนี้ แต่มันก็ไม่แน่นะคะที่หากวันข้างหน้าเราสามารถทำเคสที่ประทับใจจนเกิดความภาคภูมิใจทำให้เปลี่ยนใจหันกลับมาชอบ แล้วขอบคุณคนที่ทำให้เราเรียนสายนี้.... ตอนนี้ถ้าเบื่อก็หาอะไรที่ชอบทำระหว่างทางไปด้วยสิคะ^^ อารมณ์กลอนคือบ้านที่พี่ก็แอบมาพักผ่อน และทุกคนก็แวะมาผ่อนคลาย ทุกคนเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกันค่ะ ดีใจที่มีน้องกุมภามาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน^^ ปล.1 หากยังอยากรู้ว่าทำไมพ่อแม่ถึงคิดเช่นนั้น ลองใช้วิธี ตั้งคำถามกับตนเอง เป็นต้นว่า โตขึ้นเราจะแต่งงานมีครอบครัวไหม จะมีลูกไหม หากเรามีลูกเราจะเลี้ยงเขาอย่างไร หรือคาดหวังอะไรจากเขาบ้าง เราอยากเห็นอนาคตเขาเป็นอย่างไร.....น่าจะช่วยให้น้องกุมภาคลายเครียดได้บ้างสำหรับการเข้าใจผู้อื่นและตนเองจะรู้สึกดีขึ้น ปล.2 มุมบนด้านขวามือมีกล่องข้อความนะคะ สามารถแลกเปลี่ยนหรือปรึกษาได้ ปล.3 จิตใจคนเป็นสิ่งที่บอบบาง ถูกสร้างให้เข้มแข็งมั่นคงต้องใช้เวลานาน แต่ถูกทำลายได้ด้วยเวลาอันสั้น ดังนั้นพี่ชอบเยียวยา...แบบว่าเผือก อิอิ เป็นกำลังใจให้เสมอ....น้องกุมภาทำได้อยู่แล้วพี่เชื่อค่ะ Trust yourself and do your best ^^ :14: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 21 สิงหาคม, 2559, 03:05:47 PM ขอขอบคุณพี่วตีที่ช่วยเหลือ
คอยจุนเจือไมตรีที่มีค่า จะขอทำตามที่ชี้แนะมา สักวันต้องฟันฝ่ากล้าลุกเดิน :14: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 สิงหาคม, 2559, 01:33:53 PM คิดถึงน้องสองวันไยท่านหาย
เรียนมิง่ายหรือไรให้ห่างเหิน อยู่นิติฯมออะไรใคร่ดำเนิน ช่วยชี้เชิญเพลินไปพบ(วัน)จบปริญญา สิริวตี ตั้งใจเรียนน้าาาา.. :14: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 22 สิงหาคม, 2559, 06:30:06 PM ต้องขอโทษที่น้องให้พี่คอย
อ่านหนังสือหนักหน่อยจึงห่างเหิน แต่ยังว่างหาเวลามาเพลิดเพลิน คอยแวะเดินหาอ่านกลอนที่สอนใจ :14: อีกไม่กี่วันต้องสอบ(ซ่อม)ค่ะ พี่วตีเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ :34: ปล. เป็นศิษย์พ่อขุนค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ก็จบที่นี่เหมือนกันค่ะ หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 สิงหาคม, 2559, 06:59:28 PM พี่ก็มีรุ่นน้องพ้องสนิท
เขาลิขิตกลอนเพลินเกินคนได้ จบนิติฯมอรามนาม"นันทชัย" นักกลอนไกรก้าวหน้าพาลือนาม หากน้องรู้จักเขาต้องรู้พี่ เพราะเราซี้วัยแทรกแปลกป่วนข้าม ตอนนี้ออกหนังสือลือพิราม หนังสืองาม"นักกลอนที่ออนไลน์" สิริวตี :14: งั้นรู้จักนันทชัยไหมคะ เป็นน้องที่สนิทกับพี่ จบนิติฯ ลูกพ่อขุนเหมือนน้องกุมภานี้เเหละ... เขียนกลอนเก่งมาก เพิ่งออกหนังสือนักกลอนออนไลน์เลย ตั้งใจสอบนะคะ ขอให้ผ่านน้าาา เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ :14: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: ต้นตระกรานต์ ที่ 22 สิงหาคม, 2559, 08:21:32 PM :21:
ฝากพ่อขุนฯชี้ตามทรามวัยด้วย โปรดเถิดช่วยนำจิตคิดนำให้ สอบรอบนี้มีผ่านวานดลใจ เลือกข้อไหนเป็นถูกทุกข้อเลย สิวตีขายของต้องทำยอด ทั้งอ้อนออดช่วยน้องต้องไม่เฉย บันทึกกลอนออนไลน์นี้ไม่เชย แค่เพียงเอ่ยยังฟินบินไปไกล ต้นตระกรานต์ :28: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 สิงหาคม, 2559, 09:06:52 PM แหมหนังสือเล่มนี้ที่ซื้อฝาก
อย่าพูดมากเดี๋ยวอดจะงดให้ เป็นแค่พรีเซนเตอร์หน้าเซ่อไง แค่ถามไถ่รู้จักมิยักลวง สิริวตี :30: มากทม.อีกทีมะไร เดี๋ยวหนังสือเน่าเอาไปด้วย เหอๆๆ :20: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: กุมภาคม ที่ 23 สิงหาคม, 2559, 07:51:16 PM ขออภัยที่น้องไม่รู้จัก
คนในรามเป็นกระตักมากเหลือหลาย ยิ่งตอนสอบมองหากันจนตาลาย "นันทชัย" นี้ไซร้มิเคยเจอ :24: ****************** ขอขอบคุณพี่ต้นฯที่อวยชัย สอบคราใหม่คงได้อย่างที่ฝัน จะได้เที่ยวเล่นบ้างสักสามวัน แล้วยังทันอ่านหนังสือครั้งต่อไป :22: หัวข้อ: Re: ชีวิตที่ต้องเรียน เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 24 สิงหาคม, 2559, 05:46:44 PM สอบอีกทีวันเดือนอย่าเชือนแจ้ง
พี่จะมิมีแล้งส่งเสริมใส่ โอมนำโมพุทธายะชนะชัย ท่องเข้าไว้ก่อนสอบตอบได้เอย สิริวตี ใช้ได้จริงๆนะขอบอกๆๆ :14: |